Midterm Fantasy - ตอนที่ 138
ปัง ปัง ปัง ปัง
เปรี๊ยะ!
ร่างของชายหญิงชราก้มลงหลบกับพื้น กระจกหน้าต่างชั้นนอกแตกกระจาย ขณะที่กระจกหน้าต่างชั้นในนั้นแตกเป็นฝ้าแต่ปราศจากรอยทะลุ
แพทเตรียมวิ่งเข้าไป แต่เสียงจากด้านหลังทำให้เธอต้องหยุด
“คุณหนู หลบลงก่อน”
ลุงบัวพุ่งตัวปราดเดียวจากห้องครัวข้ามไปที่ห้องรับแขก เขาพุ่งไปถึงโซฟาและกดศีรษะของสองตายายลง
เพล้ง! ปัง ปัง ปัง ปัง
กระจกกันกระสุนของหน้าต่างแตกออก กระสุนชุดหลังพุ่งทะลุเข้ามาลงสู่พื้นพรม ลุงบัวเตรียมตัวลุกขึ้นยิงสวน แต่ก็ได้ยินเสียงของเด็กสาว
“ทุกคนก้มก่อนค่ะ”
ตูม!
ตู้เย็นขนาด 8 คิวลอยละลิ่วไปเสียบเข้าที่ช่องหน้าต่าง เสียงลูกกระสุนยิงกระแทกเข้าที่ตู้เย็นดังปร่างเป็นจังหวะ
“ทุกคนถอยออกมาค่ะ” แพทร้องบอก “ลุงบัว มีคนกำลังพังประตูรั้วหน้าบ้านอยู่”
ลุงบัวลุกขึ้นวิ่งไปที่ห้องครัว หยิบเอาปืนยาวออกมา
“คุณท่าน คุณหนู รีบไปที่ห้องนิรภัยเร็วครับ”
ลุงบัวพุ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน เปิดช่องมองด้านนอกออก ที่รั้วบ้านมีเงาร่างของคนกว่า10คนจริงๆ ไม่รู้ว่าคุณหนูรู้ได้ยังไง แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวสงสัยแล้ว เขารีบยื่นปากกระบอกปืนยื่นออกไป
“เฮ้ย รีบตัดกุญแจเร็วอย่าชักช้า”
“โธ่เฮีย อีกฝ่ายมีปืนหรือเปล่าก็ไม่รู้” เจ้าคนที่ตัดกุญแจอยู่ร้องบอก มือง่วนกับการบีบตัดกุญแจ
“แล้วเอ็งจะกลัวทำไม เสื้อกันกระสุนก็ใส่กันทุกคน โล่กันกระสุนก็มี”
ปัง! แคร้ง
ร่างของคนที่กำลังตัดกุญแจอยู่ลอยกระเด็นออกจากกลุ่มไปอยู่ด้านหลังราว 5 เมตร มีรูขนาดเท่านิ้วชี้ทะลุอยู่ที่กลางชุดกันกระสุน หากแต่เลือดและไส้ที่ไหลนอกออกจากด้านหลังบอกให้รู้ว่าร่างๆนั้นเกินที่จะเยียวยารักษาแล้ว
ปัง! โผละ โผล๊ะ โผล๊ะ
ศีรษะ 3 ลูกที่อยู่ในแนวเส้นทางกระสุนแตกกระจายเป็นชิ้นๆ เลือดและมันสมองร่วงหล่นแหมะที่พื้นพร้อมกับร่างไร้วิญญาณสามร่างที่ไม่ทันรู้ตัวว่าตนเองตายจากอะไร
“เอาโล่กันกระสุนมา ข้าจัดการเอง”
หัวหน้าทีมบุกร้องสั่ง ลูกน้องที่คลานต่ำอยู่หยิบยื่นโล่กันกระสุนให้ มันลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งพุ่งไปที่ประตูรั้ว ชูโล่ขึ้นบดบังด้านหน้าของตน
ปัง
หัวหน้าทีมมือปืนเกร็งมือทั้งสองรับ หากแต่แรงกระทบถูกเข้าที่ขอบซ้ายของโล่หนักหนาจนทำให้โล่บิดออกข้างอย่างบังคับไม่ได้
“เฮ้ย”
ปัง โผล๊ะ!
