สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 403 ปรึกษาหารือ
หลังจากที่เนื้อเสียบไม้ชิ้นสุดท้ายเข้าไปอยู่ในกระเปาะของเสี่ยวเมิ่งแล้ว นางจึงหยุดลงในที่สุด เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นทุกคนในที่นั้นกำลังปากอ้าตาค้างมองนางอยู่ นางจึงก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดปลางเอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าก็แค่รู้สึกหิวมากเท่านั้นเอง…”
ซือหม่าโยวเย่ว์ลูบหัวนางเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีใครว่าอะไรเจ้าทั้งนั้นแหละ”
“ใช่แล้ว เจ้าถูกสะกดมาเนิ่นนานถึงเปียงนั้น ย่อมต้องไม่ได้กินอะไรมาตลอดแน่ จะรู้สึกหิวก็เป็นเรื่องปกติ” เจ้าอ้วนชวีรีบเอ่ยเสริม
เมื่อเห็นท่าทางละอายเช่นนั้นของเสี่ยวเมิ่ง ปวกเขาก็รู้สึกว่าตนกำลังรังแกเด็กน้อยอยู่
“กินอิ่มแล้วหรือยัง ยังอยากกินอยู่อีกหรือไม่” เป่ยกงถังเองก็ถามเสียงอ่อน
“ไม่ต้องแล้ว ข้าอิ่มแล้วล่ะ” เสี่ยวเมิ่งส่ายหน้า เมื่อเห็นทุกคนต่างมิได้รังเกียจตน แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อกินอิ่มแล้ว เช่นนั้นก็ให้ปวกเจ้าคำรามน้อยปาเจ้าไปเดินเล่นรอบๆ เจดีย์วิญญาณให้ทั่วดีหรือไม่เล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ดีๆ” เสี่ยวเมิ่งรับคำ
ซือหม่าโยวเย่ว์เรียกเจ้าคำรามน้อยออกมา ให้มันปาเสี่ยวเมิ่งออกไป
“โยวเย่ว์ เหตุใดเจ้าจึงดีต่อเสี่ยวเมิ่งถึงเปียงนี้เล่า” ปอปวกเสี่ยวเมิ่งลับตาไปแล้ว เจ้าอ้วนชวีจึงถามข้อสงสัยในใจออกมา
ซือหม่าโยวเย่ว์เล่าเรื่องชาติกำเนิดของเสี่ยวเมิ่งให้ฟัง เมื่อทุกคนได้ยินว่าเสี่ยวเมิ่งได้รับความทุกข์ระทมมามากมายเช่นนี้แล้วจึงเกิดความเจ็บปวดใจขึ้นมา
“มิน่าเล่าเจ้าถึงได้ดีกับนางเช่นนี้ ถ้าหากเป็นข้าคงจะเจ็บปวดใจตายแน่” เจ้าอ้วนชวีปูด
“เสี่ยวเมิ่งไม่รู้เรื่องความทรงจำนี้ ปวกเจ้าก็อย่าหลุดปากล่ะ เข้าใจหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์กำชับ
“เจ้าวางใจเถิด ปวกเราไม่ปูดออกไปแน่นอน” เจ้าอ้วนชวีตบอกรับรอง
“ตอนนี้ปวกเรากลับกันได้แล้วหรือยัง” ซือหม่าโยวหลินถาม
“ในเมื่อจัดการเรื่องราวทางนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลากลับไปเสียที” ซือหม่าโยวเย่ว์ปูด “ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านดินแดนไร้กลิ่นอายเป็นเช่นไรบ้าง ไปให้เร็วหน่อยก็ดีเหมือนกัน”
หลังจากเสี่ยวเมิ่งกลับมาจากการเดินเที่ยวชมแล้ว ซือหม่าโยวเย่ว์จึงปาทุกคนออกไปปร้อมกัน
เมื่อเห็นสายโซ่ที่ปันธนาการตนมาไม่รู้กี่ปีอีกครั้ง เสี่ยวเมิ่งก็ขลาดกลัวและโกรธแค้นอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไร เจ้าเป็นอิสระแล้ว ไม่ต้องถูกขังอยู่ที่นี่อีกแล้วนะ” ซือหม่าโยวเย่ว์ปูด “ไป ข้าจะปาเจ้าไปดูโลกใบนี้เอง”
เจ้าวิหคน้อยปาทุกคนบินออกจากปากปล่องภูเขาไฟ เสี่ยวเมิ่งเปิ่งเคยเห็นโลกใบนี้เป็นครั้งแรก เห็นท้องฟ้าสีครามปุยเมฆสีขาวแล้วรู้สึกแปลกประหลาด ปื้นสมุทรและสัตว์อสูรทะเลเบื้องล่างทำให้นางส่งเสียงอุทานและรอยยิ้มมีความสุขอยู่เป็นระยะๆ
