สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 424 ถูกสายฟ้าฟาดจนเกิดธาตุสายฟ้า
หลังจากเมฆกัลป์ฟาดใส่ซือหม่าโยวเย่ว์แล้วจึงสลายไปอย่างอิ่มเอมใจ
ทุกคนเห็นสภาพดำเมี่ยมของซือหม่าโยวเย่ว์แล้วอดเบ้ปากมิได้
ตลอดทั้งร่างไม่มีส่วนใดที่สมบูรณ์เลย และมีกลิ่นเนื้อจางๆ โชยมา
ถ้าหากมิใช่เพราะยังสัมผัสกลิ่นอายชีวิตของเธอได้ ทุกคนคงต้องคิดว่าเธอถูกสายฟ้าสายสุดท้ายนั่นฟาดตายเสียแล้ว
สิ่งนี้ช่างน่าอนาถเกินไปสำหรับหญิงสาวคนหนึ่ง!
“แค่กๆ โยวฉิง พวกเจ้าเข้าไปจัดการนางหน่อยสิ” ซือหม่าไท่กล่าว
บอกว่าจัดการ แต่ความจริงแล้วก็คือให้สวมเสื้อผ้าสักชุดบนร่างเธอ
สภาพของเธอในตอนนี้ ทำให้ทุกคนไม่กล้าแตะต้องเธอ กระแสไฟฟ้าที่ส่งเสียงปะทุนั้นยังไม่สลายตัวไป หากใครไปคาดว่าคงต้องถูกไฟฟ้านั่นไปด้วยเช่นกัน
ระหว่างนี้ซือหม่าโยวหลินได้หยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งเดินเข้าไปแล้ว ก่อนจะคลุมลงบนร่างซือหม่าโยวเย่ว์เบาๆ
“จะให้นอนอยู่กลางแจ้งเช่นนี้คงไม่ดี พวกเรากางกระโจมให้นางสักหลังเถิด” เว่ยจือฉีพูด
จากนั้นทุกคนก็กางกระโจมล้อมรอบซือหม่าโยวเย่ว์ ซึ่งปกคลุมเธอเอาไว้ภายในได้พอดี
หลังจากที่พวกซือหม่าไท่แน่ใจว่าซือหม่าโยวเย่ว์ไม่เป็นไรแล้วจึงกลับไปก่อน เหลือเพียงแค่พวกซือหม่าโยวฉิงไว้ดูแลเธอที่นี่
หลังจากที่คนของเมืองโม่รู้ว่าเป็นคนของตระกูลอี้หลินกำลังผ่านกัลป์ข้ามระดับ จึงยิ่งทวีความสนใจในครอบครัวที่จู่ๆ ก็โผล่มานี้ แต่เมื่อกัลป์ข้ามระดับผ่านพ้นไปแล้วทุกคนก็ค ค่อยๆ กระจายตัวไป
ถึงแม้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะนอนอยู่บนพื้นตลอด แต่สติของเธอแจ่มชัดดี มิได้หมดสติไป หากแต่รู้สึกถึงความเจ็บปวดทั่วทุกส่วนได้อย่างชัดเจน
เพิ่งจะถูกสายฟ้าฟาดไป ร่างกายไม่ยอมทำตามที่ควบคุมเลย เธอได้ยินเสียงของกระแสไฟฟ้า และสัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่วิ่งวนไปทั่วร่างกาย ทั้งยังพบว่าหลังจากที่กระแสไฟฟ้านี้วิ่งวน นไปทั่วร่างกายหลายรอบแล้ว ยังวิ่งเข้าไปภายในสระวิญญาณแล้วหยุดฝีเท้าลงตรงข้ามพลังวิญญาณความมืด ยึดครองที่อยู่ได้ในที่สุด!
จะบอกว่าต่อจากนี้ตนยังบำเพ็ญพลังสายฟ้าได้ด้วยอย่างนั้นหรือ ไม่เคยได้ยินว่ามีใครบำเพ็ญธาตุเพิ่มเติมได้ในวันถัดมาเลย
แต่เมื่อนึกถึงว่าตอนผู้อื่นเลื่อนไปถึงระดับเทพก็มิได้ถูกสายฟ้าฟาด แต่ตนเองกลับมีกัลป์สายฟ้าที่พลังคุกคามไม่น้อยปรากฏขึ้น การที่มีธาตุการบำเพ็ญที่ทำเอาปางตายเช่นนี้เกิดข ขึ้นก็มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
แต่เธอสัมผัสได้ว่าหลังจากพลังวิญญาณของธาตุสายฟ้าปักหลักแล้วก็เริ่มแข่งขันกับธาตุความมืด เธอคล้ายกับเห็นเด็กสองคนมองกันอย่างชิงชัง พร้อมจะต่อสู้กันได้ตลอดเวลา
ยังดีที่สุดท้ายทั้งสองมิได้ต่อสู้กัน มิฉะนั้นหากปราณวิญญาณในร่างกายปั่นป่วน ผู้ที่ต้องรับเคราะก็คือตัวเธอเอง
นอกจากภายในร่างกายมีธาตุสายฟ้าเพิ่มขึ้นมาแล้ว ซือหม่าโยวเย่ว์พบว่าหลังจากร่างกายที่ถูกสายฟ้าฟาดฟื้นฟูขึ้นมาแล้วกลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น ถูกสายฟ้าฟาดครั้งเดียวก็เ เหมือนกับว่าเธอหลอมกายมาเป็นเวลายาวนาน
“ถึงแม้ว่ากระบวนการจะทนรับได้ยากอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เลวเลย การถูกสายฟ้าฟาดคราวนี้คุ้มค่าแล้วล่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์คิดในใจ “เสียแต่ว่ามันช่างเจ็บปวดจริงๆ เลย!”