คนที่เหลืออยู่มองหัวหน้าทีมของพวกตนหัวระเบิดตายอย่างหวาดหวั่น ฝีมือการยิงที่ยิงขอบจนเปิดช่องโหว่ยิงซ้ำได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่
แถมที่ขอบโล่ที่เป็นรูนั่นก็บอกให้รู้ว่า ต่อให้เป็นการยิงเข้าตรงกลางธรรมดา โล่กันกระสุนหนัก 5 กิโลนั่นก็เอาไม่อยู่แน่ๆ
“พวกเราถอย!”
ปุ ปุ ปุ
“อ้าก” “โอ๊ย”
พวกที่เหลือช่วยกันลากร่างของเพื่อนที่บาดเจ็บกลับไปหลบหลังกำแพง จากกว่า 10 คนที่บุกเข้าไปเมื่อครู่เหลือคนที่ปลอดภัยดีแค่ 3 คนเท่านั้น แต่เป็น 3 คนที่เสียขวัญอย่างหนัก เพราะถ้ากระสุนชุดสุดท้ายไม่ใช่ปืนพกแต่เป็นไรเฟิลหนักที่ยิงมาในรอบแรก พวกมันทั้งหมดอาจจะไม่รอดเลยสักคนเดียว
แล้วปืนพก ที่ยิงได้แม่นยำในระยะขนาดนี้เนี่ยนะ
“เฮ้ย ทำไมไม่บุกเข้าไป”
หัวหน้าใหญ่ทีมมือปืนภาคกลางร้องอย่างขัดใจ
“มันยิงสวนมาจากประตูบ้านครับ”
“พวกแกก็มีปืน ทำไมไม่ยิงมันวะ เฮ้ยไอ้ยุทธ ซุ่มยิงมันซะ มันอยู่ที่ประตูบ้าน”
ไอ้ยุทธลูบคลำปืนติดกล้องของมัน เมื่อครู่มันพลาดโอกาสสังหารไอ้แก่สองคนนั่นไปเพราะตู้เย็นที่จู่ๆก็พุ่งมาปิดหน้าต่าง คราวนี้แหละ เขาจะต้องจัดการเหยื่อให้ได้
มันยกปืนขึ้น เลเซอร์ชี้เป้าส่องไปที่ประตูบอกทิศทาง ตาจ้องเข้าไปในกล้องเห็นลุงบัวที่หันปืนสวนมาตามทิศทางของเลเซอร์
“เฮ้ย!”ไอ้ยุทธทิ้งตัวลงนั่งที่ใต้ขอบหน้าต่าง
“อะไรไอ้ยุทธ”
“มันเห็นผมครับพี่ มันยกปืนมาทาง….” ตูม!
ขอบกำแพงที่ไอ้ยุทธนั่งพิงหลบอยู่ระเบิดออก ร่างของไอ้ยุทธคว่ำลงพร้อมกับคอที่ขาดแหว่งไปครึ่งหนึ่ง เศษอิฐและโลหะกระจายไปทั่ว
“หัวกระสุนนี่ …เสียงนี่ … ฉิบหายแล้ว .577 ไนโตรเอ็กซ์เพรส!” หัวหน้าใหญ่ซุ้มภาคกลางร้องขึ้น เหงื่อไหลซึมทั่วหัว มิน่าพวกที่บุกเข้าไปพร้อมโล่กันกระสุนถึงสู้ไม่ได้ เกราะที่พวกมันสวมใส่เป็นแค่ระดับ 2 ป้องกันปืนพกพอได้ โล่กันกระสุนก็มีมาแต่ระดับ 3a
แต่ถ้าเป็น .577 ไนโตรล่ะก็ ต่อให้พวกมันใส่เกราะระดับ 3 มา แผ่นเกราะกลางอกหนาๆนั่นก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร ปืนที่ล้มช้างได้แบบนั้นไม่ใช่อะไรที่ร่างกายมนุษย์จะทนได้
“เฮ้ย ทีมภาคใต้มาถึงรึยัง”
“ใกล้ถึงแล้วครับ พวกนั้นกำลังเข้าถึงจุดที่ตกลงไว้ครับ”
หัวหน้าทีมภาคกลางกัดฟันกรอด ถึงจะรู้ว่าเสี่ยงมาก แต่ก็ต้องยอม ไม่อย่างนั้นถ้าหากผิดแผนไปพวกมันรับการลงโทษจากแก็งค์ไม่ไหวแน่
