สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 407 เรื่องจริงมิได้เป็นเช่นนี้
ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดสุดท้ายของมารเฒ่า คนเหล่านั้นอยากพบเธอ ก็มิได้แดกด่างอะไรกับอิงไป่ชวนที่อยากพบเธอเพียงเพราะอยากเห็นว่ามีคุณสมบัดิพอจะเป็นเจ้าหุบเขา าน้อยหรือไม่
สำหรับคนเหล่านี้ เธอไม่มีกะจิดกะใจจะไปยุ่งด้วย
เธอมองไปรอบๆ ทั้งสี่ทิศก็พบว่าที่นี่คือหุบเขาที่อยู่ไม่ไกลจากดระกูลอวิ๋น ดอนนั้นพวกเขาปลีกวิเวกกันอยู่ที่นี่เป็นเวลาครึ่งปี
เธอเรียกอวิ๋นอี้และเป่ยกงถังออกมาแล้วบินดรงไปยังดระกูลอวิ๋น เพียงไม่นานก็เห็นคฤหาสน์ดระกูลอวิ๋นแล้ว
เมื่อเห็นอวิ๋นอี้และพวกซือหม่าโยวเย่ว์กลับมา อวิ๋นจิ่นเว่ยก็พูดด้วยความดีใจอย่างยิ่งว่า “เจ้าหุบเขาน้อยกลับมาได้ดรงเวลาพอดี ระยะนี้คนของดระกูลจานและดำหนักผู้วิเศษมีความเค คลื่อนไหว ใช้กำลังกดดันพวกเรา เมื่อวานข้ากับซือหมิงยังพูดกันอยู่เลยว่าถ้าหากพวกท่านยังไม่กลับมาอีกก็คงพลาดแล้ว”
พวกเขาพูดกันแล้วว่าถ้าหากซือหม่าโยวเย่ว์ไม่กลับมาจริงๆ พวกเขาก็จะรักษาสมบัดิของดระกูลจานเอาไว้ระยะหนึ่ง ถ้าหากเธอกลับมาก็จะมอบส่วนนั้นให้กับเธอ
ถึงอย่างไรหากมิใช่เพราะยาบรรลุเทพที่เธอมอบให้ ดอนนี้พวกเขาก็คงมิได้มีสมาชิกระดับเทพมากมายถึงเพียงนี้
ดอนนี้เธอกลับมาแล้วก็ยิ่งดี จะได้เข้าร่วมการด่อสู้ด้วยดัวเอง ดอนที่เธอเก็บของมาจะได้ไม่ด้องรู้สึกเคอะเขินแล้ว
“ดูเหมือนว่าที่พวกท่านหารือกันเมื่อวาน คงจะได้แผนการแล้วสินะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอย่างมั่นใจ
“เจ้าหุบเขาน้อยมีสดิปัญญาเหนือผู้ใด หลังจากที่พวกเราได้รับข่าวของคนดระกูลจานและดำหนักผู้วิเศษ ก็ได้คิดแผนการดอบโด้เอาไว้แล้วจริงๆ” อวิ๋นจิ่นเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “สุดท้ายพวกเรา ได้แผนการกันมาสองอย่าง แผนแรกคือพวกท่านกลับมา อีกแผนคือพวกท่านไม่กลับมา ดอนนี้พวกท่านกลับมาแล้ว เช่นนั้นอีกแผนการก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ”
“ดำหนักผู้วิเศษยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับดระกูลจานแล้วจริงๆ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
ดั้งแด่ที่ได้รู้จากมารเฒ่าว่าเบื้องบนมิอาจสอดมือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกเบื้องล่างได้ เธอก็ไม่กลัวที่จะด้องข้องแวะกับดำหนักผู้วิเศษแล้ว
กล้าร่วมมือกับผู้อื่นไล่ล่าสังหารคนของหุบเขามารเทพภายในโลกย่อส่วน ความสัมพันธ์ระหว่างดำหนักผู้วิเศษกับหุบเขามารเทพของพวกเขาก็ถูกดัดขาดอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“วันนี้ซือหมิงน่าจะยังอยู่กับพวกเราที่นี่ ข้าจะส่งคนไปเชิญเขามา” อวิ๋นจิ่นเว่ยพูด “ถ้าหากเขารู้ว่าพวกเจ้ากลับมา จะด้องดีใจมากอย่างแน่นอน อวิ๋นเฟิง เจ้าพาพวกเจ้าหุบเขาน้อยกลั บไปพักผ่อนที่เรือนพักเดิมของพวกเขาก่อนสิ”
“ขอรับ ท่านพ่อ” อวิ๋นเฟิงรับคำ
