สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1085 ความภักดีของหลานอวี่
องครักษ์นายหนึ่งวิ่งออกมาจากวังใต้ดิน
ทว่าสายไปเสียแล้ว
เมื่อเขาเข้ามาในวังใต้ดินและเห็นถังเสวี่ยกับคนอื่นๆ จากระยะไกล อู๋จุนได้ส่งคนไปแจ้งข่าวให้เยี่ยโยวเหยาทราบแล้ว
เรื่องนี้ระหว่างเขากับเยี่ยโยวเหยาได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว ขอเพียงอู๋จุนพบซูจิ่นซีและคนอื่นๆ เขาต้องแจ้งเยี่ยโยวเหยาทันที ส่วนเยี่ยโยวเหยาจะใช้โอกาสนี้ฆ่าจิ้นอี้เฉินในงานแต่งงาน
ในเวลานี้ ห้องโถงใหญ่กำลังอยู่ในขั้นตอนพิธีเคารพฟ้าดิน เยี่ยโยวเหยาได้รับข่าวว่าอู๋จุนว่าพบซูจิ่นซีแล้ว ทั้งยังพร้อมลงมือ
ภายในห้องโถงใหญ่ของจวนราชครูมีผู้คนรายล้อมจำนวนมาก เส้นทางถูกปิดกั้นจนแน่นขนัด องครักษ์ที่ออกมาจากวังใต้ดินเดินวนรอบห้องโถงใหญ่ ทว่าไม่สามารถเข้าใกล้เยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ได้เลย
ภายในห้องโถงใหญ่ คนคุมพิธีการตะโกนเสียงดัง หลานอวี่กับกูสือซานกำลังทำพิธีคำนับฟ้าดิน องครักษ์ของเยี่ยโยวเหยาเริ่มเคลื่อนไหว กลับไม่คาดคิดว่าองครักษ์พิษที่อยู่ด้านข้างจะพบความผิดปกติ องครักษ์พิษจึงเริ่มลงมือกับนักฆ่าวิหารวิญญาณก่อน ในชั่วพริบตาภายห้องโถงใหญ่ก็เกิดความโกลาหล ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กัน แขกที่เข้ามาร่วมงานหนีเอาตัวรอดกันอลหม่าน บ้างก็ถูกฆ่าตาย ในไม่ช้าภายในห้องโถงใหญ่ก็เหลือเพียงองครักษ์พิษของจวนราชครูกับนักฆ่าวิหารวิญญาณ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันโดยไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบ
จิ้นอี้เฉินมองเยี่ยโยวเหยาที่ปลอมตัวเป็นองครักษ์และได้ถอดชุดทั้งหมดเปลี่ยนเป็นชุดสีดำลึกลับจนกลับมามีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ดวงตาของจิ้นอี้เฉินหรี่ลง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยัน “เยี่ยโยวเหยา พวกเราพบกันอีกแล้ว”
เยี่ยโยวเหยาไม่พูดให้มากความ เขาเรียกกระบี่ฝูซีออกมาและกำลังจะโจมตีจิ้นอี้เฉิน กลับไม่คาดคิดว่าองครักษ์พิษจำนวนมากจะวิ่งเข้ามาจากระเบียงด้านข้างเหมือนน้ำไหล และยืนขวางด้านหน้าเยี่ยโยวเหยา
เห็นได้ชัดว่าเป็นการวางแผนซุ่มโจมตีไว้ก่อนแล้ว
เยี่ยโยวเหยาครุ่นคิดอันใดบางอย่าง ดวงตาเย็นชาของเขามองไปทางหลานอวี่
สีหน้าของหลานอวี่สงบนิ่ง ไม่มีความรู้สึกผิด กูสือซานค่อยๆ เดินเข้ามาปกป้องอยู่ด้านหน้าหลานอวี่ อย่างไรก็ตาม เยี่ยโยวเหยาก็ถูกกลุ่มองครักษ์พิษล้อมไว้แน่นหนา เขาจึงไม่สามารถเข้าใกล้หลานอวี่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจิ้นอี้เฉิน
หลานอวี่มองเยี่ยโยวเหยาที่กำลังต่อสู้กับองครักษ์พิษในระยะไกล ดวงตาของนางขึงขังและเย็นชา นางชักกระบี่ยาวของตนเองออกมา ทว่ากูสือซานรั้งนางไว้และพูดว่า “น้องหลานอวี่ วันนี้เป็นวันมงคลระหว่างเจ้ากับข้า ไม่เหมาะที่จะให้มือเปื้อนเลือด น้องยืนมองอยู่ด้านข้าง คนเหล่านี้ให้ข้าจัดการเอง” เขาพูดจบก็เหาะขึ้นไปและเข้าร่วมการต่อสู้
จิ้นอี้เฉินยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนบันไดสูง มองผู้คนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดราวกับมองต้นหญ้า ดวงตาที่งดงามของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
