สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 324 ติดกับดัก
เมื่อถูกซือหม่าโยวเย่ว์ถามเช่นนี้ซือหม่าโยวหรานจึงนึกถึงวัตถุประสงค์ที่มาหาเธอขึ้นมาได้
เขาหยิบบัตรเชิญใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อพลางเอ่ยว่า “เพื่อฉลองที่การประลองของขุมอำนาจชั้นหนึ่งสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้งานประลองของแต่ละสมาคมในวันพรุ่งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยดี พันธมิตรสมาคมจึงได้เชิญคนจำนวนหนึ่งไปเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ เพราะเจ้าไม่ได้ไป ดังนั้นจึงให้พวกเรานำบัตรเชิญมาให้เจ้าแทนน่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์รับบัตรเชิญมาดู เมื่อเห็นสถานที่จัดงานก็เลิกคิ้วพลางเอ่ยว่า “จัดที่สมาคมนักหลอมยาหรือ”
“อืม ได้ยินว่างานเลี้ยงคืนนี้สมาคมนักหลอมยาเป็นผู้เสนอขึ้น ดังนั้นจึงจัดขึ้นที่สมาคมของพวกเขาน่ะ” ซือหม่าโยวหรานพูด “พวกเราไม่ลงรอยกับสมาคมนักหลอมยา เจ้าอย่าไปเลยดีกว่านะ”
“ก็ได้ ถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีความสนใจงานเลี้ยงพรรค์นี้อยู่แล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“เช่นนั้นข้ากลับก่อนนะ” ซือหม่าโยวหรานพูด
“ได้เลย ขอบคุณพี่สามมาก” ซือหม่าโยวเย่ว์ส่งเขาออกไป
พอตกบ่าย ซือหม่าโยวเย่ว์ก็ได้รับบัตรเชิญอีกใบหนึ่ง ซึ่งคราวนี้ส่งมาในนามของคนผู้หนึ่ง
“เหยียนลู่เชิญข้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงอย่างนั้นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูบัตรเชิญใบนี้ด้วยความตกตะลึงอยู่บ้างว่าเหตุใดนางจึงเชิญตนไป
“ไม่รู้สิ คนที่ส่งบัตรเชิญมานั้น พอส่งให้คนเฝ้าประตูแล้วก็จากไปเลย ข้าผ่านทางมาพอดีก็เลยนำกลับมาให้เจ้าด้วยน่ะ” เจ้าอ้วนชวีพูด “โยวเย่ว์ เช่นนั้นคืนนี้เจ้าจะไปหรือไม่”
“บนนั้นเขียนเอาไว้ด้วยว่ามีเรื่องจะปรึกษา ดูเหมือนว่านางคงมีธุระอยากจะพบข้านั่นแหละ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงต้องไป ถ้ามันน่าเบื่อค่อยขอตัวกลับมาก่อนก็ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
เหยียนลู่ต้องการพบตนเพราะเรื่องอันใดกัน
“พวกเราไม่ได้รับบัตรเชิญก็ไปไม่ได้ เจ้าไปเองคนเดียวต้องระมัดระวังหน่อยล่ะ อยู่กับพวกพี่ชายของเจ้าตลอดได้ก็จะเป็นการดีที่สุด” เจ้าอ้วนชวีกำชับ
“ข้ารู้แล้ว”
พอตกเย็น ซือหม่าโยวเย่ว์กับพวกซือหม่าโยวหรานก็ไปที่สมาคมนักหลอมยาด้วยกัน เพราะผู้ที่เชิญมามีเพียงแค่คนรุ่นเยาว์ที่เคยเข้าร่วมการประลองเท่านั้น ดังนั้นพวกเว่ยจือฉีจึงได้แต่อยู่รอที่บ้าน
เดิมทีคิดว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะไม่ไปแล้ว จู่ๆ เห็นเธอปรากฏตัวขึ้น ทุกคนจึงตกตะลึงกันอยู่บ้าง เมื่อได้ยินว่าเธอจะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงก็มิได้คิดอะไรมาก เพียงแค่พาเธอไปด้วยเท่านั้น
“ตอนที่ตระกูลหลี่ถูกท้าประลอง อีกนิดเดียวก็เกือบจะพ่ายแพ้ในการท้าประลองอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเอาชนะได้ในยกสุดท้าย ไม่อย่างนั้นตอนนี้พวกเขาก็คงกลายเป็นขุมอำนาจชั้นสองไปแล้วล่ะ เมื่อนึกถึงว่าคืนนี้ยังต้องเห็นพวกเขาด้วย ก็ไม่ค่อยเป็นสุขสักเท่าไหร่เลย” ซือหม่าโยวหยางพูด
“เจ้าแกล้งมองไม่เห็นก็ได้นี่” ซือหม่าโยวหลินหลับตาพักผ่อนโดยไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ
