Midterm Fantasy - ตอนที่ 106
กึก กึก กึก กึก เสียงฝีเท้าของคน 3 คนค่อยๆเดินเข้าไปในซอย เดินผ่านหมู่โกดังเก่ายามค่ำคืนอันเงียบสงัด นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน5นาที เป็นเวลาที่ไม่ควรจะมีคนออกมาเดินกันแล้วในสถานที่แบบนี้ หากแต่ตอนนี้มีคนเดินอยู่ 3 คน และทั้งหมดต่างเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดี
“น้องสาว จะไปไหนกันจ๊ะ อ๊ากกก”
เสียงร้องดังออกมาจากปากของกุ๊ยคนหนึ่งที่ตรงมาแซว ก่อนที่ร่างจะเซล้มลงไปจากแรงเตะที่หน้าอกและหัวเข่า มันเตรียมตัวคว้าก้อนหินที่พื้นขึ้นมา ก่อนจะใจหายวาบเมื่อปากกระบอกปืนถูกกดเข้าที่หน้าผาก
“เจน ปล่อยมันไป เรามีงานต้องทำ” เจนัสบอก
“งั้นก็ได้”
เจนหวดเท้าเตะเข้าที่ลิ้นปี่ของชายคนนั้นจนล้มลงร้องครวญครางก่อนจะเก็บปืนและเดินตามเจนัสกับแจนไปที่โกดังเป้าหมาย พวกกุ๊ยและนักเลงที่ซ่องสุมกันอยู่แถวนั้นมองหน้ากันก่อนจะรีบหลบออกไปจากพื้นที่นี้
อีกฝ่ายมีปืนและมากันหลายคนโดยไม่สนใจคนที่มาแซวแบบนี้ แปลว่าอีกไม่นานกำลังจะเกิดเรื่องขึ้นที่ด้านในนั่น
ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับคนที่มีปืน
“โกดังเบอร์ 6 อยู่ตรงโน้นไง” เจนัสชี้ไปด้านหน้า
“พี่เจนัส ข้างหน้านั่นมีคนยืนอยู่”
ท่ามกลางความมืด ที่ลานริมท่าน้ำใกล้โกดังหมายเลข 6 มีร่างร่างหนึ่งยืนอยู่
ความมืดทำให้ทั้ง 3 สาวเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาเครื่องแต่งกายของคนๆนั้นคือใคร เห็นเพียงว่าในมือถือแท่งอะไรบางอย่างอยู่
“คนตรงนั้นน่ะ นายชื่อรอนใช่ไหม” เจนัสร้องขึ้น ร่างๆนั้นขยับเล็กน้อยก่อนเสียงจะตอบกลับมา
“ใช่ พวกคุณคือใคร แล้วบุกรุกเข้ามาที่นี่ทำไม”
“เราคือคนของสมาคมเมษา ได้รับคำสั่งให้มาเชิญตัวนายไปคุยด้วยสักหน่อย”
“แล้วถ้าผมปฏิเสธ”
“นายปฏิเสธพวกเราไม่ได้หรอก” แจนยกปืนในมือขึ้น หันปากกระบอกไปทางหลอดไฟที่ใกล้ที่สุด ประกายไฟแวบขึ้นมาพร้อมเสียงดัง ก่อนที่หลอดไฟจะแตกกระจาย แสงสว่างที่กำลังส่องสามสาวมืดลงทันที
ฟ้าวววว ฉึก!
