Midterm Fantasy - ตอนที่ 187
“ก็เป็นอย่างที่ผมเล่ามานั่นแหละครับ ตั้งแต่วันนั้นมาแพทเค้าไม่คุยกับผมเลย ไม่รู้ว่าโกรธอะไรของเค้า” รอนถอนหายใจยาวบนม้านั่งดาดฟ้าโกดัง ข้างๆกันนั้นหญิงสาวในชุดยามรักษาความปลอดภัยนั่งจ้องหน้าอย่างไม่รู้จะตอบยังไง
จะให้ตอบไปตรงๆเหรอว่าที่แพทโกรธน่ะก็เพราะรอนเอาแพทมาเปรียบเทียบกับตัวเธอ
ไม่ว่าผู้หญิงที่ไหนก็ไม่มีทางพอใจหรอกที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงอื่น
“คุณเจนัสคิดว่าไงบ้างครับ” รอนถาม
“เรื่องนั้นน่ะ…” เจนัสอึ้งคิด
เอาไงดี ๆ
จะแนะนำไปตรง ๆ ดีไหม
หรือว่าจะแนะนำแบบวางยา
“ว่าแต่ที่เธอเล่าเมื่อกี้นี้น่ะ เหมือนมีผู้ชายอีกคน คน ๆ นั้นคือใครเหรอ” เจนัสเฉไฉ
“อ่อ เป็นรุ่นพี่คนนึงที่พวกเราติดต่อด้วยน่ะครับ” รอนเล่าอ้อมๆ จะให้บอกว่าเป็นเจ้าชายล่ะก็คงไม่ได้ “ทำไมเหรอครับ”
“แล้วที่เธอให้เหตุผลกับแพทแบบนั้นไป เธอหมายความแบบนั้นจริงๆเหรอ” หญิงสาวถาม
“ใช่ครับ คืองานที่ผมคิดว่ารุ่นพี่คนนั้นจะเสนอมามันอันตรายเกินไปสำหรับแพท ด้วยฝีมือของแพทในตอนนี้ถ้าไปทำงานพวกนั้นล่ะก็อาจจะบาดเจ็บได้” รอนตอบ “ถ้าแพทมีฝีมือสักครึ่งหนึ่งของคุณล่ะก็ ผมจะไม่ห่วงเลย”
“เธอนี่เป็นห่วงแพทจริงๆนะ” เจนัสเอ่ย
“แน่นอนครับ” รอนตอบทันที “เพราะผมชอบแพทนี่นา”
หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะเพราะไม่คิดว่ารอนจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้
อย่างนี้ก็แย่สิ ที่ฟังดูแพทน่ะมีใจให้รอนชัดๆ ถ้ารอนเองก็ชอบแพทล่ะก็ แล้วเธอล่ะ
หรือจะแนะนำแบบที่ทำให้แพทงอน จะได้ถูกรุ่นพี่คนนั้นจีบ
“รู้แล้ว งั้นคุณเจนัสช่วยไปสอนการต่อสู้ให้แพทได้ไหมครับ ถ้าแพทเค้าเก่งขึ้นผมก็จะได้หมดห่วง”รอนทำท่านึกขึ้นได้
“ไม่ได้นะ!” หญิงสาวร้องขึ้นทันที
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“ก็จากที่เธอเล่ามาน่ะ แพทเค้าไม่พอใจที่เธอเปรียบเทียบเค้ากับชั้น ขืนเธอให้ชั้นไปสอนการต่อสู้ให้แพทล่ะก็มีหวังแพทยิ่งต้องโกรธขึ้นแน่ๆ”
เจนัสพูดออกไปตรงๆก่อนที่จะรู้สึกเสียดายขึ้นมานิดๆ
ถ้าเธอแกล้งทำตามที่รอนเสนอล่ะก็ แพทต้องโกรธและงอนกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่นั่นแหละนะ จะให้เธอแนะนำอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อเธอรู้อยู่เต็มอกว่ารอนชอบแพทอยู่
“อย่างนั้นหรอกเหรอ ถ้าแบบนี้ให้คุณเจนัสไปหัดให้แพทคงไม่เหมาะแน่” รอนพึมพำ
“เธอก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก ผ่านไปสักสัปดาห์เดี๋ยวแพทก็ลืมแล้ว ทำตัวตามปกตินั่นแหละ” เจนัสแนะนำ
“จะได้ผลเหรอครับ”
“อื้อ ได้ผลสิ เธอน่ะแค่พลั้งปากไปนิดหน่อย ถ้าไม่มีอะไรซ้ำลงไปเพิ่มล่ะก็แพทเค้าไม่โมโหเธอนานหรอก”
รอนมีท่าทางสบายใจขึ้น
“ขอบคุณคุณเจนัสมากนะครับที่ให้คำแนะนำ ผมไม่มีประสบการณ์เรื่องพวกนี้เลย ถ้าไม่ได้คำแนะนำดีๆนี่มีหวังทำเรื่องเสียกว่าเดิมแน่” รอนบอก
“ชั้นก็ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากหรอก แต่ก่อนอยู่ในแก๊งเมษา วันๆก็ฝึกการต่อสู้และอาวุธให้แก๊ง” เจนัสตอบ “แค่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องสามัญสำนึกทั่วไปของผู้หญิง กับตอนอยู่ในแก๊ง ก็พอจะเห็นคนที่ชอบกันรักกันในนั้นบ้าง”
