Midterm Fantasy - ตอนที่ 171
“ข้อเสนอที่คุณหลิวลี่จงว่ามาก็น่าสนใจ แต่ว่าพวกคุณยังไม่เคยมีผลงานในระดับใหญ่แบบนี้มาก่อน ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าพวกคุณจะทำงานให้ห้างของเราได้” นักธุรกิจร่างท้วมกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ
“พวกเราไม่มีประวัติการทำงานระดับนี้มาก่อนก็จริง แต่ว่าระบบงานของเราเป็นแบบแก๊ง สายการบังคับบัญชาชัดเจน และได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี” หลิวลี่จงตอบกลับ “แม้เราไม่เคยมีผลงานระดับห้างมาก่อน แต่พวกเราเคยทำงานคุมพื้นที่ ผมเชื่อว่าการคุมพื้นที่ภายนอกนั้นซับซ้อนกว่าการทำงานในห้างหลายเท่า”
“คุณหลิวพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ห้างสรรพสินค้าเป็นพื้นที่ที่ต้องดูแลลูกค้า การคุมพื้นที่ของพวกคุณคือการข่มขู่ผู้คน จะเอามาเทียบกันได้อย่างไร” ชายวัย 50 ผิวสีเข้มในชุดซาฟารีย้อนถาม
“ไม่หรอกครับคุณสุริยะ เพราะแก็งของผม เดิมทีเป็นแก็งที่ทำงานรักษาความปลอดภัยเล็กๆน้อยๆ พวกเราแค่มุ่งหวังจะอยู่รอด จึงไม่เคยมีเรื่องทะเลาะข่มขู่กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เราคุ้มครอง เรื่องนี้เสี่ยจรัญน่าจะทราบดี”
เสี่ยจรัญพยักหน้า เขาตรวจสอบประวัติของบริษัทรุ่งโรจน์คุ้มภัยซีเคียวริตี้มาก่อนแล้วจากตำรวจ แม้จะเป็นแก็งนักเลงมาก่อน แต่ว่าก็เป็นแก๊งที่มีสายสัมพันธ์กับตำรวจและปราศจากประวัติการก่ออาชญากรรมด้านร่างกายหรือยาเสพติด จะมีหนักที่สุดก็แค่การขนของเถื่อนเท่านั้น
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ทำอย่างทุกทีแล้วกัน ตัดสินด้วยการทดลองงานจริง” เสี่ยจรัญบอก “เราจะเริ่มการทดลองงานในตอนบ่าย คุณทั้งสองคนให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของคุณไปประจำในสถานที่ที่กำหนด แล้วเราจะทดสอบกัน”
เสี่ยเจริญยื่นแฟ้มให้หลิวลี่จงและสุริยะ ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกเดินออกไปที่ห้องรับรองด้านนอก
“มิสเตอร์หลิวคะ มีเด็กชื่อรอนมาแจ้งว่ารู้จักกับคุณ เราให้รออยู่ที่หน้าประชาสัมพันธ์ค่ะ” พนักงานสาวบอก
หลิวลี่จงตาเป็นประกายรีบเดินออกไปทันที ขณะที่สุริยะสะกิดคนติดตามให้เดินออกไปดู
ใครกันที่มาพบมิสเตอร์หลิวในขณะที่กำลังดีลงานแบบนี้
“สวัสดีครับท่านประธาน” หลิวลี่จงทัก
“คุณหลิว จะเรียกผมท่านประธานทำไมกันครับ” รอนร้องขึ้น
“ฮ่าๆ ไม่เรียกท่านประธานได้ยังไง เงินลงทุน 95% ของบริษัทเป็นของคุณรอนแท้ๆ” หลิวลี่จงบอก “แล้วผู้หญิงทั้งสามคนนี้คือ…”
พี่ใหญ่หลิวมองหน้าหญิงสาวทั้งสามคน แม้จะใบหน้าคมขำแต่กายด้วยชุดที่เที่ยวสบายๆ แต่ท่วงท่าสง่างาม ท่ายืนมั่นคง และสายตาที่สำรวจไปรอบๆบ่งบอกว่าทั้งสามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่
“ทั้งสามคนนี้คือคนที่ผมจะฝากทำงานกับคุณหลิวไงครับ”
“เอ๊ะ”
“คุณหลิวจำไม่ได้เหรอครับ ว่าทั้งสามคนนี้คือใคร” รอนเอ่ยยิ้มๆ
หลิวลี่จงหันไปเพ่งพิศหญิงสาวทั้งสามอย่างตั้งใจ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อนึกขึ้นได้ นี่มันสามมือปืนของแก๊งเมษาในตอนนั้นนี่!
