สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1089 บุรุษลึกลับ
สถานที่แห่งนี้จะคลอดบุตรได้อย่างไร
ไม่ต้องพูดถึงท่ามกลางสภาวะสงคราม นางคนเดียวจะคลอดบุตรได้อย่างไร แม้คลอดออกมาแล้ว สภาพอากาศพิษของหุบเขาเมฆาไม่หวนคืนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตเด็กได้
ทางด้านจิ้นอี้เฉินและบรรดาหมอพิษต่อสู้กับชาวโลกสามเขตแดน ส่วนซูจิ่นซีไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย นางปวดท้องคลอดมาก ผ่านไปครู่หนึ่ง เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นบนหน้าผาก เจ็บปวดแทบจะขาดใจ ไม่นานนักสติของนางก็เริ่มพร่ามัว ทว่านางรู้ว่าในช่วงเวลาสำคัญเหล่านี้ นางไม่อาจหมดสติ ไม่ได้
นางพยายามใช้เข็มเงินแทงที่จุดฝังเข็มเพื่อปลุกสติของตนเองให้ตื่นตัวเล็กน้อย บางทีอาจชะลอเวลาไม่ให้คลอดเด็กออกไปสักหลายชั่วยาม อย่างน้อยก็ให้ความวุ่นวายนี้ผ่านพ้นไป
ทว่าขณะที่นางหยิบเข็มเงินออกมา ทันใดนั้นร่างสีดำลึกลับก็หยุดอยู่ตรงหน้านางและดึงเข็มเงินไป ซูจิ่นซีเจ็บปวดมากจนไม่มีแรงต่อต้าน นางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ข้อมือของตนขณะที่เข็มกำลังจะถูกดึงออก
จิ้นอี้เฉินคว้าตัวซูจิ่นซีและกระโดดขึ้นไปบนก้อนหินสูงที่อยู่ไม่ไกล “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”
“ข้าเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู และวันนี้ข้ามีเจตนาที่ดีด้วยความจริงใจ”
ทันทีที่สิ้นเสียงพูด ซูจิ่นซีก็รู้สึกหนาวบริเวณคอ จากนั้นนางก็ส่งเสียงร้องอยู่ในใจ ทว่าสายไปแล้ว จิ้นอี้เฉินถอดหมวกบนศีรษะของนาง
ได้ยินเพียงเสียงของจิ้นอี้เฉินพูดต่อว่า “ดู นี่คือผู้ใด ราชาปีศาจ ราชาเฮยซาหู่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังจดจ่ออยู่กับแผนการของพวกท่าน และต้องการครอบครองอาณาจักรเทียนเหอ ทว่าตอนนี้เยี่ยโยวเหยาเกือบครอบครองอาณาจักรเทียนเหอทั้งหมดแล้ว ด้วยกองทหารที่เข้มแข็งและวิธีการที่เลือดเย็น การที่พวกท่านทั้งสองคิดจะพิชิตอาณาจักรเทียนเหอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม มีนางอยู่ด้วย เรื่องนี้ก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว” ขณะที่พูด ซูจิ่นซีก็ถูกผลักไปข้างหน้า นางปวดท้องเหลือเกินจนแทบจะหมดสติไป
ทันใดนั้นสัตว์อสูรและลูกสมุนปีศาจที่โจมตีหมอพิษก็หยุดชะงัก จากนั้นราชาปีศาจหยินและราชาเฮยซาหู่ก็มองซูจิ่นซีด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
“เฮ้ย นี่เป็นสตรีที่เคยบุกเข้ามาในโลกสามเขตแดนก่อนหน้านี้มิใช่หรือ! ”
“ใช่ ตอนนั้นยังมีบุรุษอีกคนหนึ่งอยู่กับนาง ชื่ออันใด… ”
“นางคือพระชายาของเยี่ยโยวเหยา โยวอ๋อง” ลูกสมุนปีศาจผู้หนึ่งพูดเสียงดัง
ใบหน้าของราชาปีศาจหยินเผยให้เห็นความโลภ และราชาเฮยซาหู่ก็หรี่ตามองซูจิ่นซี ท่าทางพอใจอย่างมากกับของขวัญชิ้นนี้ที่จิ้นอี้เฉินมอบให้
