สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1084 กับดักของจิ้นอี้เฉิน
พิษแมงมุมพันตัวเป็นพิษเผ่าเหมียว
สารพิษสกัดจากแมงมุมพิษหลายพันชนิด ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การใช้พิษของนางพญาแมงมุมมาทำเป็นยาพิษ
หากต้องการถอนพิษต้องใช้พิษของนางพญาแมงมุมเท่านั้น ไม่เช่นนั้น นอกจากจะถอนพิษไม่ได้ยังเพิ่มพิษในร่างกายของเยี่ยเซินอีกด้วย ก่อกวนสารพิษในร่างกาย เพิ่มความซับซ้อนของพิษให้มากขึ้น และเพิ่มความยากลำบากในการถอนพิษ
ซูจิ่นซีกัดฟันกรอด “จิ้นอี้เฉิน เจ้าต้องการอันใดกันแน่? ”
แววตาของจิ้นอี้เฉินเผยความเจ้าเล่ห์ “ตราบใดที่พระชายาโยวอ๋องอยู่ในจวนของข้าแต่โดยดี รอจนข้ารวบรวมอาณาจักรเทียนเหอได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไปทันที มิเช่นนั้น… จวนราชครูแห่งนี้จะเป็นสถานที่ฝังศพของเจ้า” เขาพูดจบก็หันหลังออกไป พลางสั่งหลานอวี่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุมตัวกลับวังใต้ดิน”
“รับทราบ! ” หลานอวี่ตอบรับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ก่อนจะสั่งให้องครักษ์คุมตัวซูจิ่นซีและคนอื่นๆ กลับไปที่วังใต้ดิน
ครั้งนี้เยี่ยเซินถูกขังไว้ด้วยกัน
เยี่ยเซินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่หยุดตั้งแต่จิ้นอี้เฉินวางยาพิษแมงมุมพันตัวให้กับเขา ในวังใต้ดินที่มืดมิด ทำให้เสียงกรีดร้องนั้นน่ากลัวเข้าไปอีก
ซูจิ่นซีพยายามระงับพิษในร่างกายของเยี่ยเซิน บรรเทาความเจ็บปวดของเขา ทว่านางพยายามทุกวิถีทางก็ไม่เป็นผล เยี่ยเซินเจ็บปวดเหมือนคนคลุ้มคลั่ง พยายามหลบหลีกเพื่อให้อยู่ห่างซูจิ่นซี เพราะกลัวว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมและทำร้ายซูจิ่นซีโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เอาหัวโขกกำแพง พยายามใช้ความเจ็บปวดแบบอื่นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากการกัดแทะทั่วทั้งร่างเขา
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ความเจ็บปวดของเยี่ยเซินเหมือนจะค่อยๆ บรรเทาลงอย่างมาก เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร่างกายของเขากระตุกอย่างต่อเนื่อง
ซูจิ่นซีก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจชีพจรของเขา ทว่าเขาหลบเลี่ยง ซูจิ่นซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้ถังเสวี่ยที่ตื่นแล้ว เข้าไปจับชีพจรของเขา
ถังเสวี่ยตรวจชีพจรของเขา ร่างกายเขาไม่มีอันตรายร้ายแรง ทว่าเขาถูกพิษทำให้ทรมานมากจนสลบไปแล้ว
ทุกวันพิษแมงมุมพันตัวจะกำเริบหนึ่งครั้ง ทุกครั้งเยี่ยเซินจะทรมานเหมือนตายทั้งเป็น ซูจิ่นซีคิดวิธีการถอนพิษให้เยี่ยเซิน นางพยายามใช้ทุกอย่างที่นางเรียนรู้มาทั้งชีวิต ทว่านางจนปัญญา ไม่มีวิธีถอนพิษแม้แต่น้อย หากต้องการถอนพิษจะต้องใช้พิษของนางพญาแมงมุมเท่านั้น
