สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 355 ทำข้อตกลงกับเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะ
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นหลิงหลงกลับมาโดยไม่เป็นอันตรายแม้แต่ปลายผม จึงถอนหายใจแล้วรับตัวนางมาพลางเอ่ยว่า “เจ้า าไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่เป็นไร น้ำแข็งพรรค์นั้นทำร้ายข้ามิได้หรอก ก็แค่กักขังข้าเอาไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้นแหละ” หลิงหลงพูด
“ข้าให้” เจ้าไก่ฟ้าส่งดอกกระดูกศิลาให้กับซือหม่าโยวเย่ว์
ซือหม่าโยวเย่ว์หยิบหีบใบหนึ่งออกมาแล้วแสร้งทำเป็นเก็บลงไป แต่ความจริงแล้วเธอโยนมันเข้าไปให้เจ้าวิญญาณน้ อยในเจดีย์วิญญาณต่างหาก
เจ้าวิญญาณน้อยแบ่งเครื่องยาทุกชนิดตามความต้องการสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันของพวกมันได้ ขอเพียงแค่ปลูกมันลง งไปทั้งราก ทันทีที่ดอกกระดูกศิลาถูกปักลงไป ก็มีชีวิตยืนยาวต่อไปได้ในภายภาคหน้า
หมาป่าหิมะตนนั้นถูกเจ้าไก่ฟ้าทำร้ายจนบาดเจ็บ ทักษะความสามารถโดยกำเนิดของมันจึงไร้ผลไปทันที เกล็ดหิมะเหล่านั้ นเริ่มหลอมละลายอย่างช้าๆ คนที่ถูกแช่แข็งจึงได้รับการปลดปล่อยออกมา
“สัตว์อสูรเหนือเทพหรือ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน สัตว์อสูรเหนือเทพปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไร!” หมาป่าหิมะมอ องเจ้าไก่ฟ้าด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
มีสัตว์อสูรเหนือเทพอยู่ ผู้ใดจะกล้ามาช่วงชิงดอกกระดูกศิลา พวกเขารีบทิ้งระยะห่างจากหมาป่าหิมะตนอื่นๆ อย่าง รวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการต่อสู้ขึ้นอีก
“เป็นสัตว์อสูรเหนือเทพจริงๆ ด้วย!” มีคนมองเจ้าไก่ฟ้าแล้วเอ่ยพึมพำ “เขาเข้ามาได้อย่างไรกัน”
“มิได้บอกว่ามีเพียงผู้ที่พลังยุทธ์ต่ำกว่าระดับจ้าววิญญาณเท่านั้นจึงจะเข้ามาได้หรอกหรือ”
“ถูกต้อง ตอนที่พวกเราเข้ามา ข้าเห็นว่ามีคนระดับเทพหลายคนปะปนอยู่ในฝูงชนหมายจะเข้ามา แต่ก็ถูกกฎเกณฑ์สกัด เอาไว้ข้างนอกทั้งหมด แล้วสัตว์อสูรเหนือเทพตนนี้เข้ามาได้อย่างไรกัน”
“เขาคือสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของคนผู้นั้น!” มีคนสังเกตเห็นข้อแตกต่าง
“สัตว์อสูรเหนือเทพในร่างมนุษย์เป็นสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของมนุษย์คนหนึ่งอย่างนั้นหรือ”
“ใช่จริงๆ ด้วย! ที่แท้แล้วคนผู้นั้นมีตัวตนเช่นไรกันแน่ ถึงมีสัตว์อสูรเหนือเทพเป็นสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาได้ !”
“มิน่าเล่า สัตว์อสูรเหนือเทพตนนี้จึงเข้ามาได้ ขอเพียงแค่เป็นสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาแล้ว ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ จากกฎเกณฑ์ของสถานที่แห่งนี้ ขอเพียงแค่เจ้านายของเขาพลังยุทธ์ยังไม่เกินระดับเทพ พวกเขาก็ไร้ปัญหา”
“ถึงกับมีสัตว์อสูรเหนือเทพเป็นสัตว์อสูรผูกพันธสัญญา คนผู้นี้ร้ายกาจเกินไปแล้วจริงๆ!”
“เบื้องหลังของคนผู้นี้จะต้องร้ายกาจมากอย่างแน่นอน!”
