สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 423 กัลป์สายฟ้าข้ามระดับ
“เปรี้ยง…”
สายฟ้าหนาเท่าถังน้ำฟาดลงมา ความเคลื่อนไหวนั้นทำให้สรรพชีวิตภายในเมืองโม่พรั่นพรึง แต่ละคนพากันมองไปทางนอกเมือง
“มีสัตว์อสูรเหนือเทพวิวัฒน์ร่างใช่หรือไม่”
“ความเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ จะต้องมิใช่ปรากฏการณ์ธรรมดาอย่างแน่นอน”
“นั่นมันเมฆกัลป์นี่!” มีคนจำเมฆครึ้มที่ดูแตกต่างจากปกตินั่นได้
“หรือว่าจะมีสัตว์อสูรเหนือเทพกำลังวิวัฒน์ร่างจริงๆ เล่า”
“ข้าเคยโชคดีได้เห็นสัตว์อสูรเหนือเทพวิวัฒน์ร่าง สีของเมฆกัลป์นั่นไม่เหมือนกับอันนี้นะ”
“ไม่ใช่สัตว์อสูรเหนือเทพวิวัฒน์ร่าง แล้วยังมีสิ่งใดที่ก่อให้เกิดเมฆกัลป์เช่นนี้ได้อีกเล่า พวกเจ้าดูสายฟ้าที่ฟาดลงมาเมื่อครู่นี้สิ ยังหนายิ่งกว่าถังน้ำเสียอีก”
“สายฟ้าเพิ่งจะฟาดลงมาเป็นครั้งแรก พวกเรารอดูกันต่อไปก็รู้เอง”
พวกเขาไม่ทันได้สังเกตตอนที่สายฟ้าฟาดลงมาเป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อจับตาดู ก็เห็นเพียงแค่ทิวเขา ไม่เห็นวัตถุที่ฟาดลงมาเลย
ขณะนี้ซือหม่าโยวเย่ว์อยู่ภายในหุบเขา แยกเขี้ยวยิงฟันพ่นลมหายใจ
เหตุใดจึงไม่มีใครบอกเธอว่าตอนเลื่อนไปถึงระดับเทพจะมีกัลป์สายฟ้าเล่า
เธอเพิ่งจะเลื่อนระดับสำเร็จ ยังไม่ทันได้ดีใจ ก็เห็นเมฆครึ้มมารวมตัวกันเหนือศีรษะตนอย่างรวดเร็ว เสียงซ่าๆ ของประจุไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆทำให้ซือหม่าโยวเย่ว์หัวใจสั่นสะท้าน
กัลป์สายฟ้า!
ถึงแม้ว่าตอนที่ผู้อื่นเลื่อนไปถึงระดับเทพจะเกิดความเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่เช่นกันทว่าแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยได้ยินว่ามีคนเกิดกัลป์สายฟ้ามาก่อนเลย แล้วเหตุใดเธอจึงมีเล่า
เธอมิใช่สัตว์อสูรเหนือเทพที่จำเป็นต้องวิวัฒน์ร่างเสียหน่อย!
ถึงแม้จะไม่รู้เหตุผล แต่เธอก็ยังตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โดยเรียกคนภายในเจดีย์วิญญาณออกมาจนหมด เพื่อเลี่ยงไม่ให้พวกเขาถูกขังเอาไว้ภายในเจดีย์วิญญาณหากเกิดเหตุขึ้นกับเธอ
หลังจากที่พวกเว่ยจือฉีออกมาแล้ว เมื่อเห็นเมฆกัลป์ก็พรั่นพรึงอย่างยิ่งเช่นกัน
“พวกเจ้าไปจากที่นี่เร็วเข้า” ซือหม่าโยวเย่ว์ตะโกนใส่พวกเขา
“พวกเราจะอยู่กับเจ้าที่นี่ต่อ!” ซือหม่าโยวเล่อพูด
“ไม่ได้ ถ้าหากมีคนนอกอยู่ด้วย กัลป์ข้ามระดับก็จะยิ่งเพิ่มระดับขั้นของกัลป์สายฟ้า” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ถ้าหากพวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะทำให้สายฟ้าขยายใหญ่ขึ้น เอาละ พวกเ เจ้ารีบไปจากที่นี่เร็ว”
พวกซือหม่าโยวเล่อเงยหน้าก็เห็นว่าเมฆครึ้มดูคล้ายจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นจริงๆ จึงรีบจากไป
ดูเหมือนว่าเมฆกัลป์นั้นจะสัมผัสได้ จึงหดลงพอสมควร พวกซือหม่าโยวหลินที่วิ่งไปข้างนอกจึงค่อยคลายใจลง
ยังดีที่มิได้เพิ่มระดับพลังของกัลป์สายฟ้า ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงนึกเสียใจตายแน่
ก่อนหน้านี้ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่เคยมีประสบการณ์กับกัลป์สายฟ้ามาก่อน เพียงแค่เคยดูเจ้าไก่ฟ้าวิวัฒน์ร่างอยู่ห่างๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไร จึงได้แต่เรียกตัวเจ้าไก่ฟ้าอ ออกมาเท่านั้น
