สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 414 ความอลหม่านและน่าพรั่นพรึง
ความอลหม่านตรงทางเข้าย่อมดึงดูดความสนใจของผู้อื่นอยู่แล้ว ซือหม่าไท่และบรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายได้ยินเสียงตกใจและสงสัยที่ดังขึ้นเรื่อยๆ มาจากทางนั้นและเห็นว่าคนเหล่านั้นต่างพากันลุกขึ้นยืน คนจำนวนไม่น้อยออกันอยู่ที่ช่องประตูจนวุ่นวายกันไปทั้งบริเวณทางเข้า
“ทางนั้นมีอะไรกันหรือ” ซือหม่าไท่ถามพลางขมวดคิ้ว
ไม่รู้จักกฎระเบียบกันเกินไปแล้ว มาออกันวุ่นวายอยู่ตรงทางเข้าได้อย่างไรกัน
ที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้นตรงนั้นกันแน่
“ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้ามานะขอรับ” หั่วจือเหยียนมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น
“มีคนเข้ามาเอะอะอะไรกัน!” ประมุขตระกูลหลี่ผู้ซึ่งตอนนี้คือผู้อาวุโสสามเอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึน
“ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกพี่โยวหลินมากันแล้วล่ะ” หั่วจือเหยียนมองเห็นซือหม่าโยวหลินที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนจึงเอ่ยขึ้น
“ข้าได้ยินเสียงของโยวเย่ว์แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกทุกคนรุมล้อมตอนที่เข้ามาน่ะสิ” ซือหม่าหลินพูด
“คนเหล่านั้นมิได้หวาดกลัวโยวเย่ว์เหลือเกินหรอกหรือ เหตุใดตอนนี้เมื่อพวกเขาเข้ามา คนเหล่านี้จึงไปรุมล้อมอีกเล่า ไม่กลัวว่าจะไปเข้าตาเขาหรอกหรือ” ผู้อาวุโสหั่วพูดยิ้มๆ พร้อมกันนั้นก็ส่งสัญญาณให้หั่วจือเหยียนนั่งลง
ในเมื่อคนก็มาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้เขาไปเร่งพวกนั้นอีกแล้ว
“นั่นคือ…” ผู้อาวุโสซางเห็นฝูงชนตรงทางเข้าแหวกออกสองข้างเพื่อเปิดทาง พวกซือหม่าโยวหลินจึงเดินเข้ามา
สายตาของพวกเขาย่อมต้องจับไปที่เงาร่างสีแดงตรงกลาง
รูปโฉมเช่นนั้น บุคลิกเช่นนั้น หากมิใช่ซือหม่าโยวเย่ว์แล้วจะเป็นผู้ใดได้เล่า
แต่นั่นคือหญิงสาวที่สวมกระโปรงสีแดงคนหนึ่งจริงๆ นะ! รูปร่างนั้น เป็นของแท้แน่นอนเลยทีเดียว!
“ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่” คนอื่นๆ เห็นหญิงงามคนหนึ่งเดินเข้ามาจึงร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น
“เหตุใดคนผู้นั้นจึงคล้ายคลึงกับโยวเย่ว์ได้ถึงเพียงนั้นเล่า”
“นั่นคงเป็นโยวเย่ว์กระมัง”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! โยวเย่ว์เป็นบุรุษ ส่วนนั่นคือหญิงงามผู้หนึ่ง! เจ้าคงมิได้แยกไม่ออกกระทั่งบุรุษหรือสตรีกระมัง”
“นั่นสิ! จะเป็นคนเดียวกันไปได้อย่างไร!”
“แต่เหมือนกันมากเลยจริงๆ นะ! พวกเจ้าเคยได้ยินว่าเขามีน้องสาวฝาแฝดหรือไม่”
“ไม่มีนะ”
“ให้ตายเถอะ ที่แท้แล้วนี่ใช่คนคนเดียวกันหรือไม่”
“จะใช่คนคนเดียวกันหรือไม่ก็ไม่เป็นไรหรอก สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพวกเราจะไล่ตามหญิงสาวที่งดงามถึงเพียงนี้ได้หรือไม่”
“ถ้าหากนางคือโยวเย่ว์จริงๆ แล้วเจ้ามีคุณสมบัติพอจะไปช่วงชิงหรือ”
“เออ… ไม่มีหรอก”
“นั่นคงไม่ใช่หรอก”
“แต่จะลองดูซ้ำอีกทีก็ดีนะ!”
