Midterm Fantasy - ตอนที่ 162
“ผมว่าผมเคยบอกทุกคนไปแล้วนะว่าพวกเราเรียนอยู่ที่เดียวกันเฉยๆ” รอนบอก
“โธ่คุณรอน ทุกคนคิดว่าคุณรอนกับคุณแพทไม่อยากบอกเฉยๆ นี่ทุกคนที่นี่ก็เข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นคนรักกันนะคะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตกกลางคืนก็อยู่บ้านเดียวกัน”
“คือพลังพิเศษของพวกเราน่ะมันทำให้ไม่ง่วงไม่หลับ ถ้าพวกเราออกไปไหนมาไหนทั้งวันทั้งคืนมีหวังคนอื่นต้องสงสัยแน่”รอนบอก “ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่คนของหมู่บ้านโอลเซ่นก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีคนนอกเข้ามาในหมู่บ้านด้วยมันคงไม่เหมาะเท่าไหร่”
“ที่ผ่านมาน่ะ ผมรู้จักกับแพทมาหลายปี เริ่มสนิทกันมากขึ้นในปีนี้ ผมรู้สึกดีกับแพทมาระยะนึงแล้วแต่ยังไม่กล้าบอกเขา เพราะว่าฐานะของเราสองคนมันต่างกันเกินไป”
“โรล่าไม่โกรธนะ ที่ผมพูดเปรียบเทียบแบบนั้นออกไป ทั้งๆที่รู้ว่าคุณคิดกับผมยังไงแท้ๆ” รอนบอกต่อ
“ไม่หรอกค่ะ โรล่ารู้ตัวดีว่าเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เทียบอะไรไม่ได้กับพวกคุณสองคน”
“โรล่า!พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง” รอนดุ
“ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นรู้ตัวอยู่แล้วค่ะว่าชาติกำเนิดเป็นยังไง ถึงแม้จะได้รับเหรียญตรานี่ ได้ตำแหน่งประชาชนชั้นหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับคุณแพทแล้วโรล่าก็เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ได้เหมาะกับคุณรอนเลยสักนิด” เด็กสาวบอกแบบเจียมตัว
“เฮ้อ โรล่า มานั่งตรงนี้ก่อน” รอนเรียก
“…” เด็กสาวลุกไปนั่งข้างๆไม่พูดอะไร
“โรล่าต้องเข้าใจก่อนว่าผมไม่เคยถือเรื่องฐานะใดๆกับคนที่นี่ ผมไม่สนใจหรอกว่าชาติกำเนิดของใครจะเป็นยังไง”รอนบอก “คนจะรักกันชอบกัน เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องรองลงไป”
“…” โรล่านั่งก้มหน้า
“สมมุติง่ายๆเลยก็ได้ ถ้าหากผมไม่ได้ชอบแพทอยู่ก่อนล่ะก็ ตอนที่โรล่าบอกความรู้สึกที่มีต่อผมในวันนั้น ผมก็ต้องรับความรู้สึกของโรล่าไปแล้ว” รอนอธิบายแบบรวบรัดตัดความ
“เอ๊ะ” โรล่าอุทานลืมตาโต “จริงเหรอคะ”
“หืม” รอนงง “จริงสิ ทำไมล่ะ”
“แล้วการไม่รับความรู้สึกของโรล่า มันเกี่ยวกันยังไงกับความรักต่อคุณแพทคะ”
“เห?”
