สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1088 เจ้าเด็กเหลือขอกำลังคลอดออกมาแล้ว
ทว่าเสียงนั้นดังเพียงครู่เดียว จู่ๆ ก็เงียบไป
ทุกคนมองไปยังทิศทางของเสียง กลับไม่เห็นสิ่งใดเลย
จิ้นอี้เฉินพูดว่า “ไปดูว่าเกิดอันใดขึ้น! ”
“ขอรับ! ” หมอพิษสองคนลุกขึ้นและเดินอย่างระมัดระวังไปยังทิศทางของเสียง ทุกคนอดเพิ่มความระแวดระวังไม่ได้
อย่างไรเสีย ที่นี่เป็นเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับในเขตแดนดวงดารา เป็นสถานที่แปลกประหลาดที่สุดในอาณาจักรเทียนเหอ เรื่องพิสดารย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทว่าเรื่องที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ ก่อนที่หมอพิษทั้งสองจะเดินไป ควันสีดำหนาทึบก็ปกคลุมรอบตัวพวกเขาในชั่วพริบตา คนทั้งสองกลายเป็นเศษกระดูกและล้มลงกับพื้นทันที
จิ้นอี้เฉินและคนอื่นๆ หน้าถอดสีและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาหยิบอาวุธออกมาอย่างระมัดระวัง ซูจิ่นซีก็ลุกขึ้นเตรียมพร้อมเรียกกระบี่เฟิ่งอวี่ตลอดเวลา
หมอกควันสีดำไม่เคลื่อนเข้าหาพวกเขา กลับหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีการเคลื่อนไหวอันใดอยู่เป็นเวลานาน
ปรมาจารย์พิษถือกระบี่ยาวในมือแน่น พลางกระชากเสียงดังว่า “เจ้าปีศาจร้ายตนใด ยังไม่รีบปรากฏกายอีกหรือ? ”
ปรมาจารย์พิษอีกคนพูดว่า “กล้าลอบโจมตี หรือไม่กล้าต่อสู้กันซึ่งหน้า? เป็นผู้ใดกันแน่? ”
หมอกควันสีดำหนาราวกับมังกรหมุนวนรอบปรมาจารย์พิษทั้งสองคนที่พูดเมื่อครู่และพวกเขาก็หายตัวไปอีกครั้ง ปรมาจารย์พิษทั้งสองคนก็เหมือนกับสองคนก่อนหน้านี้ เหลือเพียงเศษกระดูกที่ตกลงกองอยู่บนพื้น คนที่เหลือรวมถึงจิ้นอี้เฉินไม่กล้าประมาทกับหมอกควันสีดำนี้ พวกเขาถอยกลับไปสองก้าว แสดงท่าทีจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ
ซูจิ่นซีเรียกกระบี่เฟิ่งอวี่ออกมาเงียบๆ
แม้นางกับอวิ๋นจิ่นเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่งและรู้สถานการณ์ที่นี่เป็นอย่างดี อีกทั้งเผ่าอวิ๋นหุนที่ปกครองทะเลหมอกไม่หวนคืนแห่งนี้ก็ได้ออกไปแล้ว ทว่าไม่ได้หมายความว่าสถานที่แห่งนี้จะปลอดภัย สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับโลกสามเขตแดน ย่อมมีสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
“ในเมื่อท่านลงมือและทำร้ายคนของข้าไปสี่คน ย่อมเป็นศัตรูแน่นอน เช่นนั้นก็ปรากฏตัวต่อสู้กันซึ่งหน้าเถิด! ท่านเป็นผู้ใดกันแน่? เป็นคนเผ่าอวิ๋นหุนหรือคนจากโลกสามเขตแดน? ” จิ้นอี้เฉินกระชากเสียงดัง
ทันทีที่สิ้นเสียงพูด อีกฝ่ายไม่ตอบสนองและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
จิ้นอี้เฉินขึ้นเสียงอีกครั้ง “ข้าน้อยจิ้นอี้เฉิน ราชครูแห่งแคว้นไหวเจียง เผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณ ขอท่านได้โปรดปรากฏตัวเถิด”
เผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณ
ซูจิ่นซีตกตะลึงทันที
ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตัวตนที่แท้จริงของจิ้นอี้เฉินจะเป็นคนจากเผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณ ไม่ต้องพูดถึงเผ่าสมุนไพรเลย เพียงกล่าวถึงอาณาจักรวิญญาณก็มีสถานะสูงกว่าอาณาจักรเทียนเหอหลายขั้นนัก แม้แต่อาณาจักรอวิ๋นโจวเองก็ยังต่ำกว่าอีกหลายระดับเช่นกัน มีเพียงคนของอาณาจักรวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเดินทางมาอาณาจักรเทียนเหอและอาณาจักรอวิ๋นโจวได้ ทว่าคนจากสองอาณาจักรไม่สามารถเข้าไปในอาณาจักรวิญญาณได้
ยิ่งไปกว่านั้น คนเผ่าสมุนไพรมีสถานะสูงส่ง สายเลือดสูงศักดิ์ ลึกลับและมีความสามารถแข็งแกร่ง…
ไตร่ตรองดูแล้ว ความลับที่ว่านี้ หากจิ้นอี้เฉินไม่ได้ถูกบีบบังคับจนอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ ทั้งยังเผชิญหน้ากับเรื่องแปลกประหลาดอีก เขาไม่มีทางเผยออกมาให้รู้แน่นอน
หลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ภายในความคิดของซูจิ่นซีก็ปรากฏภาพอันสูงส่งของจิ่วหรง ท่วงท่าที่สง่างามดั่งเทพเซียน ความสามารถยากคาดเดา ทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยม อีกทั้งหลายครั้งที่จิ้นอี้เฉินผู้ซึ่งโหดเหี้ยมชั่วร้ายก้มหัวให้จิ่วหรงมาโดยตลอด หรือว่า… ความคิดในหัวของซูจิ่นซีปรากฏความสับสนซับซ้อน มีความคิดบางอย่างที่รุนแรงแต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของนางซับซ้อนพอๆ กับความคิดในใจของนาง
เผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณมีความสามารถเพียงใดกันแน่? หากจิ่วหรงกับจิ้นอี้เฉินเป็นคนของอาณาจักรวิญญาณเช่นเดียวกัน หรือว่าจิ่วหรงยังไม่ตาย?
ความคิดนี้แวบเข้ามาในสมองของนาง ทันใดนั้นซูจิ่นซีก็หันไปมองจิ้นอี้เฉิน นางเดินเข้าไปหาจิ้นอี้เฉิน ทว่าก่อนที่จะเข้าใกล้จิ้นอี้เฉินและยังไม่ทันได้ถามจิ้นอี้เฉิน เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าและก้าวถอยหลังไปสองก้าวเพราะลมกระโชกแรง เมื่อมองอีกครั้ง ไกลออกไปปรากฏคนยืนกันแน่นขนัด
“ฆ่าพวกเขา ฆ่าพวกเขา… ”
“ข้าไม่ได้กินเนื้อมนุษย์มานานแล้ว ฆ่าพวกมันแล้วยกศพกลับไปให้พี่น้องเราได้ลิ้มรสชาติเนื้อสดๆ ”
“ชายชราผู้นั้นบอกว่า เขาเป็นคนเผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณ เผ่าสมุนไพรคืออันใด? ”
“ข้าก็ไม่รู้! ”
“เจ้าโง่ แม้แต่เผ่าสมุนไพรแห่งอาณาจักรวิญญาณเจ้าก็ยังไม่รู้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะกินได้”
การสนทนาดังขึ้น เมื่อมองไปยังคนพวกนั้นที่อยู่เบื้องหน้า ซูจิ่นซีพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมคิดว่าสถานที่อย่างทะเลหมอกไม่หวนคืนต้องมีสิ่งแปลกประหลาดแน่นอน แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะพบคนจากโลกสามเขตแดน
คนที่เป็นผู้นำสองคนยืนนิ่งเงียบมาตลอด ทว่าขณะที่พวกเขาปรากฏตัว ซูจิ่นซีเห็นได้อย่างชัดเจน หนึ่งในสองคนนั้นคือราชาปีศาจหยินแห่งแดนปีศาจ และอีกคนคือราชาเฮยซาหู่แห่งแดนร้อยสัตว์อสูร อีกทั้งลูกสมุนจำนวนมากยังยืนจนแน่นขนัดคนเหล่านั้นก็คือคนจากแดนปีศาจและแดนร้อยสัตว์อสูร
