สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1083 ให้รู้ว่าเป็นสุนัขของผู้ใด
เดิมคิดว่าตนเองและซูจิ่นซีจะรับมือกับองครักษ์พิษจำนวนมากเช่นนี้ไม่ได้ กลับไม่คิดว่าผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ไม่นานนักองครักษ์พิษก็ล้มลงไปกองกับพื้นหลายคน ทำให้ถังเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจมาก
แน่นอนว่าผลลัพธ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับซูจิ่นซีแน่นอน ในทางกลับกัน ถังเสวี่ยยังคงกังวลเกี่ยวกับซูจิ่นซีเล็กน้อย หากเกิดแท้งลูกขึ้นมาจะทำอย่างไร?
ถังเสวี่ยต่อสู้กับองครักษ์พิษที่พยายามเข้าใกล้ซูจิ่นซี และช่วยนางสังหารองครักษ์พิษให้มากที่สุด
แน่นอนว่าในระหว่างการต่อสู้ ฝ่ายตรงข้ามย่อมใช้พิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่าซูจิ่นซีเป็นบรรพบุรุษด้านพิษ ไม่มีพิษใดที่นางถอนไม่ได้ พิษเหล่านั้นจึงเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
อีกด้านหนึ่ง เยี่ยเซินกับหลานอวี่กำลังต่อสู้กันอย่างสูสี บางครั้งหลานอวี่ก็ตกเป็นรอง เมื่อนางเห็นองครักษ์พิษล้มลงทีละคนด้วยฝีมือของซูจิ่นซี หลานอวี่ก็กังวลอย่างมาก จึงต้องวางยาพิษเยี่ยเซิน
เยี่ยเซินไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับพิษจึงยากที่จะหลบเลี่ยงได้ เมื่อเห็นแขนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลานอวี่หมุนตัวยืนอย่างมั่นคงด้วยสีหน้าลำพองใจ
“รองเจ้าสำนักเยี่ย ข้าขอเตือนพวกเจ้าให้ยอมจำนนเสียเถิด อย่าลืมว่าที่นี่คือแคว้นไหวเจียง แม้พวกเจ้าจะหลบหนีจากจวนราชครูไปได้ เจ้าก็ไม่สามารถออกจากชายแดนแคว้นไหวเจียงไปได้แน่นอน ยอมแพ้เสียเถิด เห็นแก่เจ้าที่ยอมจำนนแต่โดยดี ข้าอาจจะร้องขอให้ราชครูไว้ชีวิตเจ้าก็ได้”
“ถุย! ” ไม่รอให้เยี่ยเซินตอบสนอง ถังเสวี่ยก็ถ่มน้ำลายอย่างรุนแรง
หลานอวี่รู้สึกเกลียดชังถังเสวี่ย นางแสดงสีหน้าถมึงทึง จากนั้นจึงโบกมือซัดผงพิษหนึ่งกำมือไปทางถังเสวี่ย “นางตัวแสบ ข้าคิดว่าเจ้าคงอยากตายมากกระมัง”
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าผงพิษที่นางซัดออกไปไม่เพียงตกลงบนร่างของถังเสวี่ย ทว่าลอยกลับมาในทิศทางของนางเอง หลานอวี่ตกใจมากและรีบหลบเลี่ยง นางถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ทว่าเมื่อถอยไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้น เห็นได้ชัดว่าแขนขาของนางอ่อนแรง
นางมองซูจิ่นซีที่กำลังต่อสู้กับองครักษ์พิษด้วยความประหลาดใจ “เจ้า… เจ้าวางยาพิษข้า”
ซูจิ่นซีฆ่าองครักษ์พิษอย่างง่ายดายและมองไปที่หลานอวี่ด้วยสายตาเยาะเย้ย “เหตุใดถึงทำไม่ได้? ”
