สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1095 หมูน้อยบินปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“อาจวินและอาอินอยู่ที่ใด พาข้าไปที” ซูจิ่นซีพูดพลางเดินออกจากเรือน
อาจูพูดว่า “พระชายาโยวอ๋อง ท่านไปที่นั่นไม่ได้ องค์หญิงและองค์ชายพูดไว้แล้ว พวกเราต้องปกป้องท่านและเด็กออกไปอย่างปลอดภัย”
“อย่าพูดจาไร้สาระ! ”
มองดูท่าทางของซูจิ่นซี อาจูเข้าใจดีว่าการเกลี้ยกล่อมของตนเองนั้นไร้ประโยชน์ อย่างไรเสียมีเพิ่มอีกคนหนึ่งก็เพิ่มโอกาสชนะมากขึ้น จึงไม่ขัดขวางอีก
“พระชายาโยวอ๋อง ท่านมากับข้า! ”
อาจูจึงพาซูจิ่นซีเดินไปทางเขตเวทมนตร์นอกหมู่บ้าน
ในเวลานี้ กองทัพเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรรวมตัวกันนอกหมู่บ้านเผ่าอวิ๋นหุน พวกเขาถูกเขตเวทมนตร์ปิดกั้นจึงไม่สามารถโจมตีได้
อาจวิน อาอิน กองทัพชาวเผ่าอวิ๋นหุน และผู้อาวุโสสี่คนของเผ่าอวิ๋นหุนมาถึงด้านนอกของเขตเวทมนตร์แล้ว
แม้จะเป็นชาวบ้าน ทว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้มีวรยุทธ์ ทุกคนล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดา จะจัดการกับเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพที่แท้จริงในการต่อสู้
เมื่ออาอินเห็นซูจิ่นซีจากระยะไกลก็ขมวดคิ้วอย่างรุนแรงและรีบไปพบนาง
“ซูจิ่นซี เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? ข้าให้คนปกป้องเจ้าและเด็กออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? ”
ซูจิ่นซีพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไม่จากไป ข้าจะร่วมต่อสู้กับพวกเจ้า”
“ได้อย่างไรกัน? แล้วเด็กอยู่ที่ใด? ”
“ฝากแม่นมทั้งสองพาออกไปตามเส้นทางลับแล้ว”
“ซูจิ่นซี เจ้าฟังข้า รีบออกไปเร็วเถิด! ที่นี่มีพวกเราอยู่ ไม่เป็นอันใด เด็กยังเล็ก ไม่อาจแยกจากมารดาได้”
“เผ่าปีศาจและเผ่าอสูรโจมตีเผ่าอวิ๋นหุน สาเหตุเป็นเพราะข้า ในเวลานี้ข้าจะจากไปได้อย่างไร? อาอิน เจ้าไม่ต้องพูดอีกแล้ว ข้าจะไม่จากไปอย่างแน่นอน” นางพูดพลางถือกระบี่เฟิ่งอวี่และเดินผ่านอาอิน มุ่งหน้าตรงไปยังเขตเวทมนตร์
อาอินมองไปทางอาจู
อาจูรีบก้มศีรษะลงและพูดว่า “องค์หญิง ข้าเกลี้ยกล่อมพระชายาโยวอ๋องแล้ว ทว่าไม่มีประโยชน์ นางยืนกรานที่จะมา ข้าเองก็จนปัญญา”
“ไม่อาจเกลี้ยกล่อมหรือ เจ้ามีความคิดแฝงอยู่ในใจเสียมากกว่า หรือว่าข้ามองความคิดของเจ้าไม่ออก? ”
อาจูก้มหน้าลงต่ำลงไปอีกเมื่อสิ่งที่อยู่ในใจถูกเปิดเผย “องค์หญิง ข้ายอมรับว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมซูจิ่นซีได้เพราะรู้สึกเห็นใจ ทว่านางอยู่ก็ไม่มีผลเสียอันใด! อีกทั้งวรยุทธ์ของพระชายาโยวอ๋องนั้นสูงส่งอย่างมาก หากนางร่วมมือต่อสู้กับพวกเรา ย่อมมีโอกาสชนะมากขึ้น”
“ช่างโง่เขลา! เจ้ารู้หรือไม่ พลังภายในของซูจิ่นซีถูกผนึกและสูญเสียพลังระหว่างการคลอดจนไม่สามารถเคลื่อนไหวอันใดได้มากนัก ในสถานการณ์เช่นนี้ นางยังอยู่ช่วยเหลือพวกเรา นางต้องใช้กำลังและความพยายามอย่างหนัก เมื่อเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรบุกโจมตีเขตเวทมนตร์แล้ว เท่ากับรนหาที่ตาย! ”
“อ๋า? ” สีหน้าของอาจูแสดงถึงความประหลาดใจ นางไม่คาดคิดเลยว่าซูจิ่นซีจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ทว่าในเวลานี้สายเกินไปที่จะพูดสิ่งใดแล้ว เนื่องจากซูจิ่นซีมาอยู่ที่นี่แล้วและไม่ยอมจากไปอย่างแน่นอน