รอนเอะใจและค่อยๆนึก จริงสิ เมื่อกี้โรล่าบอกว่ากลัวแพทไม่พอใจที่โรล่ามาแย่งอันดับคนรัก …
โลกนี้ การแต่งงานซ้อนมันทำได้นี่หว่า
“คืองี้โรล่า ที่โลกของผมมีธรรมเนียมสามีภรรยาแต่งงานกันแบบผัวเดียวเมียเดียว” รอนบอก “ไม่เหมือนที่นี่ที่แต่งงานกับหลายคนได้”
“เหรอคะ คือที่นี่น่ะส่วนใหญ่ก็แต่งงานกันแบบคู่ใครคู่นั้น แต่ถ้าหากเป็นคนที่มีเงินทองมีตำแหน่งหรือคู่ที่อยู่ก่อนยินยอมถึงจะมีหลายคนได้ ของที่โลกคุณรอนไม่ใช่แบบนั้นเหรอคะ” เด็กสาวถามอย่างสงสัย รอนเองกำลังจะตอบว่าไม่ใช่ แต่แล้วเขาก็ค่อยๆนึก … ที่โลกก็เป็นเหมือนกันนี่หว่า!
“เรื่องนั้น … แต่ไม่ว่าคนอื่นๆจะเป็นแบบไหน แต่ผมกับแพทน่ะเชื่อในเรื่องคู่เดียวคนเดียว ผมไม่อยากทำให้แพทเค้าไม่สบายใจ” รอนตอบ
“แต่ว่าคุณรอนกับคุณแพทยังไม่ใช่คนรักกัน แล้วคุณรอนรู้ได้ยังไงว่าคุณแพทเค้าจะคิดแบบนั้นคะ” โรล่าถามต่ออย่างงงๆ
“เรื่องนั้นมัน … คือ …ผมเชื่อว่าต้องเป็นแบบนั้น ถึงแม้ที่โลกของผมจะมีคนที่อาจจะมีคู่มากกว่าหนึ่งคน แต่อาณาจักรที่ผมอาศัยอยู่ การมีคนรักสามีภรรยาเดียวเป็นธรรมเนียมของที่นั่น” รอนบอกต่อ
“คือโรล่าไม่เข้าใจค่ะ ที่ฟังคุณรอนว่ามา ก็เหมือนว่าที่โลกโน้นก็มีบางคนที่มีภรรยาหรือสามีมากกว่าหนึ่งคน , แต่คุณรอนกลับไม่สามารถรับความรู้สึกจากโรล่าได้ , โดยให้เหตุผลว่าเพราะคิดว่าคุณแพทจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ , ทั้งที่ไม่เคยคุยกับคุณแพทมาก่อน” โรล่าพูดสรุปอย่างเป็นระเบียบ “ถ้ายึดตามนี้มันยังกับว่าจริงๆคุณรอนไม่ได้รู้สึกอะไรกับชั้น แต่แค่พยายามหาข้ออ้างเท่านั้น”
“ป เปล่านะโรล่า ไม่ใช่แบบนั้น” รอนปฏิเสธ
“ค่ะ โรล่าเชื่อค่ะว่าคุณรอนไม่ได้คิดแบบนั้นแน่ๆ” เด็กสาวบอก “เพียงแต่ชั้นรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่คุณรอนเองก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลของตัวเองดีพอ”
ทั้งสองคนค่อยๆนั่งนึก เครื่องพิมพ์หยุดการพิมพ์ไปพักนึงแล้ว เด็กหนุ่มจัดการเอาลูกกลมออก ทากาว เดินเครื่องใหม่
“นึกออกแล้ว เอายังงี้แล้วกัน คุณรอนตอบคำถามต่อไปนี้ของโรล่านะ” เธอบอก
“ครับ”
“ระหว่างเราสองคน หากไม่คำนึงถึงคุณแพท ครอบครัว หรือธรรมเนียมประเพณี คุณรอนรู้สึกยังไงกับโรล่าคะ” เด็กสาวถาม “ไม่ชอบ?”
รอนส่ายหน้า
“เฉยๆเหมือนคนไม่รู้จัก”
รอนส่ายหน้าอีก
“ชอบสบายใจ เหมือนคุยกับคุณตาเบรเซอร์?”
