Midterm Fantasy - ตอนที่ 101
[Conceal Weapon : Lv1 20/100]
แกรกๆ แกรกๆ
[Conceal Weapon : Lv1 23/100]
แกรกๆ แกรกๆ
[Conceal Weapon : Lv1 25/100]
รอนนั่งใช้ใบมีดจิ๋วของกบเหลาตัดฝนเนื้อไม้ของดินสอต่อ ถ้าหากเขาทำแบบซ่อน ค่าประสบการณ์มันขึ้นเยอะ ถ้าหากเผยมือนิดนึง ค่าประสบการณ์ก็ขึ้นน้อยกว่า
อย่างนี้ก็ได้เหรอ!
“เดี๋ยวๆๆ นี่ไม่ใช่เวลามาเพิ่มประสบการณ์ นี่มันเวลาสอบ”
รอนรีบฝนคำตอบอย่างรวดเร็ว ฝนเรื่อยๆรวดเดียว192ข้อ จากนั้นก็นับจำนวนช้อยในแต่ละข้อ
ข้อ ง. ถูกเลือกน้อยที่สุด ดังนั้นเขาจึงเทคำตอบที่ตอบไม่ได้พรวดลงไปที่ ง. จนหมด
รอนเก็บดินสอปากกาที่เหลือเข้าถุง จากนั้นลุกขึ้นยืนเตรียมเดินออกจากห้องสอบโดยคว่ำกระดาษคำตอบไว้บนโต๊ะตามกฎ
“เฮ้ จะไปไหน บอกแล้วใช่ไหมว่าให้รอก่อน ฟังไม่เข้าใจหรือไง” คนคุมสอบร้องตะโกนจากหลังห้องอย่างไม่พอใจที่เด็กนักเรียนไม่ยอมฟังคำสั่งของตน หากแต่รอนหันกลับมาแล้วพูดสั้นๆ
“ผมทำเสร็จแล้ว กระดาษคำตอบคว่ำอยู่บนโต๊ะ”
พุฟ!
ฮ่าฮ่าฮ่า
เสียงนักเรียนในห้องที่กำลังทำข้อสอบอยู่ต่างพยายามกลั้นหัวเราะกันอย่างเต็มที่ แต่ละคนไม่โอเคกับคนคุมสอบคนนี้อยู่แล้ว เลยรู้สึกสะใจเมื่อเห็นการโต้ตอบกันระหว่างคนทั้งสอง
รอนไม่สนใจคนคุมสอบที่กำลังโกรธหน้าดำหน้าแดง เขาเดินออกไปที่จุดที่นัดแพทเอาไว้ รออยู่ประมาณ 20นาทีแพทจึงเดินออกมาจากห้องสอบ
และคำถามแรกเมื่อเห็นหน้ากันก็คือ
“รอน ข้อสอบเมื่อกี้นี้มันข้อสอบเก่าใช่ไหม”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ดูท่าแพทจะสังเกตเห็นแล้วเหมือนกัน
“ใช่ ทำได้ใช่ไหม”
“ทำได้สิ ก็ซ้อมข้อสอบเก่ามาตั้งหลายรอบแล้ว” เด็กสาวตอบอย่างยิ้มแย้ม เธอมั่นใจว่าต้องทำข้อสอบได้ดีและต้องได้อันดับต้นๆแน่นอน
“อ้อ แพท เดี๋ยวเราขอยืมดินสอเธอหน่อยนะ”
“เอ๊ะ ทำไมล่ะ”
“คือเมื่อกี้เกิดเรื่องนิดหน่อย ดินสอกับกบเหลาของเราพังหมดแล้ว”
ทั้งสองเดินไปด้วยกันเรื่อยๆตามทางเดิน รอนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องสอบให้ฟังคร่าวๆ แพทฟังเรื่องการจัดการของคนคุมสอบแล้วก็ให้เกิดอารมณ์ขัดอกขัดใจ
“เธอน่าจะตอกกลับคนคุมสอบคนนั้นไปสักหน่อยนะ เขาไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับเราแบบนี้ ยิ่งมาข่มขู่กาหัวกระดาษแบบไร้เหตุผลแบบนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะ”
รอนยิ้มน้อยๆแล้วส่ายหน้า
“เรื่องแค่นี้ปล่อยผ่านไปก่อนเถอะ”
“ไม่ได้สิ แบบนี้มันไม่ยุติธรรม” แพทแย้ง
“ยังไงถ้าเราทำตัวตามปกติ คนคุมสอบคนนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่แล้ว” รอนบอก “แล้วมันก็ได้ไม่คุ้มเสียที่เราจะเอาตัวไปยุ่งในตอนนี้”