“ก็คงได้แต่ทำเช่นนี้แล้ว” ซือหม่าโยวหยางพูดอย่างจนใจ หลังจากนั้นจึงมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยว่า “โยวเย่ว์ เจ้ามิได้บอกว่าจะไม่ไปหรอกหรือ เหตุใดจึงเปลี่ยนใจเล่า”
“เมื่อตอนบ่ายข้าได้รับบัตรเชิญของเหยียนลู่ บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องใด ก็เลยมาดูสักหน่อยดีกว่า ถึงอย่างไรก็นับว่ารู้จักกัน” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
ซือหม่าโยวหลินลืมตาขึ้นมองเธอ แววตาเป็นประกายวิบวับ แต่กลับมิได้พูดอะไรเลย จากนั้นจึงหลับตาลงอีกครั้ง
รถเทียมสัตว์อสูรพาพวกเขาไปถึงสมาคมนักหลอมยาตรงเวลา จากนั้นพวกเขาก็ไปยังสถานที่จัดงานด้วยการนำทางของสาวใช้
ขณะนี้ผู้คนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่สถานที่จัดงานเรียบร้อยแล้ว คนส่วนใหญ่ของแต่ละตระกูลล้วนมากันหมด แต่ละคนถือจอกสุราพลางจับกลุ่มสนทนากันเป็นกลุ่มเล็กๆ
ซือหม่าโยวเย่ว์ถือจอกสุราอยู่ที่มุมห้องพลางสนทนากับซือหม่าโยวหลินไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักก็มีสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “คุณชายโยวเย่ว์ คุณหนูของข้าเชิญท่านเข้าไปเจ้าค่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์รู้จักคนผู้นี้ นางคือสาวใช้คนสนิทของเหยียนลู่ เมื่อเห็นนางมาเรียกตนก็มิได้สงสัยอะไร จึงลุกขึ้นเดินตามนางไป
“ข้าไปกับเจ้าด้วยก็แล้วกัน” ซือหม่าโยวหลินรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างจึงลุกขึ้นยืน
“ขอโทษด้วยเจ้าค่ะคุณชายโยวหลิน คุณหนูของข้าเชิญเฉพาะคุณชายโยวเย่ว์เท่านั้นเจ้าค่ะ” สาวใช้พูดอย่างขอโทษขอโพย หลังจากนั้นจึงมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยว่า “คุณชายโยวเย่ว์ โปรดตามข้ามาเจ้าค่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าให้กับซือหม่าโยวหลินก่อนจะเดินตามสาวใช้ออกไปจากสถานที่จัดงาน
ซือหม่าโยวหลินมองพวกเธอจากไปแล้วนั่งลงตามลำพัง
ซือหม่าโยวเย่ว์เดินตามสาวใช้ไปยังด้านหลังของสมาคมนักหลอมยา เพราะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเส้นทางที่สาวใช้พาตนไปนั้นถูกต้องหรือไม่
เดินมาสิบกว่านาที เธอก็เห็นว่าเส้นทางที่สาวใช้พาไปนั้นห่างไกลขึ้นเรื่อยๆ จึงหยุดเดินแล้วถามว่า “ถึงอย่างไรคุณหนูของเจ้าก็เป็นคุณหนูของสมาคม เรือนของนางไม่น่าจะอยู่ห่างไกลถึงเพียงนี้กระมัง”
สาวใช้ผู้นั้นแย้มยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหนูของข้ามิได้จะพบท่านที่เรือน นางมีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดกับท่าน ดังนั้นจึงได้เลือกสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบเอาไว้โดยเฉพาะน่ะเจ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวพวกเราก็จะไปถึงกันแล้ว”
ถึงแม้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะเกิดความกังขาขึ้นมาในใจ แต่ก็ยังเดินตามนางต่อไป อีกไม่กี่นาทีต่อมา พวกเธอก็มาถึงเรือนอันรกร้างแห่งหนึ่ง ภายในศาลาพักร้อนของเรือนยังมีกับแกล้มและสุราไหหนึ่งวางอยู่ด้วย
“คุณชายโยวเย่ว์โปรดรอในศาลาพักร้อนสักครู่นะเจ้าคะ อีกประเดี๋ยวคุณหนูของข้าก็จะมาถึงแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้พูดจบแล้วเดินจากไป