อาอินมีท่าทีไม่พอใจอย่างมาก
อาจูกล่าวว่า “แล้วเราจะทำอย่างไร? องค์หญิง ท่านลองเกลี้ยกล่อมพระชายาโยวอ๋องอีกครั้งดีหรือไม่? ”
“ช่างมันเถิด ค่อยว่ากัน! ”
เดิมทีเผ่าอวิ๋นหุนมีเขตเวทมนตร์สามชั้น ผู้อาวุโสทั้งสี่ใช้พลังเสริมเขตเวทมนตร์อีกหกชั้น ขณะนี้มีเขตเวทมนตร์เก้าชั้นเป็นแนวป้องกัน
ทว่าแท้จริงแล้ว เขตเวทมนตร์ทั้งสามที่อยู่ชั้นนอกสุดมีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเผ่าอวิ๋นหุนมอบให้พวกเขา เวลาผ่านไปนับพันปีไม่เคยถูกทำลายมาก่อน
ทว่าถ้าเขตเวทมนตร์ทั้งสามถูกทำลาย เขตเวทมนตร์ที่เหลือทั้งหกก็คงอยู่ได้ไม่นาน
ซูจิ่นซีครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นาน
ฝ่ายตรงข้ามมีกองทัพกว่าสามแสนห้าหมื่นคน แต่เผ่าอวิ๋นหุนมีเพียงหนึ่งพันกว่าคนเท่านั้น เมื่อเขตเวทมนตร์ถูกทำลายแล้ว พวกเขาก็จะเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือที่พร้อมจะถูกฆ่า
ทว่าพวกเขาไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆ ต้องขอกำลังเสริมอย่างแน่นอน
แม้นางจะถูกจิ้นอี้เฉินจับเป็นตัวประกันเพื่อออกจากอาณาจักรเทียนเหอและไม่เข้าใจสถานการณ์อันใดของอาณาจักรเทียนเหอในเวลานี้ ทว่านางรู้และเข้าใจในบางคำพูดของหมอพิษ คนที่อยู่รอบๆ จิ้นอี้เฉิน อาจวิน และอาอิน
เยี่ยโยวเหยาร่วมมือกับมู่หรงฉีและตงหลิงหวงพิชิตแคว้นไหวเจียง เป่ยถังเย่ยกทัพไปทางใต้และพิชิตเมืองหลวงของแคว้นตงเฉิน ตอนนี้สามส่วนของอาณาจักรเทียนเหอเป็นของเยี่ยโยวเหยาคนเดียว
ทว่าแคว้นจงหนิงอยู่ไกลจากที่นี่เกินไป เกรงว่าจะช่วยเหลือเยี่ยโยวเหยาไม่ได้ แคว้นหนานหลีใกล้เขตแดนดวงดาราที่สุด
ดังนั้นซูจิ่นซีจึงพยายามส่งข้อความไปถึงมู่หรงฉี ทว่าหลังจากใช้หลายวิธีกลับถูกเขตเวทมนตร์ขัดขวางไว้ และไม่อาจส่งข้อความออกไปได้
หากนางมีร่างกายแข็งแรงปกติเหมือนเมื่อก่อน พลังวรยุทธ์ของนางไม่ได้รับความเสียหาย การส่งข้อความผ่านเขตเวทมนตร์นี้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เกินกำลังของนาง ทว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ในเวลานี้มีเพียงวิธีเดียวที่จะเปิดช่องเขตเวทมนตร์ที่ปิดกั้นนี้ได้ เพื่อส่งข้อความออกไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าด้วยวิธีนี้ จะต้องไม่ให้คนของเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรฉวยโอกาส
เมื่อพวกเขาฉวยโอกาสนี้โจมตีเขตเวทมนตร์ได้ นางไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมา
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดเป็นกังวลพลันมีเสียง จี๊ด จี๊ด ดังก้องอยู่ในหู
เป็นเสียงที่คุ้นเคย ทว่าผ่านไปครู่หนึ่งยังนึกไม่ออกว่าได้ยินมาจากที่ใด ซูจิ่นซีเงยหน้าขึ้นมองตามทิศทางของเสียง
นางเห็นจุดสีดำเข้มบนท้องฟ้าค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาหานางและใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะเข้าใกล้นาง
“หมูน้อยบิน? ”
ตอนอยู่ที่แคว้นจงหนิงก่อนหน้านี้ อู๋จุนสร้างหมูน้อยบินเพื่อส่งข้อความถึงนางโดยเฉพาะ
ต่อมาตอนที่นางอยู่กับเยี่ยโยวเหยา อู๋จุนไม่เคยใช้หมูน้อยบินอีกเลย
ไม่เห็นเจ้าตัวเล็กนี้มานานแล้ว กลับไม่คิดว่าจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในวันนี้
