Midterm Fantasy - ตอนที่ 182
แพทลืมตาค้างอยู่บนเตียงมองเพดานห้องในความมืดก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เธอเข้าอินเตอร์เนทกดหาข่าวความเคลื่อนไหวของหน่วยแพทย์ที่ถูกจับกุมอีกครั้ง แต่ก็เช่นเคย ไม่มีข่าวอะไรใหม่ๆปรากฎออกมา
เด็กสาวถอนหายใจ พื้นที่ที่รอนเข้าไปเป็นพื้นที่ซึ่งกลุ่มกบฏครองพื้นที่อยู่ แน่นอนข่าวสารทั้งหลายต้องออกมาช้ากว่าปกติอยู่แล้ว ถึงอยากรู้ก็คงทำอะไรไม่ได้
แม้ว่าตอนที่ไปจากโลกโน้นเธอจะให้ชุดเกราะกันกระสุนที่ได้จากหลิวลี่จงให้กับรอนไปแล้ว แต่ว่าเสื้อกันกระสุนมันก็ไม่ได้ป้องกันได้เต็มร้อย และคนเพียงคนเดียวจะไปสู้กับกลุ่มกบฏอาวุธครบมือได้ยังไง เด็กสาวล้มตัวลงกับเตียงอีกครั้งแต่ก็นอนไม่หลับ
ตู๊ดๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เบอร์โชว์ว่าเป็นของหลิวลี่จง
“คะ? คุณหลิวสวัสดีค่ะ” แพทรับสาย
“คุณแพทครับ มีข่าวของหน่วยแพทย์แล้วครับ คุณรอนอยู่ในข่าวด้วย” หลิวลี่จงพูดในสาย “ตอนนี้ข่าว CNM กำลังรายงานสดเลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ” แพทวางสายแล้วรีบเปิดแท็บเลตเปิดช่องข่าวทันที รายงานกำลังถ่ายทอดสดพอดี เด็กสาวดูแล้วก็โล่งใจขึ้นทันทีที่เห็นรอนอยู่ด้านหลังของหน่วยแพทย์ ตรงด้านหน้านั้นหมอโรเบิร์ตกำลังให้สัมภาษณ์บอกเล่าเรื่องราวอยู่
“แล้วพวกเขาสองคนนั้นคือใครกันครับ” นักข่าวคนหนึ่งร้องถามขึ้น “สองคนนั้นเป็นเพื่อนกับคุณหมอเคที่เดินทางมารับคุณหมอกลับบ้าน ไม่มีอะไรครับ” หมอโรเบิร์ตตอบ
“เพื่อน? แต่จากรายงานที่เราได้มา เห็นว่าทั้งสองคนนี้ได้ทำการต่อสู้..”
“เรื่องนั้นผมอยากให้ทุกท่านเคารพในความเป็นส่วนตัว อย่าถามอะไรไปมากกว่านี้เลยครับ” หมอโรเบิร์ตยกมือขึ้นห้าม ขณะที่รอนหันหลบกล้องและโอบเอวดันให้เจนัสหลบไปอีกด้านหนึ่ง นักข่าวหันกลับมาที่กล้อง
“สำหรับเรื่องนี้ นักข่าวภาคสนามของเราได้ส่งคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา เป็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ครับ”
แพทมองภาพข่าวที่ตัดไป เป็นภาพการต่อสู้ระหว่างคนของแก๊งเมษาและเจนัส ภาพการพูดคุยและการต่อสู้ของเจนัสและหลงจิ่งอย่างสูสี จนถึงจุดที่แก๊งเมษาทุกคนเตรียมบุกเข้ารุมหญิงสาว ประตูห้องก็เปิดออกมา
“หลบข้างหลังผมครับคุณเจนัส”
แพทมองดูภาพตรงหน้า รอนที่เปิดประตูออกมา จากนั้นก้าวเดินไปที่เบื้องหน้าของเจนัสและทำการปกป้องหญิงสาวเอาไว้
ภาพข่าวตัดกลับมาที่นักข่าว รอนกำลังใช้มือดันเอวของเจนัสเข้าไปหลบและปิดประตูลง นักข่าวกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าแพทไม่ได้ตั้งใจฟังแล้ว เธอขมวดคิ้วนิดๆ มองภาพความสนิทสนมของทั้งคู่อย่างกังขา
นี่รอนไปสนิทสนมถึงขั้นถูกเนื้อต้องตัวกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
…
ที่ห้องรับรองของค่ายทหารประจำชายแดน รอนนั่งอยู่ที่เก้าอี้รอเวลาที่จะเดินทางต่อ ประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับนายทหารที่คุ้นหน้า
“สวัสดีครับร้อยโทรุสลาน” รอนทัก
“สวัสดีครับคุณสมชาย” นายทหารคนนั้นทักด้วยชื่อปลอมในพาสปอร์ตของรอน “ตอนนี้คุณดังใหญ่แล้วนะครับ”
“เห?”