“ได้ไม่คุ้มเสีย?” แพทถามงงๆ
“ใช่ ลองคิดดูสิ ถ้าเราโวยวายอะไรขึ้นมาแล้วหมอนั่นบ้าอำนาจกาหัวกระดาษหาว่าเราทุจริตขึ้นมา มันจะเป็นประวัติติดตัวเราไปว่าเราทุจริตการสอบ แถมเราจะหมดสิทธิ์สอบวิชาอื่นๆในวันพรุ่งนี้และมะรืนไปทั้งหมด เรื่องที่จะหวังเอารางวัลไปใช้ประกอบการขอเรียนต่อม.4ก็เลิกคิดได้เลย” รอนอธิบาย
“แต่เราไม่ได้ทำผิด เราจะกลัวอะไร เธออธิบายได้นี่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไร คนในห้องคนอื่นๆก็มี” แพทแย้งต่อ
“แพท ลองค่อยๆคิดตามนะ ถ้าเธอนั่งสอบอยู่ในห้องแล้วคนคุมบอกว่าใครสักคนที่เธอไม่รู้จักโกง เธอที่นั่งกับที่จะกล้ารับรองไหมว่าไม่มีการโกง จะกล้าบอกไหมว่าคนคุมสอบโกหก”
“เรื่องนั้น…”
“และนี่เป็นการสอบแข่งขันที่เอกชนจัด เป็นธุรกิจหาเงิน ถ้าเธอเป็นคนจัดงาน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาและไม่มีพยานหลักฐาน เธอจะตัดสินยังไง จะตัดสินว่านักเรียนไม่ได้โกงแต่คนคุมมั่วนิ่มซึ่งจะทำลายชื่อเสียงของงานนี้ หรือจะตัดสินว่าไม่มีพยานหลักฐาน สรุปไม่ได้ว่ามีการโกงจริงหรือไม่” เด็กหนุ่มบอกต่อ “ถ้าเกิดเรื่องที่คลุมเครือขึ้นมา คนที่เสียหายคือตัวเรา ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ ยอมถอยเพื่อรักษาผลประโยชน์จะดีกว่าไปชนอย่างไร้ประโยชน์”
แพทพยักหน้าตาม แม้จะไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่แต่ว่าเมื่อคิดตามแล้วก็ดูเป็นทางเลือกที่เสียหายน้อยที่สุดแล้ว
“เธอใจเย็นขึ้นมากนะ” แพทบอก
“ฮะฮะ”
รอนหัวเราะแล้วเหลือบมองหน้าต่างสเตตัส แถบ Rage ที่กำลังลดลง ตอนนี้อยู่ที่50% ถ้าตอนนั้นไม่บังเอิญเห็นแถบRageที่พุ่งเกือบถึง80% เขาคงระเบิดออกไปแล้ว
และหลังจากผ่านประสบการณ์บ้าบองี่เง่ามาหลายรูปแบบ ทำให้หลังๆรอนต้องนึกอะไรมากขึ้นก่อนจะตัดสินใจลงไป เพราะการทำตามอารมณ์ที่ผ่านๆมามักจะนำพาซึ่งความยุ่งยากมาให้เสมอ
ทั้งคู่เข้ามาถึงโรงอาหาร ตอนนี้ยังไม่มีนักเรียนลงมากันมีแต่บรรดาคนขับรถและครูที่มาส่งนักเรียนกำลังนั่งพักกันอยู่ บราเดอร์สมนึกก็นั่งอยู่ตรงโต๊ะด้านในโน้นพอดี
“รอน ดาริกา ทำเสร็จแล้วเหรอ”บราเดอร์สมนึกเรียกอย่างประหลาดใจ นี่ผ่านมาไม่ถึงชั่วโมงเลย
“คือพวกเราทำเสร็จแล้วครับ”
“!@#$%” บราเดอร์อึ้งไปเพราะนี่มันเพิ่งชั่วโมงเดียวเท่านั้น
“คือว่าข้อสอบปีนี้มันซ้ำกับข้อสอบเก่าเยอะมากครับ ผมกับดาริกาทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง40ปีไปสองรอบแล้ว เราเลยจำคำตอบได้หมดครับ” รอนอธิบายเมื่อเห็นว่าบราเดอร์ตกใจ
“40ปี!” ตกใจกว่าเดิม …
