สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1086 ออกจากอาณาจักรเทียนเหอ
เยี่ยโยวเหยาถ่ายพลังภายในและถังเสวี่ยช่วยฝังเข็มอีกแรง ไม่นานนักหลานอวี่ก็ฟื้นขึ้น
เยี่ยโยวเหยาบีบคอและพูดว่า “บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ ขังซูจิ่นซีไว้ที่ใด? ”
หลานอวี่หายใจรวยริน เยี่ยโยวเหยาบีบคอนางเช่นนี้ยิ่งทำให้สีหน้าของนางซีดขาวมากขึ้น “มอบนางให้จิ้นอี้เฉินแล้ว ข้า… ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาพานางไปอยู่ที่ใด? ”
ดวงตาดำขลับและลึกลับของเยี่ยโยวเหยาเปล่งแสงกระหายเลือด “คิดจะพูดโกหกอีกหรือ? ”
หลานอวี่ยกยิ้มมุมปากเย็นชา “โยว… โยวอ๋องคิดว่าจนถึงตอนนี้แล้ว ข้า… ข้าจำเป็นต้องโกหกเจ้าอีกหรือ? ”
เยี่ยโยวเหยาออกแรงที่มือเพียงเล็กน้อย พลันเกิดเสียงดัง ‘กึก’ เขาหักคอหลานอวี่และโยนศพทิ้งไปด้านข้าง จากนั้นก็เหาะออกจากวังใต้ดิน พาคนจำนวนหนึ่งไล่ตามจิ้นอี้เฉินไป
น่าเสียดายที่การไล่ล่าครั้งนี้เหมือนเมฆหมอก จิ้นอี้เฉินราวกับควันที่ลอยหายไปแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงา
ศึกโกลาหลที่จวนราชครูวันนั้น มู่หรงฉีที่คอยอยู่ชายแดนทางใต้ได้รับข้อความจากเยี่ยโยวเหยา จึงรีบนำกองทัพบุกเข้าโจมตีแคว้นไหวเจียงทันที มีคนจากวิหารวิญญาณคอยช่วยเหลือด้านใน มู่หรงฉีบุกทะลุข้ามเขตแดนแคว้นไหวเจียงมาตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเพียงสองวันก็บุกเข้ายึดเมืองหลวงได้สำเร็จ
เช้าตรู่ของวันที่สาม เยวี่ยกุย ฮ่องเต้แคว้นไหวเจียงที่ได้รับความช่วยเหลือจากองครักษ์วิหารวิญญาณให้ออกมาจากเงื้อมมือองครักษ์ของจิ้นอี้เฉิน คุกเข่าที่หน้าประตูวัง ประทานพระราชลัญจกรกับมือตนเองเพื่อต้อนรับมู่หรงฉีพร้อมแม่ทัพใหญ่ทั้งสองแคว้น ทว่าเยี่ยโยวเหยาไม่ปรากฏตัว
วันที่สี่ วันที่ห้า วันที่หก วันที่เจ็ด… กองทัพทั้งสองแคว้นใช้เวลาสี่วันเต็มเข้ายึดแคว้นไหวเจียงได้ทั้งหมด ในช่วงสี่วันที่ผ่านมา เยี่ยโยวเหยาและคนของเขาตรวจค้นแคว้นไหวเจียงแทบทุกตารางนิ้วก็ยังไม่มีข่าวของจิ้นอี้เฉินและซูจิ่นซีแม้แต่น้อย
ในเวลาเพียงเจ็ดวัน เยี่ยโยวเหยาดูชราขึ้นมาก เส้นผมสีดำขลับไม่รู้ว่าเปลี่ยนเป็นสีขาวตั้งแต่เมื่อใด
เช้าตรู่ของวันที่แปด จิ้นหนานเฟิงได้รับข่าวจากทางวิหารวิญญาณว่ามีคนเห็นจิ้นอี้เฉินกับซูจิ่นซีที่แคว้นหนานหลี คนวิหารวิญญาณที่ดูแลพื้นที่ตรงนั้นไม่กล้าบุ่มบ่าม พวกเขาจึงส่งคนแอบสะกดรอยตามไปอย่างลับๆ จากนั้นใช้ให้คนมารายงานท่านอ๋องให้เร็วที่สุด
เยี่ยโยวเหยาได้รับข่าวจึงพาคนจำนวนหนึ่งออกมาจากแคว้นไหวเจียงโดยไม่หยุดพัก ทว่าขณะที่เยี่ยโยวเหยามาพบกับคนวิหารวิญญาณตามที่นัดไว้ คนที่ถูกส่งให้สะกดรอยตามไปก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ตัวแล้ว
