สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 406 ทำให้หมดสติทั้งหมด
“โยวเย่ว์ พวกเขาเป็นอะไรกันไปหมดน่ะ” พวกซือหม่าเลี่ยเห็นคนเหล่านั้นล้มลงไปกันหมดจึงมองเธออย่างตกใจ
“ซือหม่าไท่ ท่านทำอะไรกับพวกเราน่ะ!” บรรดาผู้ที่มิได้ล้มลงหมดสติตะคอกใส่ซือหม่าไท่
ซือหม่าไท่เองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เขามองซือหม่าโยวเย่ว์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
และในขณะนี้เอง เว่ยจือฉีและซือหม่าโยวหยางที่กระจายตัวอยู่ในฝูงชนก็หยิบขวดยาลักษณะเดียวกันออกมาเปิดจุกขวดออก
“ตึง…”
“ตึง…”
ผู้คนล้มลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาในใจ
ถ้าหากคนของตระกูลซือหม่าต้องการทำอะไรกับพวกเขา ตอนนี้พวกเขาล้วนไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่นิดเดียว!
ซือหม่าโยวเย่ว์มองเหล่าประมุขตระกูลที่โกรธแค้นพลางเอ่ยว่า “พวกท่านวางใจเถิด รอให้พวกท่านฟื้นขึ้นมา พวกท่านก็จะอยู่ที่ดินแดนไร้กลิ่นอายแล้วล่ะ เพียงแต่กระบวนการนี้จำเป ป็นต้องเป็นความลับ ดังนั้นจึงต้องล่วงเกินพวกท่านสักหน่อย”
บรรดาประมุขตระกูลเหล่านั้นยังอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าแม้กระทั่งพวกเขาเองก็ยังมิอาจต้านทานกลิ่นลวงวิญญาณของซือหม่าโยวเย่ว์ได้เลย แต่ละคนล้มลงตามๆ กัน แม้กระทั่งคนของตระ ะกูลซือหม่าก็มิใช่ข้อยกเว้น
สุดท้ายนอกจากพวกซือหม่าโยวหยางไม่กี่คนที่กินยาถอนพิษลงไปก่อนล่วงหน้าจึงมิได้หมดสติ ก็เหลือเพียงแค่อวิ๋นอี้และมารเฒ่าแล้ว
มารเฒ่ามองดูผู้คนเต็มภูเขาแล้วพูดว่า “เจ้าคิดจะพาตัวพวกเขาไปเช่นไร”
“เรื่องนี้ง่ายดายนัก” ซือหม่าโยวเย่ว์โบกมือคราหนึ่ง ผู้คนบนภูเขาทั้งหลายก็ถูกเธอเก็บเข้าไปภายในเจดีย์วิญญาณ
“นี่คือสมบัติล้ำค่าอันใดกัน” มารเฒ่าถามอย่างตกใจ
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มพลางนำคนที่เหลือเข้าไป
ปฏิกิริยาของมารเฒ่าเมื่อเข้ามาสู่เจดีย์วิญญาณก็มิได้แตกต่างจากผู้อื่น เขาพรั่นพรึงไม่น้อย แต่เขาได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางพูดว่า “คิดไม่ถึงว่า าเจ้าจะมีสมบัติชิ้นนี้อยู่ด้วย ไม่เลว ไม่เลวเลย”
“ท่านเจ้าหุบเขารอง ท่านไม่รู้หรอกว่าเวลาของที่นี่เคลื่อนตัวเร็วกว่าข้างนอกมากพอสมควรทีเดียว ข้างนอกหนึ่งวันเท่ากับข้างในสิบวันเลยล่ะ” อวิ๋นอี้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วยั งคงตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นวิธีการโกงอย่างหนึ่งชัดๆ!
มารเฒ่าเลิกคิ้ว อาวุธเทพมีประโยชน์เช่นนี้ได้ด้วยหรือ
“ท่านอาจารย์ ข้าจะพาท่านไปชมสักรอบหนึ่งแล้วกัน” ซือหม่าโยวเย่ว์อมยิ้มพูด
“ดี”
ซือหม่าโยวเย่ว์พามารเฒ่าไปชมสถานที่ที่พวกเขาอาศัยกันเป็นหลักในตอนนี้รอบหนึ่ง ชายชราชมดูอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะตอนที่เขาได้รู้ว่าผสานรวมกับเจดีย์เจ็ดชั้น ก็ยิ่งพรั่น นพรึงไม่น้อยเลย
“เจดีย์เจ็ดชั้นนี้เคยเป็นถึงสมบัติล้ำค่าของสุดยอดมหาปรมาจารย์ หายสาบสูญไปนานมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะได้มันมาครอง”
“ท่านอาจารย์ ในเมื่อชมเสร็จแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันดีกว่า” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ดี” มารเฒ่ารับคำเพราะรู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์รีบไปที่นั่น
หลังซือหม่าโยวเย่ว์พาออกไป เขาก็สร้างอุโมงค์ทางเดินเส้นหนึ่งขึ้นมากลางอากาศ ในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมตัวจะจากไปอยู่นั้นเอง เงาร่างคนสายหนึ่งก็เหินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“โปรดรอก่อน” คนผู้นั้นเห็นอุโมงค์ทางเดินกลางอากาศจึงเอ่ยเรียก
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นผู้ที่เข้ามาอย่างชัดเจนแล้วสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะเรียกโอวหยางเฟยออกมา
โอวหยางเฟยเห็นผู้มาเยือนจึงร้องเรียกอย่างตกใจ “ท่านแม่!”
