สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1080 ให้เจ้าแสดงความภักดี
รัศมีรอบกายของจิ้นอี้เฉินนั้นโหดเหี้ยม ดุร้าย กดดันอย่างเย็นชา บรรยากาศโดยรอบหนาวเหน็บจนแทบหายใจไม่ออก
หลานอวี่คิดถ้อยคำที่เหมาะสมและพูดว่า “วันนั้น… วันนั้นเยี่ยโยวเหยาไปหาศิษย์ที่เรือนเขตชานเมือง และบอกศิษย์ว่าอาจารย์สังหารครอบครัวของศิษย์ และหลอกให้ศิษย์ร่วมมือกับเขา ช่วยเหลือเขาให้ช่วยซูจิ่นซีออกมา ศิษย์คิดว่าเขาใช้แผนใดมาก็ใช้แผนนั้นกลับไปจึงแสร้งทำให้สมจริง คิดจะแต่งงานกับศิษย์พี่ จัดให้พวกเขาเข้ามาร่วมงานแล้วแอบซุ่มโจมตีจับคนทั้งหมดไว้”
“โอ้? เยี่ยโยวเหยาเชื่อเจ้าหรือไม่? ”
“เยี่ยโยวเหยากระทำการรอบคอบยิ่งนัก จะเชื่อศิษย์ทั้งหมดได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นหลังเขียนจดหมายถึงศิษย์แล้ว ยังเขียนจดหมายขอเทียบยาถอนพิษจากเยี่ยเซินอีก”
“เยี่ยเซิน… ” จิ้นอี้เฉินหรี่ตาลง
หลานอวี่พูดว่า “แม้หลายปีมานี้ เยี่ยเซินจะสวามิภักดิ์เข้าร่วมกับแคว้นไหวเจียง ทว่าเขายังมีสายเลือดเดียวกับเยี่ยโยวเหยา อาจารย์ คนเช่นนี้เชื่อถือไม่ได้”
“จะว่าไปแล้ว… หลายปีมานี้เขากินและดื่มอยู่ที่แคว้นไหวเจียงของเรา แม้กระทั่งที่อยู่อาศัยก็เป็นของแคว้นไหวเจียงเรา ดูเหมือนไม่เคยทำประโยชน์ให้แคว้นไหวเจียงของเราเลย”
“อาจารย์พูดได้ถูกต้อง เก็บคนประเภทนี้ไว้จะเป็นภัยที่ซ่อนเร้น อาจจะแว้งกัดเราได้ตลอดเวลา”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สั่งให้เขาไปที่วังใต้ดิน เด็ดศีรษะของซูจิ่นซีมาให้อาจารย์”
หลานอวี่มีท่าทีสงสัย “อาจารย์ไม่ใช้ซูจิ่นซีหลอมยาแล้วหรือ? ”
“วัตถุดิบในการหลอมยาวิเศษมีมากมาย ทว่านางทำให้คุณชายจิ่วต้องตาย ไว้ชีวิตไม่ได้”
“รับทราบ ศิษย์จะไปจัดการเดี๋ยวนี้” หลานอวี่อยากให้ซูจิ่นซีตายไปตั้งนานแล้ว ต่อให้ตายกี่พันครั้งก็ไม่สาสมกับความโกรธเกลียดที่อยู่ในใจของนาง
หลังหลานอวี่แยกจากจิ้นอี้เฉิน นางก็ตรงไปหาเยี่ยเซิน จิ้นอี้เฉินมองหลานอวี่ที่ค่อยๆ เดินลับสายตาไป แววตาสงบนิ่งตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอันใดอยู่
เสียงฟ้าร้องในฤดูใบไม้ร่วง หลังฟ้าร้อง ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ด้านนอกมีเสียงฝนตก อากาศเย็นเล็กน้อย
เยี่ยเซินนั่งอุ่นสุราขวดหนึ่งอยู่ข้างหน้าต่าง เขารินสุรา จากนั้นก็หยิบปิ่นปักผมลายหงส์เหินสีเขียวมรกตออกมาจากอกเสื้อและมองด้วยแววตาลึกซึ้ง
ปิ่นปักผมนี้หล่นขณะที่ฮั่วอวี้เจียวโต้เถียงกับซูจิ่นซี ตอนที่เขาเข้าไปปกป้องนาง ต่อมามีองครักษ์เก็บได้จึงนำไปขาย แต่เขาได้ซื้อกลับมา ตอนแรกคิดว่ามันไม่มีความสำคัญอันใด ทว่าเขาเก็บไว้ข้างกายจนวันเวลาผ่านไป ในใจของเขากลับให้ความสำคัญมันมากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงวันนี้ เขาจะนำออกมาดูเล่นทุกวัน ทุกครั้งที่เห็นของสิ่งนี้ มันทำให้คิดถึงคน เสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาตอนนั้น เกลียดตนเองที่ตาบอด ก่อเรื่องทำร้ายซูจิ่นซีไปมากมาย
หากตอนนั้นเขาไม่ได้ไปขอให้เสด็จพ่อยกเลิกงานอภิเษก หากตอนนั้นเขาไม่ได้หมั้นหมายกับฮั่วอวี้เจียว หากตอนนั้น… ผลลัพธ์จะแตกต่างจากตอนนี้หรือไม่?