เธอนอนอยู่บนพื้นสิบวัน เป่ยกงถังเคยคิดจะย้ายเธอขึ้นไปบนเตียง แต่เพิ่งสัมผัสร่างกายเธอ นางกลับถูกไฟฟ้าดูดเสียก่อนแล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์มิอาจพูดจาได้ จึงขยิบตาให้พวกเขา เพื่อมิให้พวกเขาสัมผัสตน
ตอนนี้เธอไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้ ทั้งยังไม่อาจควบคุมพลังวิญญาณในร่างกายได้ด้วย พลังวิญญาณอื่นๆ ก็ยังดี แต่พลังสายฟ้านี้เพิ่งจะเข้าสู่ร่างกายเธอ ย่อมไม่มีทางรับการค ควบคุมจากเธออยู่แล้ว มันเตร็ดเตร่ไปทั่วทุกหนแห่งในร่างกาย แค่พวกเขาแตะตัวเธอก็ถูกไฟดูดเสียแล้ว
ภายในสิบวันนี้ร่างกายของซือหม่าโยวเย่ว์ถูกสายฟ้าหล่อหลอมอยู่ตลอดเวลา เพิ่งจะถูกฝึกเสร็จก็มาอีกแล้ว ซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้ ทำเอาเธอเจ็บปวดอยู่สิบวันเต็มๆ!
แต่ภายในสิบวันนี้เอง เธอก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่างระดับเทพกับระดับวิญญาณ
ตอนที่เลื่อนระดับ ปราณวิญญาณในร่างกายทั้งหมดได้แปรเปลี่ยนไปเป็นพลังวิญญาณ ต่อจากนี้ไปตอนเธอฝึกยุทธ์ก็ไม่ต้องดูดซับปราณวิญญาณในอากาศอีกแล้ว หากแต่เพิ่มพลังยุทธ์โดยการเพ พิ่มพลังวิญญาณในร่างกาย
แต่จะบำเพ็ญอย่างไรนั้น หลังจากนี้เธอยังต้องศึกษาให้ดีๆ เสียก่อน
นอกจากความเปลี่ยนแปลงของพลังในร่างกายแล้ว เธอยังพบว่าทะเลแห่งความรู้ของตนแตกต่างไปจากเมื่อก่อนด้วย
ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าทะเลแห่งความรู้จะเรียกว่าทะเลแห่งความรู้ แต่ก็ยังเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าขาวโพลนส่วนหนึ่งในสมองเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอพบว่าทะเลแห่งความรู้กว้างขึ้นกว่า าเมื่อก่อนมากมายนัก แม้กระทั่งวิญญาณที่แฝงอยู่ก็แกร่งกล้าขึ้นมาด้วย
และหลายวันนี้วิญญาณส่วนที่สูญหายไปเพราะได้รับบาดเจ็บก็ฟื้นคืนมาอีกครั้ง แม้กระทั่ง… ความทรงจำในชาติที่สองของเธอก็ถูกระลึกขึ้นมาได้อีกครั้งด้วย
ซีเหมินโยวเย่ว์… ที่แท้เธอคือซีเหมินโยวเย่ว์จริงๆ…
ความเจ็บปวดในใจที่เกิดขึ้นแล้วมิอาจกำจัดไปได้ เธอหลับตาลง น้ำตาไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
เป่ยกงถังและซือหม่าโยวฉิงเข้ามา ก็เห็นขมับทั้งสองข้างของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา แววตาก็แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้เสียแล้ว
“โยวเย่ว์ เจ้าเป็นอะไรไปหรือ”
เมื่อเห็นแววตาของเธอ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างเธอ เป่ยกงถังจึงเจ็บปวดใจอยู่บ้าง
กลิ่นอายนั้นราวกับโลกของเธอแหลกสลายก็มิปาน ทั้งยังคล้ายกับว่าเธอจะล้างผลาญโลกทั้งใบ ความแค้นอันล้นฟ้าทำเอาเธอแหลกสลาย
“โยวเย่ว์ ไม่สบายกายตรงไหนหรือไม่” ซือหม่าโยวฉิงถาม
ซือหม่าโยวเย่ว์หลับตาลง ไม่อยากพูดจา ทำเอาเป่ยกงถังและซือหม่าโยวฉิงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีไปชั่วขณะ