รอนค่อยๆเปิดโทรศัพท์มือถือให้บราเดอร์ดูข้อสอบเก่าที่เขาถ่ายจากหนังสือติวในห้องสมุด
“ผมกับดาริกาเราสองคนตะลุยติวข้อสอบเก่าพวกนี้มาหลายเดือนแล้วครับ”
“อืม เข้าใจละ ที่เธอสองคนคะแนนสอบกลางภาคดีขึ้นผิดหูผิดตาก็เพราะแบบนี้นี่เอง น่าดีใจจริงๆ”
บราเดอร์ยิ้มและพยักหน้าให้กับนักเรียนทั้งสอง รอนที่รอจังหวะนี้อยู่ก็ค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาในห้องสอบ เรื่องที่ถูกคนคุมสอบใช้อำนาจเกินควร บราเดอร์นั่งฟังแล้วพยักหน้า ยิ้มให้อย่างอบอุ่นดูสบายๆไม่ได้เคร่งเครียดอะไร
“เธอไม่ต้องเป็นห่วงไป บราเดอร์รู้จักเจ้าของบริษัทที่จัดงานสอบนี้ เขาเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเราเอง บราเดอร์จะไปบอกเขาว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ขอบคุณครับ”
รอนยกมือไหว้บราเดอร์และเตรียมจะลุกขึ้น
กิ๊ง
{ท่านรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิต}
ทั้งรอนและแพทชะงักพร้อมๆกัน หันมองซ้ายขวาแต่ไม่เห็นอะไร
“ใช้ไม่ได้จริงๆ ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เห้อ” บราเดอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีปกติยิ้มแย้ม แต่เมื่อรอนสังเกตดีๆ เส้นเลือดที่ขมับบราเดอร์สมนึกกำลังเต้นตุบๆ และรอบๆตัวของบราเดอร์มีแสงสีแดงเรืองๆขึ้นมา
เด็กทั้งสองรีบถอยออกมาแล้วรีบเดินออกไป เห็นดูหน้าตายิ้มใจเย็น แต่บราเดอร์กำลังโกรธจัดเลยทีเดียว
แต่นั่นก็อยู่ในความตั้งใจของรอน เขาจงใจตรงมาโรงอาหารเพื่อมาหาบราเดอร์สมนึก ตั้งใจเดินเข้าไปให้บราเดอร์ถามออกมาเองเรื่องที่พวกเขาทั้งสองคนออกมาเร็วกว่าคนอื่น
ทั้งหมดเพื่อจะได้บอกว่าทำเสร็จเร็วเพราะข้อสอบซ้ำของเก่า และจะได้โชว์ภาพข้อสอบเก่าในมือถือที่ใช้ติว
ที่เขาทำไปก็เพื่อสร้างภาพให้เห็นว่าเขาและแพทตั้งใจเรียนและทำคะแนนได้ดีด้วยตนเอง
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันที่คนกล่าวหาว่าเขาทุจริต อย่างน้อยจะได้มีผู้ใหญ่ที่เชื่อเขาบ้าง
ที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนก็คือบราเดอร์รู้จักเจ้าของงานนี้ด้วย แบบนี้น่าจะง่ายขึ้นเยอะ
ช่วงบ่ายรอนกลับไปสอบที่ห้องเดิมอย่างสบายใจ หากแต่คราวนี้คนคุมสอบจ้องเขาอย่างตาไม่กระพริบ
“ไอ้เด็กนี่มันต้องโกงแน่ๆ” คนคุมสอบ1บอก
“นายคิดมากไปหรือเปล่า” คนคุมสอบ2ที่ยังเพลียจากท้องเสียพูด
“ไม่! มันบอกว่าดินสอหักหมด ทำเรื่องยุ่งยากมากมาย แต่สุดท้ายมันกลับฝนกระดาษคำตอบจนหมดได้ แปลว่าที่มันบอกว่าดินสอหักหมดมันต้องโกหกแน่นอน” คนคุมสอบ1สรุปอย่างมั่นใจ
เขาไม่ทันเห็นตอนที่รอนเหลาดินสอด้วยใบมีด เพราะตอนนั้นรอนดันใช้สกิล Conceal Weapon อยู่!