“เมื่อครู่ข้าเห็นพวกเขาอยู่กับพวกกัวเพ่ยเพ่ย จะต้องมาจากดินแดนไร้กลิ่นอายแน่”
“ข้าว่าอาจจะมาจากดินแดนโบราณก็เป็นได้ มีเพียงแค่คนจากเบื้องบนเท่านั้นถึงจะมีฝีไม้ลายมือเช่นนี้”
เจ้าไก่ฟ้ามิได้สนใจการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้เลย เขาหมุนตัวมามองพวกเขาแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้าไปจากที่นี่ดีกว่า”
ถึงแม้ว่าใจจะไม่ยินยอม แต่พวกเขากลับไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของเขา แต่ละคนตามกันออกไปจากที่นี่
ทว่าหมาป่าหิมะเหล่านั้นกลับอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ไม่มีทีท่าว่าจะจากไปเลย
“พวกเจ้าไม่ไปหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์มองหมาป่าหิมะพลางเอ่ยถาม
ราชาหมาป่าหิมะมองซือหม่าโยวเย่ว์แล้วพูดว่า “ข้าต้องการดอกกระดูกศิลาในมือเจ้า ถ้าหากไม่ได้มันมาครอง ข้าก็ จะสู้กับพวกเจ้าจนตายไปด้วยกัน”
“หืม” ซือหม่าโยวเย่ว์มองหมาป่าหิมะ เห็นแววตาของมันแน่วแน่ถึงเพียงนั้น จึงเอ่ยถามว่า “เจ้าต้องการสิ่งนี้ไปทำไ ไมหรือ”
“ราชาคนก่อนของพวกเราได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ในการรักษาอาการบาดเจ็บของเขา” หมาป่าหิมะพูด
“ราชาหมาป่าหิมะต้องร้ายกาจเป็นอย่างยิ่งสิถึงจะถูก เหตุใดจึงได้รับบาดเจ็บได้เล่า” เจ้าอ้วนชวีถาม
“พวกเราต่อสู้กับเสือเขี้ยวดาบมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ราชาของพวกเราถูกราชาของพวกเขาทำร้าย ชีวิตแขวนอยู่บนเส ส้นด้าย พวกเราจำเป็นต้องผนึกร่างกายของเขาเอาไว้ ถ้าหากไม่มีสมุนไพรชนิดนี้ เขาก็มิอาจมีชีวิตได้อีกต่อไป พวกเรา าหมาป่าหิมะก็อาจถูกเสือเขี้ยวดาบล้างเผ่าพันธุ์จนสูญสิ้นไปตลอดกาล” หมาป่าหิมะพูด
“เจ้าพูดเรื่องพวกนี้กับพวกเราทำไมกัน เจ้าคิดว่าพวกเราจะยกสิ่งล้ำค่าที่ได้มาไว้ในมือแล้วให้กับเจ้าอย่างนั้ นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์รู้สึกว่าหมาป่าหิมะตนนี้ช่างอาจหาญเสียเหลือเกิน
“นัยน์ตาของเจ้ามิได้มีแววละโมบเหมือนคนเหล่านั้น สัญชาตญาณบอกกับเราว่าลองเจรจากับเจ้าได้” หมาป่าหิมะพูด “นอ อกจากนี้พวกเราไม่ได้จะให้เจ้ายกให้เปล่าๆ จะต้องให้ค่าตอบแทนพวกเจ้าอย่างแน่นอน”
“ค่าตอบแทนหรือ เจ้าจะให้ค่าตอบแทนอะไรพวกเราได้เล่า จะให้พวกเราทำพันธสัญญากับหมาป่าหิมะสักหลายตัวอย่างนั้นหร รือ” เจ้าอ้วนชวีพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่!” หมาป่าหิมะส่ายหน้า “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อยกระดับพลังยุทธ์ พวกเราสามารถจัดหาสถานที่บำเ เพ็ญสักแห่งให้พวกเจ้าได้ ที่นั่นจะทำให้พลังยุทธ์ของเจ้าเพิ่มพูนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ข้าต้องการเพียงแ แค่กลีบของดอกไม้เท่านั้น พวกเจ้าเก็บส่วนอื่นๆ เอาไว้ได้เลย”
ซือหม่าโยวเย่ว์ปรึกษากับพวกเป่ยกงถังแล้วรู้สึกว่าพอทำได้ จึงเอ่ยว่า “เอาละ ข้าจะรับปากเจ้าก็ได้ แต่พวกเรา ต้องไปดูก่อนว่าสถานที่ที่เจ้าพูดถึงนั้นคุ้มค่าหรือไม่”
หมาป่าหิมะมองเจ้าไก่ฟ้าปราดหนึ่งแล้วพยักหน้าเอ่ยว่า “ได้สิ”
ตอนนี้พวกมันไม่มีทางเลือกอีกแล้ว จึงได้แต่เชื่อใจพวกเขาเท่านั้น
ในขณะนี้เอง คนตระกูลกัวและคนตระกูลอวิ๋นก็เดินเข้ามา ตอนนี้ทั่วทั้งหุบเขาเหลือเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ยั งไม่จากไป
“เจ้าหุบเขาน้อย ท่านจะไปกับพวกเขาจริงๆ หรือ” อวิ๋นอี้ถาม
“อื้ม” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า “เจ้าก็ไม่ต้องตามข้ามาหรอกนะ พาคนตระกูลอวิ๋นไปแสวงหาโอกาสเถิด คุณหนูกัว พวก กเราก็อำลากันตรงนี้เลยนะ”
พวกกัวเพ่ยเพ่ยรู้ว่าพวกซือหม่าโยวเย่ว์มีความมั่นใจในตัวเองว่าจะไปยังดินแดนของเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะได้ จ จึงมิได้พูดอะไรอีก เพียงแค่บอกว่าให้รักษาตัวด้วย หลังจากนั้นก็มองพวกเขาไปจากหุบเขาแห่งนี้พร้อมกับหมาป่าหิมะ ะ
อวิ๋นอี้โบกพัดในมือแล้วพูดกับตนเองว่า “สมกับที่เป็นผู้สืบทอดที่เข้าตาท่านเจ้าหุบเขารองจริงๆ ดวงแข็งกว่า าคนทั่วไปมากมายเลยทีเดียว!”
