สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 411 เข้าที่เข้าทาง
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นทุกคนแสดงท่าทีกันหมดแล้ว จึงได้หารือเรื่องชื่อของขุมอำนาจใหม่กับทุกคน ทุกคนต่างรู้สึกว่ามาจากดินแดนอี้หลิน ก็เรียกว่าตระกูลอี้หลินแล้วกัน
จากนั้นทุกคนก็หารือกันว่าให้ซือหม่าไท่เป็นประมุขตระกูลส่วนประมุขของขุมอำนาจอื่นๆ ก็ให้เป็นผู้อาวุโสหรือผู้เฒ่าตระกูล คอยปกป้องตระกูลยามเกิดเรื่องก็พอแล้ว
สำหรับเรื่องเฉพาะอื่นๆ ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ให้พวกซือหม่าไท่ไปหารือกันเองในภายหลัง ตอนนี้ให้พาทุกคนไปจัดการกับทรัพย์สินของตระกูลจานก่อน
เมื่อคนจำนวนมากมายเข้ามาในเมืองอย่างฉับพลัน ทหารรักษาการณ์เมืองก็ยังตกตะลึงอยู่บ้าง จึงลอบส่งคนไปแจ้งให้ท่านเจ้าเมืองทราบ เดิมทีเจ้าเมืองโม่เป็นคนของตระกูลจานจึงถูกกำจัดไ ไปด้วยระหว่างเรื่องในคราวนี้ เจ้าเมืองท่านหนึ่งถูกส่งมายังเมืองโม่ ยังไม่ทันถึงสองวันก็ฟื้นฟูขุมอำนาจในเมืองโม่ได้ กลายเป็นเจ้าเมืองที่ทุกคนยอมรับ
เมื่อท่านเจ้าเมืองผู้นั้นได้รู้ว่าคนเหล่านั้นไปยังคฤหาสน์ตระกูลจานก็มิได้พูดอะไร เพียงแค่ออกคำสั่งว่าอย่าไปยุ่งกับพวกเขา และอย่าไปรบกวนพวกเขาเท่านั้น
ยังไม่ถึงสองวัน อวิ๋นจิ่นเว่ยและกัวซือหมิงก็มาด้วยตัวเอง ถามถึงเรื่องการสร้างขุมอำนาจของตระกูลอี้หลิน เมื่อเห็นผู้คนทั้งภายในและภายนอกต่างก็สะดุ้งจนตัวลอย
พวกเขาพาคนมากมายถึงเพียงนี้มาได้อย่างไรกัน
ทั้งสองตระกูลเพิ่งได้รับอำนาจจากตระกูลจานมา ก็ย่อมต้องจัดการให้ดีๆ ก่อนอยู่แล้ว ซือหม่าโยวเย่ว์ก็แสดงความซาบซึ้งที่พวกเขามาหาในเวลานี้ เธอจึงให้พวกซือหม่าไท่ไปสนทนากับ บพวกเขา
อวิ๋นจิ่นเว่ยและกัวซือหมิงเห็นว่าแม้คนเหล่านั้นแม้จะมิได้มีพลังยุทธ์สูงส่งนัก แต่ก็มีสมองที่ใช้การได้ดี แน่นอนว่าเพิ่งมายังดินแดนแห่งนี้ แต่กลับจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้อย่ างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีเพียงแค่บางอย่างที่ต้องมาขอคำแนะนำจากพวกเขา แต่ส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง
พวกเขารออยู่สองวันถึงจะกลับไป พร้อมบอกว่าจะส่งคนมาช่วยพวกเขาอีก
ก่อนที่ทั้งสองคนจะจากไป ซือหม่าโยวเย่ว์ได้มอบยาบรรลุเทพห้าเม็ดที่แต่ละตระกูลเหลืออยู่ให้กับพวกเขา
เพียงไม่นานตระกูลกัวและตระกูลอวิ๋นก็ส่งคนมาพร้อมกับใบรายการแผ่นหนึ่งด้วยบนนั้นเขียนชื่อและที่ตั้งของร้านค้าและขุมอำนาจที่ตระกูลอี้หลินต้องดูแลเหล่านั้นเอาไว้
ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูล้วนเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ห่างจากละแวกรอบๆ เมืองโม่มากนัก ส่วนสถานที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปต่างถูกสองตระกูลแบ่งกันไป
หลังจากดูเสร็จแล้วเธอก็ชื่นชมกับความใส่ใจรายละเอียดของอีกฝ่าย รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีกำลังคนมากนัก จึงได้ยกส่วนที่ใกล้ให้กับพวกเขาเพื่อความสะดวกในการดูแลในภายภาคหน้า
หนึ่งเดือนให้หลัง ตระกูลอี้หลินก็เข้าที่เข้าทางอย่างเป็นทางการ เรื่องต่างๆ ล้วนอยู่ในความควบคุม ร้านค้าเหล่านั้นก็กลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครั้ง
แน่นอนว่าเบื้องหลังเรื่องนี้จะขาดการสนับสนุนจากสองตระกูลอันดับหนึ่งไปไม่ได้เลย
วันนี้ซือหม่าโยวเย่ว์ได้เรียกพบซือหม่าไท่และประมุขตระกูลหั่ว รวมทั้งผู้ที่ไปถึงระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดคนอื่นๆ ของตระกูลมา
“โยวเย่ว์ ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการที่นั่นอีกมาก เจ้าเรียกพวกเรามาทำไมหรือ” ซือหม่าไท่มองบางคนที่นั่งจิบชาอย่างสบายๆ อยู่ที่มุมหนึ่งของห้องรับแขกอย่างไม่พอใจ
เจ้าคนผู้นี้รู้จักโยนงานให้ตนไปทำ เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาทำได้ดีกว่า เร็วกว่า แต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัว ช่างไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอาเสียเลย!