หลานอวี่ยังไม่ทันตอบสนอง กระบี่ยาวส่องแสงวับวาวก็พาดอยู่บนลำคอของนาง จากนั้นเสียงเย็นชาของเยี่ยเซินก็ดังขึ้นข้างหูของนาง “ทุกคนหยุด มิเช่นนั้น… ข้าจะสังหารนาง”
องครักษ์พิษเห็นหลานอวี่ถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเขาไม่กล้าโจมตีซูจิ่นซีและถังเสวี่ยอีก ถังเสวี่ยรีบเข้าไปพยุงซูจิ่นซีอย่างรวดเร็ว
เยี่ยเซินลากตัวหลานอวี่ขึ้นจากพื้นและจับนางเป็นตัวประกัน ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ ซูจิ่นซีและกระซิบว่า “รีบหนีออกไป! ”
ทุกคนยืนใกล้กันและค่อยๆ เดินไปใกล้ประตูทางออกด้านข้าง องครักษ์พิษกลัวว่าจะทำร้ายหลานอวี่จึงทำได้เพียงคุมเชิงด้วยสีหน้าขึงขัง ทว่าไม่มีใครกล้าเข้าไป
สีหน้าของหลานอวี่ซีดขาว “เยี่ยเซิน เจ้า… เจ้ากล้าดียังไงจับข้าเป็นตัวประกัน ราชครู… ราชครูต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
เยี่ยเซินขยับกระบี่ชิดลำคอหลานอวี่อีกเล็กน้อย คมกระบี่กรีดบนลำคอของหลานอวี่จนเป็นแผล เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลซึมออกมา หลานอวี่กระชากเสียงเย็นชา สีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
เยี่ยเซินพูดว่า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ไม่เช่นนั้น …คมกระบี่ของข้าไม่มีตา”
หลานอวี่ตกใจมากจนร่างกายแข็งทื่อ ไม่พูดอันใดสักประโยค
ทุกคนค่อยๆ ขยับไปที่ประตูทางออกด้านข้าง เยี่ยเซินและซูจิ่นซีส่งสัญญาณให้ถังเสวี่ยเปิดประตู
ถังเสวี่ยรีบหันกลับมาวิ่งไปเปิดประตู
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทั้งสามคนไม่คาดคิดก็คือ หลังจากประตูถูกผลักเปิดออก ร่างเงาของคนผู้หนึ่งก็วาบผ่านเข้ามาข้างหน้าพวกเขา ถังเสวี่ยรู้สึกเจ็บปวดเข้ากระดูกและหมดสติไปในทันที
ซูจิ่นซีรู้สึกว่าด้านหลังมีบางอย่างผิดปกติจึงหันกลับไปอย่างรวดเร็ว และเห็นถังเสวี่ยสลบอยู่ในอ้อมแขนของจิ้นอี้เฉิน
ใบหน้าของจิ้นอี้เฉินแสดงออกอย่างเรียบเฉยผ่อนคลาย นิ้วเรียวของเขาบีบลำคอของถังเสวี่ย “ปล่อยนาง ไม่เช่นนั้น… ข้าจะฆ่านางตัวแสบนี่”
ภายในหัวของซูจิ่นซีเกิดประหวั่นพรั่นพรึง ไม่มีเวลาให้คิดมาก นางโซเซเกือบสะดุดล้ม เพราะเมื่อนางเห็นถังเสวี่ยถูกจิ้นอี้เฉินจับเป็นตัวประกัน นางใช้ระบบถอนพิษตรวจจับและรู้ว่าถังเสวี่ยถูกวางยาพิษ ทั้งยังเป็นพิษร้ายแรงที่สามารถฆ่านางได้ในทันที
นิ้วของเยี่ยเซินที่ถือกระบี่ยาวกลายเป็นสีขาวซีด สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง หลานอวี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลำพองใจว่า “รองเจ้าสำนักเยี่ย ราชครูมาแล้ว ท่านยังไม่ปล่อยข้าไปอีกหรือ”
“หยุดพูดจาไร้สาระ! ” เยี่ยเซินกำกระบี่ยาวในมือแน่นและจับหลานอวี่ไม่ยอมปล่อย เขาพูดกับจิ้นอี้เฉินว่า “จิ้นอี้เฉิน เจ้าไม่ต้องต่อรองกับข้า ชีวิตสตรีนางนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้า เจ้าสังหารนางได้เท่าที่ต้องการ”