“เจนัสค่ะ”
“แจนค่ะ”
“เจนค่ะ”
ทั้งสามคนยื่นมือไปเขย่ามือของหลิวลี่จง
ไม่ผิดแน่ ตอนนั้นที่หยางเทียนและหวังหลินช่วยคุมตัวสามคนนี้ไป เขาได้เห็นหน้าของทั้งสามแวบนึง
แต่ทำไมสามมือปืนแห่งแก๊งเมษาถึงได้มาอยู่กับรอนได้ล่ะ แถมยัง อยู่ในชุดแบบนี้อีก
“ถ้าให้ทำงานรักษาความปลอดภัยจะไหวไหมครับ”
“ ถถถ คุณรอนอย่าพูดเล่นสิครับ ด้วยระดับฝีมือของทั้งสามคนนี้ ทั้งแก๊งเรามีแต่หยางเทียนกับหวังหลินแค่สองคนเท่านั้นแหละที่พอจะเทียบได้”
“ว่าแต่ เราได้งานไหมครับ” รอนถาม
“บริษัทสุริยะอัคคีราซีเคียว ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาก่อนเสนอราคาแพงกว่าเรา 30% ก็จริง แต่เขาทำงานที่นี่มาเกือบสิบปีแล้ว เสี่ยจรัญเลยตัดสินว่าจะให้ทำการทดสอบครับ” หลิวลี่จงอธิบาย “นี่ครับ รายละเอียดอยู่ในนี้”
หลิวลี่จงเอารายละเอียดให้รอนดู ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสายตาของลูกน้องคนสนิทของนายสุริยะ
“ว่าไงมั่ง” สุริยะถาม
“หลิวลี่จงเรียกเด็กหนุ่มคนนั้นว่าท่านประธานครับ พูดประมาณว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากเด็กคนนั้น” คนสนิทตอบ
“ที่แท้ก็แค่พวกเศรษฐีหนุ่ม คงจะได้เงินทุนจากพ่อแม่แล้วเอามาลงทุนกับแก๊งพวกนี้หวังชุบตัวให้เป็นบริษัทสินะ” สุริยะแค่นเสียงอย่างดูแคลน “น่าจะเป็นทายาทรุ่น 2 รุ่น 3 คาบช้อนทองมาเกิด ดูซิ เจรจาธุรกิจแท้ๆกลับมีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง 3 คน”
“เสี่ยจรัญแน่ใจเหรอครับว่าจะให้คนแบบนี้มาทำงาน” สุริยะหันกลับไปมองเสี่ยจรัญที่ออกมาจากห้อง
“ต้องทดสอบ ต้องทดสอบ คุณสุริยะ” เสี่ยจรัญบอกด้วยสีหน้ายิ้มๆ “คุณเองคงไม่ต้องกังวลกระมัง คุณเคยทดสอบแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนี่”
เสี่ยจรัญกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป สุริยะมองตามก่อนจะเดินออกไปกับคนสนิท ไปที่ลานจอดรถที่มีคนรออยู่50กว่าคน
“เอาล่ะ ทุกคนเอารายละเอียดไปอ่านแล้วเตรียมพร้อม เราจะเริ่มการทดสอบตอนบ่ายโมง” สุริยะเอาเอกสารยื่นให้และโบกมือให้ลูกน้องทุกคนก่อนจะเข้าไปในรถตู้ที่ติดเครื่องรออยู่ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“บริษัทผมได้ธนาคารที่ชั้น 3 พวกนั้นได้ธนาคารที่ชั้นใต้ดิน จัดการตามแผนได้ เอาให้หนักเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณสุริยะ จะจัดการให้เหมือนกับทุกครั้งครับ”
สุริยะวางสาย
จริงอย่างที่เสี่ยจรัญบอก เขาน่ะคงไม่ต้องกังวลอะไร เพราะก็ผ่านการทดสอบแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ทุกครั้งที่มีคู่แข่ง เสี่ยจรัญจะว่าจ้างบริษัททดสอบ ให้มาทำการทดสอบบริษัทรักษาความปลอดภัย จะมีการสร้างสถานการณ์ตั้งแต่ธรรมดาประเภทคนแก่เดินหกล้มในห้าง คนทำของหาย เด็กพลัดหลง ไปจนถึงโจรปล้นธนาคาร แล้วสังเกตปฏิกริยาของพนักงานรักษาความปลอดภัย
แต่ที่เสี่ยจรัญไม่รู้ก็คือ หลังจากผ่านการทดสอบมาหลายครั้ง สุริยะก็ได้แอบติดต่อกับบริษัททดสอบเป็นการลับ และจ่ายเงินใต้โต๊ะให้อีกฝ่ายทดสอบโดยทำให้บริษัทของสุริยะผ่านง่ายขึ้นขณะที่สร้างความลำบากให้อีกฝ่ายกว่าปกติ
ครั้งนี้ก็คงผ่านได้อย่างไม่ยากเย็นสินะ
ขณะเดียวกันที่รถตู้อีกฝั่ง บริษัททดสอบ กำลังเตรียมตัวพนักงานกัน มีทั้งผู้หญิง คนแก่ เด็ก ที่เตรียมแสดงละครเพื่อทดสอบ และที่อีกมุมนึงมีคน 5 คนในชุดโจรสวมถุงน่องคลุมหัวกำลังคุยกันอยู่
“ปืนพร้อม กระสุนพร้อม รถพวกเราจอดรออยู่ที่ข้างถนนแล้ว ปล้นเสร็จรีบเอาเงินขึ้นรถให้เรียบร้อย” ชายคนนึงเอ่ย
“พวกมันซ้อมแผนแบบนี้มาทุกปี คงนึกไม่ถึงแน่ว่าปีนี้พวกเรา 5 คนจะปล้นจริงๆ กว่าจะรู้ตัวพวกเราก็คงหนีไปไกลแล้ว”
“ว่าแต่ลบข้อมูลประวัติในบริษัทเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ในบริษัทไม่เหลือประวัติของพวกเรา 5 คนแล้ว ปล้นเสร็จก็หนีออกช่องทางธรรมชาติไปต่างประเทศได้สบายเลย”
“ดี อย่างนั้นพวกเราเตรียมพร้อม เราจะปล้นธนาคารชั้นใต้ดินกัน!”