โรงน้ำชาในเมืองเล็กๆ ใกล้กับเมืองเหยาในแคว้นหนานหลี เยี่ยโยวเหยานั่งนิ่งเงียบอยู่ริมหน้าต่าง รัศมีรอบตัวของเขาเย็นยะเยือกและกดดันน่ากลัว องครักษ์ที่คอยคุ้มกันอยู่ชั้นล่างไกลออกไปยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่าหวาดกลัวของเขา
ไม่รู้นานเท่าใดแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นรัศมีน่าสะพรึงกลัวรอบกายของท่านอ๋องเช่นนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากพระชายาปรากฏตัวก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ตอนนี้พระชายาหายตัวไป รัศมีรอบกายของท่านอ๋องกลับมาอีกครั้ง เหล่าองครักษ์ต่างภาวนาในใจ ภาวนาให้ซูจิ่นซีและภาวนาให้ตนเองด้วย
องครักษ์ถูกส่งออกไปสืบข่าวอย่างต่อเนื่อง ทว่าไม่พบเบาะแสอันใด ไม่ต้องพูดถึงเยี่ยโยวเหยา มู่หรงฉีเองก็จิตใจว้าวุ่นเช่นเดียวกัน มีวิธีไหนเขาก็ใช้ทุกวิถีทางแล้ว ทว่าไม่พบข่าวคราวอันใดเลย หรือว่าจิ้นอี้เฉินหายตัวได้
มู่หรงฉีพูดว่า “ตะวันออก ใต้ ตะวันตก เหนือ เขาไม่ลงใต้เด็ดขาด ทางตะวันตกเป็นแคว้นจงหนิงและแคว้นซีอวิ๋น ทางตะวันออกเป็นทะเลตงไห่ ทางเหนือเป็นแคว้นตงเฉินและแคว้นเป่ยอี้ เฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นี้ไปทางไหนกันแน่? ”
เยี่ยโยวเหยายังคงนิ่งเงียบไม่พูดจา มู่หรงฉีเดือดดาลเป็นอย่างมากจนสีหน้าแดงก่ำและไม่สนใจรูปลักษณ์ของตนอีกแล้ว เนื่องจากหลายวันมานี้ เยี่ยโยวเหยาเหมือนคนคลุ้มคลั่ง เรื่องบ้าคลั่งทุกอย่างล้วนทำหมดโดยไม่ใช้สติแม้แต่น้อย อีกทั้งตั้งแต่จิ้นอี้เฉินและซูจิ่นซีหายตัวไป เขายังไม่ได้นอนหลับเลยสักวัน
ในช่วงสองสามวันแรกในแคว้นไหวเจียง การกระทำของเขาทำให้มู่หรงฉีรู้สึกว่าเหตุการณ์นองเลือดที่น่าสะพรึงกลัวกลายเป็นเรื่องชินตาไปเลย ในช่วงเจ็ดวันที่ค้นหาซูจิ่นซีในแคว้นไหวเจียง เขาเกือบจะสังหารทุกคนในตระกูลเยวี่ย คนของจวนราชครู และคนของสำนักห้าพิษ แม้แต่ฮ่องเต้แคว้นไหวเจียงที่ยอมจำนนพร้อมมอบตราลัญจกรและรัชทายาทเยวี่ยอวิ๋นซวงที่ช่วยเหลือเขาโจมตีจวนราชครูก็ไม่ละเว้น ทั่วทั้งแคว้นไหวเจียงดั่งทะเลเลือด ราวกับว่าเยี่ยโยวเหยาผู้ที่เลือดเย็นน่าสะพรึงกลัวและโหดเหี้ยมได้กลับมาแล้ว
มู่หรงฉีกลัวว่าเยี่ยโยวเหยาจะทำอันใดบ้าๆ อีก เขาจึงพยายามพูดปลอบใจ “โยวเหยา ท่านไม่ต้องกังวลมากเกินไป จิ่นซี… จิ่นซีดวงแข็ง นางต้องปลอดภัยแน่นอน
กำลังทหารของแคว้นจงหนิง แคว้นซีอวิ๋น แคว้นหนานหลี และแคว้นตงเฉินร่วมมือกันทั้งหมด อีกทั้งความสามารถด้านสืบข่าวของวิหารวิญญาณก็ยอดเยี่ยมที่สุด ยังมีคนจากสกุลจง สำนักแพทย์เทียนอี สำนักถังเหมิน แม้แต่หุบเขาร้อยบุปผาก็มาด้วย ทันทีที่พบเบาะแสต้องส่งมาถึงท่านโดยเร็วที่สุดแน่นอน เจ้าจิ้นอี้เฉินได้รับบาดเจ็บและมีจิ่นซีติดไปด้วยย่อมไม่สะดวกแน่นอน ท่านวางใจเถิด คนมากมายร่วมมือกันปฏิบัติการ เขายากที่จะบินหนีไปที่ใดได้”
