สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 246 หาเหาใส่หัวเสียแล้ว
“ท่านปู่ใหญ่ โยวหลานอยู่ที่นี่ด้วย ในเมื่อท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็อย่ามัวแต่แช่อยู่ในถังน้ำเลย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอีก
“เฮอะ”
ซือหม่าไท่ลุกออกมาจากถังน้ำแล้วสวมเสื้อผ้า ซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าโยวหลานจึงค่อยผลักประตูเข้ามา
“ท่านปู่ใหญ่” ซือหม่าโยวหลานทำความเคารพอย่างนอบน้อม
ซือหม่าไท่พยักหน้าให้นาง หลังจากนั้นก็ถลึงตาใส่ซือหม่าโยวเย่ว์ เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ
เจ้าเด็กผู้นี้มิได้อายุเพียงแค่ยี่สิบปีเท่านั้นหรอกหรือ อาการของเขาสาหัสเพียงใดเขาย่อมรู้ดี แล้วเธอเป็นผู้รักษาตนให้หายจริงๆ น่ะหรือ
ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูรอยฝ่ามือประทับสีแดงบนใบหน้าซือหม่าไท่แล้วกลั้นหัวเราะเอาไว้ในใจ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคารพนบนอบว่า “ท่านปู่ใหญ่ ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของท่านน่าจะหายดีแล้ว ท่านประมุขตระกูลเป็นกังวลกับอาการของท่านเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ข้าไปแจ้งให้เขาทราบก่อนดีกว่า”
พอพูดจบเธอก็หมุนกายจากไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ
หากยังรอต่อไป เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะหัวเราะออกมาหรือไม่
เมื่อออกมาข้างนอก เดินออกมาไกลพอสมควรจึงจะพบทหารยาม เธอส่งคนไปแจ้งให้ประมุขตระกูลมาที่นี่
ถึงแม้ว่าทหารยามจะประหลาดใจที่เธอถึงกลับกล้าขอให้ประมุขตระกูลมาที่นี่ แต่ก็ยังไปส่งสาร เดิมทีคิดว่าประมุขตระกูลจะตวาดใส่เขา แต่คิดไม่ถึงว่าพออีกฝ่ายได้ยินว่าซือหม่าโยวเย่ว์เรียกให้เขาไปหา เขาจะรีบมาที่นี่พร้อมกับผู้อาวุโสใหญ่ในทันที
“เจ้าเด็กนั่นหน้าใหญ่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ แม้กระทั่งท่านประมุขตระกูลก็ยังต้องไปหาด้วยตนเอง” ทหารยามผู้นั้นมองเงาหลังของพวกเขาพลางเอ่ยพึมพำ
ซือหม่าหลินมาถึงเรือนพักของพวกซือหม่าโยวเย่ว์อย่างรวดเร็ว เขาเห็นมาแต่ไกลว่าเธออยู่ที่ลานบ้านด้วยร่างกายสั่นสะท้านอยู่เพียงคนเดียว จึงเดินเข้าไปถามว่า “เขาฟื้นแล้วหรือ”
“ฟื้นแล้วล่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่เล่า” ซือหม่าหลินถาม
“รอพวกท่านอย่างไรเล่า!” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ท่านปู่ใหญ่อยู่ข้างใน ข้าจะพาพวกท่านเข้าไปเอง”
เวลาผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว เขาคงจะไม่เอาเรื่องเธอแล้วกระมัง
ถึงแม้ว่าพวกซือหม่าหลินจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดซือหม่าโยวเย่ว์จึงต้องมารอพวกเขาอยู่ที่นี่ด้วย แต่ก็คาดเดากันไปว่าจะต้องมิใช่เรื่องดีอะไรอย่างแน่นอน
ผลปรากฏว่าหลังจากที่พวกเขาเข้าไปแล้วก็เห็นรอยฝ่ามือบนใบหน้าซ้ายขวาของซือหม่าไท่ ทั้งสองอดที่จะทำหน้าบูดบึ้งมิได้ หลังจากนั้นก็ถลึงตาใส่เธอทีหนึ่ง
ซือหม่าโยวเย่ว์เป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ เธอก็แค่พูดไปส่งๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าซือหม่าโยวหลินที่ปกติแล้วดูชาญฉลาด ทว่าครั้งนี้กลับกันอย่างสิ้นเชิง
“คารวะท่านประมุขตระกูล” ซือหม่าหลินพูดพลางทำความเคารพ
ซือหม่าไท่โบกมือแล้วเอ่ยว่า “โยวหลินได้เล่าสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลให้ข้าฟังแล้ว ตอนนี้เจ้าเป็นประมุขตระกูล ไม่ควรทำความเคารพข้าอีกแล้ว”
