Midterm Fantasy - ตอนที่ 18
รอนเดินดูข้าวของไปเรื่อยๆ เขาไม่มีความรู้ว่ามันมีราคาถูกหรือแพง แต่สิ่งที่เขาได้จากการสังเกตคือ หน่วยเงินที่นี่คือ เหรียญทองแดง เหรียญเงิน และเหรียญทอง
โดย100เหรียญทองแดง เท่ากับ1เหรียญเงิน
และ100เหรียญเงิน มีค่าเท่ากับ1เหรียญทอง
เขาเดินดูไปจนถึงอาวุธ
อาวุธส่วนใหญ่ที่วางขายจะเป็นมีดหรือส่วนปลายของหอก ซึ่งราคาจะตกอยู่ที่2-10เหรียญเงิน … วัสดุที่ใช้มีทั้งทองแดง เหล็ก และบรอนซ์ทอง
โดยทองแดงมีราคาถูกที่สุด เหล็กอยู่ตรงกลาง และบรอนซ์มีราคาสูงที่สุด
ซึ่งตรงจุดนี้รอนก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะแม้ในเกมที่เขาเล่นส่วนใหญ่จะจัดให้พลังอาวุธเรียงกันจากต่ำไปสูงเป็น
ทองแดง –>บรอนซ์ –>เหล็ก
แต่ในความเป็นจริงที่ยุคเหล็กถูกจัดให้เหนือกว่าและอาวุธเหล็กได้รับความนิยมมากกว่าทางการทหาร เกิดขึ้นเพราะในโลกสมัยโบราณ เหล็กมีข้อได้เปรียบที่หากมีเหมืองเหล็กแล้วก็สามารถนำแร่เหล็กมาถลุงและนำไปผลิตอาวุธได้เลย ประเทศใดที่มีเหมืองเหล็กก็ทำได้เลยโดยไม่ต้องไปติดต่อค้าขายกับใคร
แต่หากเป็นบรอนซ์ ซึ่งทำจากทองแดงผสมกับโลหะอื่น อาณาจักรที่จะมีอาวุธบรอนซ์ก็จะต้องมีเหมืองทองแดงและเหมืองโลหะอื่นพร้อมกันหรือไม่ก็ต้องมีเส้นทางการค้าขายแร่โลหะที่มั่นคงกับอาณาจักรเพื่อนบ้าน ทำให้การจะทำอาวุธบรอนซ์ในปริมาณมากๆ ต้องอาศัยการต่อรองการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีเส้นทางการค้าที่สมบูรณ์… ซึ่งเพื่อนบ้านก็มักจะไม่ได้ค้าขายโลหะอย่างเสรีเพราะไม่รู้ว่าหากป้อนวัตถุดิบให้อีกฝ่ายมากๆแล้วตนจะเจอโจมตีเมื่อไหร่
อีกทั้งโลหะเหล็กในยุคก่อนสมัยเหล็กกล้า คุณภาพมักจะไม่เหนือกว่าบรอนซ์ แถมยังมีข้อเสียที่สำคัญที่สุดคือการขึ้นสนิมได้ซึ่งถ้าดูแลรักษาไม่ดีอาจจะเสียอาวุธทั้งชิ้นได้เลย
ว่าแล้วรอนก็มองมีดในมือ … มีดสแตนเลสสตีล
มีดที่ทำจากเหล็กกล้า ทั้งยังผสมโครเมียมทำให้ไม่เป็นสนิม บนโลกของเขามันคือเรื่องปกติและราคาถูกจนสามารถขายเป็นมีดทำครัวคู่ละ20บาทได้เลย … (แม้จะไม่เหมาะที่จะทำดาบสำหรับสู้กับดาบด้วยกันเพราะมันแข็งแต่เปราะ ปะทะแรงๆแล้วแตกได้)
ช่างต่างกันเสียจริง
เขามองมีดอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าและยิ้มให้ตนเองแล้วเก็บมีดไว้ที่เอวตามเดิม จังหวะนี้เองที่พ่อค้าเร่รอคอย
แววตาแบบนี้ มองมีดแบบนี้ คือสายตาของคนที่ร้อนเงินและอยากขายมีดนี่ชัดๆ!
