สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 381 เลื่อนระดับแบบกลุ่ม
ผู้อาวุโสเผ่าที่พูดคนนั้นรู้สึกลมหายใจสะดุด เมื่อถูกซือหม่าโยวเย่ว์มองก็รู้สึกสันหลังเย็นวาบไปหมด
แววอาฆาตในดวงตาของเธอเข้มข้นถึงเพียงนั้นจนมันสัมผัสได้ว่าถ้าหากตนยืนหยัดต่อไป เขาคงจะต้องสังหารตนอย่างไม่ลังเลเป็นแน่
เหมือนตอนนั้นที่อยู่ในดินแดนบรรพบุรุษ ที่เจ้าไก่ฟ้าทำให้ตนได้รับบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย
“พวกเราเห็นด้วย” หรงพูด
“พวกเราก็เห็นด้วยเช่นกัน” กงเหยียนสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะถึงอย่างไรคนในตระกูลของตนก็ถูกข่มขู่เสียแล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์มองพวกเขาแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็สาบานกันเถิด”
ผู้อาวุโสเผ่าเหล่านั้นทยอยกันเอ่ยคำสาบานว่าจะติดตามซือหม่าโยวเย่ว์เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีและให้เธอโยกย้ายได้ตามใจในช่วงระยะเวลาหนึ่งร้อยปีนี้
พวกมันเพิ่งจะพูดจบก็มีแสงสีขาวสายหนึ่งสาดส่องลงมาท่ามกลางฟ้าดิน แสงนั้นไม่ได้เข้าไปในร่างกายพวกมัน นี่คือประโยชน์ของกฎเกณฑ์ ถ้าหากพวกมันผิดต่อคำสาบานที่ได้เอ่ยไปในวันนี้ กฎเกณฑ์ฟ้าดินนั้นก็จะปลิดชีพพวกมันเอง
หลังจากนั้นซือหม่าโยวเย่ว์ก็เอ่ยคำสาบานเช่นกัน บอกว่าหลังจากร้อยปีแล้ว ตนจะปล่อยให้พวกมันเป็นอิสระ เมื่อสาบานเสร็จก็มีกฎเกณฑ์แผ่ลงมา และไม่ได้เข้าสู่ร่างกายเธอเช่นเดียวกัน
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเรียกสัตว์อสูรเทพซึ่งมีพลังยุทธ์ขั้นห้าขึ้นไปออกมาทั้งหมดและให้พวกมันเอ่ยคำสาบานเช่นเดียวกัน เมื่อพวกมันได้รู้ว่าราชาและผู้อาวุโสเผ่าต่างเอ่ยคำสาบานกันไปหมดแล้ว สัตว์อสูรเทพเหล่านี้ก็พากันเอ่ยคำสาบานตามไปด้วยโดยไม่รีรอ
“โยวเย่ว์ จะให้พวกเราอยู่ข้างกายเจ้าไปตลอดร้อยปีนี้เลยหรือ” หรงถาม
แม้สถานที่ที่ซือหม่าโยวเย่ว์ให้แก่พวกเขาจะหายใจได้ แต่กลับไม่อาจฝึกฝนได้เหมือนกับสถานที่อื่นๆ ถ้าหากต้องเนิ่นช้าออกไปร้อยปีเพราะเรื่องนี้ พวกเขาก็รู้สึกไม่ค่อยยินยอมเช่นเดียวกัน
“พวกเจ้าวางใจเถิด เชื่อว่าอีกไม่นานข้าก็จะไปยังดินแดนโบราณ รอข้าขึ้นไปแล้วย่อมต้องหาสถานที่ดีๆ ให้พวกเจ้าได้ลงหลักปักฐานกันแน่นอน” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ย “ถ้าข้าต้องการตัวพวกเจ้า ข้าจะไปตามหาเอง”
หรงพยักหน้า เป็นเช่นนี้ก็ดี
“เอาล่ะ พวกเจ้าเลื่อนระดับกันได้แล้ว”
ซือหม่าโยวเย่ว์เหลือสุดยอดสัตว์อสูรเทพเหล่านั้นเอาไว้ ส่วนที่เหลือก็เก็บกลับเข้าไปในเจดีย์วิญญาณ
“พวกเจ้าตัวไหนที่รู้สึกว่าตนโจมตีสัตว์อสูรเหนือเทพได้แล้วบ้าง” เธอถาม
คำตอบที่ได้รับทำให้เธอตกใจ สองเผ่าพันธุ์รวมกันมีทั้งหมดสามสิบกว่าตัว นอกจากผู้อาวุโสเผ่าและราชาสัตว์อสูรเหล่านั้นแล้ว นอกนั้นยังมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้ที่เลื่อนไปถึงระดับสัตว์อสูรเหนือเทพได้นานแล้ว
“รวมเชียนอินแล้วมีทั้งหมดสามสิบเก้าตัว พวกเจ้าจะฝึกฝนอยู่ที่นี่เพื่อสัมผัสความแตกต่างระหว่างกฎเกณฑ์ก็ได้นะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ขอรับ”
แม้สัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นจะไม่รู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์เก็บพวกตนไว้ที่นี่เพื่ออะไร ก็แค่กระจายกันอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของหุบเขาและสัมผัสความแตกต่างระหว่างที่นี่กับโลกย่อส่วนก็เท่านั้นเอง