หากตอนนั้นเขาแต่งงานกับซูจิ่นซีตามสัญญา ตอนนี้บุตรของพวกเขาก็น่าจะเริ่มเรียนอ่านเขียนแล้ว!
เจ็บใจนัก!
ความเจ็บปวดใจอย่างที่สุดได้เข้าสู่ก้นบึ้งหัวใจของเยี่ยเซินอีกครั้ง เขากอดปิ่นปักผมไว้แน่น เอนศีรษะพิงกำแพงและค่อยๆ หลับตาลง ความเจ็บปวดเป็นดั่งงูร้ายที่กัดกินหัวใจของเขาทีละน้อย
ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูเปิดเข้ามาดัง ‘ปัง’ หลานอวี่เดินเข้ามา เยี่ยเซินค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นปิ่นปักผมในมือของเยี่ยเซินที่ยังไม่ทันได้เก็บ สีหน้าของหลานอวี่ก็เต็มไปด้วยการดูถูกและเยาะเย้ย
“โอ้ รัชทายาทเยี่ยกำลังมองสิ่งของแล้วคิดถึงคนผู้นั้นอยู่หรือ! ”
เยี่ยเซินเก็บปิ่นปักผมไว้ในอกเสื้อแล้วลุกขึ้น “ไม่ทราบว่าประมุขหลานมาหาข้าน้อย มีเรื่องอันใด? ”
หลานอวี่ไม่ได้ตอบคำถามของเยี่ยเซิน แต่ถามกลับไปว่า “นางเป็นสตรีของผู้อื่นไปแล้ว คิดถึงทุกวันเพื่ออันใด? ต่อให้นางทอดทิ้งเยี่ยโยวเหยาแล้วมาอยู่กับเจ้า นางก็เป็นแค่รองเท้าผุพังที่เสด็จอาของเจ้าไม่ต้องการ”
ดวงตาของเยี่ยเซินพลันเปล่งประกาย “ท่านประมุขหลานโปรดระวังคำพูดด้วย”
“เหอะ… ” หลานอวี่กระชากเสียงเย็นชา “คนที่กำลังจะตาย หากปากของข้าจะพูดไม่ระวังก็ไม่มีประโยชน์อันใดกระมัง? ”
“หมายความว่าอย่างไร? ”
หลานอวี่ยื่นป้ายคำสั่งให้เยี่ยเซิน “ราชครูสั่งให้เจ้าไปวังใต้ดิน สังหารซูจิ่นซีนางแพศยานั่น”
“อันใดนะ? ” เยี่ยเซินไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เยี่ยเซิน ตอนนี้เจ้าเป็นรองเจ้าสำนักห้าพิษ อย่าโทษข้าที่ไม่เตือนเจ้า ในเมื่อเจ้าสวามิภักดิ์ต่อแคว้นไหวเจียงแล้ว เจ้าต้องทำสิ่งต่างๆ เพื่อแคว้นไหวเจียงเราด้วยความตั้งใจ แคว้นไหวเจียงเราไม่มีพื้นที่ให้คนทรยศ ท่านราชครูรู้เรื่องที่เจ้ามอบสูตรยาถอนพิษให้กองทัพของเยี่ยโยวเหยาแล้ว ทว่าข้าพูดเกลี้ยกล่อมให้เจ้าต่อหน้าท่านราชครู เขาจึงสั่งให้เจ้าไปสังหารซูจิ่นซีเพื่อแสดงถึงความจริงใจของเจ้า”
นางพูดจบก็ไม่รอให้เยี่ยเซินพูดอันใด และหันหลังเดินจากไป
เยี่ยเซินยืนงงอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานก็ตั้งสติได้ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาค่อยๆ กำหมัดที่อยู่ข้างลำตัวแน่น แทบจะบดขยี้ป้ายคำสั่งในมือ
ภายในค่ายทหารชายแดนทางใต้
ตั้งแต่พวกเขาจ่ายยาถอนพิษให้กับเหล่าทหารตามสูตรยาที่เยี่ยเซินส่งมา จงรุ่ยอันพ่อลูกและหมอเทวดาต่างวิตกกังวลจนไม่กล้าละเลยแม้สักขั้นตอนเดียว