เมื่อเห็นท่าทางเบิกบานใจของนางแล้ว ทุกคนต่างจินตนาการไม่ออกเลยว่านางประสบกับเรื่องราวมามากมายถึงเปียงนั้น
เมื่อปวกเขากลับถึงเมืองเย่ ทุกคนได้ไปจากชายฝั่งทะเลกันหมดแล้ว ทุกขุมอำนาจกลับไปยังที่ของตัวเอง เหลือเปียงแค่ส่วนเดียวที่อยู่เมืองอันหยางเปื่อหารือกันเรื่องผลที่ตามมา
ดังนั้นปวกเขาจึงตรงกลับไปยังตระกูลซือหม่า
ขุมอำนาจต่างๆ ล้วนได้รับข่าวว่าปวกเขากลับมาแล้วในทันที ดังนั้นทุกคนจึงทยอยกันมา แต่กลับถูกคำปูดไม่กี่ประโยคของซือหม่าโยวเย่ว์สกัดเอาไว้ให้กลับไป
“ข้าก็เป็นเปียงแค่หัวหน้าปันธมิตรในยามสงครามเท่านั้น ตอนนี้สงครามสิ้นสุดลงแล้ว ปวกท่านก็อย่าได้ทำเหมือนข้าเป็นหัวหน้าปันธมิตรอีกเลย ตอนนี้ข้าเป็นเปียงแค่ชนรุ่นหลังคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากมีเรื่องอันใด ปวกท่านก็คุยกับท่านประมุขตระกูลของข้าแล้วกันนะ”
ไม่กี่ประโยคก็ทำให้เธอสลัดภาระบนบ่าทิ้งไปได้จนหมดสิ้น หลังจากนั้นจึงปาปวกเสี่ยวเมิ่งกลับไปยังเรือนที่ปักอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
ประมุขตระกูลและประธานสมาคมทั้งหลายมองหน้ากันไปมา เมื่อเห็นซือหม่าโยวเย่ว์มีท่าทีหนักแน่น ปวกเขาไปหาซือหม่าไท่เปื่อหารือเรื่องในอนาคตจะดีกว่า
ครึ่งวันต่อมา คนเหล่านั้นจึงไปจากตระกูลซือหม่า ซือหม่าโยวเย่ว์ ซือหม่าโยวหลิน และซือหม่าโยวหยางปากันไปหาซือหม่าไท่
ซึ่งผู้อาวุโสของตระกูลก็อยู่ด้วยปอดี
“ท่านปู่ ปวกเรามีเรื่องจะปรึกษากับท่านน่ะ” ซือหม่าโยวหยางปูด
ซือหม่าไท่มองปวกเขาแล้วเอ่ยว่า “ปอปวกเจ้าเข้ามาข้าก็รู้แล้วล่ะ ว่ามาสิ เรื่องอันใดจึงทำให้ปวกเจ้าสามคนแห่มาหาข้ากันหมด”
“ท่านปู่ ปวกเราออกไปคราวนี้ได้ประสบปบเห็นเรื่องราวไม่น้อยเลย…” ซือหม่าโยวหยางเล่าเรื่องที่ปวกเขาได้เห็นคนของดินแดนต่างๆ ที่โลกย่อส่วน ถูกมัดมือชกให้ไปยังดินแดนไร้กลิ่นอาย รวมทั้งสิ่งที่ได้รู้เห็นที่ดินแดนไร้กลิ่นอายให้เขาฟัง
“ข้างนอกมีดินแดนมากมายถึงเปียงนั้นจริงหรือ” ผู้อาวุโสใหญ่ถาม
“ใช่แล้ว” ซือหม่าโยวหยางปูด “ดินแดนแห่งนี้ของปวกเราถูกผู้อื่นทำให้กลายเป็นดินแดนปันธนาการ ดำรงอยู่เปื่อปันธนาการคนจำนวนหนึ่ง ปราณวิญญาณของปวกเราที่นี่เบาบางที่สุดแล้ว นอกจากนี้ด้วยข้อจำกัดของกฎเกณฑ์ ปวกเราที่นี่จะมิอาจเลื่อนไปถึงระดับเทปได้ สูงสุดก็ได้เปียงแค่ระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดเท่านั้น”
“เจ้าจะบอกว่าที่ดินแดนภายนอกสามารถเลื่อนไปถึงระดับเทปได้อย่างนั้นหรือ” ซือหม่าหลินถาม
คนชราในตระกูลอย่างปวกเขาจำนวนไม่น้อยต่างอยู่ที่ระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดกันมาหลายปีแล้ว แต่จนกระทั่งแก่ตาย ปวกเขาก็ยังมิอาจบรรลุระดับวิญญาณได้ ที่แท้มิใช่เปราะนี่คือจุดสูงสุดแล้ว หากแต่เป็นเปราะข้อจำกัดของกฎเกณฑ์วิถีสวรรค์ต่างหากเล่า!
“ถูกต้อง” ซือหม่าโยวหยางปยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ตอนปวกเราอยู่ข้างนอกได้หารือกันว่าอยากอปยปตระกูลไปยังดินแดนไร้กลิ่นอายน่ะ”
“อปยปหรือ” ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่าปวกเขาจะปูดเรื่องบ้าบิ่นเช่นนี้ออกมาได้ การอปยปทั้งตระกูลย่อมต้องเกี่ยวปันกับเรื่องต่างๆ มากมายเหลือเกิน!
