Midterm Fantasy - ตอนที่ 16
รอนตื่นเช้ามาอย่างสดชื่น … เมื่อคืนนี้หลังจากฝึกท่าทางการใช้ดาบกับการหลบจากในคลิปแล้ว เขายังลองอ่านตำราที่เขาพบในห้องศิลา … แล้วก็พบว่า รูปแบบการต่อสู้ของโลกมนุษย์กับทางโลกโน้นแตกต่างกันมากพอสมควร
โดยการต่อสู้ของโลกจะเน้นการต่อสู้ระหว่างคนด้วยกัน มีการหลบเพื่อเข้าทางมุมอับ หรือการจู่โจมคู่ต่อสู้โดยเล็งที่ขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์
เช่นหากคู่ต่อสู้โถมมาด้านหน้า เราสามารถหลบแล้วขัดขาออกแรงผลักจากด้านหลังให้ล้มได้
หรือหากมีจังหวะก็จับที่แขนอีกฝ่ายได้ สามารถงอข้อมือและข้อศอกเพื่อให้ดาบที่กำในมือหลุดได้
แต่ในกรณีของการต่อสู้ของโลกโน้น การต่อสู้มีต่อศัตรูที่เป็นมอนสเตอร์
ทำให้การต่อสู้ไม่เน้นไปที่การเข้าประชิดซึ่งจะเสี่ยงต่อการถูกมอนสเตอร์ที่ร่างกายมีเขี้ยวเล็บมากกว่าจัดการเอส …แต่สไตล์ของโลกโน้นจะใช้วิธีการปัดป้องแล้วใช้อาวุธตีฟาดไปตรงๆยังจุดอ่อนของมอนสเตอร์
รอนอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน จัดกระเป๋าไปโรงเรียนโดยไม่ลืมหยิบหนังสือที่ยืมจากห้องสมุดไปด้วย ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาสองวันเขาอ่านหนังสือทำข้อสอบเก่าได้เยอะเหมือนกัน จะมีแต่สามก๊กเล่มหนาที่เขาอ่านไปได้ไม่มาก เพราะต้องมานั่งจดเทคนิคที่ตัวละครในเรื่องใช้เป็นระยะๆ
รอนเดินไปขึ้นรถสองแถว เดินเข้าไปยืนด้านในสุดของรถ เขาก็ลองเปิดดูสถานะดู
[พลังชีวิต 45/45]
[Battle technique : การใช้โล่สะท้อน : Lv 1 : 60/100]
[Battel technique : ท่าหลบ : Lv 2 85/100]
[การต่อสู้ประชิดตัว Lv 4 89/100]
[Blunt weapon Lv4 87/100]
[Range weapon Lv3 56/100]
[Edge weapon Lv1 40/100]
รอนสังเกตว่าพลังชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นมา1หน่วย และตอนนี้สถานะBlackdeathก็หายไปแล้ว
‘เอี๊ยดดดด’
รถเบรกแรงจนคนที่นั่งอยู่ไหลไปด้านหน้า รอนที่อยู่ตรงด้านหน้าสุดถูกคนที่ยืนด้านหลังเข้ามากระแทก
“กำลังแขนก็เพิ่มขึ้นแฮะ” รอนพึมพำกับตัวเอง หลังจากพบว่าเขาต้านแรงของรถได้ ไม่ได้ไหลไปกระแทกด้านหน้าแบบคนอื่นๆในรถ
ที่โรงเรียนเด็กหนุ่มเอากระเป๋าไปเก็บและขึ้นไปห้องสมุดเพื่อเอาหนังสือทั้งหมดไปคืนจากนั้นกลับไปนั่งที่ห้องเรียนรอเวลาเข้าแถว
“เฮ้ยรอน เสาร์อาทิตย์ทำไมไม่ออนไลน์เลยวะ”
เด็กหนุ่มหันไปตามเสียง กวินกับเอกชัยยืนอยู่ตรงทางเดินนอกห้อง
“พอดียุ่งๆว่ะ” รอนตอบไป … เขานึกคำตอบที่ดีกว่านี้ไม่ออก
“เออ งั้นถ้าออนเมื่อไหร่ก็ทักไปด้วยแล้วกัน ” ทั้งคู่เดินต่อไป