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เยี่ยโยวเหยาพลันขมวดคิ้วดุเดือด แววตาเย็นชาและลึกล้ำของเขามองไปที่มู่หรงฉี จากนั้นก็จ้องถมึงทึง มู่หรงฉีสะดุ้งเล็กน้อยจนไม่กล้าเอ่ยปากออกมาอีก
ที่แท้เยี่ยโยวเหยาไม่ได้ต้องการถลึงตาใส่มู่หรงฉี เขาเพียงคิดได้อย่างกะทันหัน คิดว่าจิ้นอี้เฉินอาจมีความสามารถบินไปที่ใดได้จริง และบินหนีออกจากอาณาจักรเทียนเหอไปแล้ว
จักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล บนโลกนี้ไม่ได้มีเพียงอาณาจักรเทียนเหอแห่งเดียว
ย้อนนึกถึงในอดีต จำได้ว่าจิ่วหรงมีพลังเหนือธรรมชาติ จิ้นอี้เฉินสามารถหลบรอดภายใต้เงื้อมมือของจิ่วหรงหลายครั้ง ความสามารถของจิ้นอี้เฉินต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เกรงว่าทุกสิ่งที่เขาแสดงความอ่อนแอออกมาในอดีตล้วนเป็นการเสแสร้ง
หากเป็นเช่นนั้นจริง เขามีความสามารถที่จะออกจากอาณาจักรเทียนเหอหรือ?
หากเป็นเช่นนั้น…
เยี่ยโยวเหยาไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีก
เขาทุบโต๊ะและลุกขึ้นเดินออกจากโรงน้ำชาอย่างรวดเร็ว
มู่หรงฉีลุกขึ้นรีบวิ่งตามเขาไป
“เยี่ยโยวเหยา ท่านจะไปที่ใด? ”
ความจริงเยี่ยโยวเหยาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ทว่าภายในใจของเขาร้อนรุ่ม ร่างกายแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
เขาแค่โกรธและเกลียดตนเองที่บำเพ็ญเพียรไม่เพียงพอ ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถออกจากอาณาจักรเทียนเหอไปได้ หากจิ้นอี้เฉินพาซูจิ่นซีออกนอกอาณาจักรเทียนเหอไปจริงๆ เขาควรไปหาพวกเขาที่ใด?
วันที่สิบ วันที่สิบเอ็ด วันที่สิบสอง วันที่สิบสาม… วันที่สิบห้า และวันที่ยี่สิบ… ยังไม่มีข่าวคราวอันใด เยี่ยโยวเหยาติดประกาศจับทั่วทั้งอาณาจักรก็ทำ ขอเพียงมีคนพบเห็นจิ้นอี้เฉินและซูจิ่นซี เขาจะมอบรางวัลอย่างงาม ไม่เว้นแม้แต่โลกสามเขตแดนและทะเลอู๋ว่าง
ตั้งแต่ติดประกาศ ทุกวันจะมีคนส่งข่าวมาเป็นจำนวนมาก ทว่าหลังตรวจสอบแล้วก็ไม่มีข่าวใดเป็นจริงเลย
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ศึกสุดท้ายระหว่างแคว้นเป่ยอี้กับแคว้นตงเฉิน กองทัพแคว้นตงเฉินพ่ายแพ้ยับเยิน ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินสิ้นพระชนม์ในสนามรบ ตงหลิงหวงถูกกองทัพแคว้นเป่ยอี้บีบให้ล่าถอยไปชายฝั่งทะเลตงไห่
ในช่วงเวลาความเป็นความตาย กองทัพม้าเหล็กของมู่หรงฉีและเยี่ยโยวเหยาได้ปรากฏตัวช่วยชีวิตตงหลิงหวงดั่งเทพลงมาจากสวรรค์
ตั้งแต่นั้นมา กองทัพเป่ยถังเย่ได้ยึดครองแคว้นตงเฉินทั้งหมด แยกตัวขึ้นทางเหนือและตั้งตนเป็นแคว้นฉี
สองเดือนต่อมา แคว้นหนานหลีกับแคว้นจงหนิงแบ่งเขตแคว้นไหวเจียงเท่าๆ กัน โดยแบ่งเป็นแคว้นละสิบห้าเมือง เยี่ยโยวเหยาครอบครองแคว้นจงหนิง แคว้นซีอวิ๋น และแคว้นไหวเจียงครึ่งหนึ่ง และให้สถานะตนเองเป็น ‘มหาอุปราช’
จนถึงตอนนี้ทุกคนยังไม่ได้ข่าวของซูจิ่นซีแม้แต่น้อย