สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 10 ตอนที่ 287 ปลายังไม่ยอมกินเบ็ด
องครักษ์พิษมีท่าทีงุนงง เช่นนี้เป็นการสร้างความลำบากใจให้เขาไม่ใช่หรือ?
หากเขาถอนพิษได้ ท่านราชครูของพวกเขาจะลักพาตัวนางมาเพื่ออันใดกัน?
ซูจิ่นซีกระดิกเท้ามองกูสือซานด้วยใบหน้าไม่แยแส
กูสือซานใช้สายตาดั่งนกอินทรีมองซูจิ่นซีอยู่ครู่ใหญ่ “ซูจิ่นซี ทางที่ดีเจ้าอย่าคิดเล่นตุกติก ไม่เช่นนั้น… ”
กูสือซานยังไม่ทันพูดจบประโยค ซูจิ่นซีก็พูดขึ้นว่า “ไม่เช่นนั้น หากข้าเล่นตุกติกอันใด ท่านจะให้ข้าตายทั้งเป็น ท่านจะจับน้องชายข้าลงไปทอด! ท่านราชครู คำพูดของท่าน ข้าฟังจนจำได้ทุกคำแล้ว เปลี่ยนรูปแบบบ้างได้หรือไม่? ”
ซูจิ่นซีพูดพลาง ทำท่าทางแคะหูล้อเลียน
กูสือซานหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขายกสองมือเท้าเอว เดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ชี้หน้าซูจิ่นซี คิดจะพูดบางอย่าง ทว่าก็ไม่พูดอันใด ซูจิ่นซีจึงพูดแทรกอีกครั้งว่า
“ไม่ถอนพิษแล้วหรือ? หากไม่ถอนพิษแล้วก็ตามใจท่าน เมื่อคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ ขอนอนพักสักหน่อย”
กูสือซานเดินเข้าไปหาซูจิ่นซี ใช้มือดั่งกรงเล็บนกอินทรี ขย้ำที่หัวไหล่ของนางอย่างรุนแรง และพูดกระชากเสียง “ซูจิ่นซี บอกตามตรงว่าข้าไม่ค่อยเชื่อใจเจ้าเท่าไรนัก เจ้าอธิบายให้ข้าฟังหน่อยสิ เจ้าวางแผนจะถอนพิษอย่างไร? เพราะวิธีการเช่นนี้แตกต่างจากการถอนพิษทั่วไปมากนัก”
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “ท่านราชครู สิ่งที่ท่านไม่เคยเห็นยังมีอีกมากมายนัก! ไม่เช่นนั้น ท่านคงถอนพิษของข้าได้เองแล้ว”
พูดจบ ซูจิ่นซีก็เงยหน้าขึ้นสบสายตากูสือซานโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ทั้งสองจ้องหน้ากันครู่หนึ่ง กูสือซานยังคงไม่เชื่อในคำพูดของซูจิ่นซี
ปลายังไม่ยอมกินเบ็ดหรือ?
อย่างไรก็ตาม หากซูจิ่นซีคิดจะทำอันใดแล้ว ไม่มีทางที่ปลาไม่ติดเบ็ด นอกจากปลาที่ตายแล้วเท่านั้น
ซูจิ่นซีสะบัดหัวไหล่อย่างแรงจนหลุดจากมือของกูสือซาน
“ข้าคิดว่า ราชครูแห่งแคว้นไหวเจียงที่ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเป็นดั่งเทพ จะเป็นวีรบุรุษเสียอีก หึ! ดูท่าแล้วไม่สมกับที่ร่ำลือเท่าไรนัก คิดไม่ถึงว่า แม้แต่สตรีเพียงคนเดียวก็ยังกลัว! ราชครู ข้าว่าช่างเถิด! พิษของท่าน ข้าไม่ถอนให้แล้ว”
ซูจิ่นซีพูดพลางหลับตาทั้งสองข้างลง แสร้งทำเป็นนอนพักผ่อน
หนังตาของกูสือซานกระตุก เขาจ้องใบหน้าซูจิ่นซีอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างออกมา “ใครก็ได้! มัดมือ มัดเท้าของข้า! ”
สำเร็จแล้ว!