พ่อค้าเร่ปรี่เข้าไปทันที
“คุณรอนใช่ไหม” พ่อค้าเร่ถาม “ผมกลาส เป็นพ่อค้าเจ้าของขบวนรถนี้”
“ครับ … มีอะไรเหรอครับ ”
“ผมสนใจมีดในมือของคุณ อยากจะขอดูหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ” รอนยื่นมีดให้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ท่าทีที่พ่อเฒ่าและชาวบ้านมีต่อชายหัวล้านคนนี้ดูเป็นมิตรและคุ้นเคย ดังนั้นไม่น่าจะเป็นคนเลวร้ายอะไร
กลาสรับมีดทำครัวมาถือไว้ในมือ เขาแปลกใจเล็กน้อยที่มีดทั้งเล่มทำจากโลหะ มิใช่แค่ตัวใบมีดเหมือนอย่างมีดทั่วๆไป ทั้งมีความมันเงาจนส่องเห็นใบหน้า ใบมีดบางมาก บางจนไม่น่าเชื่อว่าสามารถใช้ต่อสู้ได้โดยไม่หัก
กลาสหยิบดาบสั้นทองแดงมาเล่มหนึ่ง ตั้งยึดไว้บนโต๊ะให้คมดาบหันขึ้นจากนั้นยื่นมีดกลับไปให้รอน
“คุณรอนช่วยใช้มีดนี้ฟันดาบเล่มนี้ให้ผมดูได้ไหม”
แม้รอนจะไม่เข้าใจจุดประสงค์นักแต่เขาก็รับมีดกลับมา ชาวบ้านที่กำลังซื้อของอยู่ต่างหยุดการซื้อขาย นักดาบคุ้มกันรถม้าก็เดินมาดู รอนกะเล็งมุม ก่อนจะเงื้อมีดขึ้นและฟันลงไปตรงๆ
“เป๊ก!” เสียงโลหะดังสั้นๆหนักๆ มีดกระดอนขึ้นมาเล็กน้อยจากดาบ ทุกสายตามองไปที่ดาบทองแดงเล่มนั้น
มีรอยบิ่นลึกลงไปประมาณ3มม.
กลาสขอมีดจากมือของรอนไปดู หัวใจสั่นเร็วด้วยความตื่นเต้น
‘ไม่มีรอยบิ่น!’
เขาส่งสัญญาณให้คนคุ้มกันคนนึงเข้ามา ชายคนนั้นรับมีดไป … หยิบดาบทองแดงออกแล้วเอาดาบเหล็กของตนตั้งแทน จากนั้นฟันลงไป
‘แป็ก!”
นักดาบที่ถือมีดอุทานเบาๆอย่างแปลกใจ ดาบเหล็กบิ่นลึกคล้ายๆกับดาบทองแดง ส่วนมีดมีรอยบิ่นยุบเล็กๆที่มองผาดๆแทบไม่เห็น
“คุณรอนมีมีดนี้4เล่มใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“จะขายให้ผมได้ไหม ทั้ง4เล่มนี้ในราคา1เหรียญทอง”
ทุกคนร้องฮือขึ้นมาเบาๆอย่างไม่ได้นัดหมายไม่ว่าจะชาวบ้านหรือนักดาบคุ้มกันรถม้า
‘ค้ากำไร ค้ากำไรเกินควรชัดๆ’ ทุกคนคิด
เพราะทุกคนเห็นด้วยตาตนเองว่ามีดสั้นนี้สามารถฟันดาบทองแดงและดาบเหล็กจนบิ่นได้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มีดธรรมดา
พ่อเฒ่าเบรเซอร์เดินเข้าไป “กลาส … ข้าคิดว่า…”
“เบรเซอร์ ท่านคงรู้ดีว่าข้ามีสิทธิทำการซื้อขายได้ แม้ท่านจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแต่ก็ไม่มีอำนาจเรื่องการซื้อขายของของคนในหมู่บ้าน”
“คุณรอนไม่ใช่คนหมู่บ้านนี้ เขาเป็นแขกของหมู่บ้านที่มาพักบ้านของข้า”
“งั้นเอาอย่างนี้”กลาสว่า”ข้าให้ท่าน1เหรียญทอง และจะแถมเสื้อผ้าชุดของผู้หญิงให้ท่าน2ชุด กับปลายหอกทองแดง3อันให้หมู่บ้าน ท่านว่ายังไง”
รอนยังมีท่าทีลังเล เขาหันไปถามพ่อเฒ่า
“เหรียญทองที่เค้าว่า ทำจากทองคำแท้หรือเปล่า”
พ่อเฒ่าเลิกคิ้วอย่างงงๆ เพราะทีแรกคิดว่ารอนจะถามความเห็นเรื่องราคา
“แน่นอนสิท่านรอน … ถึงกลาสจะเป็นพ่อค้าเร่ที่หน้าเลือด แต่เขาก็ไม่เคยโกงใคร” พ่อเฒ่าบอก “และยังไงเหรียญทองคำทุกเหรียญก็มีเวทย์มนต์ตรวจสอบกำกับอยู่แล้ว ไม่มีพ่อค้าคนไหนกล้าทำปลอมแน่นอน”