“ระวัง มันมีอาวุธ” เจนัสร้องขึ้น เหวี่ยงกระเป๋าถือที่หอกซัดปักคาอยู่ออกไป “แยกกันไปคนละด้าน”
ทั้งสามคนกระจายไปคนละด้านอย่างรวดเร็ว
ปังปัง เก๊งเก๊ง
แจนยิงกระสุนไปเบื้องหน้า หากแต่ร่างในเงามืดนั้นยกอะไรบางอย่างขึ้นป้องกัน
“มันใช้โล่เรอะ”
“แยกกันไปถ่วงเวลาไว้ให้ตาปรับกับความมืดได้ โจมตีจากคนละด้าน ระวังอย่ายิงโดนกันเอง”
เจนัสสั่งการอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายจงใจรอในความมืดและเปิดไฟไว้หนึ่งดวง แสดงว่าต้องการให้สายตาของพวกเธอมองในความมืดไม่ได้ชัด
แต่พวกเธอเคยเจออะไรแบบนี้มาแล้ว เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก และต่อให้มีโล่แต่โล่ก็กันได้ทีละด้าน ไม่มีทางป้องกันได้รอบทิศทางหรอก
“เจน แจน ยิงพร้อมกัน 3..2..1 ยิง”
ปังปังปัง
ห่างออกไป ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หมอเคนั่งพักหลังจากดูคนไข้เสร็จ ในเมื่อแก๊งค์เมษาส่งคนมาตามตัวเขาและเขาก็บอกข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องลางานอีกต่อไป
“คุณหมอเคคะ แพรวถามนิดนึง”
“ครับคุณแพรว”
“เรื่องที่อยู่ของเด็กที่ชื่อรอนนั่น คุณหมอพิมพ์เข้าไปเองใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัย
“คุณรู้ด้วยเหรอครับ” หมอหนุ่มยิ้มให้
“ก็ตามปกติแล้วที่อยู่ในเวชระเบียนคอมพิวเตอร์จะปล่อยว่างทิ้งไว้ แต่นี่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาหลังจากที่คุณหมอคุยกับเด็กคนนั้นไปเมื่อเย็นนี้ ก็แปลว่าที่อยู่นี่เพิ่งจะถูกใส่ลงไป”แพรวบอก “คุณหมอพยายามช่วยเด็กคนนั้น”
“คุณแพรวไม่นึกว่าผมจะใส่ลงไปเพราะอยากผลักเรื่องให้พ้นจากตัวเหรอครับ” หมอเคถามยิ้มๆ
“ไม่หรอกค่ะ ถ้าคุณหมออยากจะทำแบบนั้นจริงๆ ก็แค่เอาข้อมูลคีย์ลงระบบตรวจสอบสิทธิ ก็จะได้ที่อยู่จริงๆมาอยู่แล้ว ถ้าคุณหมอคิดจะเปิดเผยจริงๆน่ะทำได้อยู่แล้ว” แพรวบอก “แล้วอีกอย่าง”
“แพรวเชื่อมั่นในตัวคุณหมอเคค่ะ”
หมอเคมองดูพยาบาลสาวที่กำลังยืนเอียงหน้าหันไปทางอื่นอย่างอายๆ
“เดี๋ยวออกเวรตอนเช้าแล้วผมพาไปเลี้ยงข้าวต้มหน้าโรงพยาบาลนะครับ แล้วเดี๋ยวจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง”
“คะ? ค่ะ ค่ะ เดี๋ยวแพรวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” พยาบาลสาวตอบรับก่อนจะรีบเดินออกไปที่ด้านหน้า หมอเคมองตามหลังจนเธอเดินออกไป
“เยส! สำเร็จ!”
หมอเคร้องขึ้นอย่างดีใจ คิดถูกจริงๆที่ทำตามที่รอนขอไว้
หลังจากหมอเคคาดว่าจะเจอคนของแก๊งค์เมษามาสอบถาม ก็ได้เตือนรอนไปว่าต่อให้รอนไม่แจ้งที่อยู่ไว้ แต่หากอีกฝ่ายเอาเลขประจำตัวไปค้นในระบบทะเบียน ก็สามารถหาข้อมูลส่วนตัวได้อยู่ดี และหมอเคก็คิดว่าจะแค่หลบหน้าในช่วงแรกเท่านั้น ถ้าหากถูกซักบังคับจริงๆ สุดท้ายก็ต้องยอมบอกข้อมูลของรอนไป
รอนเลยขอให้หมอเคช่วยลงที่อยู่ของโกดังให้
“มันคือที่อยู่ใครรึ”
“มันคือที่อยู่สำหรับส่งของของผมเองครับ” เด็กหนุ่มยื่นกุญแจโกดังให้ดู “ผมอยากจัดการเรื่องนี้โดยที่ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องเดือดร้อน”
และนั่นก็คือสิ่งที่หมอเคจัดการให้รอน
ว่าแต่ตอนนี้เจ้าหนุ่มนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ
เก๊ง เก๊ง “โอ๊ยยย!”
เสียงกระสุนกระแทกโล่สองครั้ง ตามด้วยเสียงร้องของรอนดังออกมา ร่างในเงามืดนั้นทรุดลงที่พื้น
“ระวังอย่าเพิ่งยิง รอมันยืนก่อนค่อยยิงที่ขาอีกครั้ง” เจนัสร้องสั่ง
เจนและแจนหลบเข้าที่กำบังและบรรจุกระสุนใหม่ สายตาเริ่มชินกับความมืดแล้ว เธอจ้องไปที่เป้าหมายที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่
“พร้อม ไปเลย”
สามสาวพุ่งออกจากที่กำบังและพุ่งตรงเข้าไป ปืนในมือชี้ตรงไปที่ร่างตรงหน้าอย่างไม่ประมาท
เด็กหนุ่มที่จัดการถล่มเป๋งโมบายที่มีลูกน้องเป็นร้อยในคืนเดียว จะประมาทไม่ได้!
แจนล้วงเอาที่ปืนช็อตไฟฟ้าออกมาวิ่งไปด้านหลังเป้าหมายและเล็งไปที่กลางหลัง ตอนนั้นเองที่มีแสงบางอย่างสว่างขึ้นจากข้างหลังของเธอ
“<Swift>”
“แจน ระวัง!”
