สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 417 เพราะเขาชอบเจ้าอย่างไรเล่า!
อูหลิงอวี่ยังคงไม่พูดไม่จา เพียงแค่จ้องมองเธอเท่านั้น
ซือหม่าโยวเย่ว์คร้านจะสนใจเขา เตรียมจะเดินผ่านเขากลับเรือนไปจัดการกับตำราและทรัพยากรเหล่านั้น แต่ตอนที่เดินไปถึงข้างกายเขา กลับถูกเขาคว้าแขนเอาไว้ เธอยังไม่ทันพูดอะไรก ก็ถูกคนโอบเอวพาเหินทะยานขึ้นไปทั้งตัว
“อูหลิงอวี่ ท่านทำอะไรน่ะ!” เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาไม้นี้ ชิงตัวเธอมาจากตระกูลในที่รโหฐาน
คนในตระกูลได้ยินเสียงตะโกนของเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นเธอถูกบุรุษผู้หนึ่งจับตัวไป
“แย่แล้ว โยวเย่ว์ถูกคนชิงตัวไป!”
“พวกเรารีบไปช่วยนางเร็วเข้า!”
“เอ๊ะ… คนเล่า”
คนเหล่านั้นเพียงแค่หายใจสองครั้ง แต่กลับมองไม่เห็นร่างพวกเขาสองคนกลางอากาศอีกต่อไป
“นั่นสิ เพิ่งบินออกไปเมื่อครู่ ไฉนจึงไม่เห็นเงาแล้วเล่า”
“พวกเขาบินไปทางไหนกันน่ะ”
เป่ยกงถังออกมาจากห้อง เมื่อเห็นผู้คนยืนกันอยู่เต็มท้องฟ้า จึงเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรหรอก พวกท่านกลับมาเถิด”
“แล้วโยวเย่ว์เล่า”
“นางไม่เป็นไรหรอกน่า นางบอกเอาไว้ว่าจะกลับมาเอง” พอพูดจบนางก็กลับเข้าไปในห้องของตน
คนเหล่านั้นมองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าคนไปไหนเสียแล้ว จะไล่ตามไปได้อย่างไรกัน! จึงได้แต่เชื่อคำพูดของนาง
แต่พวกเขากังวลใจนี่นา เมื่อครู่ดูเหมือนว่าโยวเย่ว์จะถูกบุรุษผู้หนึ่งลักพาตัวไป คงจะไม่เป็นไรกระมัง
ซือหม่าโยวเย่ว์ถูกอูหลิงอวี่ลักพาตัวแล้วทะยานออกไปนอกเมืองโม่ในพริบตา ดูเหมือนว่าพลังยุทธ์ของเขาจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยในช่วงที่ผ่านมา
“เฮ้ ท่านคิดจะพาข้าไปที่ไหนกัน” เธอเห็นเขาชักสีหน้าอยู่ตลอด พร้อมเหินเหาะไปอย่างไร้ทิศทาง จึงตะคอกใส่อย่างจนใจ
อูหลิงอวี่ก้มหน้าลงเหลือบมองนางปราดหนึ่ง แต่ยังคงไม่พูดจาเช่นเดิม เพียงแค่เหาะตรงไปข้างหน้าเท่านั้น
ซือหม่าโยวเย่ว์ถลึงตาใส่เขาอย่างแรง ความคิดวูบไหวคราหนึ่งก็หายตัวจากอ้อมแขนของเขาแล้วไปปรากฏตัวอยู่ตรงบริเวณที่ห่างออกไปสามเมตร
อูหลิงอวี่คิดไม่ถึงว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะใช้วิธีนี้ จึงเอ่ยว่า “เจ้าหายตัวได้แล้วหรือ”
หึๆ” ซือหม่าโยวเย่ว์ก็ไม่ตอบเขาเช่นเดียวกัน เธอหันหน้าไปอีกทาง ไม่มองเขา
ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็จะหายตัวได้ จะต้องมีความเข้าใจห้วงมิติในระดับสูงยิ่ง หาความสัมพันธ์ระหว่างสองจุดในห้วงมิติได้อย่างแม่นยำ เช่นนี้จึงจะหายตัวได้
สิ่งที่ต้องใช้ในการหายตัวคือความคิด แต่การเปิดอุโมงค์ทางเดินห้วงมิติอย่างมารเฒ่านั้นเป็นการสำแดงพลังยุทธ์ล้วนๆ
อูหลิงอวี่คิดไม่ถึงว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะตระหนักรู้ในด้านห้วงมิติถึงระดับที่หายตัวได้แล้ว ถึงแม้ว่าตอนจะเพิ่งหายตัวได้ไม่กี่เมตร แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คื อการเริ่มต้น ในเมื่อนางเริ่มต้นได้แล้วก็ต้องก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