ภายในใจซูจิ่นซีรู้สึกดีใจยิ่งนัก ทว่าใบหน้ายังคงเรียบเฉย ไม่ปรากฏพิรุธอันใดออกมาให้ผู้อื่นเห็น
องครักษ์พิษยังคงมีท่าทีลังเลลำบากใจ ไม่กล้าทำอันใด “ท่านราชครู… ”
พวกเขาคิดว่าจะต้องมีแผนการอื่นแอบแฝงแน่นอน
“มัดสิ! ”
กูสือซานยืนกรานหนักแน่น
องครักษ์พิษย่อมต้องฟังคำสั่งกูสือซาน เขาจับกูสือซานมัดมือมัดเท้าทันที
หลังจากที่องครักษ์พิษมัดกูสือซานเรียบร้อยแล้ว กูสือซานก็กัดฟันกรอดพูดกับซูจิ่นซี “พระชายาโยวอ๋อง ทำเช่นนี้เจ้าพอใจหรือไม่?”
พอใจแน่นอน!
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย นางลืมตาทั้งสองข้าง และเดินไปรอบๆ ตัวกูสือซานที่ถูกมัดมือมัดเท้าไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ขยับเชือกที่มัดมือกูสือซานให้แน่นขึ้น พลางพูดว่า “มัดแน่นแล้วใช่หรือไม่? หากเชือกคลายออก ทำท่านตกลงไปในหม้อจะถูกต้มจนสุกเอาได้”
เหล่าองครักษ์พิษตกใจเป็นอย่างมาก กูสือซานขมวดคิ้วมุ่นพูดว่า “ซูจิ่นซี เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่? ”
“ถอนพิษอย่างไรเล่า! เสร็จแล้วก็นำตัวราชครูของเจ้าขึ้นไปแขวน”
แขวนหรือ?
เหล่าองครักษ์พิษไม่มีผู้ใดกล้าทำแน่นอน
ใบหน้าของกูสือซานถมึงทึง
“ท่านราชครู ข้าขอย้ำให้ท่านฟังอีกครั้ง ความอดทนของข้ามีจำกัด สิ่งที่ข้าเกลียดมากที่สุดคือ ผู้ป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา ไม่มีผู้ใดทำให้ข้าต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากท่านต้องการถอนพิษ ท่านต้องเชื่อฟังข้า หากท่านคิดว่ามีความสามารถและรอบรู้มากกว่าข้า ก็เชิญท่านถอนพิษเองตามสบาย”
“ทำตามที่พระชายาโยวอ๋องพูด! ” กูสือซานออกคำสั่งกับองครักษ์
เหล่าองครักษ์พิษไม่กล้าทำ!
ไม่มีลูกน้องคนใดจับหัวหน้าของตนมัดและแขวนไว้กระมัง? พวกเขาเป็นข้ารับใช้มานานนับปี ไม่เคยทำเรื่องทรยศเช่นนี้มาก่อน
ทว่าครั้งนี้เป็นคำสั่งของท่านราชครู ไม่สามารถละเมิดได้!
ภายใต้คำสั่งที่จำเป็นต้องกระทำ เหล่าองครักษ์พิษจับกูสือซานแขวนห้อยอย่างเสียไม่ได้
ภายในใจซูจิ่นซีรู้สึกดีใจยิ่งนัก “ค่อยๆ ระวังเข็มที่ข้าฝังให้ท่านราชครูก่อนหน้านี้ด้วย! มิฉะนั้นสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า”
“พระชายาโยวอ๋อง แค่นี้ได้หรือไม่” องครักษ์พิษเอ่ยถาม
“เจ้ามานี่ นำสมุนไพรทั้งหมดลงไปต้มในหม้อ! ” ซูจิ่นซียื่นสมุนไพรทั้งหมดให้องครักษ์พิษ
หลังจากที่องครักษ์พิษนำสมุนไพรทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มจุดไฟ
กูสือซานเป็นถึงท่านราชครูแห่งแคว้นหนานหลี กลับถูกแขวนบนหม้อต้มใบใหญ่
“จุดไฟได้! จุดไฟได้! จุดไฟให้ลุกโชน ต้องทำให้น้ำในหม้อร้อนจนเดือดปุดๆ ถึงจะได้ผลดีที่สุด”
ซูจิ่นซีพูดพลางกลับไปนั่งบนเก้าอี้ นางบอกองครักษ์พิษว่าต้องการเมล็ดแตงพร้อมน้ำชา จากนั้นซูจิ่นซีก็นั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์