กวินกับเอกชัยเป็นเพื่อนร่วมห้องตอนม.1 เป็นช่วงที่เขาเล่นเกมหนักมาก รอนไปร่วมกลุ่มกับทั้งสองคนเล่นเกมเดียวกัน ชนิดที่ว่าเวลาส่วนใหญ่ตอนชั้นม.1เขาคุยกับทั้งคู่มากกว่าที่คุยกับพ่อและแม่เสียอีก แต่หลังจากขึ้นม.2 พออยู่คนละห้องกัน เขาก็เริ่มคุยกับทั้งคู่ในชีวิตจริงน้อยลง ไปคุยกันผ่านเกมมากกว่า โดยทั้งสามคนมักจะไม่ได้ออนพร้อมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นรอนที่ออนอยู่ตลอดแล้วกวินกับเอกผลัดกันออนมาเจอกันในเกมมากกว่า
จะว่าไป สัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขาไม่ได้เล่นเกมเลย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ3-4ปีที่เขาหยุดเล่นนานเกิน1สัปดาห์ … ถ้าเป็นสมัยก่อนพอเขาหยุดสักวันสองวัน เขาก็จะทรมานอยากเล่นจนทนแทบไม่ได้ แต่คราวนี้เขาไม่ได้รู้สึกอยากเล่นเลย
ประการแรก … เพราะตอนนี้เป้าหมายสำคัญที่สุดของรอนคือต้องสอบให้ผ่านม.3ไปด้วยเกรดที่สูงที่สุด … ซึ่งเขาจะต้องเร่งเรียนให้ทันบทเรียนเก่าทั้งสามปีที่เสียไป
ประการที่สอง …. เพราะชาวหมู่บ้านโอลเซ่นที่ประสบภัยอยู่และยังไม่พ้นจากภัยธรรมชาติ … ความรู้สึกอยากช่วยแต่ช่วยไม่ได้เพราะเงินหมดทำให้รอนไม่มีกะจิตกะใจไปเล่นเกมใดๆมาเล่นในช่วงนี้เลย
หลังเคารพธงชาติเริ่มชั้นเรียน รอนตั้งใจเรียนเต็มที่ แทนที่จะนั่งฟังแบบผ่านๆอย่างที่เคยทำในสมัยก่อน เขาจดรายละเอียดคำบอกของครูและขีดเส้นใต้ในหนังสือตรงจุดสำคัญ ผ่านชั่วโมงเรียนคาบเช้าไปด้วยความรู้สึกว่าได้ความรู้เต็มที่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
“รอนๆ ครูดุษฎีเรียกพบน่ะ” บดินทร์เรียก
“มีอะไรเหรอ? ” เขารับคำอย่างสงสัย
“ไม่รู้เหมือนกัน” เพื่อนของเขาส่ายหน้า
เด็กหนุ่มเดินไปตามทางเดินไปยังห้องพักครู เขาผลักประตูเข้าไปและพบว่าครูดุษฎีไม่ได้อยู่คนเดียว
แต่ยืนอยู่กับครูปรียาหัวหน้าชั้นม.ต้น ครูเทพฝ่ายปกครองม.ต้น และบราเดอร์สมนึก
รอนยกมือไหว้ครูๆและบราเดอร์ เขาเห็นครูปรียาเดินเข้ามาจะพูดอะไรบางอย่างแต่บราเดอร์สมนึกยกมือห้ามไว้
“รอนใช่ไหม”บราเดอร์ถาม
“ครับ”
“เดี๋ยวเธอไปนั่งตรงโต๊ะ แล้วช่วยทำโจทย์บนโต๊ะหน่อย … สำหรับข้อคณิตศาสตร์ บราเดอร์อยากให้เธอแสดงวิธีทำให้ดูก่อนจะได้เป็นคำตอบออกมา”
รอนเดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วพลิกกระดาษดู เป็นข้อสอบ5 วิชาอย่างละ5ข้อ แต่ไม่ใช้ข้อสอบช้อยส์อย่างที่เพิ่งสอบไป หากแต่เป็นข้อสอบแบบเติมคำในช่องว่าง
เด็กชายมองไปที่ข้อสอบ ยังดีที่มันเป็นโจทย์ที่เขาเคยเห็นในตอนทำข้อสอบเก่า และก็อยู่ในเนื้อหาการสอบครั้งที่ผ่านมา เขาเขียนลงไปอย่างรวดเร็ว เพียง6-7นาทีเขาก็ทำทั้ง25ข้อจนครบหมดสิ้น
“โอเค เธอกลับไปพักกลางวันต่อได้” บราเดอร์บอก รอนไหว้ครูและบราเดอร์ก่อนจะเดินออกไป
จนเมื่อประตูปิดสนิทแล้วบราเดอร์สมนึกจึงหยิบกระดาษขึ้นมาดู
“เขาก็ทำได้ถูกต้องนะ ใน25ข้อนี้ผมเห็นเขาผิดแค่2ข้อเท่านั้นเอง” บราเดอร์สมนึกพูดขึ้น
“ขอชั้นดูหน่อย” ครูปรียาหยิบกระดาษคำตอบมาดู “รึว่าเด็กคนนี้จะรู้พูลข้อสอบที่โรงเรียนใช้”
