Midterm Fantasy - ตอนที่ 153
โรล่ากำลังดึงเอาถังน้ำขึ้นจากบ่ออย่างตั้งใจ ถังน้ำหนักๆนั่นค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจากบ่ออย่างช้าๆ แล้วจู่ๆเชือกที่ดึงอยู่นั้นก็เบาขึ้นมาทันตา
“มา ข้าช่วย”
“คะ? อ๊ะ เจ้าชาย”
เด็กสาวอุทานขึ้นทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจ้าชายมาจากด้านหลังและใช้มือคู่นั้นดึงเชือกขึ้นมา เขายกถังน้ำเทลงในถังใบใหญ่ก่อนจะโยนถังลงไปเบื้องล่างและตักขึ้นอีกครั้ง
“ม ไม่ต้องก็ได้ค่ะ” เด็กสาวพยายามห้ามหากแต่เจ้าชายยังตักน้ำขึ้นมาเติมถังใหญ่จนเต็ม จากนั้นก็ช่วยยกถังใหญ่ไปเทที่อ่างใกล้ตัวบ้าน
“ขอบคุณค่ะ” โรล่าบอกเมื่อเห็นเจ้าชายวางถังลง เจ้าชายมองหน้าของโรล่าแล้วก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ ข้าเองก็นึกว่าหญิงสาวผู้สังหารแม่ทัพออร์คได้จะเป็นคนดุร้ายหรือกำลังมหาศาล คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กสาวที่ดูไม่มีพิษภัยแบบนี้” เจ้าชายบอก
“เจ้าชายมีธุระอะไรกับข้าหรือเปล่าคะ” โรล่าโพล่งถามออกไปแบบเสียมารยาท
“เจ้าชอบคุณรอนใช่ไหม” ดีโอถาม
“อ๊ะ!” โรล่าอุทานแบบคนที่ไม่ทันตั้งตัว
“ไม่ต้องสงสัยหรอก สายตาของเจ้าตอนที่มองเขาน่ะมันฟ้องออกมา” เจ้าชายบอก “ไม่ว่าใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละ”
เด็กสาวอายจนแก้มแดง ไม่ว่าใครก็ดูออกงั้นเหรอ
“อ้อ คงต้องยกเว้นเจ้าหนุ่มรอนคนนั้น รายนั้นน่ะไม่ได้สังเกตสายตาของเจ้าหรอกว่ามีความหมายยังไง” เจ้าชายว่า “ว่าแต่เจ้าน่ะไม่คิดจะบอกหรือแสดงออกให้มากกว่านี้เหรอ”
“แต่ ข้าเป็นแค่เด็กกำพร้าธรรมดาคนนึงเท่านั้นนะคะ” เด็กสาวแย้ง “ข้าที่เป็นคนต่ำต้อยธรรมดาจะไปคิดแบบนั้นมันไกลเกินเอื้อมไปแน่ๆ”
ยิ่งรู้จักมากขึ้น โรล่าก็รู้สึกว่ารอนนั้นลึกลับและไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งการต่อสู้ ทั้งความสามารถในการหาสินค้า จนเธอเองเริ่มหมดหวังที่จะใกล้ชิดไปเรื่อยๆ
เธอเป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นเองนะ จะไปคู่ควรกับคุณรอนได้ยังไง
“แล้วถ้าเจ้าไม่ใช่หญิงชาวบ้านธรรมดาล่ะ”
“คะ”
เจ้าชายดีโอดึงสร้อยเส้นหนึ่งออกจากกระเป๋า
“ท่านพ่อรับสั่งให้ข้านำเอาเหรียญตรานี้มามอบให้แก่เจ้า เป็นเหรียญกล้าหาญเชิดชูเกียรติที่เจ้าได้ทำการรบอย่างกล้าหาญและสังหารแม่ทัพของออร์คไปสองตัวในการศึก” ดีโอบอก “ผู้ที่ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรตินี้ก็เสมือนได้รับการขยับฐานะเป็นประชาชนชั้นหนึ่งแห่งแอสคาลอน และสามารถเข้าเขตพระราชวังชั้นนอกได้ทุกเมื่อ”