“ท่านพี่ ท่านว่าอะไรนะ” อวิ๋นเฟิงได้ยินไม่ชัดจึงเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรหรอก” อวิ๋นอี้รวบพัดมาเคาะศีรษะอวิ๋นเฟิงแล้วพูดว่า “เจ้าต้องขยันบำเพ็ญให้ขึ้นไปยังเบื้องบนได้เร็ว วหน่อย เข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้ว” อวิ๋นเฟิงเอ่ยตอบ
“พี่อวิ๋นอี้ พวกเราก็ไปจากที่นี่กันเถิด” กัวเพ่ยเพ่ยพูด “ข้ามีลางสังหรณ์ว่าพอพวกคุณชายซือหม่าออกมาอีกค ครั้ง พลังยุทธ์จะต้องเพิ่มพูนขึ้นมากอย่างแน่นอน”
พวกซือหม่าโยวเย่ว์ไปจากหุบเขาพร้อมกับหมาป่าหิมะ เธอเรียกเจ้าวิหคน้อยออกมา ก่อนจะตามหมาป่าหิมะที่วิ่งอยู่ บนพื้นไปยังสถานที่พักอาศัยของพวกมัน ผ่านไปครึ่งวัน พวกเขาก็มาถึงภูเขาหิมะแห่งหนึ่ง
“เป็นภูเขาหิมะนี่!” ซือหม่าโยวเล่อเห็นภูเขาหิมะแล้วเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
“ที่นี่อยู่ไม่ห่างจากสถานที่ก่อนหน้านี้ไม่มากนัก คิดไม่ถึงว่าสภาพอากาศจะแตกต่างกันมากมายถึงเพียงนี้”
พวกซือหม่าโยวเย่ว์ลงมาจากหลังเจ้าวิหคน้อย หมาป่าหิมะก็วิ่งเข้ามาหาในขณะเดียวกัน
“ที่นี่คือที่พักอาศัยของพวกเราเอง” หมาป่าหิมะพูด “พื้นที่ที่จะให้พวกเจ้าอยู่ในเขตศูนย์กลางของที่พักพวกเรา ข้าจะพาพวกเจ้าไปเอง”
“ดีเลย” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า
พวกเขาเดินเท้าไปบนภูเขาหิมะ หลังจากข้ามผ่านภูเขาหิมะหลายแห่งแล้วพวกเขาก็มาถึงลาดเขาแห่งหนึ่ง
“องค์ราชา ท่านกลับมาแล้ว!”
“องค์ราชา หาเครื่องยานั่นพบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“องค์ราชา มนุษย์เหล่านี้คือใครหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ตลอดทางที่เดินมา พวกเขาได้เห็นหมาป่าหิมะจำนวนไม่น้อย ที่แท้แล้วพวกนี้ก็มิได้มีพลังยุทธ์แข็งแกร่งอย่างยิ่งก กันทั้งหมด มีหมาป่าหิมะจำนวนหนึ่งที่เป็นเพียงระดับสัตว์อสูรทิพย์เท่านั้น และบางส่วนยังเป็นเพียงระดับสัตว์อ อสูรวิเศษเท่านั้น
เมื่อเห็นความตกตะลึงบนใบหน้าของพวกเขา ราชาหมาป่าหิมะจึงอธิบายว่า “พวกเราอยู่ที่นี่ ยกระดับไปได้ถึงเพียงแค่ร ระดับสัตว์อสูรเทพขั้นสุดยอดเท่านั้น ไม่มีทางได้เหยียบย่างสู่ระดับสัตว์อสูรเหนือเทพ ถึงแม้ว่าพวกเราจะใช้ชีวิตอย ยู่ที่นี่มาเนิ่นนานแล้วก็ตาม แต่พวกเราเลื่อนระดับได้อย่างยากเย็นยิ่งนัก พลังยุทธ์ของบรรพชนจำนวนมากก็มิได้สู งนัก มีหลายทีที่ข้ารู้สึกว่าข้าจะบรรลุเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพได้ แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ต่อมาพวกเราถึงได้เข้ าใจว่ามิใช่พลังยุทธ์ไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะพวกเราอยู่ที่นี่แล้วถูกยับยั้งต่างหาก”
“เช่นนั้นพลังยุทธ์ของพวกเจ้าก็อาจจะแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรวิเศษข้างนอกในระดับขั้นเดียวกันสินะ” ซือหม่าโยวเ เย่ว์ถาม