“มิได้ ข้าก็แค่ทำหน้าที่แทนท่านประมุขตระกูลเท่านั้น ตอนนี้ท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ตำแหน่งประมุขตระกูลยังต้องเป็นท่านนะขอรับ” ซือหม่าหลินพูด “ท่านก็รู้ว่าข้าไม่ชอบตำแหน่งนี้ ทั้งยังไม่คู่ควรอีกด้วย”
ซือหม่าโยวเย่ว์ก้มศีรษะลงต่ำพลางพึมพำเสียงเบาว่า “ที่แท้ท่านให้ข้าลงแรงช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาก็เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นประมุขตระกูลสินะ”
“หลิน ตลอดสามปีนี้เจ้าทำได้ดีมาก” ซือหม่าไท่พูด
ซือหม่าหลินส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ถ้าหากเป็นท่าน ตอนนี้ตระกูลก็คงไม่เป็นเช่นนี้หรอกขอรับ ข้าดูแลรักษาสิ่งนี้แทนท่านมาสามปี ตอนนี้ขอคือมันให้แก่ท่าน”
เขาพูดพลางหยิบหีบใบหนึ่งออกมาส่งให้ซือหม่าไท่
ซือหม่าโยวเย่ว์เหลือบตามองแวบหนึ่งแล้วคาดเดาว่าภายในน่าจะเป็นสิ่งของอย่างตราประทับของประมุขตระกูล
“ภายในหีบนั้นเป็นสิ่งล้ำค่า…” เธออดพูดออกมามิได้ แต่กลับทำให้ทุกคนพากันถลึงตาใส่เธอ
เธอหดคอ ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว
“ท่านประมุขตระกูล เจ้าเด็กผู้นี้เป็นสายตระกูลของเลี่ย เป็นเด็กที่เลี่ยรับมาเลี้ยงน่ะขอรับ” ซือหม่าหลินพูด
“วิชาแพทย์ล้ำเลิศนัก” ซือหม่าไท่มองซือหม่าโยวเย่ว์ เธอไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้เท่านั้น แต่พลังยุทธ์ยังไม่ถดถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย ในบรรดาท่านหมอที่เขารู้จักเหล่านั้นยังไม่มีใครมีวิชาแพทย์เช่นนี้เลย
“ขอบคุณท่านประมุขตระกูลที่ชมเชย!” ซือหม่าโยวเย่ว์ประสานหมัดค้อมกายพลางเอ่ยเสียงดัง
“ข้ายังพูดไม่จบเลย” ซือหม่าไท่พูด “วิชาแพทย์ล้ำเลิศ แต่ตัวคนยังต้องขัดเกลา จะต้องถูกเจ้าเลี่ยนั่นตามใจจนเสียคนอย่างแน่นอน”
“ท่านประมุขตระกูล ท่านพูดได้ถูกต้องจริงๆ เจ้าค่ะ” ซือหม่าโยวหลานพูดพร้อมรอยยิ้ม “พวกจือฉีบอกว่าก่อนหน้านี้ท่านปู่เลี่ยเอาอกเอาใจเขามาตลอด รักใคร่ทะนุถนอมเขายิ่งกว่าเหล่าพี่ชายทั้งหลายเสียอีกเจ้าค่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์ลูบจมูก ถึงอย่างไรเมื่อฟังจากคำพูดนั้นของซือหม่าไท่แล้ว คาดว่าเขาคงจะไม่ไล่บี้เอาเรื่องตนอีกแล้ว
“ท่านปู่ของเจ้าเล่า” ซือหม่าไท่ถาม
“พวกท่านปู่ออกไปข้างนอก ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด ข้าว่าข้าไปตามตัวพวกเขาดีกว่านะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“หากเจ้าหาตัวพวกเขาพบ ให้ตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ทันทีเลยนะ” ซือหม่าไท่พูดจบแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะจากไป ซือหม่าหลินและผู้อาวุโสใหญ่ก็ตามไปด้วย
ซือหม่าโยวหลานปิดปากพลางมองซือหม่าโยวเย่ว์ปราดหนึ่ง ยังคงหัวเราะเยาะเธออยู่
ซือหม่าโยวหลินเดินเข้ามาพลางเงื้อมือขวาขึ้นสูง คล้ายจะฟาดเธอฝ่ามือหนึ่ง แต่ก็หยุดลงเหนือศีรษะเธอ หลังจากนั้นจึงบิดหูเธอไปมา ถือเป็นการลงโทษ
“คราวหน้าจะไม่ใช่แค่นี้แล้วนะ” พอพูดจบเขาก็จากไปด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นความจนใจในแววตาของเขา เธอแลบลิ้นใส่แผ่นหลังของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหันหลังกลับมาพอดี เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วเดินจากไป
ในขณะที่เขาหันหลังกลับ ซือหม่าโยวเย่ว์ก็ชะงักไป ยังคงมิได้สติกลับมาจนกระทั่งเขาพ้นจากลานบ้านไป จากนั้นจึงตีอกชกหัว เจ้านั่นหันกลับมามองทำไมกัน!