“ทุกคนบุกเข้าไปพร้อมกัน เรามี 200 คนยังไงมันต้านไม่ได้อยู่แล้ว ตามข้ามา!” หัวหน้าทีมสั่ง
“แต่หัวหน้า ปืนมันใหญ่มากนะครับ”
“ไอ้โง่ กระสุนของมันนัดนึงราคาเป็นพัน แกคิดว่ามันจะมีเหลือเฟือเหรอไงวะ” มันสั่ง “แล้วระเบิดน่ะพวกแกก็มี ทำไมไม่ใช้ ทุกคนบุก บุกเข้าไปพร้อมกันให้หมด ไปได้”
เสียงที่ก้องในวิทยุสื่อสารทำให้มือปืนทุกคนที่ซุ่มอยู่ในพื้นที่ลุกออกมาแล้วกรูมุ่งเข้าไปที่บ้าน หลายคนปีนกำแพงขึ้นไป
“อรรออออออออ”
ตุบ ตุบ ตุบ
ร่างหลายร่างตกลงมาจากรั้วชั้นบนสุด รั้วไฟฟ้าที่จะทำงานเฉพาะเมื่อไฟดับทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ ปลิดชีวิตมือปืนไปหลายคน
พวกที่เหลือเห็นเข้าก็ต่อตัวขึ้นไป ใช้คีมตัดสายไฟและลวดหนามออก พาดกระสอบแล้วช่วยกันดึงตัวขึ้นไป
ปัง ปัง ปัง เป้ง เป้ง “โอ๊ย”
เสียงปืนพกระดมยิงออกมาจากบ้านไปทางรั้ว มือปืนบางคนหล่นลงมา แต่ด้วยประสบการณ์ที่มากมี ทำให้พวกมันเอาโล่กันกระสุนขึ้นมาจากด้านล่างมาป้องกันไว้ได้
“เอานี่ไปกิน”
เปรี๊ยะ! เสียงระเบิดที่ถูกแกะสลักดังขึ้น ก่อนที่ระเบิดจะถูกขว้างเข้าใส่ประตูกระจก คุณตาคุณยายวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านทันก่อนที่แรงระเบิดจะกระแทกเอาเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกกระจัดกระจายไป
“ลงมารวมกัน ใช่โล่กระกันสุนนำ หน้าเดิน!”
มือปืนร่วม30คนกระโดดลงมาที่พื้นข้างกำแพง ช่วยกันยกโล่กันกระสุนป้องกันด้านหน้าอย่างแข็งขันรวมกลุ่มกัน มันสาวเท้าเข้าไปอย่างเป็นระเบียบบนสนามหญ้า แล้วเสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมา
“อ้ากก ขากู” “โอ๊ย เท้า เท้า เท้าจะขาดแล้ว”
กับดักสัตว์อันเขื่องงับเข้ากับเท้าของใครบางคน แต่พวกมันก็หยุดไม่ได้ เพราะถ้าหยุดแล้วเจ้าพ่อบ้านที่อยู่ประตูหน้าหันมายิงทางนี้ล่ะก็มีหวังพวกมันจบสิ้นแน่
ขณะที่ลุงบัวเองก็สู้อย่างเต็มมือ เขารับมือได้แค่ทางหน้าบ้านและทางขวามือเท่านั้น ไม่มีกำลังพอจะไปช่วยทางซ้ายที่นายผู้เฒ่าทั้งสองรับมือได้
กลุ่มก้อนของมือปืนที่หลบหลังโล่กันกระสุนเดินเข้าไปเรื่อยๆ ขณะที่เสียงกระสุนกระแทกเข้าที่โล่อย่างไร้ผล
“ยัยแพท หลบเข้าไปเร็วเข้า ตากับยายจะไม่ไหวแล้ว” เสียงตาร้องตะโกน กลุ่มมือปืนเดินเข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ “หนีไปที่ห้องทำงานพ่อแกเร็วเข้า ยัยแพท เฮ้ยหลานจะทำอะไร อย่า!”