“แต่การรบนั่น ข้าก็รบร่วมกับทุกคน จะมอบให้ข้ามันจะเหมาะหรือคะ” โรล่าพยายามแย้งปฏิเสธ
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไป ท่านพ่อคิดคำนวณไว้เรียบร้อยแล้ว ยังไงเจ้าคงไม่คิดจะย้ายออกจากหมู่บ้านนี้แน่ๆ หากให้ยศเจ้าสูงเกินไป เจ้าอาจจะอึดอัดแทน ดังนั้นท่านพ่อจึงมอบเพียงเหรียญเชิดชูเกียรตินี้ ซึ่งทำให้ฐานะของเจ้าเหนือกว่าพลเมืองทั่วไปแต่ยังไม่เข้าขั้นระดับขุนนาง ยังไงเสียเจ้าก็ทำผลงานดีที่สุดในหมู่ชาวบ้าน ต้องไม่มีใครคัดค้านแน่นอน”
โรล่ารับเอาสร้อยเหรียญตรานั้นมาถือไว้
“ทำไมคะ ทำไมต้องช่วยข้า”
เจ้าชายดีโอยิ้ม
“คุณรอนไม่ใช่ประชากรของแอสคาลอน แม้ว่าเขาจะดีกับเราแค่ไหน วันนึงเขาก็อาจจะออกเดินทางต่อไป แต่หากเขามีครอบครัวหรือมีลูกอยู่ที่นี่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง” เจ้าชายบอก “ท่านพ่อสังเกตเห็นสายตาของเจ้าในงานเลี้ยงวันนั้นจึงได้คิดแผนนี้ขึ้นมา ท่านเชื่อว่าเจ้าน่ะต้องมีใจให้กับเขา แต่คงเกรงอะไรบางอย่างจึงทำให้ไม่กล้าเดินหน้าต่อ สถานะใหม่ของเจ้าที่สูงขึ้นน่าจะช่วยปลดข้อขัดข้องเหล่านั้นได้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ตอนนี้รอนไปกับกัปตันกอร์ดอนเพื่อไปตรวจอาวุธ เจ้าตามไปสิ” เจ้าชายบอก “เมื่อเจ้าไปถึง อย่าลืมใส่สร้อย กัปตันกอร์ดอนจะทักเรื่องนี้ต่อหน้ารอนเอง”
โรล่าสวมสร้อยเหรียญตราไว้แล้วรีบเดินตรงไปทันที ขณะที่เจ้าชายดีโอมองตามแล้วเดินตามไปห่างๆ เขาเดินไปจนถึงโรงเก็บอาวุธ รอนอยู่ที่ลานกว้างสำหรับทดสอบอาวุธ รอบๆนั้นมีทหารองครักษ์ที่เปลือยท่อนบน กำลังยืนฟังรอนบรรยายการใช้ระเบิดเวทมนตร์กัน และเมื่อโรล่าเดินเข้าไปใกล้ กัปตันกอร์ดอนก็ทักเรื่องเหรียญตราที่ห้อยแขวนนั้นให้ทุกคนในที่นั้นฟัง
เจ้าชายดีโอขยิบตาให้กับกัปตันกอร์ดอน มองดูโรล่าที่ยืนอายเมื่อได้รับคำชมจากรอน แล้วเขาก็ค่อยๆเดินไปหาแพทที่นั่งอยู่ที่ขอบสนาม
“คุณแพท ทำไมมานั่งที่นี่ล่ะครับ” เจ้าชายดีโอทักขึ้น
“เจ้าชาย .. ปกติแล้วเวลาทดสอบอาวุธ พวกทหารต้องถอดเสื้อกันด้วยเหรอคะ” แพทถาม
“ใช่ครับ การทดสอบอาวุธที่ไม่เคยใช้มาก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความคล่องตัว เห็นว่าครั้งนี้อาวุธเป็นชนิดที่ระเบิดได้ ดังนั้นข้าเลยสั่งให้ทุกคนถอดเสื้อเพื่อจะได้ไม่ติดขัดเวลาใช้กำลัง” เจ้าชายบอก