จิ้นอี้เฉินกระโดดขึ้นพลางคว้าซูจิ่นซีมายังเบื้องหน้าของราชาปีศาจหยินและราชาเฮยซาหู่ ก่อนจะผลักนางลงไปกองแทบเท้าของพวกเขาทั้งสอง
“ฮู่ ฮู่ ฮู่… ”
“ฮู่ ฮู่ ฮู่… ”
“ฮู่ ฮู่ ฮู่… ”
ทันใดนั้นลูกสมุนปีศาจและสัตว์อสูรกลุ่มหนึ่งก็ส่งเสียงโห่ร้อง และกระโดดขึ้นลงด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
“สตรีของเยี่ยโยวเหยา โยวอ๋อง! ได้ยินมาว่าเยี่ยโยวเหยารักใคร่สตรีผู้นี้มาก” ราชาปีศาจหยินกล่าว
“ยิ่งไปกว่านั้น! ความรักยังลึกซึ้งจนยอมเสี่ยงชีวิตได้อย่างไม่เสียดาย” ดวงตาของจิ้นอี้เฉินเผยให้เห็นเงามืด
“เช่นนั้น พวกเราใช้สตรีผู้นี้ทดสอบว่าในใจของโยวอ๋องจะเห็นแผ่นดินสำคัญหรือสตรีผู้นี้สำคัญกว่า” ราชาเฮยซาหู่พูดพลางนั่งลงและค่อยๆ เอื้อมมือไปหาซูจิ่นซี เสียงโห่ร้องของพวกสัตว์อสูรและลูกสมุนปีศาจที่อยู่รายรอบยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนพวกเขากำลังตื่นเต้น
ทว่าสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือ ขณะที่นิ้วของราชาเฮยซาหู่อยู่ห่างจากแก้มของซูจิ่นซีเพียงนิดเดียว จู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดผ่านบนพื้น พลังที่รุนแรงล้ำลึกพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับลมหมุน สัตว์อสูรและลูกสมุนปีศาจจำนวนมากถูกกวาดล้างไปต่อหน้าต่อตาราชาเฮยซาหู่ จากนั้นพลังมหาศาลก็โจมตีเขาจนกระเด็นห่างออกไปหลายฟุตและล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
ราชาเฮยซาหู่กระอักเลือด เขาพ่นเลือดออกมาและหมดสติไป
สัตว์อสูรและลูกสมุนปีศาจที่กำลังส่งเสียงโห่ร้องต่างตื่นตกใจและวิ่งไปรอบๆ
สีหน้าของราชาปีศาจหยินตกตะลึงพลางมองดูอย่างเหลือเชื่อ ‘ตึก’ เขาคุกเข่าลงกับพื้นและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ข้าไม่รู้… ข้าไม่รู้ว่าท่านพญายมจะมา ไม่ทันได้ต้อนรับ ข้าน้อยสมควรตาย”
“เจ้ามันสมควรตายจริงๆ คนของข้า พวกเจ้ายังกล้าแตะต้อง” เสียงนั้นเหมือนเสียงปีศาจที่ไร้ตัวตน ฟังไม่ออกว่ามาจากทิศทางใด ทว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ราวกับต้องการชีวิตของผู้คน เมื่อสิ้นเสียง ร่างของราชาปีศาจหยินก็ลอยขึ้นไปตามสายลมไปสู่อากาศ
เมื่อลูกสมุนปีศาจและสัตว์อสูรได้ยินเสียงปีศาจนี้ก็ยิ่งคลุ้มคลั่งและหงุดหงิดมากขึ้น พวกเขาเริ่มต่อสู้กันเอง
ใบหน้าของราชาปีศาจหยินเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “ท่านพญายมโปรดไว้ชีวิต ท่านพญายมโปรดไว้ชีวิต! ข้าน้อยไม่รู้ว่าสตรีนางนี้เป็นคนของท่าน ไม่ตั้งใจจะทำให้ท่านขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้ข้าด้วยเถิด… ”
“ไว้ชีวิตหรือ? ” เสียงปีศาจนั้นดังขึ้นอีกครั้ง “หากข้าไม่มา เจ้าเคยคิดจะไว้ชีวิตนางหรือไม่? ” เมื่อสิ้นเสียงนั้น ได้ยิน เพียงเสียง ‘กึก กึก’ ไม่กี่ครั้ง เสียงของราชาปีศาจหยินเหมือนเสียงที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและดังก้องทั่วท้องฟ้า
น่ากลัวเกินไปแล้ว!!!