โลกนี้ช่างกลมเสียจริง นางเข้ามายังโลกสามเขตแดนกับอวิ๋นจิ่นตอนนั้น เคยต่อสู้กับคนเหล่านี้หลายครั้ง และพูดได้ว่าพวกเขาทำให้คนของโลกสามเขตแดนขุ่นเคืองอย่างมาก กลับไม่คิดว่าจะได้พบหน้ากันรวดเร็วถึงเพียงนี้
ทว่านางในตอนนี้แต่งตัวต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ร่างกายและศีรษะของนางยังมัดด้วยเสื้อคลุมอีก หากพวกเขาไม่มองอย่างละเอียดคงจำนางไม่ได้แน่นอน เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูจิ่นซีจึงถอยกลับไปอย่างเงียบงัน คลุมเสื้อของนางให้แน่น นางไม่ได้หวาดกลัวคนเหล่านี้ ทว่ากังวลว่าหากเกิดผิดพลาดอันใด นางตัวคนเดียวคงจัดการลำบาก
“ที่แท้ราชาปีศาจและราชาเฮยซาหู่ ล่วงเกินแล้ว ล่วงเกินแล้ว” จิ้นอี้เฉินเก็บอาวุธพลางพูดด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
ราชาเฮยซาหู่พูดว่า “จิ้นอี้เฉิน เจ้าไม่เป็นราชครูแคว้นไหวเจียงแล้วหรือ? มาทำอันใดที่หุบเขาเมฆา? ”
จิ้นอี้เฉินยังคงแย้มยิ้มและพูดอีกครั้งว่า “เรื่องมันยาว ข้าค่อยอธิบายให้พวกท่านทั้งสองฟังอย่างละเอียด ข้ามาในวันนี้เพื่อตามหาพวกท่านทั้งสอง หวังว่าจะร่วมมือกับพวกท่านทั้งสอง”
“โอ้? ” ราชาเฮยซาหู่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย
ราชาปีศาจหยินพูดว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมาโลกสามเขตแดนไม่ข้องแวะกับโลกภายนอก ยิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับแคว้นไหวเจียง จะร่วมมือกับเจ้าได้อย่างไร! ”
“ใช่ จะร่วมมือกับเจ้าได้อย่างไร! ”
“คนที่บุกรุกหุบเขาเมฆาต้องตาย คนที่คิดจะเข้าใกล้โลกสามเขตแดนต้องตาย ท่านราชา ฆ่าพวกมัน ฆ่าพวกมัน… ”
“ใช่ ฆ่าพวกมัน”
พวกลูกสมุนโห่ร้องสนับสนุนเสียงดัง ลูกสมุนจากแดนปีศาจอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ยังไม่ทันรอคำสั่ง พวกมันก็กระโดดเข้าโจมตีจิ้นอี้เฉินทันที ไม่มีคนเริ่มก่อนก็ยังพอทำเนา เมื่อใดมีคนหนึ่งเริ่มต้นก็เป็นเหมือนน้ำทะลัก คนที่เหลืออดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ต่างบุกเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เกิดเหตุการณ์โกลาหลอย่างรวดเร็ว
จิ้นอี้เฉินถูกสัตว์อสูรและปีศาจล้อมไว้ ซูจิ่นซีกลัวส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ นางจึงหลบเลี่ยงให้ไกลมากที่สุด จนถอยกลับไปใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป
จู่ๆ นางก็รู้สึกปวดท้องอย่างกะทันหัน ตามมาด้วยแรงกดบริเวณท้องน้อย ซูจิ่นซีทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงเอนตัวพิงข้างต้นไม้แล้วค่อยๆ ไถลตัวนั่งลงบนพื้น มือกุมท้องน้อยด้วยสีหน้าเจ็บปวดและอับจนหนทาง
จะมาเร็วมาช้า ดันมาปวดท้องคลอดตอนนี้ เกรงว่าวันนี้คงหนีไม่พ้นแล้ว เจ้าเด็กน้อยนี่จะคลอดตอนสถานการณ์โกลาหลเช่นนี้
คิดจะสังหารนางเชียวหรือ?