ซือหม่าโยวเย่ว์เดินมาถึงด้านในศาลาพักร้อน เมื่อเห็นสุราอาหารบนโต๊ะ มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มเยียบเย็น
“ดูเหมือนมีคนจงใจล่อลวงข้ามาที่นี่สินะ!” เธอพูดอย่างเฉยชาประโยคหนึ่ง ทำให้หลี่มู่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเรือนหัวใจเต้นรัว แล้วรีบกดกลไกในมือทันที
“พรึ่บ…”
แผ่นหินใต้เท้าของเธอแยกออกจากกันอย่างฉับพลัน ทำให้เธอร่วงหล่นลงไปในทันที
“โยวเย่ว์!” เสียงเรียกอันร้อนรนดังมาจากบริเวณเรือนนั้น ซือหม่าโยวเย่ว์ยังไม่ทันได้เห็นว่านั่นคือใครก็ร่วงหล่นลงสู่ความมืดมิดเสียแล้ว ท่ามกลางความมืด เธอก็รู้สึกว่ามีคนกระโดดลงมาก่อนที่แผ่นหินจะเคลื่อนตัวปิดด้วย
หลุมด้านล่างลึกมาก น่าจะเกือบร้อยเมตรได้ เพราะแผ่นหินด้านบนปิดลงแล้ว ด้านล่างจึงมืดสนิท
“พรึ่บ…” เธอรีบจุดไฟขึ้นมากองหนึ่ง จึงมองเห็นพื้นดิน จากนั้นจึงรีบจัดท่าทางตัวเองให้ร่อนลงสู่พื้นได้อย่างมั่นคง
หลายวินาทีต่อมา อีกคนหนึ่งจึงร่อนลงมาด้วย
“โยวหลินหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นผู้ที่มาด้วยชัดเจนแล้วจึงพูดอย่างตกใจว่า “เจ้ามาได้อย่างไรกัน”
“ข้าเห็นเจ้าออกมาแล้วรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ จึงได้ตามมาเงียบๆ แต่พอข้ามาถึงก็เห็นเจ้าร่วงลงมา ก็เลยลงมากับเจ้าด้วยน่ะสิ” ซือหม่าโยวหลินพูด
“ขอบคุณมาก” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดด้วยรอยยิ้ม
พวกเขามองประเมินรอบด้านโดยอาศัยแสงสว่างจากเปลวไฟ ก็พบว่านี่เป็นเพียงแค่ถ้ำหินขนาดสองตารางเมตร กำแพงทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ คิดดูแล้วน่าจะเป็นกลไกอย่างหนึ่งที่ติดตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ตะไคร่น้ำใต้เท้าออกจะแปลกประหลาดอยู่บ้างนะ” ซือหม่าโยวหลินพูด
“หืม?” ในขณะที่ซือหม่าโยวเย่ว์คิดจะดูตะไคร่น้ำเหล่านี้อย่างละเอียดอยู่นั้นเอง เหนือศีรษะก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
ซือหม่าโยวเย่ว์หลับตารับสัมผัสครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “หลี่มู่ ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง!”
“ฮ่าๆๆ ซือหม่าโยวเย่ว์ คิดไม่ถึงสินะ ข้าเองแหละ!” หลี่มู่ที่อยู่ข้างบนหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วเอ่ยว่า “เจ้ามิได้มีความสามารถหนักหนาหรอกหรือ เหตุใดจึงกลายเป็นนักโทษของข้าได้เล่า”
“สาวใช้ของเหยียนลู่ถูกเจ้าซื้อตัวไปสินะ” ซือหม่าโยวเย่ว์นึกถึงสาวใช้ที่พาตนมา เพราะรู้ว่าเป็นสาวใช้คนสนิทข้างกายเหยียนลู่ เธอจึงยอมตามมาด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะกลายเป็นคนของหลี่มู่ไปเสียแล้ว
“เจ้าช่างสมองดีเสียจริงนะ น่าเสียดายที่จะได้ใช้หัวสมองอันปราดเปรื่องเช่นนี้ถึงเพียงแค่วันนี้เท่านั้น” หลี่มู่เอ่ย
“เจ้าคิดว่าคุกเล็กๆ แค่นี้จะขังข้าเอาไว้ได้อย่างนั้นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์หรี่ตาพลางเปล่งรัศมีอันตรายออกมา
รอให้เธอขึ้นไปได้ก่อน จะต้องได้เห็นดีกันกับเจ้าหลี่มู่ผู้นี้แน่นอน!
“เจ้าอย่าได้ดูถูกสถานที่แห่งนี้ไปล่ะ ก้อนหินพวกนี้ทนทานยิ่งนัก ต่อให้เป็นระดับจ้าววิญญาณก็มิอาจทำลายมันได้ง่ายๆ” หลี่มู่พูด “ข้ารู้ว่าเจ้ามีสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาระดับจ้าววิญญาณอยู่ แต่ต้องการเวลาแค่ไม่กี่วินาทีก็เพียงพอแล้ว! ข้าจะส่งเจ้าไป…”
………………………………………..