“แล้วแฟนของคุณเจนัสล่ะครับ ออกจากแก๊งมาแบบนี้ได้ติดต่อกันบ้างไหม”
“โอ๊ย ชั้นยังไม่มีแฟนหรอก”
“อ้าว เป็นไปได้ยังไงกัน คุณเจนัสออกจะรูปร่างหน้าตาดีแบบนี้”รอนพูด
“ก็ช่วยไม่ได้แหละ ชั้นน่ะถูกแก๊งเอาไปเลี้ยงดูตอนที่พอรู้ความแล้ว พอจะรู้ว่าพ่อกับแม่น่ะตายเพราะแก๊งเมษา แต่ที่ต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งของพวกมันก็เพราะไม่มีทางไป จะให้ไปรักชอบกับคนในแก๊งที่มีส่วนฆ่าพ่อกับแม่น่ะทำไม่ได้หรอก” เจนัสตอบ “แล้วนี่อายุก็เท่านี้ มีอดีตแบบนี้ ใครที่ไหนจะมารับได้”
“ไม่เห็นเกี่ยวเลยนี่ครับ เรื่องอายุกับอดีตมันจะไปเกี่ยวอะไรกับความรัก”
“เกี่ยวสิ ผู้หญิงอายุยี่สิบกว่า ถ้าจะคบกับใครสักคนก็ต้องหาคนที่อายุยี่สิบกว่าขึ้นไป แถมทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัย วุฒิการศึกษาไม่มี แถมใช้กำลังใช้ปืนเป็น ผู้ชายที่ไหนเค้าจะมาแลมอง”
รอนเอียงคออย่างงงๆ
“มันเกี่ยวกันยังไง ผมไม่เห็นเข้าใจเลย”
เจนัสชักฉุนนิดๆ เธอมีใจให้รอนอยู่นิดๆอยู่แล้ว การที่ต้องมาพูดเรื่องแบบนี้แล้วอีกฝ่ายไม่เข้าใจมันชวนให้หงุดหงิดขึ้นไปอีก
“เอางี้สิ สมมุติว่าถ้าเธอเองไม่ได้ชอบแพทอยู่ ให้เธอมาคบกับชั้นน่ะเธอจะคบได้แบบสนิทใจไหม”
รอนเอียงคอขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบออกไป
“คบสิครับ”
“แอร๊ยะ! เดี๋ยวๆ นี่คิดดีแล้วเหรอ”
“คิดดีแล้วสิครับ”
“อายุห่างกันตั้ง 10 ปีเนี่ยนะ”
“ตอนนี้ผม15 คุณ25-26 ก็จริง แต่พอผม70 คุณก็อายุ80 ถึงเวลานั้นมันก็ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่แล้ว”
หญิงสาวอึ้งไปพักนึงแต่ก็รีบพูดต่อ
“แต่ชั้นน่ะไม่มีวุฒิการศึกษา จะหางานอะไรทำก็ไม่มีใครเค้าเอานะ”
“แต่สำหรับผม เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย ตอนนี้ผมมีเงินเหลือเฟือ”
เออ จริง บริษัทรุ่งโรจน์ซีเคียวของหลิวลี่จงนี่ก็เงินลงทุนของรอนนี่นา ถ้าอีกฝ่ายไม่มีงานทำก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา
“แต่ชั้นน่ะใช้กำลัง ใช้อาวุธ ไม่ได้อ่อนโยนแบบผู้หญิงคนอื่นๆ ถูกฝึกมาให้ฆ่าคนนะ”
“แต่คุณก็ไม่เคยฆ่าใคร ไม่เหมือนผม…” รอนเอ่ยออกมาช้าๆ “อีกอย่าง ถ้าเป็นผม คุณสมบัตินี้ยิ่งทำให้ผมอุ่นใจ เพราะเท่ากับว่าครอบครัวและคนข้างหลังจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยหากเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม ยิ่งดีเข้าไปใหญ่”
เจนัสถอนหายใจ
“อย่าปลอบชั้นแบบนี้เลย ชั้นน่ะรู้ตัวดีว่าไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรเท่ากับคนอื่นเขา”
“คุณอย่าคิดอย่างนั้นสิครับ คนทุกคนมีส่วนที่ดีของตัวเอง และคุณเจนัสเองก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดี ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ความมั่นใจ ความคิดอ่าน ทุกอย่างของตัวคุณไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใครเลย” รอนบอก “คุณเจนัสที่ผมรู้จักน่ะ เป็นผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและจิตใจงดงาม คุณจะมองตัวเองแบบนั้นไม่ได้นะครับ”
“ถ้างั้นเธอมาคบกับชั้นไหมล่ะ”
พูดออกไปแล้ว! เจนัสกรีดร้องในใจ
แกร๊ก!