“เอาเถอะๆ ยังไงก็ทำงานของพวกเราไปแล้วกัน อูยยยยยย ไม่ไหวแล้ว ขอไปห้องน้ำก่อน” คนคุมสอบ2ร้องอีกครั้งก่อนจะวิ่งไปห้องน้ำอีกรอบ
รอนนั่งทำข้อสอบตามปกติ คนคุมสอบที่หวาดระแวงจนถึงขีดสุดก็พุ่งความสนใจไปที่รอนเพียงคนเดียว … พุ่งจับผิดไปที่รอนคนเดียวจนถึงขนาดไม่ได้ทำหน้าที่มองไปรอบๆห้องอย่างที่ควรจะทำ
และนั่นทำให้คนที่คิดจะโกงจริงๆได้โอกาส
“เฮ้ย เปิดคำตอบหน่อย”
“ได้เลยได้เลย”
“เยี่ยมมาก โอกาสนี้แหละ”
นักเรียนที่นั่งด้านหลังลอกอย่างเมามัน
บ้านของเขาทำธุรกิจ ปกติแล้วพ่อแม่ไม่ได้เข้มงวดเรื่องการเรียนจนกระทั่งเขาทำคะแนนได้ไม่โอเคนัก
การสอบแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นพ่อของเขาบังคับให้มาเพื่อทดสอบดูคะแนน หากยังได้ไม่ดีอีกจะตัดค่าใช้จ่ายและบังคับเรียนพิเศษเสริม
ดังนั้นทางออกของเด็กหนุ่มคนนี้คือ จ้างเพื่อนที่เรียนเก่งมาสอบ แล้วลอกคำตอบซะ จะได้เอาคะแนนไปหลอกพ่อได้
เมื่อเช้าเขาวืดไปทีนึงเพราะรอนทำให้คนคุมสอบหวาดระแวง
แต่ตอนบ่ายนี้คนคุมสอบที่หวาดระแวงกลับจ้องจับผิดรอนจนไม่สนใจสิ่งแวดล้อม แถมคนคุมสอบอีกคนก็ไปเข้าห้องน้ำ
โอกาสลอกแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า หวานหมู หวานหมู” เขาลอกคำตอบไปหัวเราะกับตัวเองไป ในใจคิดถึงรางวัลที่พ่อสัญญาจะให้หากทำคะแนนแข่งขันได้ดี คิดถึงมอเตอร์ไซค์ที่พ่อสัญญาจะซื้อให้
แล้วกระดาษคำตอบในมือของเขาก็ถูกดึงไป ปากกาแดงกาหัวกระดาษพรืด พรืด
“เธอสองคน หมดสิทธิ์สอบ” เสียงชายวัยกลางคนในชุดสูทดังขึ้น “เชิญ”
นักเรียนคนนั้นมองดูป้ายStaff ของชายคนนั้นก่อนจะอ้าปากค้าง มอเตอร์ไซค์ที่ฝันไว้หายไปในอากาศแล้ว เหลือแต่ภาพหน้าพ่อที่โกรธจัดหากรู้ว่าตัวเองจ้างเพื่อนเพื่อมาร่วมกันทุจริตการแข่ง
ชายวัยกลางคนคนนั้นไม่สนใจสายตาของนักเรียนครึ่งค่อนห้องที่หันมามองเขา หากแต่สนใจลูกน้องของตนมากกว่า
ลูกน้องที่ทำหน้าที่คุมสอบ แต่ปล่อยให้มีการทุจริตแบบโต้งๆ
ลูกน้องที่ไม่รายงานเมื่อมีคนคุมสอบป่วยและมาไม่ครบ
ลูกน้องที่ต้องคุมสอบ แต่ขนาดเขาพาคนมาเสริม เดินเข้ามาในห้อง กาหัวกระดาษคนทุจริตไปสองคนยังไม่รู้ตัว เอาแต่จ้องจับผิดนักเรียนแค่คนเดียว
“ธนากร!”