หลายคนต่างผลัดกันเฝ้าเวรยาม แม้ในเวลากลางคืนก็เฝ้าดูโดยไม่ละสายตา หลังใช้ยาถอนพิษเป็นวันที่สาม จงรุ่ยอันก็ทนไม่ไหวจึงงีบหลับในห้องโอสถที่อยู่ข้างๆ เขากำลังหลับงัวเงีย จู่ๆ ก็มีเสียงของจงเทียนโย่วดังขึ้นข้างใบหู “ท่านพ่อ ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว”
“เอ่อ… เกิดอันใดขึ้น? เกิดอันใดขึ้น? หลังทหารใช้ยาแล้วเกิดปัญหาอันใดใช่หรือไม่? ” จงรุ่ยอันลืมตาขึ้นทันที เขาวิ่งไปที่ค่ายทหารที่ถูกยาพิษโดยไม่ทันคิดสิ่งใด
เดิมทีคิดว่า หลังจากเหล่าทหารใช้ยาถอนพิษแล้วจะมีอาการไม่ดี อย่างไรก็ตาม มีสมุนไพรหลายชนิดในเทียบยานี้ที่ไม่ได้อธิบายวิธีการใช้ไว้ กลับไม่คิดว่าขณะที่เปิดม่านตรงทางเข้าค่ายทหาร ภาพที่เห็นในตอนนั้นจะทำให้จงรุ่ยอันต้องตกตะลึง
หมอเทวดาและผู้ปรุงยากำลังแจกจ่ายยาน้ำให้เหล่าทหาร บรรยากาศในค่ายทั้งค่ายตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ ทุกคนพูดคุย หัวเราะ หยอกล้อกับหมอเทวดา ทหารหลายคนที่ก่อนหน้านี้ป่วยหนักแทบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้กลับลุกจากเตียงและเดินกลับมาในค่าย “หมอจง” จู่ๆ ก็มีบางคนเรียกจงรุ่ยอันที่ยืนอยู่ตรงทางเข้ากระโจม
คนที่เหลือรีบมองไปที่ทางเข้ากระโจม เมื่อเห็นว่าเป็นจงรุ่ยอัน ทุกคนต่างกระตือรือร้นอย่างมาก “หมอจง ท่านมานี่! ”
“ขอบคุณหมอจง หมอจงน้อย และหมอเทวดาที่ช่วยถอนพิษให้พวกเรา”
“ใช่ หากไม่ได้ถอนพิษ พี่น้องของพวกเราคงเสียชีวิตมากมาย เกรงว่าเราเองจะต้องตายจากพิษเช่นกัน ขอบคุณมากจริงๆ ! ”
“ขอบคุณพวกท่าน พวกเราพี่น้องทุกคนไม่มีสิ่งใดตอบแทนพระคุณในครั้งนี้ ขอให้พวกเราโค้งคำนับพวกท่านเถิด! ”
ทุกคนพูดพลางยืนขึ้นและโค้งคำนับให้จงรุ่ยอันกับบุตรชายอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะหันกลับมาโค้งคำนับให้หมอเทวดา
ทันใดนั้นจงรุ่ยอันก็ได้สติ เขาเดินเข้าไปประคองพวกเขาทีละคน
“ทุกคนโปรดรีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้น นี่ไม่ใช่ผลงานของพวกเรา! ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”
ทหารนายหนึ่งพูดว่า “ท่านหมอจง ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว ชื่อเสียงทางการแพทย์ของสกุลจงนั้นโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในแคว้นหนานหลี นอกจากนี้ยังมีหมอเทวดา ท่านมาจากสำนักแพทย์เทียนอี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝีมือการรักษาของพวกท่านที่ดีมาก! ”
จงรุ่ยอันแสดงท่าทีอึดอัด หมอเทวดาพูดขึ้นว่า “ความจริงไม่ได้เป็นความชอบของพวกเรา แม้พวกเราจะเป็นหมอ ทว่ายาพิษที่ทุกคนได้รับในครั้งนี้นั้นรักษายากจริงๆ ต้องขอบคุณท่านอ๋องที่ไปหาสูตรยาสำหรับใช้เป็นยาถอนพิษ พวกเราจัดยาตามสูตรยาถอนพิษ ทุกคนควรขอบคุณท่านอ๋องมากกว่า”