ภาพลักษณ์ของเธอจบสิ้นเสียแล้ว…
“เฮ้อ…” เธอถอนหายใจยาว หลังจากนั้นจึงออกมาจากตระกูลซือหม่า แล้วหาบริเวณเพื่อเรียกตัวพวกซือหม่าเลี่ยออกมา
“มีอะไรหรือ” ซือหม่าเลี่ยถาม
“ท่านปู่ ข้ารักษาอดีตประมุขตระกูลจนหายดีแล้ว ท่านปู่หลินจึงคืนตำแหน่งประมุขตระกูลให้แก่เขา ตอนนี้พวกเขาต้องการพบพวกท่านน่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
พวกซือหม่าเลี่ยรู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะต้องรักษาซือหม่าไท่ให้หายได้อยู่แล้ว พวกเขาย่อมมั่นใจในวิชาแพทย์ของเธอ ตอนนี้พอได้ยินว่าซือหม่าไท่ได้รับการรักษาจนหายดีจึงมิได้ตื่นตกใจแต่อย่างใด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ไปพบท่านประมุขตระกูลกันเถิด” ซือหม่าเลี่ยพูด “ตอนนั้นพี่ใหญ่ก็คอยดูแลข้าและพวกพี่ๆ มาตลอด”
“ท่านปู่ ข้าไม่ไปแล้วได้หรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ทำไมเล่า”
ซือหม่าโยวเย่ว์เล่าเรื่องที่ซือหม่าโยวหลินตบบ้องหูซือหม่าไท่หลายทีให้ฟังแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลัวเขาจะคิดบัญชีกับข้าน่ะสิ”
“พรืด…”
พี่น้องซือหม่าโยวหมิงทั้งสี่คนต่างหลุดหัวเราะออกมา
“เจ้านี่ ต่อให้อยากจะอำโยวหลิน ก็ไม่ควรทำเช่นนี้สิ!” ซือหม่าโยวหรานตบศีรษะเธอเบาๆ
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกันว่าเขาจะตบจริงๆ น่ะ!” ซือหม่าโยวเย่ว์รู้สึกผิด “เห็นยามปกติเขาออกจะเฉลียวฉลาด แต่ตอนนั้นดันโง่เง่าขึ้นมาเสียได้”
แม้กระทั่งซือหม่าเลี่ยก็ยังอดขำมิได้ เขาเอ่ยว่า “ไปเถิด มีข้าอยู่ทั้งคน ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำร้ายเจ้าหรอกน่า”
ในที่สุดซือหม่าโยวเย่ว์ก็ตามไปกับพวกเขาด้วย แต่ก็ยืนอยู่ด้านหลังสุด พยายามไม่ทำตัวให้เป็นที่สังเกตของทุกคน
แต่เธอเป็นผู้รักษาท่านประมุขตระกูลจนหายดี แล้วผู้อื่นจะมองข้ามได้อย่างไร ทุกครั้งที่มีคนหยิบยกเรื่องที่เธอรักษาท่านประมุขตระกูลขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ารอยฝ่ามือบนใบหน้าของท่านประมุขตระกูลแดงเข้มขึ้นมาทันที
จากนั้นทุกคนก็กลับไป เหลืออยู่เพียงแค่ซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าไท่เท่านั้น
“เจ้าให้โยวหลินตบข้า” ซือหม่าไท่เริ่มบทสนทนาก่อน
“เรื่องนี้มิได้ถูกเปิดเผยไปแล้วหรอกหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์พึมพำ “ข้าเป็นคนช่วยท่านนะ!”
ซือหม่าไท่พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “เรื่องนี้ก็จริงอยู่ ทว่าแต่ละเรื่องต้องแยกแยะจากกัน สิ่งที่ควรให้ก็ต้องให้ สิ่งที่ควรลงโทษก็ต้องลงโทษสิ”
ซือหม่าโยวเย่ว์เบิกตากว้างแล้วเอ่ยว่า “ต้องลงโทษด้วยหรือ!”
……………………………………