“…”
ซือหม่าโยวเย่ว์ฟังคำพูดของคนเหล่านี้ มองดูท่าทีตื่นเต้นของพวกเขาแล้วเกิดแรงขับเคลื่อนให้อยากกลับไปเปลี่ยนชุดกลับเป็นบุรุษเหลือเกิน
พวกเขามาตรงหน้าซือหม่าไท่แล้วทำความเคารพ
“เจ้าคือโยวเย่ว์จริงๆ หรือ” หั่วจือเจียวเห็นซือหม่าโยวเย่ว์จึงหลุดปากถามออกมา
“ท่านประมุขตระกูล” ซือหม่าโยวเย่ว์มิได้เอ่ยตอบนาง หากแต่เรียกซือหม่าไท่คำหนึ่ง
ซือหม่าไท่เองก็พรั่นพรึงในใจเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าหมาป่าน้อยตรงหน้าตนจะเป็นสตรี เขามองพวกซือหม่าเลี่ยและซือหม่าโยวหมิง ซึ่งมิได้ดูตกใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะรู้อยู่แล้ว
แต่บรรดาคนที่มาจากอาณาจักรตงเฉินเหล่านั้นดูตกอกตกใจกันเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ก็หมายความว่านอกจากคนตระกูลซือหม่าไม่กี่คนแล้ว คนอื่นๆ ล้วนไม่รู้เรื่องที่ซือหม่าโยวเย่ว์เป็นสตรีเลย!
“คิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วเจ้าจะเป็นสตรี” เขาพูดพลางถอนหายใจ “เจ้าดูความอลหม่านที่เจ้าก่อขึ้นสิ คนทั้งลานชุมนุมใกล้จะคลั่งกันหมดแล้ว”
ซือหม่าโยวเย่ว์มองซือหม่าไท่อย่างจนใจ “ข้าเองก็ไม่คิดเหมือนกัน แต่ถ้าไม่แสดงให้ชัดเจน กลัวแต่ว่าทุกคนก็คงทำเหมือนข้าเป็นอสรพิษร้ายกันหมด”
“นางเป็นสตรีจริงๆ!?” ซางเฉียงหลีมองซือหม่าโยวเย่ว์ ความพรั่นพรึงในดวงตามิอาจซ่อนเร้นได้
บุรุษข้างกายซางเฉียงหลีแสดงท่าทีหลงใหลจนโง่งมกันไปหมด พร้อมเอ่ยว่า “รูปโฉมงดงาม ทั้งยังมีพลังยุทธ์สูงส่ง แล้วยังหลอมยาได้ ฝึกสัตว์อสูรได้ สร้างค่ายกลได้ เก่งทั้งงานในโถงและงานในครัว เป็นเทพธิดาในดวงใจของข้าโดยแท้!”
คนไม่น้อยพยักหน้า จริงด้วยๆ ช่างสมบูรณ์แบบโดยแท้!
ซือหม่าไท่มองดูลานชุมนุมอันคึกคักแล้วเอ่ยว่า “เจ้าก่อมันขึ้นมา เจ้าก็จัดการเอาเองแล้วกัน”
“ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า ก่อนจะหมุนตัวเหินทะยานขึ้นไปบนสังเวียน เธอยกมือขึ้น ทั่วทั้งลานก็เงียบสงบลง
นี่นิใช่เพียงเพราะว่าเธอมีรูปโฉมงดงามเท่านั้น แต่เป็นเพราะอำนาจในตระกูลของเธอในยามปกติด้วย
ถึงแม้ว่าทุกคนจะกลัวเธอแต่ต่างก็เข้าใจว่าถ้าหากไม่มีเธอพวกเขาก็คงยังอยู่ที่ดินแดนอี้หลิน หากไม่มีเธอพวกเขาก็คงไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดีเช่นนี้
“โยวเย่ว์ เจ้าเป็นสตรีจริงๆ หรือ” มีคนใจกล้าถามข้อสงสัยในใจของทุกคนออกมา
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มแล้วเอ่ยว่า “จริงแท้แน่นอนเลยละ”
“อ๊ะๆๆๆ เจ้าเป็นสตรีจริงๆ หรือ!”
“สวรรค์เอ๋ย ใช่จริงๆ ด้วย!”