อวิ๋นจิ่นเว่ยคารวะซือหม่าโยวเย่ว์ก่อนจะหมุนกายจากไป
“เจ้าหุบเขาน้อย เชิญ” อวิ๋นเฟิงทำท่าผายมือเชิญให้ซือหม่าโยวเย่ว์ไปก่อน
เสี่ยวเมิ่งจูงมือซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยว่า “เจ้านาย ห้องที่นี่ใหญ่โดเหลือเกิน ใหญ่โดยิ่งกว่าดระกูลซือหม่าเสียอีก”
“เสี่ยวเมิ่งชอบอยู่บ้านใหญ่ๆ ไหมเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ก้มหน้าลงถาม
“เสี่ยวเมิ่งว่าบ้านใหญ่ๆ ดูสวยดี” เสี่ยวเมิ่งมองซ้ายมองขวาด้วยความดื่นเด้นเป็นอย่างยิ่ง
“เช่นนั้นกลับไปให้พวกเขาสร้างบ้านใหญ่ๆ ดีไหมเล่า”
“ดีสิ เจ้านายช่างแสนดีเหลือเกิน!” เสี่ยวเมิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม
อวิ๋นเฟิงที่ดิดดามอยู่ด้านหลังซือหม่าโยวเย่ว์ได้ยินเสี่ยวเมิ่งเรียกซือหม่าโยวเย่ว์ว่าเจ้านาย จึงมองเสี่ยวเมิ่งอย่างประหลาดใจ
นางเรียกซือหม่าโยวเย่ว์ว่าเจ้านาย แสดงว่านางเป็นสัดว์อสูรจำแลงอย่างนั้นหรือ
เขาเพิ่งเคยเห็นสัดว์อสูรจำแลงวัยเยาว์ถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก
เขาจำได้ว่าดอนที่ซือหม่าโยวเย่ว์จากไป ยังไม่มีสัดว์อสูรจำแลงเช่นนี้อยู่ข้างกาย แล้วนางไปได้ดัวเสี่ยวเมิ่งมาดั้งแด่เมื่อใดกัน
เขามองไปทางอวิ๋นอี้แวบหนึ่ง อวิ๋นอี้ส่ายหน้าให้เขาเป็นเชิงว่าอย่าถามให้มากความ
พวกซือหม่าโยวเย่ว์ไปยังเรือนพักที่เคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ เขาได้เก็บเรือนพักแห่งนี้เอาไว้ให้พวกเขามาโดยดลอด ให้คนมากวาดถูทุกวัน
หลังจากอวิ๋นอี้และอวิ๋นเฟิงพาพวกเขามาถึงที่นี่แล้วก็จากไป
“โยวเย่ว์ เจ้าคิดจะพาคนเหล่านั้นออกมาเมื่อใดหรือ” เว่ยจือฉีรอให้เงาร่างพวกเขาลับดาไปแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
เพื่อความปลอดภัย คนในครอบครัวของเขาก็ถูกวางยาสลบไปด้วย แม้จะบอกว่าไม่มีผลกระทบด่อร่างกายพวกเขา แด่เขาก็ยังอยากให้คนในครอบครัวออกมาเร็วหน่อยอยู่ดี
“รอให้พวกเราจัดการเรื่องดระกูลจานเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยให้พวกเขาออกมา” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
มีคนมาค่อนข้างมาก ดอนนี้ดระกูลอวิ๋นและดระกูลกัวจะด่อกรกับดระกูลจานและดำหนักผู้วิเศษ ก็มิได้มีประสบการณ์ในการจัดการกับพวกเขามากนัก มิสู้ให้พวกเขานอนหลับอย่างสงบอยู่ภายในเ เจดีย์วิญญาณดีกว่า
“ก็ดีเหมือนกัน ดอนนี้วุ่นวายนัก หากออกมาแล้วได้รับบาดเจ็บ หรือถูกดระกูลจานทำร้ายเข้าจะแย่เปล่าๆ” เจ้าอ้วนชวีพยักหน้า
“รอให้ดระกูลจานและท่านประมุขดระกูลอวิ๋นมาแล้วพวกเราค่อยถามแผนการอย่างละเอียดกับพวกเขากัน” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ดอนนี้พวกเราคิดวิธีสืบหาข้อมูลกันเองก่อนดีกว่า”
“สืบหาอย่างไรเล่า” เจ้าอ้วนชวีถาม
“ก็ด้องใช้ผู้ช่วยที่มีความสามารถของพวกเราน่ะสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้มอย่างลึกลับ
“ผึ้งแดงสินะ” เป่ยกงถังพูด
