สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1101 แม่นางพิษน้อย พี่จุนมาหาเจ้าแล้ว
อู๋จุนวิ่งไปตามทิศทางที่จิ้นหนานเฟิงชี้ไป เขามองหาและสังหารศัตรูตลอดทาง แต่กลับไม่พบซูจิ่นซีและไม่พบเยี่ยโยวเหยาอีกด้วย
“แม่นางพิษน้อย… แม่นางพิษน้อย ข้าคือพี่จุน พี่จุนมาหาเจ้าแล้ว แม่นางพิษน้อย… แม่นางพิษน้อย… ”
อู๋จุนตามหาไปพลาง สังหารศัตรูไปพลาง ในที่สุดก็มาถึงข้างกองซากศพลูกสมุนปีศาจและสัตว์อสูรที่ล้อมซูจิ่นซีก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นซากศพกองท่วมหัว เลือดสีแดงสดไหลเจิ่งนองเต็มพื้น ดวงตาพราวเสน่ห์ของอู๋จุนพลันหรี่ลงเล็กน้อย นิ้วมือของเขากำแส้ในมือแน่นขึ้น
ขณะที่เดินผ่านกลิ่นคาวเลือดเหล่านั้น เหมือนเขาจะเห็นภาพที่ซูจิ่นซีถูกบังคับจนพยายามเอาชีวิตรอดสุดชีวิต ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
“อ๊าก… ”
อู๋จุนแผดเสียงคำรามยาว ตามด้วยเสียง ‘ขวับ’ เขาฟาดแส้ยาวในมือเพียงครั้งเดียว ทหารศัตรูมากกว่าสิบคนตายด้วยแส้ยาวของเขา เมื่อฟาดแส้อีกครั้ง ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว
เขาโบกแส้อย่างคลุ้มคลั่ง เข่นฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จิตใจของเขาสงบลง เหมือนทำเช่นนี้จะบรรเทาความเดือดดาลที่ลุกโชนอยู่ในใจ
ทันใดนั้น มีใครบางคนคว้าข้อเท้าของเขาไว้ แส้ยาวในมืออู๋จุนลดแรงลงเล็กน้อย สมุนปีศาจหลายตนจึงรอดชีวิตจากแส้ยาวของเขา
ความเดือดดาลในดวงตาของเขาบ้าคลั่ง เขาออกแรงถีบจนสมุนปีศาจลอยกระเด็นออกไป
จากนั้นก็มีคนจับข้อเท้าของเขาอีกข้าง
อู๋จุนคิดว่าเป็นการลอบโจมตี และกำลังจะเตะคนผู้นั้นอย่างแรง จู่ๆ ก็มีเสียงมาจากใต้ตัวเขา “ท่านจอมยุทธ์… ท่านจอมยุทธ์… ”
อู๋จุนหยุดชะงักและก้มหน้ามองชายหนุ่มที่แต่งตัวแตกต่างจากเผ่าปีศาจและเผ่าอสูร ร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด
“เจ้าเป็นผู้ใด” อู๋จุนจ้องเขม็ง
“เจ้า… เจ้าเป็นสหายของซูจิ่นซีหรือ? ข้า… ข้าเป็นสหายของนาง ข้าเป็นองค์ชายแห่งเผ่าอวิ๋นหุน” อาจวินพูด
คนที่แต่งตัวไม่เหมือนเผ่าปีศาจและเผ่าอสูร อีกทั้งขณะที่เขาตะโกนเรียกชื่อซูจิ่นซีเมื่อครู่ อาจวินได้ยินพอดีจึงฟื้นขึ้นด้วยอาการงุนงง
อู๋จุนย่อตัวลง “เจ้ารู้หรือไม่ว่านางอยู่ที่ใด”
อาจวินแสดงสีหน้าเจ็บปวด อดทนกับอาการบาดเจ็บและส่ายศีรษะเล็กน้อย
อู๋จุนปล่อยตัวอาจวินและกำลังจะจากไป ทว่าอาจวินกลับคว้าข้อเท้าของเขาอีกครั้ง “ข้าสามารถพาเจ้าไปหานางได้”