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นว่าผู้คนก็มากันไม่น้อยแล้ว จึงรินน้ำชาถ้วยหนึ่งให้ซือหม่าไท่พลางเอ่ยว่า “เรียกพวกท่านมาทั้งที ย่อมต้องมีเรื่องใหญ่อยู่แล้วสิ”
ถึงแม้ว่าผู้ที่ออกหน้าเป็นประมุขตระกูลคือซือหม่าไท่ อำนาจก็ยังอยู่ที่สมาคมผู้อาวุโสอยู่ดี แต่หากว่ากันจริงๆ แล้วกลับเป็นซือหม่าโยวเย่ว์ ขอเพียงแค่เธอยินยอมเท่านั้น
“เรื่องอันใดกัน ถึงต้องให้ทุกคนมากันหมด” ซือหม่าไท่ดื่มน้ำชาจอกหนึ่ง เพลิงโทสะมิได้ใหญ่โตถึงเพียงนั้นอีกแล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์ชอบเห็นท่าทีร้อนรนของจิ้งจอกเฒ่า ใครใช้ให้เขาวางกับดักเธอก่อนเล่า!
เธอแค้นฝังใจเลยทีเดียว!
เธอโบกมือคราหนึ่ง ขวดหลายใบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
“พวกท่านมาถึงที่นี่ ก็น่าจะรู้เรื่องข้อตกลงระหว่างข้าและตระกูลอวิ๋นกับตระกูลกัว ข้าใช้ยาบรรลุเทพแลกเปลี่ยนกับบ้านของพวกเราในตอนนี้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
พวกซือหม่าไท่เป็นใคร ย่อมต้องรู้จักยาบรรลุเทพอยู่แล้ว ทั้งยังรู้ด้วยว่ามันนำผลประโยชน์มาสู่ตระกูลกัวและตระกูลอวิ๋น
“นี่คือยาบรรลุเทพหรือ” ประมุขตระกูลหั่วมองขวดหยกเหล่านั้นอย่างตื่นเต้นดีใจ “ถูกต้อง” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเราจะมีสัตว์อสูรเหนือเทพประจำการอยู่ แต่ไม่มีคน นระดับเทพอยู่เลย หากพวกเราคิดหยั่งรากฐานให้มั่นคงก็ยังยากลำบากอยู่บ้าง”
“ถูกต้อง” ประมุขตระกูลซางพยักหน้า
หลังจากพวกเขามาถึงดินแดนแห่งนี้ นอกจากการทำให้ตระกูลเข้าที่เข้าทางแล้ว เวลาอื่นๆ ก็ใช้ไปกับการทำความเข้าใจสถานการณ์ของดินแดนแห่งนี้ จนเข้าใจกฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตที่นี่ในเบื้ องต้นแล้ว
“ข้ารู้ว่าก่อนหน้านี้แต่ละตระกูลล้วนเป็นผู้เฒ่าตระกูลระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอดกันแล้ว แต่ในเมื่อตอนนี้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งแยกเจ้าหรือข้า จึงขอมอบยาบรรลุเทพเหล่า านี้ให้กับทุกท่าน หวังว่าทุกท่านจะนำมาใช้ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างยอดฝีมือระดับเทพออกมาให้พวกเราอีกหลายๆ คน” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“จะมอบยาบรรลุเทพเหล่านี้ให้พวกเราจริงๆ หรือ” ผู้เฒ่าตระกูลหั่วพูดอย่างตื่นเต้น
ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ต่อไปนี้ขอเพียงแค่คนของตระกูลไปถึงระดับจ้าววิญญาณขั้นสุดยอด ก็จะได้รับยาบรรลุเทพหนึ่งเม็ด ท่านประมุขตระกูล เรื่องนี้คงไม่มีปัญหากระมั ง”
ซือหม่าไท่ขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “เจ้าเป็นนักหลอมยา เจ้าบอกว่าไม่มีปัญหาก็ย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี” ซือหม่าโยวเย่ว์หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาก่อนจะส่งออกไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
