สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 10 ตอนที่ 286 ถอดเสื้อและกางเกงออกให้หมด
“หยิบกระดาษมาให้ข้า ข้าจะเขียนตัวยาที่จำเป็นต้องใช้”
กูสือซานสั่งให้ลูกน้องหยิบกระดาษกับพู่กันมาให้ ซูจิ่นซีเขียนประมาณครึ่งหน้ากระดาษ เสร็จแล้วก็ยื่นให้กูสือซาน
กูสือซานอ่านอยู่พักใหญ่ เขามีสมุนไพรบางตัว ทว่าสมุนไพรบางตัวกลับแปลกประหลาดยิ่งนัก และสมุนไพรบางตัว แม้กูสือซานจะเคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ใด
แคว้นไหวเจียง มีหมอพิษ แต่ไม่มีหมอยา
กูสือซานถามซูจิ่นซีด้วยความสงสัย “จะหาตัวยามากมายถึงเพียงนี้ได้หรือ? ”
ทว่าคำพูดของซูจิ่นซี กลับทำให้กูสือซานอึ้งจนแทบพูดไม่ออก “เป็นเจ้าที่ถอนพิษได้ หรือว่าข้าถอนพิษได้กันแน่”
“สมุนไพรเหล่านี้คือสิ่งใด? เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน? ยังมีสมุนไพรจำนวนหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง สามารถใช้สมุนไพรตัวอื่นทดแทนได้หรือไม่? ”
“เป็นไปไม่ได้” ซูจิ่นซีปฏิเสธทันที “แม้วิชาแพทย์จะกว้างขวางและลึกล้ำ สมุนไพรหลายตัวในเทียบยาสามารถใช้สมุนไพรตัวอื่นทดแทนได้จริง ทว่าการถอนพิษนั้นไม่สามารถใช้สมุนไพรทดแทนกันได้ จุดที่แตกต่างกันนี้ ท่านราชครูเป็นผู้เชี่ยวชาญ ย่อมเข้าใจดี”
กูสือซานไม่ถามอันใดอีก เขาส่งเทียบยาให้องครักษ์ไปจัดเตรียม
“นอกจากนี้ อย่าลืมหม้อใบใหญ่หนึ่งใบไว้ต้มสมุนไพร” ซูจิ่นซีพูด
แม้กูสือซานจะมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถามอันใด ทำเพียงกำชับให้ลูกสมุนไปจัดเตรียมตามนั้น
ขณะที่กูสือซานกำลังจะออกไป ซูจิ่นซีก็ตะโกนเรียกเขา “ท่านปล่อยอวี้เอ๋อร์ลงมาก่อน”
กูสือซานหันหลังกลับมามองด้วยใบหน้าขึงขัง “ซูจิ่นซี เจ้าอย่าคิดเล่นไม่ซื่อกับข้า เมื่อใดที่เจ้าถอนพิษสำเร็จ ข้าก็จะปล่อยเด็กคนนี้ทันที นี่คือข้อกำหนดของข้า หากเจ้าทำไม่ได้ ราชครูอย่างข้าจะสั่งให้ทอดเด็กคนนี้เสีย อย่างไรก็ตาม คนที่สามารถนำมาบีบบังคับเจ้าได้ยังมีอีกมาก ข้าออกไปจับกลับมาสักคนก็พอแล้ว”
ซูจิ่นซีเกลียดชังจนต้องขบเคี้ยวฟัน นางหรี่ตาทั้งสองข้าง ทว่ายังคงระงับความโมโหทั้งหมดไว้ในท้อง พลางแย้มยิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ สดใสเป็นพิเศษ ราวกับไม่มีพิษสงอันใด “ได้! ”
กูสือซานไม่ทันได้สังเกต ทว่าซูอวี้ที่ห้อยศีรษะอยู่บนกระทะกลับมองเห็นอย่างชัดเจน
รอยยิ้มของซูจิ่นซีที่ซูอวี้เห็นเมื่อครู่ ทำให้เขารู้สึกว่า นางกำลังปกปิดแผนร้ายไว้ในใจ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ปกปิดไม่มิด
แท้จริงแล้วสิ่งที่ซูอวี้เห็นนั้นถูกต้อง โดยปกติ หากซูจิ่นซีเผยรอยยิ้มเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
กูสือซาน เจ้าจบสิ้นแล้ว!