“ก็เหตุการณ์ที่คุณเผชิญหน้ากับพวกกบฏนั่น มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ ตอนนี้ข่าว CNM เอาไปเผยแพร่แล้ว”
“อ้าว ตายล่ะ”
“ทำไมเหรอครับ” นายทหารถามงงๆ
“ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องราวอะไรตามมาน่ะครับ ถ้ามีภาพของพวกเราหลุดออกไปไม่รู้ว่าจะเจอพวกนั้นแก้แค้นอะไรหรือเปล่า”
“โอ้ ถามแบบนั้นผมจะรีบไปกำชับนักข่าวว่าให้เอาคลิปนั้นออก” ร้อยโทรุสลานบอก “อ้อ แล้วตอนนี้รถที่จะพาพวกคุณไปสนามบินมาถึงแล้วนะครับ ทางรัฐบาลของเราจัดการเรื่องตั๋วที่จะใช้เดินทางกลับประเทศของพวกคุณให้เรียบร้อยแล้ว”
“ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ทางเราก็ต้องขอบคุณคุณสมชายด้วยเหมือนกัน”
“เห?”
“หน่วยแพทย์กลุ่มนี้เริ่มต้นเดินทางออกจากประเทศนี้ ช่วยเหลือคนไว้มากมายก่อนจะข้ามชายแดนไปรักษาคนในฝั่งกบฏ ดังนั้นพอเกิดเรื่องขึ้นประชาชนทางด้านนี้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ” ร้อยโทรุสลานบอก “การที่คุณสมชายช่วยพาหน่วยแพทย์ออกมาได้ช่วยคลายความกดดันลงไปได้มากเลย”
“และอีกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณจัดการกับรถที่ตามหลัง กับใช้รหัสมอร์สหลอกพวกที่ดักซุ่มจนทั้งสองฝ่ายนั้นสับสนโจมตีกันเอง หน่วยแพทย์ทั้งสองคันรถนี่คงออกมาไม่ได้แน่” รุสลานบอก
“อ๊ะ คุณทราบ!”
“ครับ มีคนที่เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้น แต่ไม่ต้องห่วงครับ คนๆนี้ไว้ใจได้ ไม่แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปแน่ ” รุสลานบอก “และทางหน่วยเหนือของผมก็ต้องการจะปิดไว้เป็นความลับอยู่แล้ว หลังจากเหตุการณ์ในคืนนี้พวกเราเชื่อว่าทหารฝ่ายกบฏและองค์กรเอพริลจะต้องแตกคอกันแน่”
รอนพยักหน้ารับ ทั้งเขาและหมอโรเบิร์ตต่างใช้สกิล Poker Face พูดจากำกวมออกไปให้พวกแก๊งเมษาและฝ่ายกบฏสงสัยกันเอง
และพอประเทศUAส่งทหารเข้ามาซุ่มโจมตีด้วยเป็นฝ่ายที่สาม แก๊งเมษาและฝ่ายกบฏยิ่งต้องสงสัยกันเองแน่ว่าต่างฝ่ายต่างหักหลังตน
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ ขอให้คุณโชคดี”
“เช่นกันครับ”
เด็กหนุ่มเขย่ามือกับร้อยโทประจำสถานีชายแดนก่อนจะพาเจนัสออกไป รุสลานมองจนเด็กหนุ่มขึ้นรถไปแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องรับรองอีกห้องหนึ่ง เขาเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป ภายในนั้นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่
“ไปกันแล้วเหรอคะ”
“ครับ เพิ่งขึ้นรถกลับไปเมื่อครู่นี้” รุสลานบอก “ดูเหมือนคุณหมอจะสนใจเด็กหนุ่มคนนั้นมากนะครับ”
“บังเอิญชั้นพอจะรู้ข้อมูลของเด็กหนุ่มคนนั้นมาสักหน่อยน่ะค่ะ” หมอหญิงคนนั้นปิดแฟ้มวางลง “ไม่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอกันที่นี่ พอได้เจอตัวจริงก็เหนือความคาดหมายสักหน่อย”
“คุณรู้ข้อมูลของเด็กหนุ่มคนนั้น!?”