หลายวันต่อมา เยวี่ยอวิ๋นซวง รัชทายาทวัยสิบสามปีแห่งแคว้นไหวเจียงถูกคนของจิ้นอี้เฉินไล่ล่า ทว่าจิ้นหนานเฟิงและคนอื่นช่วยชีวิตไว้ได้ อีกทั้งวางแผนหลบเลี่ยงสายสืบของจิ้นอี้เฉินและแอบรวบรวมกลุ่มเชื้อพระวงศ์ตระกูลเยวี่ย
งานแต่งงานของหลานอวี่กับกูสือซานใกล้เข้ามาแล้ว แม้จะรวดเร็วกะทันหันเกินไปหน่อย ทว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นบุคคลสำคัญในแคว้นไหวเจียง ดังนั้นงานแต่งงานไม่ควรทำแบบขอไปที ทุกคนจากวังหลวงและจวนราชครูกำลังจัดเตรียมงานมงคลให้ทั้งสอง อีกทั้งได้จัดซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับงานมงคลจากแคว้นต่างๆ ผ่านพ่อค้านักเดินทาง ดังนั้นยอดฝีมือจากวิหารวิญญาณจึงใช้โอกาสนี้แอบซ่อนตัวเข้ามาภายในแคว้นไหวเจียงอย่างไร้ร่องรอย
ในที่สุดก็ถึงวันที่แปดเดือนสิบ กูสือซานที่ไปปราบปรามความวุ่นวายในเขตหมิ่นหนานแคว้นไหวเจียงได้กลับมาถึงเมืองหลวง เพื่อให้ทันงานมงคลของเขากับหลานอวี่ตามกำหนด
เยี่ยโยวเหยาไม่สามารถติดต่อกับเยี่ยเซินได้ เขารู้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเยี่ยเซิน ทว่ายังติดต่อกับหลานอวี่ตลอดเวลา อีกทั้งภายใต้การจัดการของหลานอวี่ จิ้นหนานเฟิง อู๋จุน และนักฆ่าอีกหลายสิบคนได้แอบปะปนเข้ามาอยู่ในกองกำลังของจวนเจ้าสำนักห้าพิษ
อีกด้านหนึ่ง จิ้นอี้เฉินรู้ความเคลื่อนไหวของเยี่ยโยวเหยาและที่อยู่ของคนอื่นผ่านหลานอวี่มาโดยตลอด เขาเพียงแค่รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ค่อยๆ วางแผนปล่อยให้พวกเขาเดินเข้ามาติดกับดักที่วางไว้เท่านั้น จะได้จับทั้งหมดในคราวเดียว
ขอเพียงสังหารเยี่ยโยวเหยาได้ แผนการรวบรวมอาณาจักรเทียนเหอก็จะสำเร็จลุล่วงไปมากกว่าครึ่ง ต่อไปเรื่องกำจัดแคว้นต่างๆ ก็เป็นเรื่องง่าย ครั้งนี้จิ้นอี้เฉินพอใจกับการกระทำของหลานอวี่มาก อีกทั้งการสังหารเยี่ยโยวเหยาก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว
เช้าตรู่ ขบวนเจ้าบ่าวของกูสือซานมาถึงจวนเจ้าสำนักห้าพิษ เขาพาหลานอวี่ออกจากจวนเจ้าสำนักตามเวลามงคล ขบวนบ่าวสาวประดับประดางดงาม มีคนติดตามในขบวนนับร้อยคน เยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ได้แอบปะปนอยู่ในขบวนบ่าวสาวนี้ด้วย จนกระทั่งขบวนบ่าวสาวเข้ามาภายในจวนราชครูอย่างราบรื่นโดยไม่มีผู้ใดสงสัย
ทันทีที่เข้าไปในจวนราชครู อู๋จุนฉวยจังหวะตอนที่คนไม่ทันสังเกตเห็นพาคนไปค้นหาที่อยู่ของซูจิ่นซีและถังเสวี่ย ส่วนเยี่ยโยวเหยาพานักฆ่าจำนวนหนึ่งปะปนในกลุ่มองครักษ์ รอโอกาสที่เหมาะสมเพื่อสังหารจิ้นอี้เฉิน
ปฏิบัติการครั้งนี้ เยี่ยโยวเหยาต้องการช่วยเหลือซูจิ่นซีกับถังเสวี่ย ส่วนจิ้นอี้เฉินเขาก็ต้องการสังหารเช่นกัน
หลานอวี่ได้มอบแผนที่จวนราชครูให้เยี่ยโยวเหยาผ่านจดหมายแล้ว ในแผนที่ระบุตำแหน่งวังใต้ดินที่ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ถูกกักตัวไว้อย่างแม่นยำ อู๋จุนและคนอื่นๆ ค้นหาพบอย่างรวดเร็ว