ซางมู่อวี่ทะยานเข้ามา เมื่อเห็นว่าโอวหยางเฟยยังอยู่ จึงพูดอย่างดีใจว่า “โชคดีที่เจ้ายังไม่ไป”
“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงมาได้เล่า” โอวหยางเฟยถาม
ซางมู่อวี่มองบุตรชายของตนด้วยความรักใคร่พลางเอ่ยว่า “ท่านพ่อท่านแม่ข้ามีบุตรธิดามากมาย แต่แม่มีเจ้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“ท่านแม่ ท่านจะไปจากที่นี่พร้อมข้าใช่หรือไม่” โอวหยางเฟยถามอย่างตื่นเต้นดีใจ
ซางมู่อวี่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
ตอนที่โอวหยางเฟยกลับมาบอกข่าวนางเรื่องจะไปจากที่นี่ นางลังเลเป็นอย่างมากจริงๆ เพราะตระกูลของตนไม่อยากไป ทำให้นางไม่คิดจะจากไปในตอนนั้น
แต่หลังจากที่โอวหยางเฟยจากไปแล้ว นางก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะมิได้พบบุตรชายของตนอีกตลอดกาล นางจึงนึกเสียใจขึ้นมา ก่อนจะไล่ตามมาภายใต้การสนับสนุนของมารดาตน
ยังดีที่ตามมาทัน
ชั่วขณะที่ได้เห็นโอวหยางเฟย หัวใจที่ลอยคว้างมาโดยตลอดก็คลายลง ดูเหมือนการที่นางตัดสินใจตามมานั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
“โยวเย่ว์” โอวหยางเฟยมองซือหม่าโยวเย่ว์อย่างดีใจ
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ท่านป้าไปกับพวกเราอีกแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็พานางเข้าไปเถิด”
โอวหยางเฟยกำลังคิดจะถามว่าต้องทำเช่นเดียวกับผู้อื่นหรือไม่ ก็ได้ยินเธอพูดว่า “ในภายหน้าท่านป้าจะต้องติดตามเจ้าไปอย่างแน่นอน ให้นางรู้เรื่องนี้ไปก็ไม่เป็นไร พวกเจ้าเข้าไปเถิ ด”
เธอพูดพลางเก็บตัวโอวหยางเฟยและซางมู่อวี่เข้าไปภายในเจดีย์วิญญาณ
ซางมู่อวี่ยังไม่ทันเข้าใจคำพูดของซือหม่าโยวเย่ว์ก็เห็นว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบเปลี่ยนไป ตนเองก็มาถึงยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งแล้ว
พวกเว่ยจือฉีมองเห็นซางมู่อวี่แล้วตกตะลึงอยู่บ้าง แต่ก็ยังเข้าไปทำความเคารพแล้วเอ่ยว่า “คารวะท่านป้า”
ซางมู่อวี่คว้ามือโอวหยางเฟยเอาไว้อย่างตกใจอยู่บ้างพลางพูดว่า “เฟยเอ๋อร์ นี่…”
“ท่านแม่ อย่ากลัวไปเลย ที่นี่คือสถานที่ของโยวเย่ว์ ข้าจะพาท่านไปชมรอบๆ เอง ระหว่างนี้จะได้เล่าเรื่องที่นี่ให้ท่านฟังไปด้วย” โอวหยางเฟยพูดพลางกุมมือมารดาตนเอาไว้
“ดี…”
ที่ด้านนอก มารเฒ่ามองซือหม่าโยวเย่ว์แล้วพูดว่า “ไปกันเถิด ถ้าหากยังไม่ไป อุโมงค์ทางเดินก็จะปิดตัวลงแล้วนะ”
“ท่านอาจารย์ เชิญ”
ทั้งสองเข้าไปภายในอุโมงค์ทางเดิน และในขณะเดียวกันก็มีคนหลายคนบินเข้ามาจากที่ไกลๆ หมายจะพุ่งตัวเข้าไปก่อนที่อุโมงค์ทางเดินจะผสานตัวกันสนิท แต่เพิ่งเหยียบย่างเข้าไปภายในอุโม มงค์ทางเดินก็ถูกโจมตีกลับมาเสียแล้ว
“ตึง… ตึง… ตึง…”