“ค่ะ อย่างน้อยก็รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ชื่อสมชายอย่างที่คุณบอก อันที่จริงพวกคุณก็คงรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ใช้พาสปอร์ตปลอมใช่ไหม”
“ค ครับ” ร้อยโทตอบ
พอได้ยินว่ามีคนที่ต้องการเดินทางเข้าไปพบหน่วยแพทย์ที่ถูกจับตัว รุสลานก็ส่งข้อมูลไปเช็คทันที และเมื่อตรวจเช็คก็พบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นใช่พาสปอร์ตปลอม
“ถ้าอย่างนั้นช่วยติดต่อหน่วยเหนือของคุณ อำนวยความสะดวกเด็กหนุ่มหญิงสาวคนนั้นให้กลับประเทศอย่างไม่มีปัญหา แล้วก็ช่วยปิดข่าวเกี่ยวกับทั้งสองคนนี้ให้เป็นความลับด้วยจะได้ไหม ถือว่าเป็นคำขอของชั้น” หมอหญิงคนนั้นบอก
“ได้ครับ ความจริงพวกเราจะขอความร่วมมือสำนักข่าวให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอยู่แล้ว” รุสลานบอก “ยิ่งคุณหมอขอร้องแบบนี้แล้ว ผมรับรองได้เลยว่าหน่วยเหนือต้องยินดีที่จะจัดการให้แน่นอนครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้ม “แล้วเรื่องรถขนอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ล่ะคะ”
“มาถึงแล้วครับ กำลังรออยู่ที่ด้านนอกนั่น” รุสลานตอบ “ว่าแต่พวกคุณจะกลับเข้าไปทางฝั่งนั้นอีกหรือครับ?”
“ไม่ค่ะ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปลอดภัยกับทีมแพทย์ ชั้นจะให้ทีมช่วยดูแลประชาชนฝั่งนี้ก่อน” แพทย์หญิงบอกยิ้มๆ “และในเมื่อพ่อหนุ่มคนนั้นกับหมอโรเบิร์ตอุตส่าห์สร้างสถานการณ์ให้ขนาดนี้แล้ว พวกเราก็ควรจะเล่นตามบทสักหน่อย”
“จากการ ‘ปั่นหัว’ ของพ่อหนุ่มนั่น องค์กรเอพริลกับนายพลแทงโก้คงไม่ไว้วางใจกันและกันและพักความร่วมมือกันชั่วคราว ถ้าหน่วยแพทย์ไม่ข้ามไปฝั่งโน้น ประชาชนฝั่งโน้นคงไม่พอใจนายพลแทงโก้ขึ้นไปอีก พวกคุณก็จะปราบกลุ่มกบฏได้ง่ายขึ้น” เธอบอก
“ผมต้องขอบคุณคุณหมอมากที่เข้าใจพวกเรา”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าจัดการกับองค์กรเอพริลและทหารกลุ่มกบฏนี่ได้ ประชาชนเหล่านั้นก็จะได้อยู่อย่างเป็นสุขซะที” เธอตอบ “แล้วเสร็จจากงานนี้ชั้นคงต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเสียที”
“โอ้ กลับไปเยี่ยมบ้านเหรอครับ จริงสิ คุณหมอก็มาจากประเทศเดียวกับพ่อหนุ่มคนนั้น”
“ใช่ค่ะ”
เธอตอบ
“เรามาจากประเทศเดียวกัน”