สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 37 ตอนที่ 1108 หัวใจสัตว์เทพโซ่วเหลียน
เสียงสะอึกสะอื้นของถังเสวี่ยดังขึ้นเรื่อยๆ… ในที่สุดก็กลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
เยี่ยโยวเหยาถูกดึงดูดด้วยเสียงร้องของนาง ในเวลาเดียวกัน ซูอวี้ก็ได้มาถึงพระราชวังซีหัวแล้ว
“แม่นางถังเสวี่ย ท่านเป็นอันใดไป? ” ซูอวี้ถาม
ถังเสวี่ยทำได้เพียงร้องห่มร้องไห้ไม่พูดจา
ซูอวี้คิดว่าเกิดอันใดขึ้นกับซูจิ่นซีจึงรีบเข้าไปในตำหนักเพื่อตรวจชีพจรให้นาง ทว่าชีพจรคงที่ไม่มีข่าวร้ายอันใด ในทางตรงกันข้าม ชีพจรกลับเต้นแรงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ
ซูอวี้เดินออกมา “แม่นางถังเสวี่ย ผู้ใดมาที่พระราชวังซีหัว? ”
ถังเสวี่ยยังคงร้องไห้
เยี่ยโยวเหยาจึงกล่าว “อู๋จุนมา! ”
สีหน้าของซูอวี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ไม่รู้ว่าเขาคิดอันใดอยู่เช่นกัน “เขาทำอันใด? ”
“ข้าไม่รู้! ”
“แม่นางถังเสวี่ย! ” ซูอวี้ถามถังเสวี่ยอย่างไม่ลดละ
ถังเสวี่ยเงยหน้าเศร้าหมอง “หัวใจของเทพโอสถ… เขามอบหัวใจตนเองให้ซูจิ่นซี! ”
“อันใดนะ? ”
ซูอวี้พลันตกใจ แม้กระทั่งสีหน้าของเยี่ยโยวเหยาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
หลังเหม่อลอยอยู่ครู่ใหญ่ ซูอวี้จึงกล่าวกับเยี่ยโยวเหยาว่า “ท่านอ๋อง ฝากท่านดูแลพระชายาโยวอ๋อง หากมีเรื่องอันใดท่านต้องไปหาฮูหยินเฒ่าจง เดี๋ยวกระหม่อมรีบกลับมาพ่ะย่ะค่ะ! ”
เยี่ยโยวเหยาพยักหน้า ซูอวี้จึงรีบออกไปนอกวัง
ถังเสวี่ยปาดน้ำตาแล้วตามไปเช่นกัน
ในเมื่ออู๋จุนมอบหัวใจของตนเองให้ซูจิ่นซีแล้ว เขาคงไม่อยู่ในวัง ต้องออกนอกวังแล้วแน่นอน
ระหว่างที่ซูอวี้ออกจากวัง เขาสอบถามตลอดทางและได้ความว่าอู๋จุนออกจากวังไปแล้วจริงๆ
ทว่าด้านนอกพระราชวังนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก หลังจากสอบถามผู้คนมากมาย พวกเขาล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็นอู๋จุน ทว่าท้ายที่สุดก็เจออู๋จุนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
วันนั้นเขาพาซูจิ่นซีที่มาแคว้นหนานหลีเป็นครั้งแรก มาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งนี้ ตอนที่ซูอวี้พบเขา เขานั่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่ตนเองนั่งในตอนนั้น
อาหารเครื่องเคียงตรงหน้าหลายอย่างก็สั่งแบบเดียวกับที่ทานกับซูจิ่นซีในวันนั้น และยังวางอุปกรณ์ทานอาหารไว้สองชุด
เสี่ยวเอ้อร์มีสีหน้าวิตกกังวล เขามองร่างของอู๋จุนที่โชกไปด้วยเลือดและไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อเห็นซูอวี้เดินเข้ามาใกล้ เขาก็ราวกับเห็นฟ้าหลังฝน
“คุณชายท่านนี้ เขาเป็นสหายของท่านหรือไม่? รีบพาเขาไปเถิด โชคร้ายจะแย่อยู่แล้ว พวกข้าใกล้ปิดร้านแล้วเขาก็ยังไม่ไป หากเขาตายในร้านพวกข้า ต่อไปพวกข้าจะทำมาค้าขายอย่างไร? ”
ซูอวี้ไม่พูดอันใดมากและไม่โกรธ เขาเดินมานั่งลงข้างอู๋จุนอย่างสุภาพเรียบร้อย
“เจ้าหุบเขาอู๋! ”
อู๋จุนเงยศีรษะด้วยสีหน้าปกติ ทว่าที่หน้าอกเป็นรูเลือด มองดูแล้วน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
เขายิ้มเล็กน้อยให้ซูอวี้ ดวงตาโฉบเฉี่ยวนั้นทำให้คนมองตกตะลึง
“ผู้นำซู? ท่านมาแล้วหรือ? ”
“เจ้าหุบเขาอู๋ เป็นข้าเอง! ”
“มา ดื่มสักแก้ว! ” อู๋จุนพูดพลางยื่นสุราเต็มแก้วเบื้องหน้าตนเองให้ซูอวี้ และเอาสุราเต็มแก้วที่อยู่ตรงข้ามมาด้านหน้าตนเอง
เป็นเช่นนี้แล้วยังดื่มอยู่อีก ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?