รอนเดินพาสามสาวออกมาจากสำนักงานมาเดินในห้าง ดูเหมือนวันนี้จะแค่พาทั้งสามคนมาทำความรู้จักอย่างเดียว คงไม่ได้ทำงานอะไร
“ขอบคุณนะรอนที่ช่วยหางานให้เราทั้งสามคน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ช่วยได้ก็ช่วยกัน” รอนบอก “ว่าแต่ตอนนี้ทุกคนมีเงินติดตัวกันบ้างไหมครับ เพราะถ้าออกจากบ้านอาม่ามาก็คงต้องหาห้องเช่ากัน”
สามคนส่ายหน้า รอนเลยเดินไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วกดเงินออกมาปึกนึง
“ผมให้ยืมเงินก่อนแล้วกัน เงินนี้แสนนึง ให้ทั้งสามคนเก็บไว้ก่อนใช้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่ยังไม่ได้เงินเดือน มีเมื่อไหร่ก็มาใช้ผม”
“ไม่ต้องก็ได้นะ เงินมากขนาดนี้…”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงบริษัทของหลิวลี่จงก็บริษัทผมเหมือนกัน สุดท้ายผมก็ต้องจ่ายเงินเดือนให้พวกคุณอยู่ดี ถือซะว่าเป็นค่าจ้างล่วงหน้าก็ได้”
เจนัสรับเงินไว้อย่างขอบคุณ แจนยื่นมือมาแล้วก็คว้าหมับ
“เดี๋ยวแจนเอาไปฝากบัญชีธนาคารให้เอง” แจนบอก “ไปกันเถอะยัยเจน”
“อ้าว ทำไมล่ะ เดี๋ยวๆๆๆ” เจนร้องขึ้นก่อนจะเจอแจนลากไปอีกทางนึงจนเหลือแต่รอนกับเจนัสสองคน
“แปลกจริงเชียว … อืม จะว่าไปกว่าคุณหลิวจะทดสอบเสร็จก็คงบ่ายๆ เราไปหาอะไรกินรอกันก่อนดีไหมครับ” รอนถาม
“ด ได้จ๊ะ” เจนัสตอบ
“ร้านไอติม ร้านไอติม เดี๋ยวนะ ว่าแต่ตอนนี้เราอยู่ไหนเนี่ย” รอนอุทาน มาห้างนี้ทีไรเขาหลงทางทุกที “จริงสิ ถามแพทดีกว่า รายนั้นมาบ่อย”
รอนกดวิดีโอคอลหาแพท ภาพของเด็กสาวโผล่ขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์
“แพท ตอนนี้เราพาพี่แจนเจนเจนัสมาที่ห้างเอิร์ธเทรดฯมาหาคุณหลิวลี่จง แต่ตอนนี้คุณหลิวไม่ว่างก็เลยว่าจะไปหาที่นั่งกินอะไรสักหน่อย เธอพอจะรู้ทางไหม” รอนบอก “ตอนนี้เราอยู่ตรงลานสเก็ตน้ำแข็ง ไปต่อไม่ถูก ช่วยบอกทางไปร้านอาหารร้านขนมอะไรก็ได้หน่อยสิ”
“เธอนี่นะ หลงทางได้ทุกทีเลยนะรอน” แพทถอนหายใจก่อนจะเหลือบมองไปทางเจนัส “สวัสดีค่ะพี่เจนัส ยังไงฝากนายรอนด้วยนะคะ”
“ค ค่ะค่ะ” เจนัสตอบ จู่ๆก็เหมือนใจเต้นอย่างไม่รู้สาเหตุขณะที่มองดูรอนและแพทคุยกัน รอนคุยกันจนวางสายไป
“งั้นเดี๋ยวเราสองคนไปนั่งกินไอติมรอกันก่อนแล้วกันครับ ไปกันเถอะ” รอนเอื้อมมือไปกุมข้อมือของหญิงสาวก่อนจะดึงอย่างแผ่วเบา หญิงสาวชะงักชั่วขณะก่อนที่จะปล่อยตัวปล่อยใจตามแรงดึงของเด็กหนุ่มเบื้องหน้าไป