ไม่นานนัก น้ำในหม้อก็เดือดปุดๆ ไอน้ำบนกระทะพวยพุ่งทั่วร่างกายของกูสือซาน ในห้องศิลาปกคลุมไปด้วยไอร้อนเหมือนหม้อนึ่งก็มิปาน
“เพิ่มฟืนเข้าไปอีก เพิ่มฟืนแห้งเข้าไปอีก! อย่าให้ไฟดับ” ซูจิ่นซีเร่งรัดให้องครักษ์พิษเติมฟืนลงไปใต้หม้อต้มอย่างต่อเนื่อง
ไอน้ำยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนทำให้กูสือซานไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ เขาปิดตาลงอย่างรวดเร็ว
ซูจิ่นซีเปิดหีบที่มีผึ้งหยกจำนวนมากด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผึ้งหยกทั้งหมดบินออกมาจากหีบ และบินอย่างไร้ทิศทางกระจายไปทั่วห้องศิลา พวกมันบินไล่เหล่าองครักษ์ที่อยู่ในห้องศิลา แต่น่าแปลก ผึ้งเหล่านี้ราวกับสัมผัสได้ พวกมันไม่บินเข้าหาซูจิ่นซีกับซูอวี้แม้แต่น้อย
เหล่าองครักษ์พิษทนไม่ไหว จึงหนีออกไปนอกห้องศิลา
“ซูจิ่นซี เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่? ” กูสือซานที่ห้อยอยู่บนหม้อต้มร้อนเบิกตาโพลง มองซูจิ่นซีด้วยสายตาเดือดดาล
ซูจิ่นซีไม่ตอบคำถามกูสือซาน นางเดินเข้าไปใกล้หม้อต้ม และหยิบไม้ขึ้นมากวนน้ำในหม้อ ผ่านไปครู่หนึ่ง ผึ้งหยกฝูงนั้นก็บินเข้ามาหากูสือซานอย่างพร้อมเพรียงกันและเกาะบนร่างกายของกูสือซาน
กูสือซานถูกผึ้งหยกต่อยจนเจ็บปวดสุดจะทน ในที่สุดก็อดสบถคำหยาบคายออกมาไม่ได้ “บัดซบ! ซูจิ่นซี เจ้าทำบ้าอันใดกันแน่?
“ถอนพิษอย่างไรเล่า! ” ซูจิ่นซีกลอกตาแสดงสีหน้าราวกับผู้บริสุทธิ์
“เจ้าปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้ ปล่อยข้าลง! องครักษ์ เข้ามาปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้”
เหล่าองครักษ์พิษที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงเรียกจึงคิดจะบุกเข้ามา ทว่าเมื่อมาถึงประตูก็มีท่าทีลังเลหวาดกลัวผึ้งหยก พวกเขาไม่กล้าเข้าไป ทำเพียงยื่นศีรษะมองดูเชิงอยู่ด้านนอก
หากไม่มองก็ไม่เป็นไร ทว่าเมื่อมองแล้วก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก
ท่านราชครูผู้หล่อเหลาของพวกเขา ในเวลานี้ได้กลายเป็นรังผึ้งหยกไปเสียแล้ว บนตัวของเขามีผึ้งหยกเกาะเต็มไปหมด พวกเขามองไม่เห็นแม้แต่ปากและจมูกของกูสือซาน
“ข้าปล่อยเจ้าลงก็ได้ แต่ท่านราชครู ท่านต้องคิดให้รอบคอบ เมื่อเริ่มขั้นตอนการถอนพิษแล้ว ไม่สามารถหยุดได้ หากหยุด สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า อีกทั้งพิษในร่างกายก็จะแปรผัน ไม่มีทางถอนพิษได้อีก”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เหล่าองครักษ์พิษต่างไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม
กูสือซานถูกผึ้งหยกต่อยจนแทบจะทนไม่ไหว แม้เขาไม่เชื่อซูจิ่นซี แต่ก็ทำอันใดไม่ได้แล้ว
กูสือซานขบเคี้ยวฟันพูดว่า “ซูจิ่นซี เจ้าทำให้ข้าทรมานเช่นนี้ หากถอนพิษไม่ได้ เจ้าได้เห็นดีกันแน่”
ซูจิ่นซีไม่พูดตอบ นางทำเพียงยกยิ้มมุมปากและนั่งวางมาดอยู่บนเก้าอี้ ดื่มน้ำชาพลางแกะเมล็ดแตงด้วยท่าทางผ่อนคลายสุดบรรยาย