“……”
“ธนากร!”
“ค ครับ เจ้านาย!”
คนคุมสอบ1ร้องอย่างตกใจที่จู่ๆก็ได้ยินเสียงเจ้านาย เจ้านายมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ออกมา ให้สองคนนี้คุมสอบแทนก่อน”
“แต่ แต่ผมกำลังคุมอยู่นะครับ กำลัง กำลังจับตาดูคนที่น่าสงสัยอยู่นะครับ”
นายธนากรละล่ำละลักพูดโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าเพื่อนร่วมงานสองคนด้านหลังเจ้านายที่เศร้าแทนเขา
จับตาดูเรอะ
จับตาดูจนกระทั่งปล่อยให้มีนักเรียนทุจริตสอบ จนกระทั่งเจ้านายเดินเข้ามากาหัวกระดาษเองแล้วยังไม่รู้ตัว
“ออกไป แล้วไปรอที่ออฟฟิศ เตรียมเก็บของได้”
“เจ้านาย!”
เขาพยายามจะคัดค้าน หากแต่พอมองไปที่โต๊ะที่ว่างเปล่าสองโต๊ะกับกระดาษที่กาหัวอยู่ก็เข้าใจแล้วว่าไม่มีทางแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
เขาหันไปมองที่รอนซึ่งนั่งนับนิ้วไม่รู้ไม่ชี้
มองดูมือของรอนที่ชูขึ้นแบบมือแล้วหักลบทีละนิ้ว หักนิ้วโป้ง ชี้ นาง ก้อย …
เอ๊ะ! เฮ้ย!
“ธนากร ออกมา แล้วไปเก็บของซะ”
เสียงคำสั่งดังมาอีกครั้ง หันไปมองอีกครั้งรอนก็นั่งนับนิ้วเหมือนไม่มีอะไร คนคุมสอบที่ทั้งโกรธทั้งอายได้แต่เดินออกจากห้องไปปล่อยให้เพื่อนสองคนเข้ามาคุมสอบแทน เขาเดินออกจากห้องและจ้องไปที่รอนอย่างโมโหโกรธแค้นที่ทำให้ต้องตกในสภาพนี้
แล้วก็แทบกระอักเลือด เพราะรอนหันหน้ามายิ้มยิงฟันให้เต็มที่ก่อนจะก้มหน้าทำข้อสอบอยู่
การันต์ถอนหายใจเมื่อเห็นลูกน้องเดินออกไป นายธนากรทำงานคุมสอบกับเขามาหลายปีมาก ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องคล้ายๆกันนี้แต่ด้วยความไว้ใจเขาเลยเชื่อไปทางลูกน้องมากกว่า
ถ้าไม่ใช่เพราะบราเดอร์สมนึกที่ดูโรงเรียนเก่าของเขามาบอกล่ะก็ เขาคงไม่มีทางรู้ว่าคนคุมสอบมีปัญหา และคงไม่รู้ว่าอาจารย์ที่เขาจ้างให้ทำข้อสอบ เอาข้อสอบปีเก่าๆมารีไซเคิล ถ้าเรื่องรั่วออกไปชื่อเสียงของบริษัทจัดงานสอบที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อเกือบป่นปี้ไปหมดแล้ว
ดูเหมือนจบจากงานนี้เขาคงต้องตอบแทนอะไรพ่อหนุ่มคนนี้ คนที่เจอปัญหาแล้วไม่เอาไปบ่นในโซเชียลแต่ฝากบอกบราเดอร์ให้มาบอกเขา
แล้วรอนก็ทำข้อสอบต่อไปอย่างสงบสุข