“นี่คืออะไรหรือ” ซือหม่าไท่รับมาดู “ของพวกนี้คือเครื่องยาสำหรับหลอมยาบรรลุเทพอย่างนั้นหรือ”
“ทั้งถูกและไม่ถูก” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ของพวกนี้คือเครื่องยาสำหรับหลอมยาบรรลุเทพ แต่มิใช่เครื่องยาทั้งหมด ข้าได้จัดเตรียมเครื่องยาส่วนใหญ่เอาไว้เองแล้ว มีเพียงแค่เครื่อ องยาเหล่านี้เท่านั้นที่หายากสักหน่อย ดังนั้นจึงอยากให้พวกท่านใส่ใจสักนิด ถ้าหากมี ก็จงรวบรวมมาเสีย”
“ของเหล่านี้ยังมิใช่ทั้งหมดอีกหรือ” ประมุขตระกูลทั้งหลายเห็นเครื่องยาที่เขียนอยู่บนนั้นแล้วพากันสูดหายใจ ปรากฏว่ายังมิใช่ทั้งหมดอีก!
“ครึ่งหนึ่งของเครื่องยาเหล่านี้ยังหาไม่ได้เลย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดตามความเป็นจริง
“มิน่าเล่าถึงได้ยินคนข้างนอกพูดกันว่ายาบรรลุเทพนี้หลอมได้ยากเป็นที่สุด แค่เครื่องยานี้ก็รวบรวมได้ยากแล้วสินะ” ประมุขตระกูลซางพูด
“เครื่องยานี่ก็เรื่องหนึ่ง วิธีการหลอมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นต่อให้ยาบรรลุเทพนี้เป็นเพียงแค่ยาวิเศษขั้นหก แต่ก็มิใช่ว่าใครๆ ก็จะหลอมออกมาได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“หึๆ ตระกูลเรามีของที่ประเมินค่ามิได้เช่นนี้อยู่มากมายถึงเพียงนี้ ไม่เลว ไม่เลว” ซือหม่าไท่พูดยิ้มๆ “ข้าจะให้ทุกคนใส่ใจกับของเหล่านี้ให้มากหน่อย ถ้าหากพบก็ให้เก็บรวบรวมม มา”
“เช่นนั้นตอนนี้ก็จงแจกจ่ายยาบรรลุเทพให้กับทุกคนเสียเถิด ข้าคิดว่าผ่านไปอีกไม่นานเท่าใด ตระกูลเราก็คงมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพประจำการแล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ขอบคุณมากนะ…โยวเย่ว์” ทุกคนคิดดูแล้วว่าเรียกชื่อของเธอจะดีกว่า
ว่ากันตามเหตุผล เธอคือชนรุ่นหลังของพวกเขา จะเรียกชื่อเธอก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อรู้สถานะเจ้าหุบเขาน้อยของเธอ ทั้งยังรู้สถานะของเธอในตระกูล รวมทั้งต่อตระกูลกัวและตระกูลอวิ น พวกเขาก็รู้ว่าไม่ควรมองเธอเหมือนเป็นชนรุ่นหลัง
ตะขิดตะขวงใจไประยะหนึ่ง
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ได้มอบยาบรรลุเทพที่มีอยู่ให้ท่านหมดแล้ว หากมีความต้องการในภายหน้าข้าก็จะหลอมใหม่”
“เยี่ยมเลย”
ทุกคนแบ่งยาบรรลุเทพกันคนละเม็ดแล้วจากไปด้วยความดีใจ
มีสองคนในบรรดาพวกเขาที่ใกล้จะถึงขีดจำกัดของชีวิตแล้ว ถ้าหากบรรลุระดับเทพแล้วพวกเขาก็จะได้รับอายุขัยอีกหลายร้อยปีเป็นอย่างน้อย ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสในการเกิดใหม่อีกครั้ง พวกเขาจึงต้องรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
“โยวเย่ว์ อวิ๋นอี้มาหาเจ้าน่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวจึงหยิบหินแม่ลูกออกมา ภายในมีเสียงของเป่ยกงถังดังแว่วมา