ต้องยอมรับว่า กูสือซานมีความสามารถจริงๆ ผู้ที่อยู่ใต้อาณัติของเขา ล้วนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ภายในสองวัน กูสือซานสามารถเก็บรวบรวมสมุนไพรได้ครบถ้วนตามเทียบยาของซูจิ่นซี
หนึ่งในสมุนไพรที่สำคัญที่สุดคือ ผึ้งหยก
ซูจิ่นซีตรวจสอบสิ่งที่พวกเขาจัดหามาได้ นางปรบมือด้วยความพอใจ “ครบถ้วน ไปเรียกราชครูของพวกเจ้ามาได้แล้ว เริ่มถอนพิษได้ทันที”
องครักษ์พิษออกไปเรียกกูสือซาน เมื่อองครักษ์พิษที่เหลือไม่อยู่ ซูจิ่นซีก็แอบกินยาเข้าไปหนึ่งเม็ด และเดินไปด้านข้างซูอวี้ ให้เขากินไปหนึ่งเม็ดเช่นกัน
ซูอวี้ไม่รู้ว่าซูจิ่นซีต้องการจะทำอันใด แต่เขามั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า ซูจิ่นซีไม่มีทางทำร้ายเขาแน่นอน
ดังนั้นซูอวี้จึงกินยาที่ซูจิ่นซีมอบให้อย่างเชื่อฟัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง กูสือซานก็มาถึง
“ซูจิ่นซี พร้อมถอนพิษแล้วใช่หรือไม่? ”
“พร้อมแล้ว นำถุงใส่เข็มเงินมาให้ข้า”
ในตัวของซูจิ่นซีมีเข็มเหมันต์เทวะ ทว่านางไม่ต้องการใช้กับกูสือซาน
องครักษ์พิษเตรียมถุงเข็มเงินให้ซูจิ่นซีอย่างรวดเร็ว
“ถอดออก! ” ซูจิ่นซีพูด
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง รวมถึงกูสือซานด้วย
ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว “ถอดเสื้อผ้าออก ทำไม มีปัญหาหรือ? ”
ทุกคนเพิ่งเข้าใจ ความหมายที่ซูจิ่นซีพูดคือ ให้กูสือซานถอดเสื้อผ้าออก
ใบหน้าของแต่ละคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน
แววตาทั้งสองของกูสือซานแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย เขาจ้องซูจิ่นซีแล้วพูดว่า “ซูจิ่นซี เจ้าใช่สตรีหรือไม่กันแน่? ”
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “ท่านราชครู ดูเหมือนว่าคนที่เสียเปรียบจะเป็นสตรีอย่างข้าไม่ใช่หรือ? ทำไม ให้ท่านถอดเสื้อผ้ามันยากเย็นถึงเพียงนี้เชียวหรือ? หากท่านไม่ถอดเสื้อออก ข้าจะฝังเข็มให้ท่านได้อย่างไร? ”
การแพทย์ไม่แบ่งแยกบุรุษ สตรี ทว่าในยุคสมัยโบราณยังคงล้าสมัย
“ยืนบิดไปบิดมาดั่งอิสตรี”
ซูจิ่นซียิ้มเยาะพูดจาเหน็บแนม
กูสือซานถอดเสื้อผ้าบนร่างกายออกทันที
แม้รูปร่างของกูสือซานจะไม่เลวนัก ทั้งยังมีความหล่อเหลาของบุรุษต่างแคว้น ทว่าซูจิ่นซีไม่ชายตามองแม้แต่น้อย
ใบหน้าของทุกคนปรากฏความตกตะลึง พวกเขาเบนสายตามองใบหน้าซูจิ่นซี ต้องการดูปฏิกิริยาตอบสนองของนางว่าเป็นเช่นใด
ซูอวี้ที่ห้อยศีรษะอยู่บนกระทะน้ำมันเบิกตาทั้งสองกว้าง เห็นได้ชัดว่า ซูจิ่นซีทำความลำบากใจให้กูสือซาน แต่ซูอวี้รู้สึกว่า เจ้าสารเลวกูสือซานผู้นี้กำลัง ‘หยอกเย้า’ ซูจิ่นซี
“กูสือซาน เจ้ามันไร้ยางอาย หากเจ้ายังเป็นบุรุษก็รีบสวมเสื้อผ้าของเจ้าเดี๋ยวนี้”
กูสือซานไม่สนใจคำพูดซูอวี้ เขาเดินเข้าไปใกล้ซูจิ่นซีแล้วพูดว่า “เป็นเช่นไร? พระชายาโยวอ๋อง ต้องให้ราชครูอย่างข้าถอดกางเกงด้วยหรือไม่? ”
เดิมทีกูสือซานมีความคิดที่จะ ‘หยอกเย้า’ ซูจิ่นซี เพื่อข่มขู่ให้นางตกใจ กลับคิดไม่ถึงว่า ซูจิ่นซีจะง่วนอยู่กับการจัดการสมุนไพรและเข็มเงินในมือเท่านั้น นางไม่เงยหน้าขึ้นมาแม้แต่น้อย เพียงพูดว่า “ถอดออกด้วย”
ถอดกางเกงด้วย?