ส่วนซือหม่าโยวเย่ว์นั้นนำเตาหลอมยาและเครื่องยาออกมาก่อนจะเริ่มหลอมยา ยาบรรลุเทพไม่ได้มีประโยชน์ต่อระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดขึ้นไปเท่านั้น แต่มีประโยชน์ต่อสัตว์อสูรวิเศษด้วยเช่นเดียวกัน
แม้เครื่องยาจะหายากมาก และการหลอมก็ค่อนข้างยากเช่นกัน แต่ระดับขั้นกลับไม่สูงนัก แค่ขั้นหกเท่านั้น
เธอติดต่อกับเป่ยกงถังก่อน ให้เธอบอกกับพวกอวิ๋นจิ่นเว่ยว่าตนจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน จากนั้นก็บอกพิกัดของตนไปเพื่อให้พวกเป่ยกงถังตามหาตัวเธอได้สะดวก
จากนั้นเธอก็เริ่มหลอมยาบรรลุเทพ
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยหลอมยาชนิดนี้มาก่อน ตอนแรกจึงล้มเหลวไปหลายครั้ง และสิ้นเปลืองเครื่องยาไปมากมาย ทว่ายังดีที่เธอมีเครื่องยามากพอให้เธอใช้ได้อย่างฟุ่มเฟือย
ยาบรรลุเทพนี้เป็นยาที่ล้ำเลิศอย่างแท้จริง ความซับซ้อนของขั้นตอนการหลอมทำให้เธออดทอดถอนใจไม่ได้ อัตราการล้มเหลวเรียกได้ว่ามากชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยทีเดียว
ทว่ายังดีที่พลังจิตของเธอแกร่งกล้า จนเมื่อจวนจะล้มเหลวเธอก็กอบกู้เครื่องยาทั้งเตาเอาไว้ได้ ใช้เวลาถึงสี่วันเต็มๆ จึงจะหลอมยาวิเศษสามสิบเก้าเม็ดออกมาได้
เธอแจกยาบรรลุเทพออกไป สัตว์อสูรวิเศษทุกตัวล้วนได้รับกันหมด ให้พวกเขากินแล้วต่างคนต่างเลื่อนระดับ จากนั้นก็ฝึกต่อไป สองวันให้หลัง ยาบรรลุเทพอีกสามสิบเม็ดก็ออกจากเตาหลอมยา
กว่าจะได้ยาบรรลุเทพมาหกสิบเก้าเม็ดนั้น มีอัตราการหลอมสำเร็จเพียงแค่หกส่วนเท่านั้น ต้องสิ้นเปลืองเครื่องยาไปกว่าสี่ส่วน ไม่กี่วันมานี้เธอสิ้นเปลืองเครื่องยาไปเป็นมูลค่าอย่างน้อยหลายพันล้านแล้ว
ในขณะเดียวกัน บรรดาสัตว์อสูรวิเศษต่างเลื่อนไปถึงระดับสัตว์อสูรเหนือเทพกันอย่างราบรื่น
สัตว์อสูรเหนือเทพสามสิบแปดตนเชียวนะ รวมกับของตัวเองอีกสองตนก็เท่ากับสี่สิบตน กองทัพเช่นนี้แม้กระทั่งขึ้นไปที่ดินแดนโบราณก็ใช่ว่าจะพบเห็นได้โดยง่าย
“เสร็จเรียบร้อยหมดแล้วหรือ” เธอถามเจ้าไก่ฟ้า
เจ้าไก่ฟ้าพยักหน้าตอบว่า “เลื่อนระดับสำเร็จกันหมดแล้ว”
“ไม่เลว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดพลางมองดูเชียนอินที่เลื่อนระดับเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพสำเร็จแล้วจึงเอ่ยแสดงความยินดีว่า “เชียนอิน หางเส้นที่แปดของเจ้างอกแล้วหรือ ช่างดีเหลือเกิน! ถ้าหากเจ้าอยากแปลงร่าง รอให้เรื่องนี้เสร็จสิ้นก่อนแล้วข้าจะหลอมยาวิเศษจำนวนหนึ่งให้เจ้าแล้วค่อยว่ากันนะ”
“ได้เลยเจ้านาย” เชียนอินโบกหางยาวสวยทั้งแปดพลางรับคำ
มันดีใจอย่างยิ่ง เพราะการติดตามเธอทำให้มันเลื่อนระดับจากสัตว์อสูรเทพขั้นสี่กลายเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพตนหนึ่งภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่ปี พลังยุทธ์ก้าวหน้าขึ้นอย่างง่ายดายราวกับดื่มน้ำเลยทีเดียว
นอกจากนี้ตอนนี้ยังมีหางเส้นที่แปดงอกออกมาอีก พลังสายโลหิตของมันจึงยกระดับขึ้นมาอีกไม่น้อย
ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูสัตว์อสูรเหนือเทพตนอื่นๆ ราชาหมาป่าหิมะหรงเดินเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ขอบคุณมาก”
