สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 357 การตัดสินใจของเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะ
“เป็นอย่างไรบ้าง เครื่องยาเหล่านี้ใช้หลอมยาวิเศษได้หรือไม่” ราชาหมาป่าหิมะถาม
ซือหม่าโยวเย่ว์ได้สติกลับมาแล้วเอ่ยว่า “ถึงแม้เครื่องยาจะมิได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากนัก แต่เครื่องยาหลักล้วนมีครบหมดแล้ว ส่วนเครื่องยาอื่นๆ ข้านำออกมาให้ได้ แต่หลังจากหลอมยาวิเศษเสร็จแล้ว ข้าต้องได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งนะ”
“ขอเพียงแค่ช่วยชีวิตเซียวได้ เจ้าต้องการที่เหลือทั้งหมดก็มิใช่ปัญหา” ราชาหมาป่าหิมะพูด
“ได้! เช่นนั้นข้าเตรียมตัวสักครู่หนึ่งก็หลอมได้แล้วล่ะ” เห็นราชาหมาป่าหิมะดีอกดีใจเช่นนี้ เธอจึงไม่รอช้า ไปเลือกเครื่องยามาหลายชนิดแล้วพูดว่า “พวกเราไปกันเถิด”
ซือหม่าโยวเย่ว์ออกมาจากภูเขาหิมะ ออกมาข้างนอกโดยมีราชาหมาป่าหิมะติดตามมาด้วย หลังจากนั้นจึงเปิดเตาหลอมยา
ผ่านไปครึ่งวันเธอก็หลอมยาวิเศษสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือของยาวิเศษฟื้นฟูปราณวิญญาณ เธอจึงหลอมยาวิเศษขั้นหกออกมาได้สำเร็จ
“เสร็จแล้ว” เธอปาดเหงื่อบนใบหน้าแล้วแบ่งยาวิเศษที่หลอมได้ทั้งสี่เม็ดออกเป็นสองส่วนด้วยสีหน้าซีดขาว ก่อนจะมอบให้ราชาหมาป่าหิมะสองเม็ด ส่วนตนก็เก็บส่วนที่เหลืออีกสองเม็ดลงไป
ราชาหมาป่าหิมะเฝ้าดูเธอหลอมยาตลอดทั้งกระบวนการ เห็นเธอใส่กลีบดอกกระดูกศิลาเข้าไปสองกลีบ เมื่อเห็นสภาพอ่อนแรงของเธอแล้วก็รู้ว่าการหลอมยาวิเศษนี้กินแรงเธอไปไม่น้อยเลยทีเดียว จึงเอ่ยว่า “เจ้าไปฟื้นฟูปราณวิญญาณที่สถานที่บำเพ็ญก่อนก็ได้นะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์ก็ไม่เกรงใจ เธอให้เจ้าไก่ฟ้าอุ้มตนไปยังถ้ำแห่งนั้นแล้วนั่งขัดสมาธิลงข้างบ่อก่อนจะเริ่มต้นฝึกยุทธ์
ไม่พูดไม่ได้ว่าความเร็วในการฝึกยุทธ์ของที่นี่เร็วกว่าที่อื่นอย่างมากจริงๆ ปราณวิญญาณในร่างกายเธอเหือดหายไปหมดแล้ว ถ้าหากจะฟื้นฟูจนเต็มสมบูรณ์ อย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งวัน แต่อยู่ที่นี่เธอใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันแล้ว
พอเธอลืมตาขึ้น เจ้าไก่ฟ้าก็กำลังจ้องกำแพงด้านหนึ่งแน่วนิ่ง
“เจ้าไก่ฟ้า เจ้ากำลังมองอะไรอยู่หรือ”
เจ้าไก่ฟ้าชี้กำแพงด้านนั้นแล้วเอ่ยว่า “กำแพงด้านนี้แปลกประหลาดอยู่บ้าง”
ซือหม่าโยวเย่ว์ลุกขึ้นยืน เธอมาที่ข้างกายเขาแล้วถามว่า “มีสิ่งใดแปลกประหลาดหรือ”
“ภายในมีระลอกความเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาดอยู่น่ะสิ” เจ้าไก่ฟ้าพูด
“ระลอกความเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาดหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์รับสัมผัสดูอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “ดูเหมือนจะผิดปกติอยู่บ้างจริงๆ ด้านหลังกำแพงคือที่ว่างอย่างนั้นหรือ”
“น่าจะใช่” เจ้าไก่ฟ้าพูด “หรือจะพูดว่ามิใช่กำแพง หากแต่เป็นข่ายมนตร์อันหนึ่งต่างหาก”
“ข่ายมนตร์หรือ”
ซือหม่าโยวเย่ว์เดินเข้าไปอย่างประหลาดใจก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัส ความรู้สึกที่มือนั้นไม่เหมือนกับกำลังสัมผัสกำแพงหินอยู่จริงๆ