หลานอวี่เดินเข้าไปยืนข้างจิ้นอี้เฉิน จิ้นอี้เฉินจึงพูดว่า “อวี่เอ๋อร์ เรื่องในครั้งนี้ทำได้ดีมาก อาจารย์พอใจมาก ไม่เสียทีที่อาจารย์ชุบเลี้ยงเจ้ามา”
หลานอวี่พูดว่า “อาจารย์เลี้ยงดูศิษย์ สั่งสอนศิษย์ ปฏิบัติต่อศิษย์เหมือนบิดาผู้ให้กำเนิด สามารถตอบแทนอาจารย์เป็นวาสนาของศิษย์แล้ว ช่วยให้อาจารย์บรรลุงานใหญ่เป็นความปรารถนาของศิษย์”
ขอเพียงสังหารเยี่ยโยวเหยาได้ งานใหญ่ในการรวบรวมอาณาจักรเทียนเหอนับว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดูสถานการณ์ต่อสู้ จำนวนคน และกำลังภายในห้องโถงแห่งนี้ เยี่ยโยวเหยาจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน จิ้นอี้เฉินหันไปมองหลานอวี่ แววตาของเขาพึงพอใจอย่างมากจึงไม่ได้เตรียมการป้องกันใดๆ
หลานอวี่ขยับเข้าไปใกล้จิ้นอี้เฉินและเข้าใกล้มากขึ้น
“ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ ความวุ่นวายที่หมิ่นหนาน พี่กูได้ปราบปรามไปพอสมควรแล้ว ต่อไปเพียงจัดระเบียบให้ดีอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่สามารถก่อความวุ่นวายอันใดได้อีก รอจนจัดการสังหารเยี่ยโยวเหยาสำเร็จ กองทัพแคว้นจงหนิงจะต้องเกิดความโกลาหล มู่หรงฉีเคลื่อนทัพแคว้นหนานหลีฝ่ายเดียวไม่กล้ารบพุ่งกับแคว้นเราแน่ ถึงเวลานั้น เราสามารถใช้ประโยชน์จากความโกลาหลโจมตีกลับ ใช้ศพพิษออกรบ พวกเราสามารถต่อสู้กับกองทัพแคว้นจงหนิงและกองทัพแคว้นหนานหลีได้อย่างแน่นอน จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้า… ไปทางเหนือ… ”
เป็นแผนการยอดเยี่ยม
แคว้นเป่ยอี้ทางเหนือกับแคว้นตงเฉินกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด หากแคว้นไหวเจียงโจมตีอีกครั้ง… ก็จะสามารถทำลายแคว้นตงเฉินได้อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นจะเหลือเพียงแคว้นไหวเจียงและแคว้นเป่ยอี้ แคว้นเป่ยอี้ได้รับอำนาจจากสวรรค์และได้รับการคุ้มครองจากตำหนักเทพคุนหลุน ไม่ง่ายที่จะโจมตี ทว่าจิ้นอี้เฉินไม่สนใจ ถึงเวลานั้นอาณาจักรเทียนเหอกว่าครึ่งก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว
ความคิดที่เลิศหรูหลั่งไหลเหมือนสายน้ำ จิ้นอี้เฉินกำลังคิดเพ้อฝันถึงความสำเร็จ กลับไม่คิดว่าจะได้ยินเสียง ‘ฉึก’ ดังขึ้น ความเจ็บปวดที่แทงทะลุหัวใจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เขาชำเลืองตามองแววตาเยือกเย็นของหลานอวี่ กระบี่ยาวได้แทงทะลุผ่านหน้าอกของเขาไปแล้ว
เขามองด้วยสายตาเหลือเชื่อ รูม่านตาของเขาหดลงทันที “เจ้า… เจ้าทรยศข้าจริงๆ… ”
หลานอวี่แย้มยิ้มสะใจอย่างคนทำสำเร็จ “เจ้าฆ่าพ่อแม่ของข้า สมาชิกครอบครัวของข้า จิ้นอี้เฉิน ข้ารอวันนี้ รอมานานแล้ว ไปลงนรกเถิด! ” หลังพูดจบ นางก็แทงกระบี่ยาวทะลุร่างของจิ้นอี้เฉินให้ลึกเข้าไปอีกเล็กน้อย จิ้นอี้เฉินใช้กำลังทั้งหมดของตนเองซัดหลานอวี่ด้วยฝ่ามือ ร่างของหลานอวี่ลอยไปเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่น
ชีวิตและความตายล้วนถูกลิขิตไว้แล้ว ทว่านางพอใจมากแล้ว
นางรอวันนี้มาเป็นเวลานาน แม้เยี่ยโยวเหยาไม่ได้เตือนนาง ทว่านางแอบสืบข้อมูลนี้มานานมากแล้ว