ที่ตั้งของวังใต้ดินลึกลับ บริเวณโดยรอบคุ้มกันอย่างแน่นหนา ทว่านักฆ่าจากวิหารวิญญาณสามารถจัดการองครักษ์จำนวนหนึ่งโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว ทั้งยังไร้ร่องรอย นับว่าไม่มีปัญหาอันใด ไม่นานนักก็สามารถจัดการองครักษ์พิษที่เฝ้าประตูวังใต้ดินและเข้าไปในวังใต้ดิน ตลอดเส้นทาง พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบโดยไม่ทิ้งเบาะแสอันใดและสามารถเข้าไปได้อย่างราบรื่น
วังใต้ดินในจวนราชครูไม่ใหญ่มาก อู๋จุนพากำลังคนค้นหาตำแหน่งที่ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ถูกคุมขังได้อย่างรวดเร็ว
คนทั้งหมดมีสี่คน ถังเสวี่ย เยี่ยเซิน และเยวี่ยไหวชิ่งที่ถูกมัดไว้กับเสา ปากของนางถูกมัดปิดไว้แน่น ถังเสวี่ยเห็นอู๋จุนก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นางพยายามดิ้นรนอย่างหนัก ต้องการจะพูดอันใดบางอย่างกับอู๋จุน ทว่าพูดอันใดไม่ออกสักประโยค
มองแวบแรก เมื่อเห็นซูจิ่นซีถูกทรมาน ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเลือด ทั้งยังนอนอยู่บนเตียงไม้ หัวใจของอู๋จุนพลันเจ็บปวด เขาจึงรีบเดินไปหาซูจิ่นซี
“แม่นางพิษน้อย พี่จุนมาช่วยเจ้าแล้ว แม่นางพิษน้อย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ”
ทันทีที่เข้าใกล้ซูจิ่นซี อู๋จุนก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่าสายเกินไป ‘ซูจิ่นซี’ ที่นอนอยู่บนเตียงไม้หันกลับมาอย่างกะทันหัน มีดพกได้แทงเข้าช่องท้องของอู๋จุนแล้ว
อู๋จุนมองสตรีที่ปลอมตัวเป็นซูจิ่นซีอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เขาถอยกลับไปสองก้าว จากนั้นถังเสวี่ยก็เข้าไปพยุงเขาไว้ได้ทัน
“ถังเป่าอวี้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ถังเป่าอวี้อย่าทำให้ข้าตกใจ! ”
แท้จริงแล้ว ขณะที่อู๋จุนพาองครักษ์เข้ามาในวังใต้ดิน เมื่อมองไปที่ถังเสวี่ย นางได้ส่งสัญญาณให้อู๋จุนว่าอย่าเข้าใกล้ นี่เป็นเพียงกับดัก น่าเสียดายที่ความสนใจของอู๋จุนอยู่ที่ซูจิ่นซี เขาไม่ได้สังเกตเห็นคำบอกใบ้ของถังเสวี่ยเลย
“จิ่นซีอยู่ที่ใด” อู๋จุนถามพร้อมกับจับมือถังเสวี่ย
ถังเสวี่ยทั้งโกรธและหวาดกลัว ขณะที่มองไปที่บาดแผลที่ท้องของอู๋จุน น้ำตาของนางไหลออกมาไม่หยุด “ถังเป่าอวี้ มีดพกนั้นมีพิษ เจ้า… เจ้ามีเลือดออกมาก”
อู๋จุนไม่ได้สนใจตนเองแม้แต่น้อย เขาคว้าแขนถังเสวี่ยและออกแรงบีบเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงเย็นชา “ซูจิ่นซีอยู่ที่ใด? ”
ถังเสวี่ยตัวสั่นรุนแรง นางกัดริมฝีปากแน่น “คน… คนของหลานอวี่พานางออกไป ถังเป่าอวี้ นี่คือกับดัก เจ้า… เจ้ารีบหนีไป พวกเขาจะมาในไม่ช้านี้”
อู๋จุนตกตะลึง จู่ๆ ก็เข้าใจอันใดบางอย่าง “แย่แล้ว พวกเราติดกับดักแล้ว รีบออกไปบอกเยี่ยโยวเหยา”
องครักษ์รีบวิ่งออกไปด้านนอกวังใต้ดิน ทว่าในความเป็นจริงมันสายไปเสียแล้ว