“อย่างนั้นหรือ? ” จิ้นอี้เฉินเลิกคิ้ว ก่อนจะมองไปที่ซูจิ่นซี “พระชายาโยวอ๋อง เจ้าคิดอย่างไร? ”
ซูจิ่นซีมีท่าทางขึงขัง “เยี่ยเซิน ปล่อยหลานอวี่ไป”
เยี่ยเซินราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “จิ่นซี เจ้าพูดว่าอันใด? ”
ซูจิ่นซีพูดซ้ำอีกครั้ง “ปล่อยหลานอวี่ไป”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ จิ่นซี เจ้าไม่ต้องกลัว ข้า… ข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน เชื่อข้า ข้าพาเจ้ากลับไปหาเยี่ยโยวเหยาได้อย่างแน่นอน”
“เหอะ เหอะ เหอะ… ” จิ้นอี้เฉินหัวเราะเบาๆ “ถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังดิ้นรนอยู่อีกหรือ? ” เขาพูดพลางกดแรงมืออีกนิด สีหน้าของถังเสวี่ยพลันซีดขาว ร่างกายของนางค่อยๆ อ่อนแรงลง
ซูจิ่นซีรีบพูด “เยี่ยเซิน ปล่อยหลานอวี่ไป” นางรู้ดีว่าเยี่ยเซินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ้นอี้เฉิน อีกทั้งตอนนี้นางก็ท้องแก่มากแล้ว ไม่สามารถเผชิญหน้ากับจิ้นอี้เฉินตัวต่อตัวได้
“จิ่นซี… ” เยี่ยเซินรู้สึกไม่เต็มใจ
ซูจิ่นซีกล่าวอย่างหนักแน่น “ปล่อยนางไป”
เยี่ยเซินมีสีหน้ากล้ำกลืน เขาคลายมือเล็กน้อย หลานอวี่ใช้ประโยชน์จากช่องว่างหลบหนีจากการควบคุมของเยี่ยเซิน จากนั้นจิ้นอี้เฉินก็ปล่อยถังเสวี่ย นางล้มลงกับพื้นราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่น ซูจิ่นซีรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูอาการของถังเสวี่ย “ถังเสวี่ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ถังเสวี่ย… ”
ถังเสวี่ยหมดสติไปนานแล้ว ซูจิ่นซีรีบหยิบยาจากระบบถอนพิษให้ถังเสวี่ยกินเข้าไปก่อน
จากนั้นเงาสีขาวก็วาบผ่าน จิ้นอี้เฉินปรากฏตัวเบื้องหน้าเยี่ยเซินด้วยความเร็วที่แปลกประหลาด เยี่ยเซินยังไม่ทันได้ตอบสนอง ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ราวกับถูกมดนับหมื่นกัดกิน เขาล้มลงกับพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ซูจิ่นซีตกใจกับเสียงกรีดร้องของเยี่ยเซิน นางรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “จิ้นอี้เฉิน เจ้าทำอันใดกับเขา? ”
จิ้นอี้เฉินแสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แค่ใช้ลูกไม้เล็กน้อยเพื่อให้เขาเชื่อฟังและรู้ว่าเขาเป็นสุนัขของใคร? ”
ซูจิ่นซีค่อย ๆ กำมือแน่น “เจ้าวางยาพิษแมงมุมพันตัวกับเขา? ”
“ดังนั้น ข้าขอเตือนพระชายาโยวอ๋องให้รู้สถานะของตนเองและอยู่ในจวนของข้าเสียแต่โดยดี อย่าพยายามถอนพิษให้เขา มิเช่นนั้น… ”
แม้คำพูดของจิ้นอี้เฉินจะไม่ชัดเจน ทว่าซูจิ่นซีเข้าใจชัดแจ้งเป็นอย่างดี
โหดเหี้ยมยิ่งนัก