รอนส่ายหน้าอีก ก็ไม่นะ
“สบายใจที่จะอยู่ใกล้ๆด้วย นั่งอยู่ด้วย คุยด้วย”
รอนค่อยๆคิดช้าๆ มันก็ใช่นะ ที่กำลังนั่งทำอยู่ตอนนี้ก็ใช่
เด็กหนุ่มพยักหน้า
“แล้วเรื่องส่วนตัวทั้งหลาย ความลับต่างๆ คุณรอนเคยคุยเปิดอกขนาดนี้กับคนอื่นๆที่นี่ไหมคะ”
รอนนึก … ไม่นี่นา เขาส่ายศีรษะ
“ถ้าอย่างนั้น โรล่าขออนุญาตนะคะ” เด็กสาวบอกก่อนจะเขยิบกายเข้าใกล้ เธออ้าวงแขนออกแล้วสวมกอดรอน เด็กหนุ่มตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก
“คุณรอนรู้สึกรังเกียจจนอยากจะผลักออกหรือเปล่าคะ” เด็กสาวถามขึ้นมาทั้งๆที่ยังสวมกอดอยู่จนรอนค่อยๆคิดตาม
“ไม่นะ”
“ถ้าอย่างนั้น คุณรอนรู้สึกเฉยๆ แบบว่าจะกอดก็ได้ไม่กอดก็ได้ไม่แตกต่างกันหรือเปล่าคะ” โรล่าถามต่อโดยไม่คลายวงแขน รอนค่อยๆนึกตาม
“ไม่นะ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณรอนรู้สึกว่ากำลังอบอุ่น รู้สึกดี อยากจะอยู่แบบนี้ต่อไปอีกสักพักเหมือนที่โรล่ากำลังรู้สึกหรือเปล่าคะ” เด็กสาวพูด ก่อนที่จะค่อยๆคลายอ้อมกอดลง มองหน้าเด็กหนุ่มอย่างสงสัย
รอนค่อยๆคิดตาม เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ และในจังหวะที่ผละออก ก็รู้สึกเหมือนอยากจะกอดต่ออีกสักนิด
เขาพยักหน้า ก่อนจะรีบบอกต่อทันที
“แต่เราจะมาทดสอบอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ ด้วยเหตุและผลทั้งปวงการทำแบบนี้มันไม่ถูก”
“โรล่าก็รู้สึกว่าเหตุผลที่คุณรอนใช้ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลค่ะ”
“อ๊ะ?”
“ก็คุณรอนเองบอกโรล่าว่าไม่ได้ถือเรื่องความแตกต่างทางสถานะใดๆไม่ให้โรล่าคิดมาก แต่คุณรอนเองกลับบอกว่ายังไม่ได้บอกความรู้สึกต่อคุณแพทไปเพราะว่าสถานะของคุณสองคนแตกต่างกัน โรล่าเลยว่าคุณรอนเองก็อาจจะไม่ได้ตั้งบนเหตุผล แต่ตั้งอยู่บนอารมณ์เหมือนกัน”
“เรื่องนั้น!!!” รอนสตันไปสามวินาที หาเหตุผลที่จะเถียงไม่ได้ และขณะที่เขากำลังคิดว่าจะเถียงยังไงดี เด็กสาวก็โน้มตัวเข้าใกล้ช้าๆ ช้าๆ ริมฝีปากของเธอประกบเข้าแนบชิดสนิทกับริมฝีปากของรอนอย่างแผ่วเบาเนิ่นช้าและค่อยๆถอนออกมา
“คุณรอนรังเกียจที่ถูกจูบหรือเปล่าคะ” เธอถาม
“ม ม ม ม ม ม ไม่ แต่โรล่า เราจะมาทดลองอะไรกันแบบนี้ไม่ได้” รอนร้องเสียงหลง
“ทำไมคะ”