หญิงสาวหันขวับไปด้านหลัง แล้วก็เจ็บแปลบที่ขา
“อ๊าห์”
หอกซัดที่ขว้างมา ปักทะลุขาของหญิงสาวจนเสียหลักล้มลง แต่ปืนช็อตไฟฟ้าในมือนั้นยังกุมไว้อย่างมั่นคงและเหนี่ยวไกออกไป
วูบ ร่างในเงามืดนั้นหลบแท่งสายไฟของปืนช็อตไฟฟ้าได้ ก่อนที่จะขว้างอะไรบางอย่างกลับมา
“แจน!”
เจนร้องเสียงหลง เธอตกใจตั้งแต่เห็นหอกเล่มแรกทะลุขาแจนแล้ว และยิ่งตกใจเมื่ออีกฝ่ายหลบการยิงปืนช็อตไฟฟ้าได้และปาหอกเข้าใส่กลางลำตัวของแจนอีกครั้ง
“เจน ไปช่วยแจน ทางนี้ชั้นจัดการเอง” เจนัสสั่งและยกปืนช็อตไฟฟ้าในมือขึ้น ส่วนเจนมุ่งไปที่อีกด้าน
“แก ตาย”
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
นิ้วเหนี่ยวไกอย่างระรัว เสียงปืนยิงออกไป 6 นัด ขณะที่ร่างนั้นสะบัดแขนที่ถืออะไรบางอย่างไปมา
เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง
“ห๊ะ” หญิงสาวอุทานอย่างตกใจ ขณะที่มือพัลวันกับการบรรจุกระสุนใหม่ เธอวิ่งไปไม่อยู่นิ่งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าให้อีกฝ่ายจัดการได้
ปัง ฉึก!
เจนัสยิงปืนช็อตไฟฟ้าเข้าใส่ร่างที่อยู่ตรงหน้า แท่งโลหะปักเข้าไปที่ส่วนศีรษะเต็มๆ หากแต่ร่างนั้นยังคงเคลื่อนไหวได้ และเอื้อมมือตรงเข้าจับข้อมือซ้ายของเธอ
ฉับ!
มีดสั้นที่เอวออกจากฝักและฟันเข้าไปที่มือข้างนั้น เจนัสกระโดดหลบออกมา สิ่งที่จับข้อมือของเธออยู่ค่อยๆหล่นสลายลงไป ขณะที่ร่างของโกเลมร่างนั้นไม่ส่งเสียงใดๆออกมา
“ดิน! นี่มันอะไรกัน”
เจนัสร้องอุทานก่อนจะฉุกใจคิด
“แย่แล้ว เจน”
“กรี๊ดดดด”
เจนัสหันกลับไป เจนที่กำลังต่อสู้อยู่ทรุดลงไปนั่งที่พื้น มีหอกซัดที่ปักทะลุต้นขาอยู่ ส่วนร่างของเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังพุ่งเข้าหาเจนอย่างรวดเร็ว
“อย่าเข้ามานะ” เจนร้องด้วยความกลัว ยกปืนที่บรรจุกระสุนเรียบร้อยแล้วยื่นไปข้างหน้า เหนี่ยวไกเป็นจังหวะสวนกับร่างที่พุ่งเข้ามา
ปัง ร่างนั้นยกแขนหลบ กระสุนวิ่งผ่านสีข้างไป
ปัง! ร่างนั้นเปลี่ยนทิศไปทางขวาเล็กน้อย หลบกระสุน
ปัง ปัง ปัง ! ร่างนั้นกระโดดซ้ายขวาสลับกันก่อนจะแอ่นหลังหลบกระสุนที่ยิงระดับกลางลำตัวก่อนจะกระโดดขึ้นสูง สูงกว่าสองเมตร! เจนยกปากกระบอกปืนตามเล็งไปที่กลางลำตัว ลอยแบบนี้หลบไม่พ้นแน่!