“งั้นผมตกลง”รอนควักมีดอีกสามเล่มในเป้ส่งให้พ่อค้าเร่ทันที กลาสหยิบเหรียญทองในกระเป๋าส่งให้รอน และให้ลูกน้องนำชุดผู้หญิงสองชุดและปลายหอกทองแดง3เล่มให้รอนตามที่ตกลง รอนรับเหรียญมากะน้ำหนักในมือก่อนจะเก็บเข้าในกระเป๋า เขารับของมา จากนั้นยื่นส่งต่อให้พ่อเฒ่า
เบรเซอร์ทำท่าจะปฏิเสธ แต่รอนขยับตาให้เขามองไปทางด้านหลัง … ชายชราหันหน้าไปมองมาเรียและโรล่า เด็กกำพร้าสองคนที่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็เข้าใจ
เด็กสาวทั้งสองอยู่ในชุดเก่าๆที่มีรอยขาดที่นั่นที่นี่เต็มไปหมด
โรล่าหยิบมีดสแตนเลสที่เธอได้รับจากรอนจะส่งให้ …. ถ้ามันมีราคาสูงขนาดนั้นก็ไม่ควรจะรับไว้เปล่าๆ
“ไม่เป็นไรหรอก คุณเก็บไว้เถอะ ” เขาบอกและชูไม้กระบองในมือให้ดู “ผมยังใช้เจ้านี่เป็นอาวุธได้”
กลาส , โรล่า , เบรเซอร์ และชาวบ้านทุกคนต่างเข้าใจกันว่า รอนมีแต่สิ่งของแต่ไม่มีเงิน และก็อยากให้อะไรกับเบรเซอร์บ้างที่ให้ที่พักพิงในหมู่บ้าน
กลาส ได้สินค้าที่ตนสามารถนำไปขายได้ในราคาแพงขึ้น
ส่วนรอน เขาแลกมีดราคา40บาทกับเหรียญทองคำเหรียญนึง
เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนมีแต่ได้กับได้
รอนมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันชี้ไปที่11:30 น
ใกล้เวลาที่จะได้กลับแล้ว เขาขอตัวกลับไปที่ห้องพัก เช็คอีกครั้งให้แน่ใจว่าเหรียญทองอยู่ในช่องและจะกลับไปโลกพร้อมเขาได้จากนั้นก็รอเวลา…
********************
เช้าวันรุ่งขึ้นรอนไปเรียนที่โรงเรียนตามปกติ เขาแวะไปที่ห้องวิทยาศาสตร์และลองชั่งน้ำหนักเหรียญดู…
ตัวเลขบนตาชั่งวิ่งอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไปหยุดที่17กรัม
ทองหนัก 1 บาทกว่าๆ …
รอนเข้าเรียนตามปกติ สบายใจมากขึ้นกว่าทุกครั้งเพราะตอนนี้ปัญหาเรื่องเงินผ่อนคลายลงไปแล้ว
แว้บหนึ่งเขาคิดขึ้นมาว่า ‘ถ้าหากเราเอาของไปขายจนได้เหรียญทองมามากๆ เราก็มีเงินได้โดยไม่ต้องเรียนให้ลำบากนิ’
แต่รอนก็ทิ้งความคิดที่ว่าไปทันที
‘ถ้าขายทองนิดๆหน่อยๆก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ว่าถ้าต่อไปมีคนสงสัยขึ้นมาหรือถูกตำรวจสั่งให้บอกที่มาของทองล่ะ …’
นี่ไม่นับว่าเขายังไม่รู้ว่าการข้ามไปอีกโลกนึงจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหน
อย่างน้อยที่สุดเขาต้องตั้งใจเรียนให้ผ่านม.4ไปให้ได้ก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันอีกที
รอนสลัดความคิดที่ว่า แล้วตั้งใจเรียนในห้องต่อไป เขานั่งจดโน้ตย่อลงไปอย่างตั้งใจ …
ตกบ่าย3โมงครึ่ง เลิกเรียนแล้ว รอนเอาสมุดหนังสือเรียนของวันนี้ไปรอที่ห้องสมุดตามที่นัดแพทเอาไว้
“มาแล้วๆ” เด็กสาววิ่งมาที่โต๊ะ จนครูศจีที่อยู่เวรบรรณารักษ์ตอนเย็นต้องจุ๊ปากเตือน แพทหยุดวิ่งแล้วเดินเบาๆไปที่โต๊ะซึ่งรอนนั่งรออยู่
“โอเค งั้นเรามาเริ่มกันเลย เริ่มจากวิชาภาษาอังกฤษคาบเช้าก่อน ….” รอนหยิบสมุดจดขึ้นมาแล้วเริ่มสอนทวนที่ครูสอนเมื่อเช้านี้