“ครูปรียา … ทำไมครูไม่คิดว่าเด็กจะทำข้อสอบเองได้บ้าง” ครูดุษฎีค้าน
“ดิฉันก็คิดในสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก่อนค่ะ” เธอกล่าว “จะเป็นไปได้ยังไงที่เด็กที่เรียนแย่ติดอันดับ5คนสุดท้ายของชั้นปี จะเปลี่ยนมาได้คะแนนมากที่สุดในห้องทุกวิชา และติดtop20ของชั้นปี … นี่ยังไม่นับว่าจู่ๆนักเรียนครึ่งค่อนห้องเดียวกับนายรอนจู่ๆเกิดทำคะแนนดีขึ้นในวิชาสังคมกับภาษาไทย … ถ้าไม่ใช่ข้อสอบรั่วจะคิดเป็นอย่างอื่นได้เหรอคะ”
“เอาเถอะๆ ผมไม่เห็นว่าจะแปลกอะไร ถ้าเด็กเกิดขยันอ่านขึ้นมาก็น่าจะทำได้” บราเดอร์ตัดบท “แล้วเราก็ทดสอบกันแล้วว่าเค้าก็ทำได้ ผมว่าเราคงไม่ต้องสงสัยอะไรกันอีกแล้ว”
***************
28 , 26 , 29 , 27 , 27 …. รอนมองตัวเลขในกระดาษที่ครูแจกมา มันคือตัวเลขคะแนนสอบที่ผ่านมา … ซึ่งแต่ละวิชามีคะแนนเต็ม 30
รอนมองอย่างงงๆ เพราะที่ผ่านมาเขาชินกับคะแนนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1x มาตลอด การได้เกิน20คะแนนเป็นอะไรที่เขาไม่คิดไม่ฝันเลย
เขาเก็บกระดาษนี้ลงกระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องสมุด … เขาคิดว่าจะหาหนังสือสักเล่มยืมกลับบ้านไปเพื่อพกไปอ่านที่ฝั่งโน้น เพราะยังไงพอกลับไปเวลาที่โน่นก็คงเป็นเที่ยงคืน เหลืออีกตั้ง6ชั่วโมงกว่าจะเช้า
รอนเลือกหนังสืออยู่พักนึงก่อนจะเลือกหนังสือภาษาไทยม.ต้นมา หยิบไปหามุมสงบๆลับตาหลังชั้นหนังสือ จากนั้นเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายทีละหน้า … เขาพลิกหน้ากระดาษแล้วยกกล้องถ่าย จากนั้นวางกล้องลง พลิกหน้าใหม่ คั่นไว้แล้วถ่ายทีละหน้าๆ
“มา…เดี๋ยวเราช่วยจับให้”เสียงใสแว่วมาที่ข้างหู มือเล็กๆผิวขาวละเอียดยื่นมาจับที่หนังสือของรอน เขาชะงักไปเมื่อหันไปมอง
“แพท…”
เด็กสาวยิ้มให้ มือของเธอยังเอื้อมมาจับที่หนังสือตรงหน้า รอนถอนออกมาเล็กน้อย ใบหน้ารู้สึกได้ถือปอยผมของเพื่อนที่เกลี่ยมาที่แก้มของตน และกลิ่นหอมจางๆจากโคโลนญ์ที่แพทใช้
เขาชะงักครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าแล้วใช้มือถือถ่ายรูปหนังสือต่อไป
เขากดบันทึกรูป เธอขยับมือเปลี่ยนหน้าพลิกกระดาษเข้าออกอย่างแผ่วเบาแต่รวดเร็ว จนหนังสือ100กว่าหน้าถูกพลิกถ่ายในเวลาไม่นาน
“ถึงหน้าสุดท้ายละ เสร็จแล้ว” แพทพูด
“โอเค ถ่ายครบแล้ว” รอนตอบก่อนจะรูดซิปถุงดินสอที่พกมาหยิบกระดาษมาจดชื่อหนังสือ … จดไว้เพื่อกันลืมว่าได้ถ่ายเล่มนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนแพทหยิบทิชชูเปียกมาเช็ดมือที่เปื้อนฝุ่นหนังสือ
[รับรู้ได้ว่ากำลังมีคนเฝ้าดูคุณอยู่]
“หืม?” รอนเงยหน้าขึ้นมองไปด้านหลัง มีรุ่นพี่ม.ปลายยืนหลบแอบตรงชั้นหนังสือ3คน ซึ่งรีบเดินออกไปทันทีที่เห็นว่าเขากำลังมอง ???