การสำเร็จเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพคือความใฝ่ฝันของพวกมันมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษในอดีตกาลของพวกมันไขว่คว้า ในที่สุดตอนนี้ก็เกิดผลสำเร็จในรุ่นของพวกมัน
นอกจากนี้ถ้าหากมิใช่เพราะยาบรรลุเทพของเธอ ก็ไม่แน่ว่าพวกมันจะเลื่อนระดับได้สำเร็จทุกตัว
“ไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ข้าย่อมต้องคิดหาสิ่งดีๆ ให้พวกเจ้าอยู่แล้ว ถ้าหากผลงานของพวกเจ้าทำให้ข้าพึงพอใจ ถ้าหากบรรพบุรุษของพวกเจ้าอยากจะเลื่อนระดับเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพ ข้าก็ย่อมช่วยเหลือได้ แต่ถ้าหากข้าไม่พอใจ ต่อให้ข้าต้องนำยาบรรลุเทพนี่มาทำลาย ก็ไม่มีทางยอมยกให้พวกเจ้าแน่” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดพลางเหลือบตามองเสือเขี้ยวดาบปราดหนึ่ง
มิใช่ว่าเธอไม่เข้าใจความคิดของเสือเขี้ยวดาบ ถ้าหากพวกมันไม่ช่วยเธอทำงานด้วยความเต็มใจ เธอก็ไม่จำเป็นต้องมอบของดีเหล่านี้ให้แก่พวกมัน
ถึงอย่างไรเธอก็ทำดีเพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น!
“เอาละ พวกเรากลับกันดีกว่า” เธอเก็บสัตว์อสูรวิเศษทั้งหมดเข้าไปภายในเจดีย์วิญญาณ หลังจากนั้นจึงขี่หลังเจ้าวิหคน้อยกลับไปยังที่ตั้งค่าย
เมื่อเห็นเธอกลับมา เป่ยกงถังจึงเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเสียที ถ้าหากเจ้ายังไม่กลับมาอีก ข้าก็จะออกไปตามหาเจ้าแล้ว”
“มีเรื่องอันใดหรือไม่” เธอกระโดดลงจากหลังเจ้าวิหคน้อยพลางถามขึ้น
“ประมุขตระกูลอวิ๋นบอกว่าพวกเขาหาตัวคนที่ไล่ล่าสังหารพวกโยวหลินก่อนหน้านี้พบแล้ว” เป่ยกงถังพูด “แต่ดูท่าทางคนผู้นั้นดูเหมือนจะจากไปแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงเตรียมตัวจะลงมือกันเดี๋ยวนี้เลย”
“หาตัวพบแล้วหรือ อยู่ที่ไหนเล่า”
“อยู่ในเมืองข้างหน้านี่เอง” เป่ยกงถังตอบ
“ได้เลย เจ้าอ้วน เจ้าไปบอกประมุขตระกูลอวิ๋นว่าพวกเราพร้อมออกเดินทางได้ตลอดเวลา” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
เจ้าอ้วนที่อยู่ข้างๆ เหลือบตามองซือหม่าโยวเย่ว์ปราดหนึ่ง ก่อนจะไปยังตระกูลอวิ๋นพร้อมกับบ่นพึมพำ
ซือหม่าโยวเย่ว์และเป่ยกงถังกลับไปยังกระโจมของเธอ เป่ยกงถังเห็นเธอเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่งจึงเอ่ยถามว่า “หลายวันมานี้เจ้าไปทำอะไรมา ถึงได้ดูเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ คงมิได้ไปทำให้สัตว์อสูรวิเศษพวกนั้นเลื่อนระดับเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพหรอกนะ”
“ใช่แล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์ดื่มน้ำทิพย์วิญญาณหยดหนึ่งแล้วพูดว่า “เพื่อเป็นหลักประกัน ข้าจึงหลอมยาบรรลุเทพจำนวนหนึ่ง นี่ก็เพิ่งหลอมเสร็จได้ไม่นานนัก”
“ผลลัพธ์เป็นเช่นไรบ้าง”
ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้มอย่างเบิกบานใจพลางเอ่ยว่า “ถึงแม้ว่ายาวิเศษนั่นจะหลอมค่อนข้างยาก แต่ผลลัพธ์ไม่เลวเลยล่ะ เสือเขี้ยวดาบและหมาป่าหิมะรวมกันแล้วมีสัตว์อสูรเหนือเทพถึงสามสิบแปดตนเลยทีเดียว ส่วนเชียนอินก็เลื่อนระดับกลายเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพด้วย บวกกับเจ้าไก่ฟ้า พวกเราก็มีสัตว์อสูรเหนือเทพถึงสี่สิบตนแล้วนะ! รวมกับสัตว์อสูรเทพเหล่านั้น ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับตำหนักผู้วิเศษและตระกูลจาน พวกเราก็ไม่มีทางตกเป็นรองอย่างแน่นอน!”
…………………………………….