“พวกเราต้องไปดูสักหน่อยหรือไม่” เธอใคร่รู้ว่าด้านหลังคือสิ่งใด จึงหันไปมองเจ้าไก่ฟ้า
“แผนการคราวนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ” เจ้าไก่ฟ้าพูด “มีคนมาน่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ จากนั้นหมาป่าหิมะตนหนึ่งก็เดินเข้ามา
หมาป่าหิมะตนนั้นเห็นซือหม่าโยวเย่ว์ดูพลังจิตสมบูรณ์ดีแล้ว สีหน้าก็เผยแววตกใจ “ท่านฟื้นฟูเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ”
“ใช่แล้ว มีเรื่องอันใดหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“องค์ราชาบอกว่าราชาองค์ก่อนฟื้นแล้ว จึงให้ข้ามาดูว่าท่านหายดีแล้วหรือยัง หากท่านออกมาแล้วให้พาตัวท่านไปพบ” หมาป่าหิมะตนนั้นพูด
“เช่นนั้นพวกเราไปกันเถิด”
พวกซือหม่าโยวเย่ว์มาถึงยังถ้ำขนาดมหึมา การจัดวางในถ้ำแห่งนี้เหมือนกับพระราชวังของมนุษย์ ภายในมีสิ่งล้ำค่าวางอยู่มากมาย แต่เพราะไม่รู้มูลค่าของมัน จึงวางเอาไว้อย่างระเกะระกะ
ตอนที่เธอเข้าไป เมื่อเจ้าอ้วนชวีได้เห็นก้อนหินบางอย่างแล้วน้ำลายก็ไหลยืด ดูเหมือนว่าเขาจะได้เห็นสิ่งล้ำค่าบางอย่างเข้าเสียแล้ว
ส่วนพวกเว่ยจือฉีก็นั่งบนเก้าอี้ สนทนากับราชาหมาป่าหิมะอย่างเป็นมิตร
และบนแท่นหินด้านหลังราชาหมาป่าหิมะ มีหมาป่าหิมะตนหนึ่งนอนหลับตาพักผ่อนอยู่บนนั้น
เมื่อเห็นซือหม่าโยวเย่ว์เข้ามา ราชาหมาป่าหิมะจึงเอ่ยว่า “เดิมทีคิดว่ายังต้องรออีกสักวัน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะหายดีได้เร็วถึงเพียงนี้”
“บำเพ็ญที่นั่นดีใช้ได้เลยล่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าให้ราชาหมาป่าหิมะ เธอมองหมาป่าหิมะที่ด้านหลังตัวนั้นแล้วถามว่า “เขาคือราชาองค์ก่อนของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ”
เซียวลืมตาขึ้นมองซือหม่าโยวเย่ว์แล้วเอ่ยว่า “เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตข้าหรือ”
“แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันเท่านั้นแหละ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ก็ยังต้องขอบคุณเจ้าอยู่ดี” เซียวพูดจบแล้วหลับตา เห็นชัดว่าเขายังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่
“ที่พวกเราเรียกเจ้ามาในวันนี้เพื่อบอกว่าเซียวฟื้นแล้ว พวกเจ้าก็ไปฝึกยุทธ์ที่ถ้ำได้แล้ว” ราชาหมาป่าหิมะกล่าว “สำหรับเรื่องที่เจ้าพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ พวกเรายังต้องหารือกันอีกสักหน่อย”
“ดินแดนของเสือเขี้ยวดาบนั่นอยู่ที่ใดหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“เจ้าอยากไปที่นั่นอย่างนั้นหรือ” ราชาหมาป่าหิมะถาม
“พวกจือฉีอยู่ที่นี่ได้ แต่หากคนธาตุไฟคนอื่นๆ ฝึกยุทธ์อยู่ที่นี่ ก็มิได้มีประโยชน์แต่อย่างใด” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “เจ้าบอกว่าดินแดนเสือเขี้ยวดาบมีสถานที่บำเพ็ญธาตุไฟที่ดีพอกันกับที่นี่ ข้าจึงอยากพาคนอื่นๆ ไปที่นั่นน่ะ”
“ดินแดนของเสือเขี้ยวดาบอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเราชี้ทิศทางให้กับพวกเจ้าได้ แต่พาพวกเจ้าไปไม่ได้หรอกนะ” ราชาหมาป่าหิมะเอ่ย