ซูจิ่นซียกแขนขึ้น หมูน้อยบินกระพือปีกไม้จักรกลลงบนมือนาง จากนั้นจึงเปิดกลไกและหยิบกระดาษที่อยู่ข้างใน
“แม่นางพิษน้อย พี่จุนตามหาเจ้าอย่างยากลำบาก คนชั่วจิ้นอี้เฉินพาเจ้าไปที่ใดกันแน่? เมื่อเห็นหมูน้อยบิน เจ้าต้องส่งข้อความถึงพี่จุน ไม่ว่าสุดหล้าฟ้าเขียว พี่จุนจะรีบไปหาเจ้าอย่างแน่นอน”
กลไกแสดงวันที่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า หลังจากที่นางถูกจิ้นอี้เฉินนำตัวไป อู๋จุนก็เริ่มใช้หมูน้อยบินตามหานาง
ซูจิ่นซีเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ หาทิศทางที่หมูน้อยบินเข้ามา จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจหลังจากยืนยันว่าเขตเวทมนตร์ไม่ได้รับความเสียหาย
ในเมื่อหมูน้อยบินสามารถเดินทางผ่านเข้ามาในเขตเวทมนตร์และส่งข้อความได้ ก็ต้องสามารถส่งข้อความออกไปได้อีกครั้ง บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่จะใช้ขอความช่วยเหลือ
ตอนนี้ไม่มีเวลาเตรียมพู่กันและกระดาษ เนื่องจากพลังของนางได้รับความเสียหาย จึงมีพลังและความสามารถในการเปิดใช้งานระบบถอนพิษและอาคมกำไลปี่อั้นอย่างจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสเดียวที่จะจัดการกับเผ่าปีศาจและเผ่าอสูร นางไม่สามารถหยิบกระดาษออกมาจากระบบถอนพิษได้ ทำได้เพียงฉีกชายเสื้อของตนเองและกัดปลายนิ้ว จากนั้นจึงเขียนสถานการณ์ของตนเองในตอนนี้และตำแหน่งที่อยู่ หลังจากเขียนเสร็จจึงเปิดกลไกหมูน้อยบินและใส่ข้อความเข้าไปข้างใน
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด จี๊ด… ” หมูน้อยบินกระพือปีกและบินออกจากเขตเวทมนตร์
อาอินเพิ่งเข้ามาและมองหมูน้อยบินอย่างประหลาดใจ “ซูจิ่นซี นั่นคือสิ่งใด? ”
“เป็นนกกลไกตัวหนึ่ง”
“นกกลไกตัวหนึ่ง? ทำจากไม้หรือ? มันบินได้ด้วยหรือ? ”
“ถูกต้อง สหายของข้าผู้หนึ่งเป็นคนสร้างมันขึ้นมา เขาเป็นคนของสกุลถัง ใช้งานได้สะดวกมาก” ขณะที่พูด ดวงตาของซูจิ่นซีก็เป็นประกายราวกับมองผ่านไปยังที่ไกลแสนไกล ทั้งยังเห็นบุรุษผู้มีอิสระและเรียบง่าย
“ได้ยินมานานแล้วว่าคนจากสำนักถังเหมินเก่งกาจด้านกลไกอย่างมาก ทว่าไม่เคยเห็นมาก่อน นกกลไกนั้นมีไว้ทำสิ่งใดได้บ้าง? สหายของเจ้ากำลังตามหาเจ้าอยู่ใช่หรือไม่? ”
“อืม! ” ซูจิ่นซีพยักหน้า “ใช้ส่งข้อมูลได้ ดังนั้นข้าจึงเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเราให้เขารู้”
“จริงหรือ? ” อาอินเงยหน้าขึ้นและมองไปทางหมูน้อยบินที่อยู่ไกลออกไป แววตาเผยให้เห็นความคาดหวัง “ไม่รู้ว่าสหายของเจ้าจะได้รับข้อความของเจ้าทันเวลาหรือไม่? และมาช่วยพวกเราทันหรือไม่? หากเขาสามารถช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากภัยครั้งนี้ได้สำเร็จ เผ่าอวิ๋นหุนของข้าจะจดจำความดีอันยิ่งใหญ่ของเขาอย่างแน่นอน”
ใช่!
อู๋จุนจะได้รับข่าวขอความช่วยเหลือได้ทันเวลาหรือไม่?
ข้อความที่หมูน้อยบินส่งมานั้นเป็นข้อความของอู๋จุนเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา หากบินกลับไปก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือน เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้น เผ่าปีศาจและเผ่าอสูรคงโจมตีเผ่าอวิ๋นหุนจนราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว