Midterm Fantasy - ตอนที่ 157
ผู้กองเฌอมาลย์เข็นจักรยานไปตามถนน ขณะที่รอนเดินอุ้มลังไปข้างๆ
“บังเอิญจริงๆเลยนะที่สามคนนั่นมาอยู่ที่นี่” ผู้กองบอก “แล้วนี่เธอรู้ตั้งแต่ตอนไหน หรือว่าเธอเป็นคนพามาล่ะ”
“เปล่านะครับ คือ จริงๆผมเจอทั้ง 3 คนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ว่าผมจำพวกเค้าไม่ได้” เด็กหนุ่มตอบ “นี่ก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เองว่าทั้งสามคนนี้คือคนเดียวกับมือปืนที่ผมเจอคืนนั้น”
ที่จำไม่ได้เพราะว่าวันนั้นมันค่อนข้างมืด แถมเป็นการเจอกันแค่ครั้งเดียวไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นเขาก็ส่งตัวให้หยางเทียนนำไปส่งต่อให้ผู้กองเฌอมาลย์ต่ออีกทอดนึง ต่างจากผู้กองที่เจอมาแล้วหลายครั้ง
“จะว่าไปก็บังเอิญมากๆนะ ที่เธอก็อยู่แถวบ้านชั้นพอดี”
“จริงครับ ผมมาซื้อข้าวที่ร้านตั้งหลายครั้งก็ไม่เคยเจอพี่เฌอเลย”
ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าร้านขายข้าวสารพอดี
“อ้าว รอน เอ๊ะ สองคนรู้จักกันด้วยเรอะ”
เฮียประเสริฐถามอย่างแปลกใจที่เห็นทั้งสองคนคุยกันมา
“อ๊ะ เฮีย ก็คดีล่าสุดที่เฌอทำน่ะรอนเค้า แอร๊ยะ!” เฌอมาลย์อุทานขึ้นเนื่องจากเจอเตะ
“พอดีเราไปเจอกันที่ร้านอาม่าน่ะครับ เลยเพิ่งรู้ว่าเป็นน้องสาวเฮียเสริฐ” รอนรีบตัดบทก่อนที่ผู้กองจะหลุดปาก
“อ๋อ จริงสินะ เมื่อกี้เอาเงินไปคืนอาม่านี่นา ว่าแต่แล้วรอนมานี่มีธุระอะไรเรอะ” เฮียประเสริญถาม
รอนอึ้งไป 3 วินาที เออ จริง แล้วนี่เดินมาทางนี้ทำไมเนี่ย
“มาซื้อข้าวครับ เดี๋ยวขอซื้อข้าวกระสอบนึงครับ”
“งวดนี้เอาแบบไหนดี แบบเดิมไหม”
“เอาแบบหอมมะลิ 100 กิโลกระสอบนึงครับ”
รอนบอกอย่างเป็นธรรมชาติจนเฮียเสริฐไม่สงสัยอะไร
“วางของลงตรงนั้นก่อนก็ได้รอน เดี๋ยวเฮียไปลากกระสอบออกมาก่อน” เฮียเสริฐชี้มือไปตรงตาชั่งข้าว รอนวางลังลงไปแล้วยืนรอ
“ได้ละ จะให้เฮียเอาไปส่งไหม” เฮียประเสริฐถามขณะชะงักเมื่อเห็นว่าลังที่รอนวางไว้หนักตั้ง 80 กิโล
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขนกลับเองดีกว่าครับเฮีย” รอนจ่ายเงินให้ “นี่ครับ งั้นผมลากลับก่อนนะครับ เฮียเสริฐ พี่เฌอ”
เขาจับลังขึ้นมายกด้วยมือเดียวก่อนจะดึงกระสอบข้าว 100 กิโลขึ้นพาดบนไหล่อีกฝั่งแล้วเดินกลับไป
“เฮียเสริฐ เครื่องชั่งเสียหรือเปล่า”
“ไม่เสีย เพิ่งเช็คเมื่อกี้”
แล้วทั้งสองพี่น้องก็มองดูรอนเดินลับสายตาไปแบบเหงื่อตก 180 กิโล เดินตัวปลิวเนี่ยนะ
เย็นนั้นรอนไปซื้อแบตเตอรี่จากร้านที่ขายอุปกรณ์โซล่าเซลล์แบบออฟกริด ได้แบตเตอรี่ลูกโตหนักอึ้งมาในราคา 2หมื่นกว่า ใจจริงเขาอยากใช้โซล่าเซลล์ชาร์จไฟที่โลกโน้นด้วย แต่ติดที่ว่าพอเช็คของในร้านแล้ว ในร้านไม่ได้มัดรวมกัน ถ้าจะขนไปฝั่งโน้นก็ต้องขนทีละชิ้น ไม่นับว่าถ้าเกิดเสียขึ้นมาการซ่อมกังหันมันทำง่ายกว่าการซ่อมโซล่าเซลล์ เขาเลยละเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
พอข้ามไปที่โลกโน้น เขาก็เริ่มลงมือติดตั้งกังหันลมตามคู่มือ รอนตั้งกังหัน ต่อชาร์เจอร์เข้ากับแบตเตอรี่ และต่อตัวอินเวอร์เตอร์ปรับแรงดันไฟฟ้าเป็นอันเสร็จ
แล้วทดสอบด้วยอะไรน่ะรึ ไม่ยากเลย รอนก็เอาเครื่องเจียรโลหะที่เคยใช้ทำดาบเหล็กแผ่นป้องกันเมืองกาล่าในตอนนั้นไง
เครื่องเจียรหมุนอย่างเร็วจี๋
“เครื่องนี่มันคือเครื่องอะไรเหรอคะ” โรล่าถาม
“เป็นกังหันที่ใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าครับ กระแสไฟฟ้าจะเข้าไปอยู่ในกล่องสีดำนั่นแล้วพอเราจะใช้ก็ไปเอาอุปกรณ์มาต่อออกมา” รอนตอบไป
“อ๋อ งั้นก็เหมือนๆกับอุปกรณ์เวท ที่ใช้พลังจากผลึกแกนมอนสเตอร์สินะคะ” โรล่าบอก
“จะว่าไปก็ใช่นะ” รอนนึก ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วคนหรือสัตว์ที่ใช้พลังเวทได้ก็สามารถชาร์จมานาเข้าร่างกายได้อย่างช้าๆตามเวลาเหมือนกับชาร์จแบตเตอรี่ จากนั้นพอจะใช้ก็ปลดปล่อยออกมา และแกนมอนสเตอร์ก็เหมือนกับแบตเตอรี่ที่มีพลังในตัว ที่ดูดซับเอาไปใช้งานได้
มันน่าจะมีอะไรบางอย่างในโลกแห่งนี้ที่คอยชาร์จพลังให้ เพราะอย่างกรณีแพทหรือคุณพ่อของแพท ถ้าอยู่ที่โลกโน้น พลังเวทจะไม่ชาร์จเอง แต่พออยู่ที่นี่ พลังจะถูกเติมเข้ามาช้าๆ
“ยังไงฝากโรล่าบอกคนอื่นๆด้วยนะว่าอย่าเข้าใกล้เครื่องนี้ ถ้าใช้ไม่ถูกต้องมันอันตรายถึงตายได้เหมือนกัน” รอนบอก “ผมเลยเอามาตั้งไว้ตรงที่ที่ก่อสร้างบ้านใหม่ของผม จะได้ห่างไกลจากพวกเด็กๆหน่อย”
“เข้าใจแล้วค่ะ” โรล่ารับคำ “แต่จะว่าไป บ้านหลังใหม่ที่กำลังสร้างของคุณรอน ทำไมหลังใหญ่จังคะ”
“ก็เผื่อว่าต่อไปจะมีคนอยู่หลายคนน่ะครับ” รอนบอกออกไป
ทั้งแพทและโรล่าหันไปมองรอนพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย ขณะที่รอนเองไม่รู้ตัว
เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าในฐานะผู้ก่อตั้งร้าน ARMAMENT ต่อจากนี้ไปจะต้องมีคนมากหน้าหลายตามาติดต่อ
ตัวอย่างก็อย่างเมื่อวานนี้ที่เจ้าชายดีโอมาคุยด้วย แทนที่จะรับรองในที่อันเหมาะสม เขาต้องไปยืมสถานที่ของพ่อเฒ่าเบรเซอร์แทน
ถ้ามีบ้านที่ใหญ่โตพอก็น่าจะดี
“ใช่ …ต่อไปคงต้องมีคนอยู่กันหลายคน คงครึกครื้นน่าดู” รอนเอ่ยเบาๆ
“รอน นายเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าคนอื่นเค้าจะยอมมาอยู่ด้วยกันหลายๆคนห๊ะ” แพทถาม
“มันก็จริงแหละ ต้องถามความสมัครใจของแต่ละคนก่อน” รอนตอบออกไป “แล้วแพทล่ะโอเคไหมถ้าจะมีคนมาอยู่หลายๆคน”
“โรล่าว่าได้นะคะ บ้านออกใหญ่โตแบบนี้ อยู่หลายคนไม่มีปัญหาแน่นอน” โรล่าพูดแทรกทันที
“ดะ ดะ เดี๋ยว” แพทร้องตะกุกตะกักไปต่อไม่ถูก
“ไม่ต้องรีบคิดก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบน่ะ” รอนบอก
“ในฐานะคนที่ก่อตั้งร้าน ARMAMENT บ้านที่เราอาศัยมันต้องใหญ่พอที่จะดูแลแขก ดูเมื่อวานสิแพท ตอนเจ้าชายมาเราไม่มีที่ต้อนรับเลย ถ้าไม่มีบ้านของตัวเองนี่ต่อไปคงลำบากใจแน่ๆ”