เจ้าไก่ฟ้ามองเห็นเมฆกัลป์ ร่างกายก็สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนการวิวัฒน์ร่างในคราวนั้นจะทำให้เขาหวาดหวั่นมาจนถึงวันนี้
“เจ้าเห็นว่าพลังของกัลป์สายฟ้าเป็นเช่นไรบ้าง” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“เล็กกว่าของข้าไม่น้อยเลยล่ะ” เจ้าไก่ฟ้าพูด “ด้วยพลังยุทธ์และความแข็งแกร่งของร่างกายเจ้าในตอนนี้ น่าจะไม่เป็นปัญหา”
“เช่นนั้นข้าต้องทำอย่างไร” ผ่านกัลป์สายฟ้าเป็นครั้งแรก เธอไม่เคยมีประสบการณ์เลยสักนิดเดียว
“ไม่ต้องกังวลใจไปหรอก เพียงแค่โคจรปราณวิญญาณในร่างมาต้านทานก็ใช้ได้แล้ว สายฟ้าที่เหมาะสมยังช่วยหล่อหลอมร่างกายเจ้าได้ด้วยนะ” เจ้าไก่ฟ้ากล่าว
“ข้าเข้าใจแล้ว” เมื่อเห็นว่าสายฟ้ากำลังจะฟาดลงมา เธอจึงรีบเก็บตัวเจ้าไก่ฟ้ากลับเข้าไป
“เปรี้ยง…”
เธอเพิ่งโคจรปราณวิญญาณมารวมตัวกันเป็นเกราะกำบังบนร่าง สายฟ้าสายแรกก็ฟาดลงมา
สายฟ้าโจมตีลงบนร่างเธอโดยตรง ทำให้้เกราะกำบังบนร่างเธอพังทลายแล้วแทรกตัวเข้าไปในร่างกายเธอ
กระแสไฟฟ้าเคลื่อนไปตลอดร่างเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ความเจ็บปวดนั้นราวกับจะฉีกทึ้งร่างกายเธอก็มิปาน
เธอหยิบยาวิเศษออกมากลืนลงไป แล้วใช้พลังวิญญาณกระตุ้นให้มันออกฤทธิ์ในทันที
ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะรู้สึกเจ็บปวด แต่กลับมิได้บาดเจ็บสาหัสจนเกินไปนัก หลายปีมานี้เธอได้หลอมกายด้วยเคล็ดหลอมกายของหมัวซา ความแข็งแกร่งของร่างกายจึงมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเท ทียบเคียงได้เลย
ถึงแม้ว่าเจ้าอ้วนชวีจะเดินบนเส้นทางการหลอมกายมาตั้งแต่เล็ก แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายก็ยังสู้เธอมิได้
“สายฟ้าสายแรกมีพลังคุกคามต่ำที่สุด” เจ้าไก่ฟ้าสัมผัสสภาพร่างกายเธอได้ จึงเอ่ยเตือน
ซือหม่าโยวเย่ว์เงยหน้ามองเมฆกัลป์ก็เห็นสายฟ้าที่แข็งแกร่งกว่าสายหนึ่งกำลังก่อตัว เธอจึงรีบโคจรปราณวิญญาณในร่างมาคุ้มกันร่างกาย หลังจากนั้นท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ใน ชั่วขณะที่สายฟ้าฟาดลงมา เธอก็พุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าไปรับมันโดยตรง ไปเผชิญหน้ากับสายฟ้ากลางอากาศ
“เปรี้ยง…”
พลังคุกคามของสายฟ้าถูกเธอปะทะจนสลายไปส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นอีกส่วนหนึ่งก็ถูกเกราะภายนอกป้องกันเอาไว้ ส่วนที่เหลือก็แทรกตัวเข้าไปในร่างกายของเธอ
ผู้คนในเมืองโม่ที่มุงดูอยู่กำลังให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ของกัลป์ข้ามระดับ เมื่อเห็นคนที่ปะทะเข้ากับสายฟ้าแล้วต่างไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
“มีคนกำลังเผชิญกัลป์ข้ามระดับหรือ!”
“มนุษย์มีกัลป์สายฟ้าได้อย่างไรกัน”
“แปลกพิกลเกินไปแล้ว!”
“เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นคือมนุษย์ มิใช่สัตว์อสูรเหนือเทพน่ะ”
“จะเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพไปได้อย่างไรกัน! ก่อนที่กัลป์สายฟ้าสายสุดท้ายจะฟาดลงมา สัตว์อสูรเหนือเทพย่อมไม่มีทางแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ มีเพียงการผ่านพ้นกัลป์สายฟ้าสายสุดท้ายไป ป จึงจะวิวัฒน์ร่างได้ เจ้าเห็นไหมว่ากัลป์สายฟ้ายังไม่ผ่านพ้นไปเลย แล้วจะวิวัฒน์ร่างได้อย่างไรกัน!”
“พูดเช่นนี้ก็หมายความว่ามีคนกำลังเผชิญกัลป์ข้ามระดับจริงๆ น่ะสิ!”