ในโลกนี้ การโกหกที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือความจริงที่เหมือนความจริงแต่ปะปนด้วยคำเท็จบางส่วน หากคิดจะวางแผนจัดการคนอย่างจิ้นอี้เฉินคงไม่ใช่เรื่องง่ายกระมัง? ดังนั้นนางเพียงบอกทุกอย่างให้จิ้นอี้เฉิน แม้แต่เยี่ยโยวเหยา นางก็ปิดบัง และแสร้งเล่นละครเป็นคน ‘ภักดี’ อย่างสมบทบาทจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนจะลงมือด้วยตนเอง จิ้นอี้เฉินไม่มีทางเตรียมการป้องกันอย่างแน่นอน
หลานอวี่พอใจมาก ร่างของนางลอยขึ้นกลางอากาศ มองดูท้องฟ้าสีครามเหนือศีรษะของนาง แสงแดดสาดส่อง มุมปากของนางค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มสดใส จากนั้นร่างของนางก็กระแทกเข้ากับหินที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดและหมดสติทันที
กูสือซานและองครักษ์พิษกลุ่มหนึ่งเป็นคนแรกที่เห็นหลานอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นจึงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
มีคนเห็นจิ้นอี้เฉินที่ได้รับบาดเจ็บ กระบี่ยาวแทงทะลุร่างกายของเขา ทันใดนั้นก็มีเสียงคนตะโกนด้วยความสับสนว่า “ราชครูตายแล้ว… ราชครูตายแล้ว… ”
ทันใดนั้นก็เกิดความวุ่นวายภายในกลุ่มองครักษ์พิษของจวนราชครู
จากนั้นองครักษ์อีกกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาในจวนราชครู ซึ่งเป็นทหารของรัชทายาทเยวี่ยอวิ๋นซวงแห่งแคว้นไหวเจียง พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้และสังหารองครักษ์พิษทุกคนที่เห็น ไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันอีกครั้ง องครักษ์พิษของจวนราชครูล้มลงทีละคนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก จิ้นอี้เฉินก็เดินโซเซไปสองก้าว เขาเดินพลังภายในเพื่อดันกระบี่ยาวออกจากร่างกาย ก่อนจะหันหลังหนีไปทางประตูหลังของห้องโถงใหญ่ เยี่ยโยวเหยาที่กำลังต่อสู้อยู่กำลังจะไล่ตาม ทว่าจู่ๆ จิ้นหนานเฟิงก็ส่งเสียงเรียกไว้ “ท่านอ๋อง แย่แล้ว แม้เจ้าหุบเขาอู๋จะนำคนไปตามหาวังใต้ดิน ทว่าพระชายาไม่ได้อยู่ที่วังใต้ดิน”
“อันใดนะ? ”
“พวกเขาติดกับดัก เจ้าหุบเขาอู๋ได้รับบาดเจ็บ ทั้งไม่รู้ว่าพระชายาอยู่ที่ใด”
ม่านตาของเยี่ยโยวเหยาพลันหดลง เขารีบวิ่งไปทางวังใต้ดิน ก่อนจากไปเขาได้สั่งจิ้นหนานเฟิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบไล่ตามจิ้นอี้เฉินไป”
“พ่ะย่ะค่ะ! ”
เยี่ยโยวเหยารีบไปที่วังใต้ดินอย่างรวดเร็ว บาดแผลของอู๋จุนมีพิษ เขาหมดสติไปนานแล้ว พิษแมงมุมพันตัวของเยี่ยเซินเกิดกำเริบ เจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น เยวี่ยไหวชิ่งกับถังเสวี่ยมองหน้ากันด้วยสายตาเป็นกังวลเหมือนมดบนกระทะร้อน ซูจิ่นซีไม่ได้อยู่ในวังใต้ดินจริงๆ
เยี่ยโยวเหยาดึงถังเสวี่ยมาถามว่า “ซูจิ่นซีอยู่ที่ใด? ”
ถังเสวี่ยหวาดกลัวเยี่ยโยวเหยา ทว่านางเกือบหมดสติ จากเสียงคำรามนี้ “ถูก… ถูกคนของหลานอวี่คุมตัวไป”
เยี่ยโยวเหยาปล่อยมือทันที รัศมีรอบกายของเขาเย็นชาน่าหวาดกลัว สั่งองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังด้วยเสียงเย็นชาว่า “คุมตัวหลานอวี่มาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
“พ่ะย่ะค่ะ! ”
องครักษ์รีบคุมตัวหลานอวี่มาที่วังใต้ดินอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่หลานอวี่บาดเจ็บสาหัสจากฝีมือของจิ้นอี้เฉิน ตอนนี้ยังไม่ได้สติ