รอนสอนไปอย่างช้าๆไม่เร่งรีบทเขาไม่ลืมว่าที่แพทให้เค้าสรุปวิชาต่างๆก็เนื่องมาจากเธอมีปัญหาเรื่องการอ่านตัวหนังสือ ดังนั้นการสรุปที่รอนพูดอธิบาย จึงต้องมีการอธิบายให้เข้าใจทันทีโดยไม่ต้องใช้การเขียนมาอธิบาย
แพทนั่งฟังเด็กหนุ่มสอนอย่างตั้งใจ เธอรู้สึกว่าการฟังแบบนี้ง่ายกว่าการกลับไปฟังเสียงครูที่เธออัดบันทึกไว้มากมายหลายเท่า … เพราะในการฟังสรุปแต่ละคาบวิชาในเย็นวันเดียวกับที่เรียนมาหมาดๆ ยังจำที่ครูสอนได้ จึงใช้เวลาทำความเข้าใจไม่นานเพียงแค่10นาที
น้อยกว่าที่เธอต้องไปฟังทวนย้อนครูสอนทั้ง50นาทีแบบน่าเบื่อทุกวัน
คิดมาถึงตรงนี้แล้วเธอก็รู้สึกขอบคุณรอนอย่างบอกไม่ถูกที่เขาช่วยเธอโดยที่ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนเลย
รอนยังคงสอนไปเรื่อยๆ และแอบนึกสเตตัสที่เกี่ยวกับการสอน
[การสอน : Lv 1 80/100]
[การพูดในที่สาธารณะ :Lv3 24/100]
‘ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’ เขาหัวเราะในใจ
‘ทำไมเราเยี่ยมแบบนี้ ทั้งได้ทวนบทเรียนที่เรียนมา และได้เลเวลอัพสกิลด้วย’
รอนนึกถึงทั้งสองสกิลนี้ ที่ตอนอยู่ที่หมู่บ้านโอลเซ่นเขาไม่มีโอกาสเพิ่มค่าประสบการณ์เลย นึกไม่ถึงว่าการมาสอนแพทจะทำให้เขามีโอกาสพัฒนามัน
[Skill learned : Deception Lv 1 : 02/100]
อูย มันรู้แฮะว่าเราวางแผน … รอนคิดทันที
ทั้งคู่นั่งในห้องสมุดจนถึง5โมงเย็น รอนสรุปเนื้อหาจบพอดี เขาปิดสมุดลงกระเป๋าส่วนเด็กหญิงก็เก็บข้าวของของตนเช่นกัน ทั้งคู่เดินออกจากห้องสมุด
“ขอบคุณนะรอน” เด็กสาวตอบ “แล้วนี่รอนกลับยังไงล่ะ”
“อ๋อ เดี๋ยวผมไปขึ้นสองแถวที่สะพาน ต่อเดียวถึงบ้านเลย” เด็กหนุ่มตอบ ” แล้วแพทกลับบ้านยังไงล่ะ”
“อ๋อเดี๋ยวเราเดินไปทางตึกไปรษณีย์เก่าน่ะ” เธอตอบ “ไม่ไกลหรอก ครึ่งกิโลเอง”
ตึกไปรษณีย์เก่าอยู่คนละทิศกับท่ารถสองแถวที่รอนจะไปเลย … แต่เขามองดูท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว เขาคิดว่าให้แพทกลับคนเดียวคนไม่น่าเหมาะสม
“เดี๋ยวเราไปส่งเธอก่อนแล้วกัน มันใกล้มืดแล้ว” รอนบอกก่อนจะเดินนำไป “มาสิ เดี๋ยวเราไปส่ง”
เด็กสาวยืนนิ่งอยู่พักนึงก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินตามไป
[Skill learned : Charm Lv 1 01/100]
รอนฟังเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างงงๆ เขาไม่ได้เตรียมตัวว่าจะมีสกิลอะไรโผล่มาตอนนี้
จะว่าไปมันคือสกิลอะไร และมันโผล่มาได้ยังไง
รอนมองหน้าเด็กสาวที่เดินเคียงข้างกัน … สกิลนี้แวบขึ้นตอนที่เขาบอกว่าจะไปส่งแพท
อ้อ จริงสิ คำว่า Charm ในเกม คือเครื่องราง
แปลว่าแพทมองเราเป็นเครื่องรางกันอันตรายเวลาเดินไปส่ง … เออ มีสกิลแบบนี้ด้วยแฮะ
แล้วรอนก็เดินนำเด็กสาวไปโดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า
คำว่า Charm ยังมีอีกความหมายนึง
Comments for chapter "ตอนที่ 18"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Reader since 14 years old
เสน่ห์จ้า