เสียงจากด้านหลังทำให้ทั้งสองคนหันไปมอง ไม่เห็นอะไรนอกจากประตูที่ถูกลมพัด ทั้งสองคนจึงค่อยๆหันหน้ากลับมาจ้องหน้ากัน สายตาทั้งสองห่างกันไม่ถึงหนึ่งฟุต
“ไม่ได้ครับ” รอน
“เห็นไหมล่ะ” เจนัสเอ่ยเบาๆ พยายามบังคับใบหน้าไม่ให้แสดงความผิดหวังออกไป
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ที่ผมไม่คบกับคุณเจนัส เพราะว่าตอนนี้ผมชอบแพท และผมคิดว่าแพทก็ชอบผม”รอนตอบ
“แต่ตอนนี้เธอสองคนไม่ใช่แฟนกัน และไม่ได้มีอะไรผูกมัดกันนี่ แล้วเรื่องนี้ถ้าไม่บอกไปแพทก็ไม่มีทางรู้” เจนัสพูดต่ออย่างไม่ยอมแพ้
“แต่ผมรู้ตัวว่าชอบแพท และแพทก็น่าจะชอบผม ดังนั้นถ้าผมคบซ้อน ก็เท่ากับว่าผมไม่ซื่อสัตย์กับแพทและเอาเปรียบคุณเจนัส”
“ผมไม่อยากทำอะไรที่ไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกที่ผมมีกับแพท”
“และผมก็ไม่อยากทำอะไรที่เป็นการเอาเปรียบคุณเจนัสด้วย”
หญิงสาวนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะหัวเราะออกมา
“เธอนี่นะ บทจะบื้อก็บื้อสุดๆ บทจะแก่ก็แก่แดดชะมัด ถึงว่าเถอะแพทถึงได้งอนเธอขนาดนี้”
เจนัสไม่พูดถึงเรื่องคบกันอะไรนั่นอีก ถึงแม้จะรู้สึกดีนิดๆที่รอนมีมุมมองที่ไม่ปฏิเสธคนอย่างเธอ แต่ว่าสุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกันคือความสัมพันธ์นี้ไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะตอนนี้รอนจีบแพทอยู่
หญิงสาวลุกขึ้นแล้วชวนรอนลงจากดาดฟ้าโกดัง ทั้งสองเดินลงบันไดดาดฟ้าลงไปในสำนักงานของหลิวลี่จง
“ขอบคุณคุณเจนัสมากครับที่ให้คำแนะนำ”
“ไม่เป็นไรหรอก .. แต่เธอน่ะก็อย่ามาใกล้ชิดชั้นมากไปแล้วกัน ยิ่งเธอมีมุมมองอะไรแบบนี้ขืนหนูแพทรู้เข้าเค้าต้องหึงแล้วก็โมโหไปกันใหญ่แน่ๆ”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีทางหรอกครับ ก็ที่ผ่านมาผมกับคุณเจนัสไม่เคยทำอะไรเกินเลยนี่นา ฮะ ฮะ เอ่อออ….”