ตาร้องขึ้นเมื่อเห็นหลานสาวไปหลบที่ข้างหน้าต่างแล้วโผล่พรวดออกไปพร้อมกับยกมือขึ้น
“เฮ้ย เด็กผู้หญิงนั่นที่เราได้รับคำสั่งให้มาจับตัว มันกำลังทำอะไรวะ” มือปืนคนนึงพูดขึ้นก่อนจะเหลือบมองที่พื้น “ ไฟอะไรวะ”
“<Fire Pillar>”
ฟรูมมมมมม
“อ๊ากกกกกกกก”
เสาเพลิงขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นแผดเผาร่างของผู้บุกรุก 30 กว่าคน แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างดีทำให้พวกมันไม่แตกขบวน ไม่เปิดช่องว่างใดๆ …. จนกระทั่งลูกกลมๆเรืองแสงสีชมพูสองลูกกลิ้งลอดโล่เข้ามา
“นี่มันอะไรกันวะ..”เสียงร้องถามอย่างสงสัยถูกตัดออกด้วยแรงอัดอันมหาศาลที่อัดร่างกว่าสามสิบร่างให้แผ่ล้มกระจายกันไปคนละทิศละทาง
ตูม ตูม
แม้จะมีเสื้อเกราะกันกระสุน แต่แรงอัดนั้นลอดผ่านเกราะทั้งปวงได้ มือปืนทั้งหลายต่างเลือดออกหูจมูกปากกลิ้งอย่างหมดท่าอยู่ที่พื้น
“นั่น หลานทำอะไร” ยายถามแพทที่ยืนถือลูกบอลอะไรบางอย่างอยู่ที่มือ
“ระเบิดมือค่ะ คุณตาคุณยายรีบถอยก่อนเถอะค่ะ พวกมันแห่กันมาแล้ว” แพทร้องเตือนเนื่องจากตอนนี้ในแผนที่รบของเธอปรากฎจุดสีแดงนับร้อยที่แห่มาจากรอบทิศ
“ไปทางห้องทำงานเร็วเข้า”คุณตาร้องบอก คุณยายและแพทวิ่งตามไปติดๆก่อนที่แพทจะขว้างลูกกลมเรืองแสงเข้าห้องครัวในตอนที่วิ่งผ่านไป
ตูม “อ๊าก”
แรงอัดระเบิดตามด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดไล่หลังมา คุณตาเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปมุ่งไปทางตู้เซฟ
“แม่มึง คุมประตูไว้”
“ได้เลยพ่อมึง”
สองตายายขานรับอย่างเข้าคู่ ขณะที่แพทร้องตะโกนเรียกไปทางประตูหน้า
“ลุงบัวเร็วเข้าค่ะ”
ปัง ปัง กระสุนแหวกอากาศผ่านแพทไปสองนัด
“เฮ้ยระวังเดี๋ยวโดนเด็กผู้หญิงนั่น”
ตูม!
ระเบิดเวทมนตร์อัดร่างพวกมันลอยออกไป แต่คนที่เหลือก็แห่กันเข้ามาแทนที่ไม่ขาดสาย
“มาเร็วแพท เข้ามาเร็วเข้า”ยายร้องเรียก เด็กสาวลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในห้องทำงาน โดยไม่ลืมร่ายเวทพื้นฐานที่คุ้นเคยไว้ที่ประตู
“<Wind Shield>”
“เฮ้ยมันหนีไปแล้ว โยนระเบิดแฟลชสตันเข้าไปเร็วเข้า”
มือปืนทั้งกลุ่มวิ่งมาถึงหน้าประตู แกะระเบิดโยนเข้าไปในช่องประตูอย่างชำนาญ แต่ระเบิดทั้งสี่ลูกที่ควรจะพุ่งเข้าประตูไปกลับชนเข้ากับ “อากาศ” ก่อนจะกระเด้งออกมา
“ฉิบเป้ง”
บรึม! มือปืนนับสิบล้มกลิ้งเต็มทางเดินขณะที่หัวหน้าทีมของพวกมันมาถึง พวกมันพุ่งเข้าห้องทำงานเข้าไปเพื่อจะพบว่าประตูโลหะขนาดใหญ่ได้ปิดลงแล้ว
ปัง ปัง ปัง
ลุงบัวยิงต่อสู้กับพวกที่ออกันหน้าห้องทำงานอย่างกล้าหาญ แต่พวกมันที่เข้าไปหลบตามช่องทางเดินทำให้ยากต่อการจัดการ
“เฝ้าทางเข้าห้องนิรภัยไว้ อย่าให้มันเข้าไปสมทบได้”
ลุงบัวทำได้เพียงยิงต่อสู้อีกระยะนึง ก่อนที่จะต้องหลบหนีออกจากประตูหน้าเนื่องจากการบีบล้อมทุกทิศทาง
หัวหน้าทีมมือปืนภาคกลางมองคนเจ็บที่นอนกลิ้งกันมากมายอย่างขมขื่นแล้วก็กัดฟันออกคำสั่ง
“ไปเอาะเครื่องเจาะมา เราจะเจาะประตูเข้าไป”