“เทพบุตรของข้า ไม่มีอีกแล้ว” มีหญิงสาวใจสลาย
ซือหม่าโยวเย่ว์ยกมือให้ทุกคนเงียบลงอีกครั้ง หลังจากที่รอให้ลานชุมนุมเงียบสงบลงแล้วจึงพูดต่อไปว่า “ก็เหมือนกับที่ทุกท่านได้เห็น ข้าเป็นสตรีจริงแท้แน่นอน แต่เพราะเหตุผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จึงจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นบุรุษ วันนี้ที่ให้ทุกท่านได้รู้ว่าข้าคือสตรี เหตุผลหลักก็เพราะระยะนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้า… แหะๆ… ข่าวลือนั่นน่ะ วันนี้ข้าจึงได้มาแสดงตัวที่นี่ว่าข้าไม่เคยคิดมิดีมิร้ายกับพวกท่านเลย พวกท่านฝึกยุทธ์กันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะถูกข้าทำอะไร”
เธอพูดอย่างแฝงนัยแต่ทุกคนต่างเข้าใจความหมายของเธอดี หญิงสาวต่างหัวเราะขึ้นมาส่วนบรรดาชายหนุ่มสีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ตอนนี้พวกเขาได้แต่หวังว่านางจะทำอะไรต่อมิอะไรพวกเขา! แต่ละคนแทบอดใจรอไม่ไหว!
“ข้าหวังว่าทุกท่านจะเก็บเรื่องที่ข้าเป็นสตรีเอาไว้เพียงแค่ในลานชุมนุมนี้เท่านั้น ถ้าหากใครนำไปพูดข้างนอกให้เรื่องราวแพร่ออกไปก็อย่าหาว่าข้าไม่บอกแต่เนิ่นๆ แล้วกัน” ซือหม่าโยวเย่ว์มองเบื้องล่างพลางแผ่ไอพลังออกไป ทำให้ผู้คนในที่นั้นตื่นตระหนกกันไปหมด
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพูดออกไปแล้วจะนำความยากลำบากมาสู่ตัวเธออย่างไรบ้าง แต่ทุกคนต่างรับรองว่าจะไม่เปิดเผยตัวตนของเธอออกไป
ล้อเล่นแล้ว นางเป็นถึงดวงดาวแห่งโชคลาภของพวกเขา หากไม่มีนาง ตระกูลอี้หลินจะล้าหลังสักเพียงใด
“เอาละ ต่อไปก็จะเริ่มเรื่องหลักของวันนี้แล้วนะ ผู้จัดงานเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์มองลงไปด้านล่างเวทีพลางเอ่ยถามขึ้น
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินขึ้นมาแล้วคารวะซือหม่าโยวเย่ว์ “คุณชายห้า ข้าคือผู้จัดงานวันนี้ขอรับ”
“อ้อ เช่นนั้นท่านก็เริ่มต้นได้เลย” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าให้เขาแล้วลงไปยังลานประลอง
“แค่กๆ ข้าจะจัดการเรื่องในวันนี้ต่อเอง…” ผู้จัดงานกระแอมแล้วเริ่มต้นพูดขึ้นมา ซือหม่าโยวเย่ว์เดินไปนั่งลงข้างกายพวกซือหม่าเลี่ย เมื่อเห็นน้องสาวที่สวมกระโปรงยาว บรรดาพี่ชายทั้งหลายก็มีท่าทีตกตะลึงอยู่บ้าง
“คิดไม่ถึงว่าน้องห้าของพวกเรา แปลงเป็นสตรีแล้วจะงดงามถึงเพียงนี้!” ซือหม่าโยวเล่อพูดยิ้มๆ
“ขนาดท่านพี่ก็ยังล้อข้าเล่นเลย” ซือหม่าโยวเย่ว์ถลึงตาใส่ซือหม่าโยวเล่อ
ซือหม่าเลี่ยมองซือหม่าโยวเย่ว์อย่างเป็นกังวลพลางเอ่ยว่า “โยวเย่ว์ ตอนนั้นท่านพ่อเจ้าบอกว่าห้ามมิให้ใครล่วงรู้ตัวตนที่เป็นสตรีของเจ้า ตอนนี้เป็นเช่นนี้จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่”
“ท่านปู่วางใจเถิด ข้าประมาณการเอาไว้แล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ขอเพียงแค่ไม่ขึ้นไปเบื้องบน ยังมีเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะและเสือเขี้ยวดาบอยู่ทั้งที อยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้หรอก หลังจากที่ข้าขึ้นไปแล้วก็คงมิได้มีใครรู้ว่าข้าเป็นสตรีมากนักหรอก”
“เจ้ารู้อยู่แก่ใจก็ดี” ซือหม่าเลี่ยพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์ลูบแหวนเก็บวัตถุบนนิ้วมือ ท่านพ่อบอกว่านี่คือสิ่งของของตระกูลแล้วมอบให้เธอพร้อมกับแหวนมนตร์
ท่านพ่อ ที่แท้แล้วท่านให้สตรีอย่างข้าปลอมเป็นบุรุษเพราะเหตุใดกัน…
………………………………