“ก็การถูกเนื้อต้องตัวใกล้ชิดแบบนี้ระหว่างชายหญิง เกิดทำไปทำมาแล้วอารมณ์เตลิดมันอาจจะเกินเลยไปมากกว่านี้ได้นะ อันตราย อันตราย” รอนอธิบาย
“คุณรอนก็อย่าคิดแบบนั้นสิคะ ที่โรล่าพยายามทำอยู่ก็คืออยากจะรู้ว่าจริงๆคุณรู้สึกยังไงกับโรล่ากันแน่” เด็กสาวตอบด้วยแววตาสงสัยอย่างจริงจังแล้วถามต่อ “แล้วคุณรอนเองเคยจูบกับคุณแพทไหมคะ”
เขานิ่งไม่ตอบอะไร จริงๆก็เคยสองครั้งตอนที่ติดสถานะRage
“งั้นโรล่าถามต่อ ตอนนี้ที่คุณรอนบอกว่ารักคุณแพท เวลานี้คุณรอนอยากทำอะไรที่เกินเลยกับคุณแพทไหม”
รอนส่ายหน้า เขาไม่เคยคิดไปขนาดนั้น
“แล้วกับตัวชั้นในตอนนี้ คุณรอนมีความคิดที่จะทำอะไรเกินเลยหรือเปล่า” เด็กสาวถาม “หรือแม้แต่ตอนที่เราอยู่ที่ถ้ำตอนที่ถูกเจ้าเจนัวดักอยู่ด้านนอก เสื้อผ้าเปียกจนต้องกอดกัน เนื้อกายสัมผัสกัน คุณรอนเคยมีความรู้สึกที่จะทำอะไรแบบนั้นกับโรล่าไหม”
รอนคิดแล้วส่ายหน้า เด็กสาวยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ คุณก็อย่าคิดอะไรมาก ถือว่าตอนนี้เป็นการทดลองเพื่อที่จะรู้ความรู้สึกลึกๆของตนเอง”
รอนขมวดคิ้ว ที่โรล่าพูดมาก็มีเหตุผล แม้จะรู้สึกมันมีอะไรที่ไม่ถูกต้องสักอย่างแต่เขาก็อธิบายไม่ถูก ฟังดูมันมีเหตุผลยังไงไม่รู้ เดี๋ยวสิ มันต้องมีอะไรไม่ถูกสิ!!!!!
เด็กสาวเถิบกายเข้าใกล้อีกครั้ง จูบลงไปอีกหนหนึ่ง ถอนริมฝีปากออกมา
“คุณรอนรู้สึกเหมือนกันไหม ว่าตอนที่เรากำลังจูบกันนั้นเป็นช่วงที่รู้สึกดี และเมื่อถอยออกมาก็อยากจะกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง”
เธอเลื่อนใบหน้าเข้าไปช้าๆ ขณะที่รอนเองก็รู้สึกแปลกใจที่ตนเองเหมือนจะเคลื่อนขยับไปด้านหน้าเล็กน้อย
เครื่องพิมพ์หยุดการทำงานไปแล้วครู่ใหญ่ แล้วทั้งสองก็ถอยใบหน้าออกจากกัน ทั้งสองขมวดคิ้วกัน
“ถ้าด้วยเหตุและผลแบบนี้ ก็น่าจะแปลว่าคุณรอนก็รู้สึกเหมือนกับที่โรล่ารู้สึกอยู่ แล้วทำไมกันนะคุณถึงยังยืนยันการคบกับคุณแพทคนเดียว” โรล่าค่อยๆคิดวิเคราะห์ ขณะที่รอนก็กำลังวิเคราะห์ก่อนจะนึกได้
“เดี๋ยวๆๆๆ ไม่ได้นะ เราจะใช้อารมณ์แบบนี้ไม่ได้” รอนอธิบาย “หนุ่มสาววัยแบบเรามาทำอะไรแบบนี้มันจะมีอารมณ์ทางธรรมชาติที่บดบังเหตุผลไป บางครั้งเราจะแยกเรื่องความต้องการทางธรรมชาติจากความรักไม่ได้”