สีหน้าของจิ้นอี้เฉินซีดขาวเหมือนกระดาษ พลางเดินโซเซถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
แดนนรกจิ่วโยวทรงพลังที่สุดในโลกสามเขตแดน และไม่ได้อยู่ในการควบคุมของโลกสามเขตแดน ยิ่งไม่ได้ติดต่อกับโลกทั้งสามอาณาจักรที่เหลือ พญายมแห่งแดนนรกจิ่วโยวมีตัวตนลึกลับอย่างยิ่ง ไม่มีผู้ใดเคยเห็นใบหน้าของเขา และไม่มีผู้ใดรู้ตำแหน่งที่แท้จริงของแดนนรกจิ่วโยว ทว่าเขากลับอยู่ในฐานะผู้นำของโลกสามเขตแดนตลอดมา และผู้คนในโลกสามเขตแดนต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อของเขา
ขณะที่จิ้นอี้เฉินวิตกกังวล ดวงตาของเขามองไปรอบๆ ลมพัดโหมกระหน่ำ การต่อสู้ที่วุ่นวาย ทว่าเขากลับมองไม่เห็นร่างของพญายม
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็ลอยขึ้นกลางอากาศ จิ้นอี้เฉินตกใจยังไม่ทันส่งเสียงอันใด ร่างของเขาก็ร่วงลงบนพื้นอย่างแรงจนหมดสติไป
ท่ามกลางการต่อสู้นองเลือดที่ดุเดือด เมฆสีขาวราวกับสำลีลอยลงมาและร่อนลงข้างกายซูจิ่นซี จากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นร่างสีขาวราวกับหิมะ ชุดสีขาว เสื้อคลุมสีขาว และรองเท้าสีขาว สง่างามราวกับเทพเซียนบนสวรรค์ชั้นฟ้า
เขายืนอยู่ที่นั่น สีหน้าและดวงตาเป็นประกายมองซูจิ่นซีอย่างพึงพอใจ ราวกับกำลังมองของเล่น
ซูจิ่นซีเจ็บท้องคลอดมากเหลือจะทน สติของนางเลือนรางเต็มที ขนตาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ไหลริน นางยังไม่ทันลืมตาก็เป็นลมหมดสติไป
“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว! ” ชายในชุดคลุมสีขาวพูดแผ่วเบา จากนั้นก็โน้มตัวลงกอดซูจิ่นซี ก่อนจะหายวับไป
ซูจิ่นซีถูกหยิกให้ตื่นจนนางรู้สึกตัว แต่ไม่สามารถลืมตาได้ ทำได้แค่ดิ้นรน
แย่แล้ว!
ซูจิ่นซีคิดว่าผู้ใดที่หยาบคายกับนางเช่นนี้ วันข้างหน้าจะต้องให้คนพวกนี้ได้เห็นดีแน่ ทว่ายังไม่ทันได้จดจำเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน นางก็กัดฟันจากความเจ็บปวดที่ท้องน้อยจนแทบจะฉีกขาด
ได้ยินเพียงเสียงกระซิบข้างหู
“แม้ยาของหมอผีจะร้ายกาจเพียงใด ทว่าเด็กคนนี้ก็ควรคลอดจากแรงของมารดาตนเอง”
“ทว่าฮูหยินยังคงหมดสติ จะมีแรงคลอดได้อย่างไร! ”
“หากยังไม่ฟื้นอีกก็ต้องผ่าท้องเอาเด็กออกมา” เสียงของชายที่สง่างามพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
บัดซบ ซูจิ่นซีสาปแช่งอยู่ในใจอย่างรุนแรงพลันเบิกตากว้าง ‘เจ้าพวกบ้า’