“เอ๊ะ”
“อ๊ะ”
เสียงของแพทและโรล่าอุทานดังขึ้นพร้อมกัน เด็กสาวทั้งสองมองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจออกมา
กิ๊ง
[Idiot] x 2 คุณทำคอมโบได้ แต่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีด้วยหรอก
“เอ๊ะ” รอนมองดูหน้าจอ นี่เราทำอะไรผิดเหรอ
โรล่าขอตัวกลับไปดูแลเสือดำต่อ ขณะที่แพทที่มีท่าทีอารมณ์ไม่ปกติก็หันไปอีกด้านมองดูช่างก่อสร้างทำงาน
เด็กหนุ่มค่อยๆไล่หน้าจอดู จะว่าไปเขาไม่ค่อยได้สนใจเสียงเตือนหรือตรวจสเตตัสอะไรเลยมานานแล้ว
ไหนดูของเมื่อวานหน่อยสิ
รอนเลือก Log ของเมื่อวานขึ้นดูแล้วก็บื้อไปพักนึง
[Poker face Lv 32 32/100]
[สตรีศึกษา Lv 54 : 0/100 ]
[Poker face Lv 32 40/100]
[Poker face Lv 32 50/100]
[Charm Lv 35 15/100]
[Idiot] x 1
เดี๋ยวนะ ขอนึกดูก่อน
สตรีศึกษานี่พอนึกออก เพราะการไปสัมผัสกับสิ่งที่ไม่ควรเข้าเมื่อวานนี้ทำให้เลเวลขึ้นมานิดนึง
Poker face สกิลตีหน้าตาย เมื่อวานเขาหลอกอาม่าว่าม้วนเวทรักษาคือกอเอี๊ยะ กับไหลตามน้ำว่าจะไปซื้อข้าวสารกับเฮียเสริฐ อันนั้นเข้าใจ แต่รอบแรกนี่มันตอนเขาอยู่บ้านไม่ใช่เรอะ เขาไปหลอกอะไรใครที่บ้านฟะ (รอนจำไม่ได้ ว่าตอนนั้นที่วางมือปิดชื่อหนังสือทำให้พ่อเข้าใจผิดว่ากำลังอ่านหนังสือธุรกิจทั้งที่จริงๆอ่านเรื่องมาเฟีย)
แล้ว Charm Lv 35 นั่นมันอัลลัย Idiot นั่นอีก ทำไมเขาจำไม่ได้เลยฟะว่าไปทำอะไรเอาไว้
ครั้งนี้รอนไม่ปล่อยผ่าน เขาต้องการวิเคราะห์ระบบให้ดี ที่ผ่านมาเขาพลาดเรื่องที่ไม่รู้ว่าตัวเองมี Bonus Stat ไปทีนึงแล้ว (แม้จะใช้ไม่ได้ก็ตาม)
ครั้งนี้ต้องวิเคราะห์ให้ได้
ถ้าจำไม่ผิด Charm ในเกมเป็นสกิลที่บางเกมใช้เพื่อควบคุมฝ่ายตรงข้าม … เขาไม่มีการไปควบคุมใครนี่นะ งั้นตกไป … บางเกมหมายถึงการล่อตีนมอนสเตอร์ เป็นสกิลของตัว Tank
จริงสิ เมื่อวานเขาพุ่งตัวปกป้องคุณพี่เจนัสไป Charm ต้องขึ้นตอนนั้นแน่ๆ
โอเช งั้น Charm ต้องแปลว่าเป็นตัว Tank ไม่ผิดแน่นอน
กิ๊ง! เสียงระบบดังขึ้น
[idiot]
“อะไรฟะ ตรูทำผิดอัลลัย”
Idiot นี่แปลว่าโง่ชัดๆ จะว่าไปเมื่อกี้ก็ขึ้นสองครั้งตอนที่กำลังคุยอยู่กับแพทและโรล่า งั้นถามแพทดีกว่า
“แพท เมื่อกี้ที่เราพูดมีอะไรผิดเหรอ” รอนถาม “ตอนเราพูดไปมีทำให้เธอเข้าใจผิดอะไรไหม”
“ไม่มี๊” แพทตอบเสียงสูง จะให้บอกได้ไงว่าเธอเข้าใจผิดว่ารอนสร้างบ้านหลายๆห้องเพื่อจะเตรียมสำหรับแฟนหลายๆคนพร้อมกัน
“ไม่มีจริงเหรอ”
“ไม่มี๊”
กิ๊ง
[Idiot]
อะไรกัน รอนงงไปหมด
“แปลกแฮะ มันขึ้นแบบนี้อีกแล้ว” รอนบอก “เมื่อวานก็ขึ้นแบบนี้ที่ร้านอาม่า”
“อะไรขึ้นที่ร้านอาม่าเหรอ” แพทถาม
“ในช่องของระบบน่ะแพท มันขึ้นคำว่า [Idiot] ตะกี้ตั้งหลายครั้ง ตอนกลับจากที่ร้านอาม่าก็ขึ้นคำนี้ ไม่รู้เกี่ยวกับพวกพี่เจนัส 3คนนั่นไหม” รอนตอบ
“ใครคือเจนัส เหรอรอน” แพทถาม