รุ่นพี่มองอะไรกัน? เขาหันซ้ายหันขวาอย่างงงๆ
*****************
“แพทมีอะไรเหรอ” รอนถาม
“คือแพทจะมาขอบคุณ” เด็กสาวตอบ “ขอบคุณที่วันก่อนช่วยอ่านติวให้ฟังหน้าห้องสอบ”
“ไม่เป็นไรหรอก … นิดหน่อยเอง “
“ไม่นิดหน่อยเลยรอน … วันนี้ผลคะแนนออกมาแล้ว เราได้คะแนนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งหมดเพราะที่รอนติวให้ที่หน้าห้องเลย”
“ไม่เป็นไร… เราก็ต้องขอบใจแพทเหมือนกันที่ให้เรายืมดินสอยางลบเมื่อวันก่อน” รอนตอบ
….
“ที่จริงเรามีอะไรจะขอให้รอนช่วยหน่อย” เด็กสาวพูดขึ้น น้ำเสียงความลังเลเกรงใจ
…
“เราอยากให้รอนช่วย…. เราอยากให้รอนช่วยติวทบทวนวิชาให้เราช่วงตอนเย็นหน่อย” แพทบอก
… รอนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“แพทแน่ใจเหรอ ว่าจะให้เราช่วย… ที่ผ่านมาคะแนนเราแย่นะ”
รอนถามย้ำซ้ำอีกครั้ง … เขารู้ว่าที่บ้านของเพื่อนคนนี้เป็นร้านทองและพ่อแม่ของแพทมีเงินจ้างครูพิเศษมาสอนส่วนตัว
” เราแน่ใจ ” เด็กสาวตอบ ” เราทั้งอ่านเอง ฟังครูที่พ่อแม่จ้างมาสอน แต่ยังไงครูเค้าก็ไม่เข้าใจเรา …. วันก่อนที่รอนอธิบายก่อนเข้าสอบ เราเข้าใจที่รอนพูด และเราเองก็แน่ใจว่ารอนเข้าใจเราเหมือนกัน”
เด็กหนุ่มพยักหน้า … จากการที่เรียนรุ่นเดียวกันหลายปีทำให้เขารู้ว่าแพทมีปัญหาเรื่องการอ่านพอสมควร เธออ่านตัวอักษรได้ช้ามากจนการทบทวนบทเรียนต้องใช้วิธีฟังเทปที่อัดการเรียนการสอน … และไม่ว่าจะถอดเทปฟังซ้ำยังไงเธอก็ไม่มีทางฟังได้ครบทุกวิชาได้ และถึงครูพิเศษจะเก่งยังไง ก็ไม่มีทางทบทวนบทเรียนที่เธอเรียนมาในแต่ละวันได้
การให้เพื่อนในห้องสักคนช่วยติวสรุปให้ทุกวัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้
” โอเคตกลง ” รอนรับคำ “งั้นเราเริ่มกันเลย “
“หือ ตอนนี้เลยเหรอ”
“ใช่สิ วันนี้พอดีเลยว่าเราลองวิธีจดแบบใหม่ ก็ถือซะว่าเราทบทวนบทเรียนไปพร้อมๆกัน”
ว่าแล้วรอนก็เดินไปที่หน้าห้องสมุดเพื่อไปหยิบสมุดจดรายวิชาเพื่อมาติว เขาเดินผ่านรุ่นพี่ม.ปลาย3คนที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่โต๊ที่ห่างออกไปอีกตัว
“นายได้ยินว่าอะไร” รุ่นพี่คนนึงบอก
“ได้ยินว่า ‘เราอยากให้รอนช่วย’ “
” ‘ แพทแน่ใจเหรอว่าจะให้เราช่วย’ แล้วน้องผู้หญิงบอกว่า ‘เราแน่ใจ’ “
” ‘เราเข้าใจรอน และเราเองก็แน่ใจว่ารอนเข้าใจเราเหมือนกัน” “
ทั้งสามคนมองหน้ากัน … ด้วยความที่ตะกี้รอนจับได้ว่าพวกเขาแอบฟังไปรอบนึง คราวนี้เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มากนัก จนทำให้จับใจความไม่ถนัด
แต่ที่ฟังทั้งตอนแรกกับเมื่อกี้มันก็ชี้ไปทางเดียวกันชัดๆ!
รอนเดินกลับมาพร้อมสมุดในมือเพื่อนั่งติว … โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีความเข้าใจผิดครั้งมโหฬารเกิดขึ้นต่อเขาและแพทขึ้นมาแล้ว
ท่านได้เรียนรู้ความสามารถใหม่!
[การสอน : Lv 1 01/100]