พวกเขาหลายคนกระเด็นลงสู่พื้น ขบฟันเม้มปากด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับมองอุโมงค์ทางเดินนั้นปิดตัวลงไปต่อหน้าต่อตา
“ก็แค่ขอใช้อุโมงค์ทางเดินด้วยเท่านั้น ถึงกับต้องไล่พวกเราออกมา ตาเฒ่าสมควรตาย!” ประมุขตระกูลน่าหลานกุมบั้นเอวชราของตนพลางลุกขึ้นยืน
ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็คือผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลน่าหลานนั่นเอง
เสียงก่นด่าของเขาเพิ่งดังขึ้น อุโมงค์ทางเดินก็เปิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนดีใจ
แต่พวกเขายังไม่ทันพุ่งตัวขึ้นไปอีกครั้ง มือที่เกิดจากพลังวิญญาณข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาจากภายในอุโมงค์ทางเดินแล้วคว้าตัวประมุขตระกูลน่าหลานเอาไว้ ก่อนจะบดขยี้เขาเสียงดังปึงจ จนกลายเป็นหมอกโลหิตกลุ่มหนึ่ง
จากนั้นอุโมงค์ทางเดินนั้นก็ประสานติดกันอีกครั้ง
ผู้อาวุโสของตระกูลน่าหลานตกตะลึงตาค้างมองจุดที่ท่านประมุขตระกูลของตนยืนอยู่เมื่อครู่ ได้กลิ่นคาวเลือดในอากาศแล้วตะลึงงันไป
“ท่าน… ท่านประมุขตระกูลตายแล้ว…”
ณ ยอดเขาแห่งหนึ่งบนดินแดนไร้กลิ่นอาย อุโมงค์ทางเดินแห่งหนึ่งค่อยๆ เปิดออกกลางอากาศ เงาร่างคนสองสายเดินออกมา
“เอาล่ะ ข้ากลับไปยังเบื้องบนก่อนละนะ” มารเฒ่าออกมาแล้วพูดขึ้น
ซือหม่าโยวเย่ว์คารวะมารเฒ่าแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์เดินทางปลอดภัย”
“แล้วระยะนี้น้ำผึ้งของผึ้งแดงมีมากเพียงใดแล้วเล่า ขึ้นไปคราวนี้ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบเจ้าอีก เจ้ามอบให้ข้าสักหน่อยสิ ข้าจะเอาไปใช้หลอมยาข้างบน” มารเฒ่าเห็นซือหม่าโยวเย่ว์ จะปล่อยให้ตนจากไปทั้งอย่างนี้จึงพูดพลางจ้องมองเธอ
“ท่านอาจารย์ ท่านมิได้มีผึ้งแดงตั้งมากมายหรอกหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์กลอกตาใส่มารเฒ่า
เป็นอาจารย์ทั้งที แต่ก่อนจากไปกลับไม่มอบของขวัญให้ศิษย์อย่างตน แล้วยังถามหาสิ่งของจากศิษย์ ช่างน่าขายหน้านัก!
“น้ำผึ้งที่ผึ้งแดงเหล่านั้นผลิตจะเพียงพอให้ข้าใช้ได้อย่างไรกันเล่า” มารเฒ่าพูด
“ข้ารู้น่า!” ซือหม่าโยวเย่ว์หยิบขวดแก้วความยาวเท่าฝ่ามือใบหนึ่งมามอบให้มารเฒ่า ซึ่งภายในนั้นก็คือน้ำผึ้งแดง “เตรียมไว้ให้ท่านตั้งนานแล้ว”
“แค่นี้เองหรือ” มารเฒ่าถลึงตา
“นี่คือภาชนะห้วงมิติที่เจ้าอ้วนเพิ่งหัดหลอมได้เชียวนะ! ถ้ามันน้อยเกินไปก็คืนข้ามาเสีย” ซือหม่าโยวเย่ว์แกล้งดึงกลับมา
มารเฒ่าใส่พลังจิตเข้าไป ปรากฏว่าภายในนั้นมีขนาดราวๆ ครึ่งห้อง ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยน้ำผึ้งแดง จึงเปิดอุโมงค์ทางเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“รอให้ไปถึงระดับเทพแล้วได้ขึ้นไปข้างบน เจ้างั่งพวกนั้นล้วนอยากพบเจ้าทั้งสิ้น…” เสียงของมารเฒ่าลอยมาจากภายในอุโมงค์ทางเดิน