ขณะที่เห็นสถานการณ์ในสนามรบ คิดว่าโลกสามเขตแดนต้องพ่ายแพ้แน่นอน อาจวินจึงไม่กังวลว่าพวกเขาจะเข้าไปโจมตีในหมู่บ้าน ในเวลานี้เขากังวลเพียงอาการบาดเจ็บของอาอินและซูจิ่นซี
ขณะที่เขาถูกพลังกระแทกจนสลบไปก่อนหน้านี้ เขาพบว่ามันเป็นพลังของศิลาสะกดวิญญาณ ทว่าตามความแข็งแกร่งทางกายภาพของซูจิ่นซีตอนนี้ นางไม่สามารถทนต่อพลังของศิลาสะกดวิญญาณได้ จะต้องถูกพลังย้อนกลับแน่นอน
“ตกลง! ” อู๋จุนพูดแล้วเข้าไปพยุงอาจวินให้ลุกขึ้น
หากไม่เจอในสนามรบก็ต้องอยู่ในหมู่บ้านแน่ อาจวินพาอู๋จุนเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางอาจวินมองหาอาอินตลอดเส้นทาง
ขณะที่เดินผ่านสถานที่ที่ซูจิ่นซีเคยนั่งสมาธิก่อนหน้านี้ เขาไม่เห็นอาอิน ภายในใจของอาจวินที่กำลังวิตกกังวลจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ในเวลานั้นนางอยู่ใกล้กับซูจิ่นซีมากที่สุด สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคืออาอินจะตายภายใต้พลังของศิลาสะกดวิญญาณ เวลานี้เขาเห็นเพียงศพของอาจู แต่กลับไม่พบร่างของอาอิน อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่านางรอดชีวิตภายใต้พลังศิลาสะกดวิญญาณ
ในเมื่อนางไม่อยู่ในสนามรบและรอบๆ บริเวณเขตเวทมนตร์ เป็นไปได้มากที่สุดว่าต้องอยู่ในหมู่บ้าน
อาจวินจึงพาอู๋จุนไปยังส่วนลึกของหมู่บ้าน
“จิ่นซี จิ่นซี… ” ขณะที่เดินผ่านเรือนหลังหนึ่ง จู่ๆ ก็มีเสียงของสตรีท่าทีร้อนใจดังมาจากด้านใน
จู่ๆ อาจวินก็แสดงท่าทางดีใจทันที เขากำลังจะพูดอันใดบางอย่าง กลับเห็นเพียงเสื้อสีแดงวาบผ่านหน้าเขา อู๋จุนซึ่งอยู่ข้างกายเขาเมื่อครู่หายตัวไปแล้ว
อู๋จุนรีบวิ่งเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
ภายในเรือนมีเยี่ยโยวเหยาและอาอิน และยังมีชายชราผมขาวสองคน พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีขาว คนหนึ่งถือกล่องเข็มสีเงิน และอีกคนหนึ่งกำลังฝังเข็มให้ซูจิ่นซี
ทว่าทั่วทั้งตัวและใบหน้าของซูจิ่นซีเต็มไปด้วยเลือด ที่มุมปากของนางเป็นสีแดงสด บนพื้นยังมีคราบเลือดขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งอาเจียนเป็นเลือด
หน้าอกของนางขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ลมหายใจของนางอ่อนแรงมาก
หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง เขารีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผลักชายชราสองคนที่กำลังฝังเข็มและบีบเส้นเลือดที่ข้อมือของซูจิ่นซี
ทว่าทันทีที่นิ้วมือสัมผัสชีพจรของซูจิ่นซี เขาก็คลายออกราวกับสัมผัสหัวแร้ง ใบหน้าของเขาซีดขาว สีหน้าตกใจกลัวอย่างมาก