คนของตระกูลอี้หลินก็ทยอยกันมาที่กลางอากาศ หลังจากเห็นคนที่กำลังผ่านกัลป์แล้วจึงตกใจจนหน้าถอดสี
“นั่นคือคุณชายโยวเย่ว์นี่!”
“เป็นโยวเย่ว์จริงๆ ด้วย! เหตุใดเขาจึงผ่านกัลป์ได้เล่า”
“ที่แท้แล้วเขาทำอะไรกันแน่ จึงได้ดึงดูดกัลป์สายฟ้ามา”
“ท่านประมุขตระกูล นางกำลังเผชิญกัลป์สายฟ้าอยู่ พวกเราต้องคิดหาวิธีหรือไม่” ผู้อาวุโสหั่วขมวดคิ้ว นัยน์ตาแฝงแววกังวล
“พวกเราเองก็ไม่เคยประสบกับกัลป์สายฟ้ามาก่อน แล้วจะช่วยได้อย่างไร” ซือหม่าไท่มิได้กังวลใจแต่อย่างใด เขามั่นใจในตัวนางอย่างยิ่งมาโดยตลอด
“พวกเราเข้าไปดูกันดีกว่า” ผู้อาวุโสซางพูด
“อืม เข้าไปดูใกล้ๆ หน่อย” ผู้อาวุโสหลี่เอ่ย
ผู้เฒ่าตระกูลหลายคนที่ตกอกตกใจต่างเหาะไปยังทิวเขานอกเมือง มองเห็นพวกซือหม่าโยวหลินจากไกลๆ
บอกว่าเจ้าเด็กพวกนี้ปลีกวิเวกอยู่ที่ไหนมิใช่หรือ ที่แท้ก็อยู่กับซือหม่าโยวเย่ว์นี่เอง
พวกซือหม่าโยวหลินก็เห็นพวกซือหม่าไท่เข้ามา จึงทำความเคารพพวกเขา
“เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับโยวเย่ว์น่ะ เหตุใดจึงไปดึงดูดกัลป์สายฟ้ามาได้” ซือหม่าไท่ถาม
“โยวเย่ว์เลื่อนไปถึงระดับเทพแล้ว หลังจากทำได้สำเร็จหมาดๆ ก็ปรากฏกัลป์สายฟ้าขึ้นมา” ซือหม่าโยวฉิงพูดอธิบายก่อน
“เลื่อนไปถึงระดับเทพหรือ”
ทุกคนถูกข่าวนี้ทำให้พรั่นพรึงไปก่อน จากนั้นจึงถูกความสงสัยเคลือบคลุม
“เหตุใดเลื่อนไปถึงระดับเทพจึงมีกัลป์สายฟ้าได้เล่า ตอนนั้นที่พวกเราเลื่อนไปถึงระดับเทพก็ไม่เห็นจะมีปรากฏการณ์เช่นนี้เลย” ผู้เฒ่าตระกูลที่เลื่อนไปถึงระดับเทพแล้วคนหนึ่งเอ่ยขึ้ น
“ถูกต้อง ไม่มีปรากฏการณ์นี้เลย” ผู้เฒ่าตระกูลระดับเทพอีกคนเห็นพ้อง
“แต่นางเพียงแค่เลื่อนระดับเท่านั้นเองนะ” ซือหม่าโยวหลานพูด
“ในตัวโยวเย่ว์อาจมีอะไรบางอย่างแตกต่างจากพวกเราก็ได้ ดังนั้นจึงเกิดกัลป์สายฟ้าขึ้น” ซือหม่าไท่คาดเดา “ข้าเคยได้ยินประมุขตระกูลอวิ๋นพูดว่าที่โลกเบื้องบนก็มีบางคนที่ดึงดูด ดกัลป์สายฟ้ามาตอนเลื่อนระดับเช่นเดียวกัน เพราะวิธีการบำเพ็ญและสาเหตุบางอย่าง”
แต่ชัดเจนอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ของนางมิได้เป็นเช่นนี้
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นพวกซือหม่าไท่มากันหมดแล้ว แต่กลับไม่มีกะจิตกะใจมองมาทางนี้เลย เพราะเธอกำลังเตรียมตัวรับกัลป์สายฟ้าต่อไปอย่างสุดกำลัง
ระยะเวลาที่สายฟ้าสายนี้ก่อตัวนานกว่ากัลป์สายฟ้าสองสายเมื่อครู่เสียอีก สีของเมฆกัลป์ก็เข้มที่สุดด้วย พลังคุกคามของสายฟ้านี้จะต้องยิ่งใหญ่กว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัวแน่นอน
“เปรี้ยง…”
สายฟ้ากว้างกว่าหนึ่งเมตรฟาดใส่เธอท่ามกลางสายตาพรั่นพรึงและเป็นกังวลของทุกคน
ซือหม่าโยวเย่ว์ถูกสายฟ้าฟาด ตลอดร่างดำราวกับก้อนถ่าน หลังจากสายฟ้าผ่านไปแล้วก็นอนไม่ลุกอยู่บนพื้น กระแสไฟฟ้าบนร่างเปล่งประกาย