ซูอวี้ไม่ขยับ อู๋จุนก็ไม่เร่งรัดเช่นกัน เขาแย้มยิ้มพลางยกแก้วสุรากระดกเข้าปากตนเอง
ซูอวี้จับแขนอู๋จุนโดยคิดจะห้ามเขา ทว่า จู่ๆ เขากลับล้มพับใส่ซูอวี้
“เจ้าหุบเขาอู๋? เจ้าหุบเขาอู๋? ”
ซูอวี้เรียกอยู่สองสามครั้ง ทว่าอู๋จุนไม่ตอบสนอง ซูอวี้จึงรีบจับชีพจรให้เขา โชคดีที่ชีพจรยังเต้นอยู่ คนยังมีชีวิตอยู่
“เสี่ยวเอ้อร์ ช่วยหารถม้าให้ข้า แล้วก็หาคนสองคนแบกเขาไปที่รถม้า” เขาพูดพลางหยิบเงินจำนวนหนึ่งวางลงบนโต๊ะ
เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นเงินสีขาววาววับเป็นประกายจึงรีบตะโกนให้เตรียมรถม้าและหาผู้ช่วยสองคนมาช่วยซูอวี้แบกอู๋จุนขึ้นรถม้า
ตั้งแต่ออกมาจากวัง ถังเสวี่ยเดินตามหลังซูอวี้มาโดยตลอด นางเห็นอู๋จุนอยู่ในร้านอาหาร ทว่านางไม่มีความกล้าตามเข้าไป หากอู๋จุนตายแล้วจริงๆ นางไม่รู้ว่าตนเองควรเผชิญหน้าอย่างไร
คนที่นางรักที่สุดกลับยอมตายเพื่อสตรีอีกคน เป็นเรื่องที่ถังเสวี่ยไม่เคยคาดคิดมาก่อน และเป็นเรื่องที่โหดร้ายที่สุดในโลก
ทว่าเวลานี้เมื่อเห็นซูอวี้และคนอื่นๆ หามเขาออกมาจากในร้าน ร่างกายเปียกโชกไปด้วยเลือด นางที่ซ่อนอยู่อีกฝั่งก็ควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไปและรีบพุ่งไปที่ข้างรถม้า
“ถังเป่าอวี้ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ถังเป่าอวี้ ข้าคือถังเสวี่ย ท่านพูดกับข้าสักประโยค ถังเป่าอวี้… ”
ซูอวี้ดึงถังเสวี่ยที่เขย่าร่างอู๋จุนไม่หยุด “แม่นางถังเสวี่ย! ”
ถังเสวี่ยดึงแขนซูอวี้
“เขาเป็นอย่างไรบ้าง? เขาอาการหนักใช่หรือไม่? เขาจะตายหรือไม่? ”
คนที่ไร้หัวใจแล้วย่อมต้องตาย ทว่า…
ซูอวี้พึมพำวิธีพูดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ตามหลักแล้ว เมื่อเจ้าหุบเขาอู๋มอบหัวใจเทพโอสถให้พระชายาก็จะสิ้นชีวิตทันที ทว่าตอนนี้เขากลับยังมีชีพจรอยู่… เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบแน่ชัด คงต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งในภายหลังถึงจะสรุปได้ อย่างไรเสีย เจ้าหุบเขาอู๋ก็ได้ลิ้มรสสมุนไพรสารพัดบนโลก สมรรถภาพทางร่างกายของเขาจึงไม่เหมือนผู้อื่น”
ถังเสวี่ยดึงซูอวี้ราวกับดึงฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย
“ผู้นำซู ใต้เท้าซู หมอเทพซู ท่านต้องช่วยเขา ต้องช่วยเขาให้ได้ ไม่ว่าต้องใช้สมุนไพรอันใด ท่านบอกข้า ข้าจะไปหามา ข้าจะไปหามา”
ซูอวี้พยายามปลอบใจถังเสวี่ย “แม่นางถังเสวี่ย พวกเราช่วยกันจัดที่จัดทางให้เจ้าหุบเขาอู๋ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ตกลง ตกลง! ” ถังเสวี่ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
แคว้นหนานหลีไม่เหมือนแคว้นจงหนิง สถานที่ที่คุ้นเคยมีไม่มาก คงมีเพียงที่เดียวที่สามารถไปได้ นั่นก็คือสกุลจง
ซูอวี้กับถังเสวี่ยส่งอู๋จุนมาที่สกุลจง ผ่านไปไม่นาน จงเทียนโย่วก็ได้รับข่าวและกลับมาพร้อมกับเยี่ยโยวเหยา
ซูอวี้ตรวจชีพจรอู๋จุนอย่างละเอียด ถึงชีพจรจะคงที่ ทว่าไม่ได้หมายความว่าไม่น่าเป็นห่วง มีการใช้สมุนไพรยื้อชีวิต แต่ไม่ได้ผลมากนัก
จงเทียนโย่วตรวจชีพจรให้อู๋จุน ผลการวินิจฉัยก็คล้ายกับซูอวี้
ทั้งสองออกมาจากห้อง ถังเสวี่ยดึงแขนซูอวี้เอาไว้
“ผู้นำซู ถังเป่าอวี้เป็นอย่างไรบ้าง? ช่วยชีวิตได้หรือไม่? ”
ซูอวี้กล่าว “แม่นางถังเสวี่ยวางใจ เจ้าหุบเขาอู๋โชคดี ไม่มีอันตรายถึงชีวิตชั่วคราว”
ถังเสวี่ยยึดติดกับคำพูดของซูอวี้ “ไม่มีอันตรายถึงชีวิตชั่วคราว? นั่นหมายความว่ายังมีอันตรายอยู่? จะช่วยเขาได้อย่างไร? จะช่วยเขาได้อย่างไร? ”
ซูอวี้กล่าวอย่างระมัดระวัง “เจ้าหุบเขาอู๋มอบหัวใจเทพโอสถให้พระชายา จำเป็นต้องมีบางอย่างมาทดแทนหัวใจของเขา”
“คือสิ่งใด? ”
ซูอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดปากพูด “ทะเลอู๋ว่างมีเกาะร้างชื่อว่าเกาะอู๋ว่าง บนเกาะร้างมีอสูรตนหนึ่งที่แม้จะได้รับไอศพปนเปื้อนในทะเลอู๋ว่างตลอดทั้งปี ทว่าหัวใจของมันเสมือนดอกบัวบริสุทธิ์ หากนำหัวใจของมันมาทดแทนหัวใจของเจ้าหุบเขาอู๋ ก็จะสามารถยื้อชีวิตของเขาได้”
โลกสามเขตแดน ทะเลอู๋ว่าง… นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ผู้ใดจะไปได้ตามอำเภอใจ
ไม่รอให้ถังเสวี่ยอ้าปาก จงเทียนโย่วก็กล่าวว่า “ผู้นำซู วิธีนี้ของท่านได้ผลหรือ? ”
ซูอวี้ขมวดคิ้ว “น่าจะได้ผล! แม้ข้าไม่เคยใช้มาก่อน ทว่านี่เป็นวิชาแพทย์ที่คุณชายจิ่วทิ้งไว้ให้ข้า”
“คุณชายจิ่ว… ไม่น่าจะมีสิ่งใดผิดพลาด ทว่าทะเลอู๋ว่างในโลกสามเขตแดน ผู้ใดไปแล้วไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้ เช่นนั้นผู้ใดจะไปเอาหัวใจสัตว์เทพโซ่วเหลียนนั่นกลับมาช่วยเจ้าหุบเขาอู๋!”