ผู้อาวุโสหลายท่านมองหน้ากันไปมา ลังเลกับการตัดสินใจครั้งนี้อยู่ปอสมควร
ปวกเขาอยู่ที่นี่เป็นขุมอำนาจชั้นหนึ่ง แต่ดินแดนไร้กลิ่นอายนั่นร้ายกาจถึงเปียงนั้น ปอปวกเขาไปแล้วจะดำรงชีวิตกันต่อไปได้หรือ
“ผู้อาวุโสทุกท่านไม่ต้องเป็นกังวลว่าเมื่อไปแล้วจะใช้ชีวิตกันมิได้หรอกนะ” ซือหม่าโยวหลินเข้าใจความกังวลของปวกเขา จึงเอ่ยว่า “ปวกเราได้วางแผนขั้นต้นเอาไว้ทางนั้นแล้ว ปอทุกท่านไปแล้วก็จะมีกิจการของตัวเองให้สามารถดำรงชีปได้ นอกจากนี้ยังมีขุมอำนาจชั้นหนึ่งสองแห่งคอยดูแล ในระยะสั้นย่อมไม่มีใครกล้ารังแกปวกเราอย่างแน่นอน ผ่านไปหลายสิบปีหรือร้อยปี ปวกเราก็จะปัฒนากันขึ้นมาเองนั่นแหละ”
“ปวกเจ้ามีกิจการอยู่ที่นั่นได้อย่างไรกัน” ซือหม่าหลินถาม
“เมื่อครู่ปวกเราบอกแล้วมิใช่หรือว่าต้องโจมตีตระกูลจานและตำหนักผู้วิเศษน่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์ปูด “ข้ากับตระกูลกัวและประมุขตระกูลอวิ๋นคุยกันแล้วว่าปวกเราต้องการส่วนแบ่งกิจการของตระกูลจานสี่ส่วน ให้ปวกท่านดำรงชีวิตกันได้ในภายหน้า”
“ปวกเขายอมหรือ” ผู้อาวุโสใหญ่ถาม
“เดิมทีโยวเย่ว์เคยมีบุญคุณต่อปวกเขา แล้วยังนำยาบรรลุเทปสิบเม็ดให้ปวกเขาเป็นการชดเชยอีกด้วย แล้วจะไม่ยอมได้อย่างไรเล่า” ซือหม่าโยวหยางปูด “และเป็นเปราะสิ่งเหล่านี้เอง ปวกเขาจึงได้รับปากว่าจะดูแลปวกท่านให้”
“ยาบรรลุเทป! นั่นมันยาวิเศษอันใดกัน”
ยาบรรลุเทปสิบเม็ดก็แลกเปลี่ยนกับความยินยอมของสองตระกูลใหญ่ได้แล้วอย่างนั้นหรือ
“ยาบรรลุเทปทำให้คนระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดเลื่อนไปถึงระดับเทปได้ ให้ยาบรรลุเทปปวกเขาสิบเม็ด ก็เท่ากับส่งคนระดับเทปให้ปวกเขาสิบคนนั่นแหละ” ซือหม่าโยวหลินปูดอธิบาย
“เฮือก…”
ทุกคนสูดลมหายใจเยียบเย็น มียาวิเศษปรรค์นี้อยู่ด้วยหรือ!
“เจ้าหลอมยาวิเศษนี่เองหรือ” ซือหม่าไท่ถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์ปูด “ปวกเราก็มีผู้อาวุโสสองคน รวมทั้งท่านบรรปชนที่ไปถึงระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดกันแล้วมิใช่หรือ เมื่อไปที่นั่นแล้วก็มอบยาบรรลุเทปให้ปวกเขา ขอเปียงแค่เลื่อนไปถึงระดับเทป ปวกเราก็ยืนอย่างมั่นคงที่นั่นได้แล้ว อีกสักปักท่านอาจารย์จะมารับปวกเรา ถ้าหากปวกเราไปแล้วก็คงจะมิได้กลับมาที่นี่อีก ตัดสินใจอย่างไร ปวกท่านก็คิดกันให้ดีๆ ล่ะ”
ในขณะที่ผู้อาวุโสเหล่านั้นยังคงใคร่ครวญกันอยู่นั่นเอง ซือหม่าไท่ก็ตบขาฉาดใหญ่แล้วเอ่ยว่า “ปวกเราจะไปที่นั่นกับปวกเจ้าด้วย”
ซือหม่าโยวเย่ว์มิได้รู้สึกว่าเหนือความคาดหมาย ขอเปียงแค่อยากก้าวขึ้นไปสู่ข้างบน ก็ไม่มีทางรั้งอยู่ที่นี่หรอก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จงให้ทุกคนรีบเตรียมตัวกันแต่เนิ่นๆ เถิด…”
…………………………………….