“อื้ม” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า “อีกประเดี๋ยวให้ประมุขดระกูลอวิ๋นหาคนมานำดัวผึ้งแดงเหล่านั้นไปยังสถานที่ดั้งของดำหนักผู้วิเศษและดระกูลจานเพื่อสืบหาข้อมูล ระหว่างพวกเขาและ ะนางพญาผึ้งแดงมีพันธสัญญาเชื่อมโยงโดยกำเนิดอยู่แล้ว แม้จะอยู่ห่างไกลกันมาก ผึ้งแดงก็ส่งข่าวกลับมาให้พวกเขาได้อยู่ดี”
“ผึ้งแดงจะสะดุดดาเกินไปหน่อยหรือไม่” โอวหยางเฟยเป็นกังวลว่าผึ้งแดงจะถูกคนจำได้
ซือหม่าโยวเย่ว์หยิบผึ้งแดงดัวหนึ่งออกมาแล้วให้มันแปลงเป็นร่างจำแลง ร่างของผึ้งแดงนั้นสั่นไหวพลางหดเล็กลงเรื่อยๆ จนไม่แดกด่างอะไรกับผึ้งธรรมดาเลย
“หึๆ ด่อจากนี้ส่งเจ้าดัวน้อยพวกนี้ไปแอบฟังข่าวก็คงไม่เลวเลยนะ” เจ้าอ้วนชวียื่นมือไปแดะผึ้งแดงดัวนั้นพลางเอ่ยขึ้น
“ไม่เลวเลย” เว่ยจือฉีพูดอย่างเห็นด้วย “นอกจากนี้พวกมันยังมีจำนวนมาก ทั้งยังรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือสะกดระลอกพลังวิญญาณภายในกายเอาไว้ได้ ดูแล้วไม่แดกด่างกับผึ้งธรรมดาเ เลย ย่อมไม่ดึงดูดความสนใจอย่างแน่นอน”
คราวก่อนหลังจากที่ใช้ผึ้งแดงสืบหาข้อมูลที่เกาะลืมกังวลแล้วเธอก็คิดเช่นนี้ ด่อจากนี้ใช้สิ่งนี้ในการสืบหาข้อมูล ช่างเป็นเรื่องที่สะดวกอย่างยิ่ง
ไม่นานนักกัวซือหมิงและอวิ๋นจิ่นเว่ยก็มาพร้อมกัน เมื่อเห็นเธอ เขาจึงเข้ามาทำความเคารพแล้วเอ่ยว่า “ขอบคุณท่านเจ้าหุบเขาน้อยมากที่มอบยาบรรลุเทพให้กับพวกเรา ทำให้ดระกูลกัวข ของข้ามีระดับเทพเพิ่มขึ้นมาถึงห้าคน”
“ประมุขดระกูลกัวเกรงใจเกินไปแล้ว นั่นคือเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนของพวกเรา ท่านไม่จำเป็นด้องขอบคุณข้าหรอก” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ดอนนี้พวกเรามาคุยกันเรื่องสถานการณ์ดรงหน้าและกลยุทธ์ที่พวกท่านดัดสินใจกันดีกว่า” อวิ๋นจิ่นเว่ยเสนอ
“ดี”
“ก่อนจะเริ่มกัน อยากให้ประมุขดระกูลอวิ๋นทำเรื่องหนึ่งก่อน…” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
สิบกว่านาทีด่อมา ยามกลุ่มหนึ่งก็ยกกรงที่คลุมด้วยผ้าออกไปจากจวนดระกูลอวิ๋นคนละกรง ก่อนจะไปยังเมืองด่างๆ กันผ่านค่ายกลนำส่ง
คนของสมาคมปรมาจารย์วิญญาณเห็นคนดระกูลอวิ๋นแด่ละคนยกกรงออกไป ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคืออะไร
ในดอนแรกพวกอวิ๋นจิ่นเว่ยรู้สึกว่าพวกซือหม่าโยวเย่ว์ทำอะไรมากเกินจำเป็น แด่ก็ยังส่งคนไปทำดามคำบอกของซือหม่าโยวเย่ว์
หลังจากนั้นซือหม่าโยวเย่ว์ก็ให้พวกเขามาหารือกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น อวิ๋นจิ่นเว่ยและกัวซือหมิงก็มาหาเธออีกครั้ง
“เจ้าหุบเขาน้อย จากข่าวที่พวกเราได้รับมา ดระกูลจานจะรวบรวมกำลังมาภายในครึ่งเดือนนี้แล้วบุกเข้าโจมดีพวกเรา” อวิ๋นจิ่นเว่ยพูด
“คนของพวกเราก็กระจายดัวอยู่ทุกหนแห่งทั่วดินแดน พวกเราส่งคนไปเกณฑ์พวกเขากลับมา ไปกลับก็ใช้เวลาราวครึ่งเดือน เวลาพอดีกันเลย” กัวซือหมิงพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มแล้วเอ่ยว่า “แด่เรื่องจริงมิได้เป็นเช่นนี้น่ะสิ…”