เมื่อเห็นนางหันหน้าหนีไม่ยอมมองตน เพลิงโทสะในใจเขาก็ยิ่งโหมกระพือ อยากพุ่งเข้าไปบันดาลโทสะใส่นาง แต่ตนเองกลับร่วงหล่นลงจากกลางอากาศอย่างฉับพลัน
ในตอนแรกซือหม่าโยวเย่ว์คิดว่าเขาแกล้งทำ แต่เมื่อเห็นว่าเขาร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างราวกับหุ่นเชิดสายขาด เธอจึงขมวดคิ้ว แต่ก็ยังรีบตามไปอย่างรวดเร็วแล้วคว้าตัวเขาเอาไว้ก ก่อนที่เขาจะร่วงลงสู่พื้น หลังจากนั้นจึงใช้มือหนึ่งดึงมือเขาไว้ ส่วนมืออีกข้างโอบเอวเขา แล้วพาร่อนลงอย่างช้าๆ
เธอรู้สึกว่าเขาหมดสติลงไปจริงๆ นอกจากนี้ลมหายใจยังไม่เสถียรอย่างยิ่ง จึงตรวจร่างกายให้เขารอบหนึ่ง
“แย่แล้ว!”
เธอวางร่างของเขาลงบนพื้นหญ้า ก่อนจะหยิบยาวิเศษเม็ดหนึ่งออกมาให้เขากิน หลังจากนั้นก็นั่งลงข้างๆ รอให้เขาฟื้นขึ้นมา
“เจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ” เธอส่งเสียงในทันใด แต่รอบด้านกลับไม่มีเงาร่างใครเลยแม้แต่คนเดียว
“ข้าหมายถึงเจ้านั่นแหละ เจ้าตัวที่อยู่ในร่างอูหลิงอวี่น่ะ” เธอเห็นอีกฝ่ายปรากฏตัว จึงเอ่ยขึ้น
ลำแสงสายหนึ่งวาบผ่าน กิเลนเพลิงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าซือหม่าโยวเย่ว์
“ที่จริงเจ้าจะออกมาเองก็ได้นี่” ซือหม่าโยวเย่ว์มองกิเลนเพลิงแล้วพูดว่า “หากเมื่อครู่ข้าไม่ช่วยเขา เจ้าก็คงไม่ปล่อยให้เขากระแทกพื้นตายหรอกกระมัง”
กิเลนเพลิงมองซือหม่าโยวเย่ว์ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดเจ้าคนผู้นี้จึงได้โมโหเพราะเธอมากมายเช่นนี้ จนสุดท้ายทำให้วิญญาณทนรับผลกระทบของอารมณ์ไม่ไหว จึงได้เกิดเหตุการณ์เช่นน นี้ขึ้น
แต่นี่ไม่เหมือนกับการหมดสติก่อนหน้านี้ ในยามนี้มันเข้าออกร่างกายเขาได้อย่างอิสระ มิใช่ว่าออกมาไม่ได้เหมือนตอนอยู่ที่เทือกเขาผู่สั่วแล้ว
“เจ้านายของเจ้าเป็นอะไรไปหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม “อยู่เบื้องบนแล้วได้รับบาดเจ็บหรือ”
“หืม?” กิเลนเพลิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดซือหม่าโยวเย่ว์จึงได้ถามเช่นนี้ แต่ก็ยังตอบไปตามความจริง “เปล่านะ ทำไมหรือ”
“เปล่าหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ขมวดคิ้ว หรือเป็นเพราะแยกจากกับหมัวซานานเกินไปแล้วเล่า
“เหตุใดจึงถามเช่นนี้” กิเลนเพลิงไม่เข้าใจ
“การที่เขาหมดสติในคราวนี้เป็นเพราะวิญญาณไม่เสถียร ถ้าหากไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วจะหมดสติไปได้อย่างไร” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“…”
กิเลนเพลิงมองคนที่ตอบสนองช้าผู้นี้แล้วทุกข์ใจแทนเจ้านายของตน
เจ้านายของตนอยู่ที่เบื้องบนคิดถึงจนทนไม่ไหว แต่นางกลับไม่ล่วงรู้เลยสักนิดเดียว
“เจ้าอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดวิญญาณของเขาจึงไม่เสถียรได้ถึงเพียงนี้อย่างนั้นหรือ”กิเลนเพลิงมองเธออย่างเฉยชา
ซือหม่าโยวเย่ว์ถูกสายตานี้ของกิเลนเพลิงมองเสียจนอึดอัดอยู่บ้าง สัญชาตญาณไม่อยากให้เขาพูด คล้ายกับว่าหากพูดออกมาแล้วจะมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
แต่กิเลนเพลิงกลับคิดวางแผนแสวงหาโอกาสให้เจ้านายตนสักครั้ง จึงเอ่ยว่า “เพราะเดิมทีวิญญาณของเขาก็อ่อนแออยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะไม่ได้กินน้ำทิพย์วิญญาณม มานานแล้วต่างหากเล่า”
“ข้ามิได้ให้ท่านอาจารย์นำน้ำทิพย์วิญญาณขึ้นไปมอบให้เขาแล้วหรอกหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่เข้าใจ
“แต่เขาไม่รู้เพราะเขาถูกกักขังน่ะสิ เพราะเจ้าเป็นเหตุ” กิเลนเพลิงกล่าว
“เพราะข้าหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นอีก เจ้าคนผู้นี้ถูกคุมขังเพราะตนได้อย่างไรกัน
“ถูกต้อง เพราะเจ้านั่นแหละ” กิเลนเพลิงพูดอย่างโมโหอยู่บ้าง “เพราะคราวก่อนคนในหุบเขาเหล่านั้นบอกว่าเจ้าขาดแคลนตำราการหลอมวัตถุ เขาจึงได้คิดหาวิธีเสาะแสวงหาตำราค่ายกลให้เจ้าไ ไปทั่ว คราวก่อนได้ยินว่าสุสานแห่งหนึ่งมีตำราค่ายกลที่หายสาบสูญไป เขาจึงไปนำมาให้เจ้า ผลปรากฏว่าถูกขังอยู่ภายในค่ายกลกว่าหนึ่งปี เพิ่งออกมาได้เมื่อไม่กี่วันนี้เอง ส่วนน้ำ ำทิพย์วิญญาณของเขาก็ถูกกินไปหมดแล้ว เพราะเพิ่งได้ยินข่าวนั้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่เตรียมตัวจะมาหาเจ้า”
ซือหม่าโยวเย่ว์สีหน้าแปรเปลี่ยนแล้วร้องว่า “เขาไม่ได้กินน้ำทิพย์วิญญาณมาปีกว่าแล้วหรือ!”
“ถูกต้อง” กิเลนเพลิงเห็นสีหน้านางแล้วค่อยสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “หลังออกมาจากค่ายกล เขาก็รีบมาที่นี่ทันที แต่กลับได้ยินว่าเจ้าเปลี่ยนมาแต่งกายเป็นสตรีจึง งได้โมโห หลังจากนั้นเพราะความโมโหนี้เองจึงทำให้วิญญาณรับไม่ไหวจนหมดสติลงในเวลาต่อมา”
“ในเมื่อเขารู้ว่านั่นคือเป้าหมายของปรมาจารย์ค่ายกล จะต้องมีค่ายกลคุ้มกันอยู่อย่างแน่นอน แล้วเหตุใดจึงยังไปอีกเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอย่างโมโห “นอกจากนี้ยังไม่ได้กินน้ ำทิพย์วิญญาณมานานถึงเพียงนี้ ไม่รู้หรือว่าควรกลับไปยังหุบเขามารเทพก่อนน่ะ นำชีวิตตัวเองมาล้อเล่นทำไมกัน!”
“ก็เพราะเขาชอบเจ้าน่ะสิ นอกจากนี้หลังกลับมาจากเทือกเขาผู่สั่วแล้วยังคิดถึงเจ้าไม่ลืมเลือนอีกด้วย” กิเลนเพลิงพูด “ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของเขา แต่ก็ไม่รู้ ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงชอบเด็กไม่รู้ความอย่างเจ้าได้ ถึงแม้ว่าพรสวรรค์จะไม่เลว แต่ก็ยังด้อยกว่าหญิงสาวที่เบื้องบนเหล่านั้นตั้งมากมาย เอาล่ะ ข้าได้พูดสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ใน นเมื่อเขาเป็นเช่นนี้เพราะเจ้า เจ้าก็ควรดูแลเขาให้ดีด้วยล่ะ”
พอพูดจบเขาก็หายตัวกลับเข้าไปในมิติพันธสัญญา
เพลิงโทสะของซือหม่าโยวเย่ว์หมดสิ้นไปตั้งแต่ตอนได้ยินประโยคที่ว่าเขาชอบเจ้านั่นแล้ว หลังจากกิเลนเพลิงจากไป เธอก็มองผู้ที่หมดสติอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าอันซับซ้อน