ทุกคนต่างตกตะลึง กูสือซานหันไปมององครักษ์พิษของตนที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาต้องไม่ให้สตรีนางนี้ลบหลู่ตนต่อหน้าลูกสมุนเช่นนี้
สตรีของแคว้นจงหนิง ส่วนใหญ่จะอ่อนแอและเก็บเนื้อเก็บตัว หากพบบุรุษที่แสดงท่าทางเช่นนี้ ต้องตกใจจนร้องห่มร้องไห้ไปเสียนานแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อ! ซูจิ่นซีไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย!
ทันใดนั้น กูสือซานก็ถอดกางเกงออกต่อหน้าทุกคน
“พี่จิ่นซี ท่านรีบปิดตา กูสือซาน เจ้ามันคนป่าเถื่อน เจ้ารีบสวมกางเกง ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้… กูสือซาน เจ้าปล่อยข้าลง ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่! ”
ทว่าซูจิ่นซีไม่สนใจ นางทำทีไม่ได้ยินคำพูดของกูสือซาน
กูสือซานเพียงต้องการดูปฏิกิริยาตอบสนองของซูจิ่นซีเท่านั้น
ทว่าน่าเสียดาย ซูจิ่นซีทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก
นางเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าไม่แดง และไม่มีท่าทีตื่นเต้นกับร่างกายเปลือยเปล่าที่สวมเพียงกางเกงซับในของเขาซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งยังเผยสีหน้าพึงพอใจอีกด้วย
“พอใช้ได้ นั่งลงเถิด! ”
ภายในใจของกูสือซานรู้สึกผิดหวังและพ่ายแพ้
เขานับว่าเป็นบุรุษรูปงามผู้หนึ่งในแคว้นไหวเจียง มีสตรีมากมายไล่ตามเขา ต้องการแต่งงานกับเขา ทั้งยังมีคนยอมพลีกายเพื่อเขาด้วยซ้ำ ทว่านางกลับไม่ชายตามองเขาแม้แต่น้อย เขาไม่คิดว่าซูจิ่นซีจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้
เห็นกูสือซานยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ ซูจิ่นซีจึงกลอกสายตา พลางขมวดคิ้วแน่น
กูสือซานทำได้เพียงนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
ซูจิ่นซีฝังเข็มให้กูสือซานหลายเล่ม จากนั้นก็เรียกองครักษ์พิษ “มัดมือมัดเท้าทั้งสองของท่านราชครูของพวกเจ้า”
กูสือซานลุกขึ้นในทันที เขามองซูจิ่นซีด้วยสายตาดุดัน “ซูจิ่นซี เจ้าคิดจะทำอันใด? ”
องครักษ์พิษกุมดาบข้างกายแน่น มองซูจิ่นซีด้วยท่าทีขึงขัง
ซูจิ่นซีมองพวกเขา พลางยกยิ้มเย็นชา “กูสือซาน ที่แท้ท่านก็มีความสามารถเพียงเท่านี้เองหรือ! ข้าจับท่านมัดไว้เพื่อถอนพิษให้ท่าน! ท่านคิดว่าข้าจะทำอันใดได้? น้องชายของข้า ซูอวี้ยังอยู่ในเงื้อมมือของท่าน! ”
กูสือซานแสดงท่าทีไม่เชื่อ เขาหันไปมองซูอวี้และไม่พูดอันใด
องครักษ์พิษนายหนึ่งที่ยืนด้านข้างพูดขึ้นว่า “น่าขัน มีใครที่ไหนมัดคนที่ถูกพิษ? เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีแผนทำร้ายท่านราชครู แล้วคิดหนีไป! ”
ซูจิ่นซีตั้งใจโยนสิ่งของทั้งหมดลงบนโต๊ะด้วยท่าทีไม่แยแส นางนั่งไขว้ขาที่เก้าอี้และพูดว่า “ก็ได้ เจ้าพูดถูก! เช่นนั้นเจ้าก็หาวิธีถอนพิษเองแล้วกัน! ”