“ชั้นไม่ชอบเอาเสียเลย” แพทบ่นเบาๆ ขณะที่เจ้าชายยิ้มน้อยๆ
ทั้งสองคนนั่งดูการทดสอบอาวุธกันเงียบๆ ทหารลองกระตุ้นระเบิดและขว้างออกไป เสียงระเบิดดังเป็นพักๆ เด็กสาวนั่งจ้องเพื่อนหนุ่มที่มีโรล่ายืนข้างๆไม่วางตา
“คุณแพทคบอยู่กับคุณรอนเหรอครับ” เจ้าชายถาม
“อ๊ะ เปล่าค่ะ เปล่า” แพทร้อง
“ข้าเห็นคุณแพทจ้องมองคุณรอนกับเด็กสาวคนนั้นตลอดเลยเข้าใจไปอย่างนั้น ต้องขอโทษด้วยครับ”เจ้าชายบอก
แพทไม่ได้ตอบอะไร เธอนั่งมองโรล่าที่ยืนใกล้ชิดกับรอนในตอนนี้ อยากจะเดินกลับเข้าไปแต่ก็ไม่กล้า เพราะเมื่อครู่เธอเพิ่งบอกรอนว่าอยากนั่งรอด้านนอกเพราะไม่ชอบที่มีผู้ชายมาถอดเสื้อกันหลายๆคนแบบนี้
“ข้าไม่ค่อยเห็นใครมีผมและตาสีดำแบบพวกคุณทั้งสองมาก่อน พวกคุณทั้งสองไม่ใช่คนของทวีปนี้สินะครับ”
“ค่ะ” แพทตอบ “แต่เมื่อครู่ท่านบอกว่าไม่ค่อยเห็น แปลว่าท่านเคยเจอมาก่อนเหรอคะ”
“ครับ จะมีคนจากต่างทวีปที่มีสีผมและตาเป็นสีดำเช่นนี้”
“ที่นี่ไม่ได้ต่อต้านหรือดูถูกคนที่สีผมสีผิวต่างกันใช่ไหมคะ” แพทถาม
“ไม่ครับ พวกเราต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน จะแบ่งแบบนั้นไปทำไม” เจ้าชายดีโอบอก “อันที่จริง หากไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในตอนนั้น แม่ของข้าก็คงเป็นคนที่มีสีผมและตาดำแบบคุณแพทเนี่ยแหละ”
“เหรอคะ เรื่องเป็นยังไงเหรอคะ” เด็กสาวถามอย่างสนใจ
“ตอนที่เกิดสงครามเมื่อ30ปีก่อน ท่านพ่อหลงรักนักรบมังกรหญิงคนนึงของฝ่ายเราน่ะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอเสียชีวิตไปในการรบ ท่านพ่อคงมีโอกาสได้สานต่อความรักในตอนนั้น” เจ้าชายบอก “คุณแพทคงจะเคยได้ยินชื่อนักรบมังกรอารย่าใช่ไหมครับ”
“อ๋อ เคยค่ะ ที่ว่าสุสานของท่านอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านนี้ แพทจำได้” แพทบอก “ตอนที่ได้ยินชื่อครั้งแรกยังคิดอยู่เลยว่าชื่อคล้ายคุณแม่ของแพท”
“จริงเหรอครับนั่น”
“ค่ะ แม่ของแพทชื่ออารยา นี่ยังเคยคุยๆกับรอนอยู่เลยว่าบังเอิญมากที่ชื่อไปคล้ายกับท่านอารย่า” แพทบอก “แต่น่าเสียดายที่แม่ของแพทใช้เวทมนตร์ไม่ได้ เพราะแม่ทำงานเป็นหมอรักษาคนป่วย ถ้าใช้เวทมนตร์ได้แบบท่านอารย่าก็คงจะดีไม่น้อย”
“โลกนี้มีอะไรที่บังเอิญมากมายจริงๆ” เจ้าชายดีโอบอก “เอาล่ะ คุณรอนเดินมานี่แล้ว เดี๋ยวข้าคงต้องไปคุยกับเขาสักหน่อย”
ทั้งสองคนลุกขึ้น เจ้าชายหันไปยิ้มให้เด็กสาว
“ต่อไป ถ้ามีโอกาสข้าก็อยากจะมาพูดคุยทำความรู้จักกับคุณแพทให้มากขึ้นนะครับ”
“คะ???”
“คุณเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น การวางตัวและความคิดอ่านก็โดดเด่น ข้าอยากจะทำความรู้จักให้มากกว่านี้” เจ้าชายดีโอบอก
“แต่ชั้น….”แพทอ้าปากจะแย้งแต่เจ้าชายไม่เปิดโอกาสให้พูดต่อ
“คุณชอบนายรอนอยู่ อย่างน้อยการแสดงออกที่ทำอยู่ก็บอกแบบนั้น” เจ้าชายดีโอบอก “เรื่องนั้นข้าทราบดี แต่ข้าก็ยังอยากทำความรู้จักคุณแพทให้มากกว่านี้ ไม่แน่ว่าเราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้”
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะที่ไม่สามารถรับความรู้สึกดีๆจากท่านได้” เด็กสาว
“ไม่ต้องขอโทษข้าหรอกครับ” เจ้าชายตอบ “อย่างที่บอก ข้าชอบที่ท่านเป็นตัวของตัวเองแบบที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้”
แล้วเจ้าชายก็หยิบสร้อยเครื่องรางออกมาสองเส้น
“นี่เป็นเครื่องรางรักษาระดับ 6 สามารถฟื้นคืนชีพได้แม้บาดเจ็บรุนแรงระดับที่หัวใจหลุดออกจากตัวหรือกระโหลกแตกไหล ผมฝากคุณแพทเอาให้คุณรอนชิ้นนึงด้วยนะครับ”
“อ้าว ทำไมท่านไม่เอาให้รอนเองล่ะคะ” แพทถาม
“ถ้าผมมอบให้คุณรอน 2 ชิ้น ผมคิดว่าด้วยนิสัยของคุณรอนจะต้องไม่เก็บเอาไว้ใช้เองครับ” เจ้าชายบอก “ข้าขอตัวก่อน”
เจ้าชายเดินเข้าไปหารอนและกัปตันกอร์ดอน จากนั้นคุยกันครู่หนึ่งก่อนจะเดินกลับไป
“เป็นยังไงบ้างกอร์ดอน อาวุธของคุณรอนใช้ได้ไหม”
“เป็นอาวุธที่วิเศษมากครับ ด้วยราคา 50 เหรียญเงินกับอาวุธที่ให้อานุภาพเท่าม้วนเวทระดับ 3 ถือว่าคุ้มค่ามากๆ” กอร์ดอนบอก “คุณรอนบอกว่าตอนนี้ยังมีปัญหาในการผลิตอยู่บ้าง แต่อีกไม่นานน่าจะผลิตในจำนวนมากได้ และบอกว่าตอนนี้มีแบบใหม่ที่กำลังทดสอบอยู่คิดว่าสัปดาห์หน้าจะทดลองใช้จริงครับ”
“แล้วเมื่อครู่คุณรอนมีปฏิกริยาอะไรกับตอนที่รู้ว่าโรล่าคนนั้นได้เลื่อนสถานะ”ดีโอถาม
“ดูยินดีด้วย แต่อย่างอื่นก็ดูปกติครับ” กอร์ดอนตอบ
“งั้นก็เป็นอย่างที่คิดไว้ คุณรอนไม่ได้ถือเอาเรื่องชนชั้นสถานะเป็นเรื่องสำคัญ การที่เรากระตุ้นผลักดันจากฝั่งของเด็กโรล่าคนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ดีโอบอก “ถ้าเด็กคนนั้นกล้ามากขึ้น คุณรอนอาจจะสังเกตเห็นความรู้สึกก็เป็นได้”
“ว่าแต่ ทำไมเจ้าชายไม่เอาสร้อย2เส้นนั้นให้กับคุณรอนตามรับสั่งของพระราชาล่ะครับ” กัปตันกอร์ดอนถาม “ด้วยนิสัยของเขา เขาจะต้องมอบสร้อยให้กับโรล่าและคุณแพทแล้วทั้งสองฝ่ายต้องรู้สึกอะไรบ้างแน่ๆ”
“คุณแพทชอบคุณรอนอยู่ และข้าก็สนใจในตัวคุณแพทคนนี้” เจ้าชายบอก “ดังนั้นข้าก็ไม่อยากให้คุณแพทหันมาชอบข้าเพราะเข้าใจคุณรอนผิด เรื่องของความรักความชอบก็ขอให้มันเกิดจากความรู้สึกจริงๆของคนสองคนจะดีกว่า”
“เจ้าชาย! ท่านชอบ.. ” กอร์ดอนอุทาน
“ใช่ กอร์ดอน ทีแรกอาจจะเป็นคำสั่งของท่านพ่อเพื่อให้เกิดความมั่นคงของอาณาจักร” เจ้าชายกล่าว “แต่ยิ่งรู้จัก ข้าก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้น่าสนใจอย่างที่ข้าไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
เจ้าชายเดินนำทุกคนไป ท่ามกลางความตื่นเต้นของเหล่าทหาร
เจ้าชายที่ปกติบ้าการทหารและการปกครองไม่เคยชายตาแลหญิงหรือชายใด มาตอนนี้สนใจผู้หญิงเข้าแล้ว!