หมาป่าหิมะและเสือเขี้ยวดาบเป็นอริกัน ถ้าหากไปยังอาณาเขตของอีกฝ่าย กลัวแต่ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมามิได้
“ไม่มีปัญหา” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“พวกเจ้าจะออกเดินทางกันเมื่อใดหรือ” ราชาหมาป่าหิมะถาม
“ตอนนี้เลย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “จือฉี เสี่ยวถู พวกเจ้าก็ฝึกยุทธ์กันอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ ข้าว่ามีราชาหมาป่าหิมะอยู่ พวกเจ้าไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”
“ได้” เว่ยจือฉีและเสี่ยวถูพยักหน้า
“ท่านพี่สี่ เจ้าอ้วน โอวหยาง เป่ยกง พวกเราไปที่ดินแดนของเสือเขี้ยวดาบกันเถิด”
ถึงแม้ว่าทั้งเจ้าอ้วน โอวหยางเฟย และเป่ยกงถังจะมีธาตุอื่นๆ กันทั้งสามคน แต่ที่พวกเขาใช้มากที่สุดก็คือธาตุไฟ ตอนนี้บำเพ็ญธาตุไฟกันก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“ข้าจะจัดคนไปส่งพวกเจ้า หลังจากนั้นพวกเจ้าก็ไปยังอาณาเขตเสือเขี้ยวดาบกันเองนะ” ราชาหมาป่าหิมะกล่าว
“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว”
ราชาหมาป่าหิมะเรียกสัตว์อสูรเทพขั้นหกตนหนึ่งออกมา ให้มันพาพวกซือหม่าโยวเย่ว์ไป หลังจากนั้นจึงให้หมาป่าหิมะอีกตัวหนึ่งออกมาพาเว่ยจือฉีและเสี่ยวถูไปยังถ้ำ
เมื่อพวกเขาจากไปกันหมดแล้ว เซียวจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“หรง พวกเขาจะช่วยให้พวกเราไปจากที่นี่ได้จริงๆ หรือ”
หรง ก็คือราชาหมาป่าหิมะในปัจจุบันนั่นเอง
ถึงแม้ว่าพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ก็รู้เรื่องราวของโลกภายนอก นั่นคือเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ
พอพวกมันรู้ว่าข้างนอกมีสัตว์อสูรเหนือเทพอยู่ หรือแม้กระทั่งระดับขั้นที่สูงกว่าสัตว์อสูรเหนือเทพเสียอีก ในขณะที่พวกมันกลับค้างอยู่ที่ระดับสัตว์อสูรเทพขั้นสุดยอดกันมาตลอดรุ่นแล้วรุ่นเล่า พวกมันจึงเริ่มหาหนทางออกไปข้างนอก
ไม่รู้ว่าผ่านการค้นหามากี่รุ่นหรือกี่สิบรุ่น พวกมันจึงพบว่านอกจากการทำพันธสัญญากับมนุษย์แล้ว พวกมันก็ไม่มีหนทางอื่นในการออกไปจากที่นี่อีกแล้ว ซึ่งสายพันธุ์อันหยิ่งทระนงอย่างพวกมันไม่ปรารถนาจะเลือกเส้นทางนี้ ดังนั้นพวกมันจึงได้แต่อยู่ที่นี่กันต่อไป
แต่การหาวิธีออกไปก็ไม่เคยหยุดยั้งลงเลย พวกมันกระตือรือร้นที่จะออกไป กระตือรือร้นที่จะมีพละกำลังอันแกร่งกล้ายิ่งขึ้น มีชีวิตอันยืนยาวยิ่งขึ้น กระตือรือร้นที่จะทำให้ชนรุ่นหลังของพวกมันได้อยู่ในสถานที่อันกว้างขวางยิ่งขึ้น
“เซียว ท่านก็เห็นแล้วว่าที่อยู่ข้างกายเขาคือสัตว์อสูรเหนือเทพ” ราชาหมาป่าหิมะพูด “ถ้าหากพวกเราออกไป พวกเราก็จะหลุดพ้นจากกฎเกณฑ์ของที่นี่ไปได้เสียที ไม่ถูกขัดขวางเอาไว้อีกต่อไป”
“แต่คนผู้นั้นพึ่งพาได้จริงๆ หรือ เป็นล้านปีแล้วยังไม่เคยทำสำเร็จ แล้วเขาจะมีวิธีพาพวกเราออกไปได้จริงๆ หรือ” หมาป่าชราตัวหนึ่งถามขึ้น
“ข้าอยากเชื่อมั่นในตัวเขา” ราชาหมาป่าหิมะพูด “ข้ารู้สึกได้ว่าเขาไม่เหมือนกับมนุษย์พวกนั้นก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาบอกว่าพาพวกเราออกไปได้นั้นเขาดูมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ข้าว่า… เขาคงจะไม่หลอกลวงพวกเราหรอก…”