ปัง! เก๊ง! แผ่นโลหะในมือซ้ายของร่างนั้นปัดกระสุนกระเด็นไป ขณะที่มือขวาขยับหมุนหอกซัด ปลายแหลมคมของหอกซัดสะท้อนแสงจันทร์เข้าตาของเจนที่ขยับหนีไปไหนไม่ได้
“ไม่ม่ม่ม่ม่ กรี๊ดดดดดด”
เจนัสอาศัยจังหวะที่เจนกำลังต่อสู้บรรจุกระสุนใหม่และยกปืนขึ้นเตรียมยิง แต่ไม่ทันกับที่ร่างของรอนนั้นลงสู่พื้นและแทงหอกเข้าที่ร่างของเจน เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนจะเงียบไปพร้อมกับเสียงร่างที่ล้มเอนฟาดลงกับพื้น เจนัสไม่ปล่อยโอกาสนั้น วิ่งตรงเข้าไปและสาดกระสุนเข้าใส่เด็กหนุ่ม
ปังปังปังปังปัง
หญิงสาวแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นว่ารอนเคลื่อนไหวหลบกระสุนได้! ความเร็วที่มากเกินกว่าคนธรรมดา การคาดการณ์แนวกระสุนที่แม่นยำ ท่วงท่าหลบหลีกที่เหมือนกับไม่ยี่หระต่อความเป็นความตาย
รอนพุ่งเข้ามาใกล้ไม่ถึง 5 เมตร หญิงสาวกดไกปืนยิงออกไปแล้วชักมีดออกมา รอนหลบกระสุนนัดสุดท้ายแล้วชักหอกสั้นในมือขึ้น
เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง
เจนัสถอยหลบอย่างตั้งตัวไม่ติด ท่วงท่าการใช้มีดที่เธอภาคภูมิใจถูกเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ดักทางได้อย่างหมดจด โดยไม่ลังเลหญิงสาวกดปุ่มที่ข้างมีด ใบมีดคมกริบพุ่งเข้าใส่รอนอย่างเงียบเชียบ
ใบมีดยิงได้ อาวุธลับชิ้นสำคัญของเธอ!
ฉึก!
“ห๊ะ!”
เจนัสตะลึงงัน เพราะใบมีดที่ยิงออกไปนั้นปักอยู่ที่ด้ามหอกของรอน
อะไรกัน มันป้องกันได้ยังไง!
แม้จะตกใจแค่ไหน แต่สัญชาตญาณและการฝึกฝนก็พาตัวของหญิงสาวให้พุ่งไปด้านหน้า เธอเข้าประชิดตัวรอนและใช้มือซ้ายพุ่งปัดหอกในมือรอนออก หากแต่ไร้ผล เด็กหนุ่มตรงหน้าของเธอปล่อยหอกออกและใช้มือนั้นจับข้อมือของเธอไว้อย่างแน่นหนา มือขวาของเจนัสชักมีดอีกเล่มออกมาแทงเข้าไป แต่ ‘โล่’ของรอนกระแทกมีดนั้นจนหลุดมือไป ก่อนโล่จะหลุดออก มือที่หนาแน่นของเด็กหนุ่มรวมเอาข้อมือของเธอไว้ก่อนจะดันไปข้างหน้าจนเธอเสียหลัก
“ว๊าย”
หญิงสาวล้มลงกับพื้น มือทั้งสองถูกกดเอาไว้ที่พื้น ตรงหน้าของเธอนั้นเป็นใบหน้าของเด็กหนุ่มวัย 15-16 หน้าตาหมดจด ผมสั้นปรกลงมาบนใบหน้าที่กำลังก้มลงมา หยาดเหงื่อเล็กๆของเขาหล่นกระทบใบหน้าของเธอ ลมหายใจอุ่นๆของเด็กหนุ่มรดลงมาที่เรือนผมและใบหน้าของเธอที่กำลังนอนอยู่บนพื้นจนต้องเบือนหน้าหนี
เจน แจน
ร่างของรุ่นน้องทั้งสองที่นอนอยู่กำลังขยับตัวช้าๆ เจนัสโล่งใจเล็กน้อย ที่แท้เด็กหนุ่มคนนี้ใช้ด้ามหอกกระแทกจนทั้งสองสลบไป ไม่ได้ใช้ด้านคม
ลมหายใจของเด็กหนุ่มที่กำลังเป่าผ่านลงมาค่อยๆเบาลงเมื่อเด็กหนุ่มเงยศีรษะมองไปที่เจนและแจนที่กำลังฟื้น ก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันกลับมามองหน้าของมือปืนสาวที่ถูกกดอยู่ที่พื้น
“จะ จะทำอะไรน่ะ อย่านะ” เจนัสพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเกรง หัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็น ความรู้สึกที่ประหลาดนี้เธอไม่รู้จักมันมาก่อนและเธอพยายามบอกว่ามันคงจะเป็นความกลัว
เธอบอกกับตนเองอย่างนั้นทั้งที่รู้ดีว่าไม่ใช่
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กดร่างของเธออยู่ด้านบน ใบหน้าที่ค่อยๆใกล้เข้ามา ริมฝีปากแดงกร้านของเขาที่เผยอเล็กน้อย ลมหายใจที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
โป๊ก!
รอนปล่อยมือของเจนัสที่หมดสติลง เมื่อยืนยันว่าเฮดบัตเมื่อครู่จัดการอีกฝ่ายจนสลบไปแล้ว เขาก็ตรงไปจัดการกระทืบสองสาวที่เพิ่งฟื้นให่้สลบไปอีกครั้งหนึ่ง