หลังจากนั้นอุโมงค์ทางเดินห้วงมิติสายหนึ่งก็เปิดขึ้นมาภายในกระโจม อูหลิงอวี่เดินออกมาจากภายในนั้น
เมื่อเห็นผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เป่ยกงถังก็สงบเป็นอย่างยิ่ง ส่วนซือหม่าโยวฉิงนั้นเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
อูหลิงอวี่มองซือหม่าโยวเย่ว์ที่นอนอยู่บนพื้นแล้วมองคนทั้งสองที่อยู่ในห้องพลางขมวดคิ้วก่อนจะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“โยวเย่ว์เลื่อนไปถึงระดับเทพ หลังจากนั้นก็ไปดึงดูดกัลป์สายฟ้ามาแล้วถูกฟาดจนกลายเป็นเช่นนี้ ร่างกายสูญเสียการควบคุม เป็นมาสิบวันแล้วล่ะ” เป่ยกงถังพูด
อูหลิงอวี่เห็นน้ำตาที่หางตาของซือหม่าโยวเย่ว์ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แตกต่างไปจากเดิมบนร่างของเธอ นัยน์ตาจึงเผยแววสงสัยและเจ็บปวดใจ
แต่เขามิได้พูดอะไรแล้วมาคุกเข่าลงข้างกายซือหม่าโยวเย่ว์ ก่อนจะยื่นมือไปจับแขนของเธอ
“ระวังนะ นาง…”
พวกเขาอยากจะบอกว่าบนร่างเธอมีไฟฟ้า แต่กลับพบว่ากระแสไฟฟ้าเหล่านั้นไม่มีผลอะไรต่อเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
อูหลิงอวี่ตรวจดูรอบหนึ่งก่อนจะยืนขึ้น สองมือร่ายมนตร์ รัศมีจางๆ สายหนึ่งแผ่ออกมาจากสองมือของเขา แล้วปกคลุมบนร่างของซือหม่าโยวเย่ว์ ระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่นานนักซือ หม่าโยวเย่ว์ก็รู้สึกว่ากระแสไฟฟ้าเหล่านั้นกลับไปอยู่ในสระวิญญาณของจุดตันเถียนแล้ว ร่างกายก็กลับสู่การควบคุมอย่างช้าๆ
อูหลิงอวี่เก็บพลังของตนกลับมา ซือหม่าโยวเย่ว์กลับมาเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์แบบ
“โยวเย่ว์ เจ้าหายแล้วหรือ” ซือหม่าโยวฉิงมองเธออย่างดีใจ
อูหลิงอวี่ผู้นี้ยังคงร้ายกาจยิ่งนัก มาถึงก็ทำให้ร่างกายนางฟื้นฟูได้ในทันที
ซือหม่าโยวเย่ว์มิได้เอ่ยตอบคำถามนาง ทั้งยังมิได้สนใจว่าบนร่างมีเสื้อผ้าคลุมอยู่เพียงชุดเดียวเท่านั้น ร่างกายยังถูกเนื้อตายไหม้เกรียมก่อนหน้านี้ห่อหุ้มเอาไว้ เพียงแค่ยื่นม มือไปปาดน้ำตาที่หางตาเท่านั้น
แต่ไม่ว่าเธอจะเช็ดอย่างไร ก็ยังคงกลั้นน้ำตาเหล่านั้นไม่อยู่
ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือนได้เหล่านั้น รวมทั้งความเจ็บปวดและความแค้นที่แผ่ออกมาจากส่วนลึกของวิญญาณทำให้เธอแทบจะแหลกสลาย
“โยวเย่ว์ ที่แท้แล้วเป็นอะไรกันแน่ ร่างกายเกิดปัญหาอันใดขึ้นใช่หรือไม่” ซือหม่าโยวฉิงพูดอย่างเป็นกังวล น้ำเสียงอันร้อนรนนั้นดึงดูดผู้คนด้านนอกเข้ามา
“น้องห้า เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ” ซือหม่าโยวเล่อเห็นซือหม่าโยวเย่ว์เป็นเช่นนี้จึงถามขึ้นอย่างเจ็บปวดใจ
พวกเขาไม่เคยเห็นนางที่เป็นเช่นนี้มาก่อนเลย นางเจ้าเล่ห์และชอบวางอำนาจมาโดยตลอด บางครั้งก็อันธพาลเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้นางกลับขดตัวราวกับเด็กน้อยที่แอบไปทำความผิดมาคนหนึ่ง ทั้งยังหลั่งน้ำตาไม่หยุด
เหตุใดจู่ๆ นางจึงเปลี่ยนกลายเป็นเช่นนี้ได้เล่า