รอนเหงื่อแตกซู่ๆ ต่างจากโรล่าที่กำลังรวบรวมข้อมูล นึกความรู้สึก สังเคราะห์วิเคราะห์เหตุผลอย่างสงสัยใคร่รู้ แล้วเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น
“อ้อ ที่แท้ก็รอนกับโรล่านั่นเอง นึกว่าใคร หาวววว” มาเรียอ้าปากหาวสลึมสลือกึ่งตื่นกึ่งละเมอ ตอนนี้เด็กสาวอยู่ในชุดนอนที่เพิ่งตื่น ชายเสื้อเปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นเรือนร่างที่มีส่วนโค้งเว้านูนแน่นมากกว่าโรล่าเสียอีก
“หยั่มๆๆ ง่วงจัง” มาเรียค่อยๆนั่งลงข้างๆโรล่า เอื้อมมือกอดเพื่อนสาวก่อนที่จะเคลิ้มหลับไป โรล่าค่อยๆเลื่อนแขนออกไปโน้มคอของรอน ดึงใบหน้าของเด็กหนุ่มเข้ามา จับกดลงไปหาใบหน้าของมาเรีย แรงดึงอย่างไม่รู้ตัวทำให้รอนเสียหลัก มือคว้าไปจับถูกแขนของมาเรีย จมูกและปากไซร้ไถไปกับเรือนผม หากแต่รอนเกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาฝืนกายของตนเองอย่างเต็มที่จนพ้นจากร่างของมาเรีย
รอนส่งเสียงฉุนเฉียวที่ถูกบังคับ แหยงๆเล็กน้อยที่ใบหน้าเกือบจะสัมผัสกับหน้าของมาเรีย หากแต่แววตาของโรล่ากลับเต็มไปด้วยความสงสัย เธอเลื่อนใบหน้าเข้าหารอนและจุมพิตเบาๆอีกครั้ง
“โรล่า อย่าทำแบบนี้อีกนะ ผมไม่ชอบ” รอนบ่นอุบเมื่อนึกถึงสัมผัสเมื่อครู่ “แล้วก็อย่าทดสอบอะไรแบบนี้อีกเลย ผมบอกแล้วไงว่าชายหญิงมาใกล้ชิดแผลงๆแบบนี้เดี๋ยวมันจะเกิดอารมณ์ตามธรรมชาติขึ้นได้อยู่แล้ว วิธีนี้มันพิสูจน์ความรักไม่รักไม่ได้หรอก”
“แต่โรล่าคิดว่าเมื่อกี้คุณรอนแสดงออกกับมาเรียไม่เหมือนกับโรล่านะคะ” เด็กสาวพยักหน้าด้วยความรู้สึกพึงพอใจที่ได้คำตอบ “จริงไหมคะ”
รอนสะดุ้งโหยง เอานิ้วจิ้มแขนมาเรีย ดึงออกอย่างแหยงๆ ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่แขนของโรล่า แล้วดึงออกอย่างแช่มช้า …. ความรู้สึกสองครั้งช่างแตกต่าง
ฉิบหายแล้วไง
”โรล่าเข้าใจแล้ว” เธอยิ้มอย่างยินดีเหมือนนักปรัชญาที่เข้าถึงคำตอบที่ต้องการ “คุณรอนก็ชอบโรล่า แต่เพราะชอบคุณแพทเลยเกรงว่าคุณแพทจะไม่พอใจ”
เดี๋ยวววๆๆๆ
“โรล่าเข้าใจแล้วค่ะ รู้แล้วว่าจะทำยังไงต่อไป”
เดี๋ยวๆๆๆๆๆ
ฉิบหายแล้วไงรอน!
ปล. ตอนถัดไป เด็กสาวปลอบรอนที่กำลังตกใจ ยอมถอยหนึ่งก้าว เนื่องจากถือว่ารอนและแพทพบกันก่อน ที่เหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เธอถือว่าได้คำตอบที่ต้องการแล้วและพึงพอใจกับคำตอบนั้นแล้ว