แล้วทั้งเจนัสกับรอนก็หน้าเปลี่ยนสีไป … จะว่าไปเคยนี่หว่า ทั้งตอนที่เจอกันครั้งแรก …และตอนที่หกล้มในห้องใต้ดินร้านอาม่า …ไหนจะตอนที่ไปช่วยหมอเคตอนนั้นอีก
ทั้งสองหลบตากันโดยอัตโนมัติ แล้วรอนก็เหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่หน้าจอSystemของตน เป็นตัวอักษรที่ขึ้นเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว
[คุณรับรู้ได้ว่ากำลังถูกเฝ้ามอง]
5นาทีที่แล้ว … ตอนที่คุณเจนัสถามว่าจะมาคบกันมั้ย ? หรือว่าเสียงประตูแกร๊กเมื่อกี้จะมีคนมองอยู่
“เมื่อกี้มีใครขึ้นไปหาผมหรือเปล่าครับคุณหยางเทียน” รอนถามพี่ใหญ่หลิวลี่จงที่นั่งอยู่ในสำนักงาน
“คุณแพทขึ้นไปหาคุณรอนเมื่อกี้นี่ครับ ไม่ได้เจอกันเหรอครับ” หลิงลี่จงตอบ ก่อนที่จะสะดุด เพราะทั้งรอนและเจนัสทำหน้าตกใจกันทั้งคู่
“แพทขึ้นไปหาพวกเราข้างบนเมื่อกี้เหรอคะ” เจนัสร้อง
“ครับ แต่เห็นจู่ๆก็ผลุนผลันลงมาแล้วก็ออกไป ผมเลยนึกว่ามีเรื่องด่วนอะไรกัน” หลิวลี่จงบอก
“แย่แล้ว สงสัยคุณแพทจะเข้าใจผิด รอน เธอรีบไปหาแพทเร็วเข้า ไม่งั้นเข้าใจผิดไปกันใหญ่แน่ๆ” เจนัสร้องอย่างตกใจ
“เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆครับ ไม่น่าจะมีอะไรแน่ เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ไม่ได้ทำอะไรให้เข้าใจผิดด้วย” รอนร้องออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน “แค่เห็นเรานั่งคุยกับแวบเดียว ได้ยินประโยคนั้นประโยคเดียวคงไม่เข้าใจผิดแน่ๆ”
หลิวลี่จงมองสลับไปมาอย่างครุ่นคิดแล้วก็ถามออกไปตรงๆ
“คุณสองคนคบกันอยู่หรือเปล่า”
“แว้ก”รอนร้อง
“คุณหลิว ทำไมคุณเข้าใจอะไรแบบนั้นคะ” เจนัสร้อง
หลิวลี่จงตัดสินใจเปิดคอมพิวเตอร์ เข้าเว็บโหลดคลิปใต้ดิน
“คืนนั้นที่พวกคุณไปสู้กับแก๊งเมษาที่เอเชียใต้ คลิปของพวกคุณสองคนน่ะหลุดออกมาช่วงนึงก่อนที่สำนักข่าวจะลบไป เหลือแต่คลิปในเว็บใต้ดินพวกนี้”
หลิวลี่จงเปิดให้ดู มีภาพตอนที่รอนปกป้องเจนัส ไปจนถึงภาพตอนที่โอบเอว ดึงแขน เพื่อหลบนักข่าว ดูไม่ต่างจากคนที่สนิทสนมกันมากๆ ทั้งเจนัสและรอนมองแล้วก็หน้าถอดสีไปอีก
“ถ้าคุณแพทเห็นคลิปนี่ กับได้ยินที่ชั้นพูดไปเมื่อกี้ มีหวังเข้าใจผิดแน่ๆ” เจนัสพูดตะกุกตะกัก
“ต ต แต่ว่าตอนที่มีข่าวมันเป็นเวลาตี3ของที่นี่ แพทคงไม่เห็นหรอกครับ ใช่ไหมคุณหลิว” รอนถาม
“คืนนั้นช่วงที่คุณแพทติดต่อกับผมถามข่าวคราวของคุณรอนเป็นระยะ ผมได้ยินเสียงเธอเปิดทีวีข่าวด้วย …แล้วพอหลังจากข่าวออกคุณแพทก็ไม่โทรหาผมอีก … ผมเลยคิดว่าคุณแพทเห็นข่าวแล้วก็เลยไม่โทรมา” หลิวลี่จงบอก “นี่พวกเราที่นี่ทุกคนก็คิดว่าคุณรอนคบกับคุณแพทแล้วก็คุณเจนัสไปพร้อมๆกันแบบรับรู้กันแล้วซะอีก นี่แบบนี้เท่ากับว่าคุณแพทที่เข้าใจผิดอยู่แล้วไปเห็นพวกคุณแอบคุยกันสองคนข้างบนยิ่งต้องเข้าใจผิดไปกันใหญ่แน่”
“ว่าแต่คุณแพทเค้าขึ้นไปแป๊บเดียว พวกคุณมีทำอะไรให้เข้าใจผิดกันไปอีกหรือเปล่าเนี่ย” หลิวลี่จงถาม
เจนัสและรอนนึกถึงประโยคที่หญิงสาวพูดโพล่งขึ้นถามว่ารอนจะมาคบกับเธอได้ไหมในจังหวะที่มีเสียงประตูดังขึ้นมา
“มีสิ เป็นใครได้ยินก็ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ” เจนัสเอ่ยจ๋อยๆ