Midterm Fantasy - ตอนที่ 204
“เจ๊หวง อ๋อ หวงหมิงเยี่ยร้านขายของคนนั้นสินะ” วิทวัสพูดขึ้น “ตอนนี้ยังขายของอยู่ที่เดิมนั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้ความทรงจำกลับมาแล้วนะ”
“เอ๊ะ คำสาปเสื่อมเหรอ” อารยาถาม
“ไม่ใช่หรอก คำสาปที่เธอทำไว้ไม่ได้เสื่อม เห็นว่านายรอนใช้ม้วนเวท Dispel จัดการกับคำสาปให้” วิทวัสบอก “เห็นว่าตอนแรกรักษาหลังด้วยม้วนเวทHigh Heal ไม่หาย ก็เลยใช้ Dispel แทน ก็เลยบังเอิญไปทำลายคำสาปให้”
อารยาส่ายหน้าเบาๆ เจ๊หวงเป็นคนที่ช่วยเหลือดูแลเธอในการหาสินค้าเพื่อข้ามมิติกลับไปที่โลกโน้น แต่เนื่องจากตอนนั้นเธอมีปัญหากับแก็งเมษา และกระทั่งเธอละทิ้งศิลานักปราชญ์ไปแล้วก็ยังจัดการกับแก็งเมษาไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของเจ๊หวง เธอจึงใช้คำสาปทำให้ป่วยเพื่อทำให้ความจำที่เจ๊หวงมีต่อเธอและวิทวัสหายไป
หลังจากนั้นเธอก็ซ่อนศิลานักปราชญ์ไว้ที่ห้องชั้นสองในบ้านที่เธอซื้อไว้ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับวิทวัส
“ดูท่ารอนจะเป็นลูกของคนที่ไปเช่าบ้านอยู่ต่อสินะคะ” อารยาเอ่ย “นี่ไม่นึกว่าศิลานักปราชญ์จะตอบรับความต้องการของเขาเสียได้ เอ๊ะ เดี๋ยวๆ แคทจะไปไหนเหรอ”
แม่ของแพทร้องเรียกเมื่อเห็นไกลๆว่าแม่บ้านกำลังจะขึ้นไปชั้นสอง
“จะเอาชุดที่คุณแพทให้ซักรีดขึ้นไปข้างบนค่ะ” แม่บ้านตอบ
“ไม่ต้องขึ้นไป เอามาให้ชั้นนี่ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง” อารยาบอก
ตอนนี้กำลังเที่ยงวัน ถ้าหากแม่บ้านเปิดประตูเข้าไปจังหวะที่รอนกำลังหายตัว มีหวังตกใจบ้านแตกแน่
“ไหนชุดอะไรเหรอ” คุณตาหันไปมอง “เฮ้ย!”
คุณยาย “เฮ้ย”
วิทวัส “เฮ้ย”
แม่ของแพท “…”
“เห็นคุณแพทบอกว่าเป็นชุดคอสเพลย์ค่ะ ซื้อมาจากร้านใกล้บ้านของคุณรอน” แม่บ้านแคทบอกและมองไปรอบๆ ตะหงิดๆท่าทีของนายจ้างอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก สงสัยทุกคนจะไม่ชอบให้คุณแพทไปแต่งคอสเพลย์กระมัง
“นี่มันชุดของลูกสมัยก่อนตอนนั้นนี่” คุณตาพูดขึ้นมา
“ค่ะ ชุดจอมเวทนักบวชที่เคยใช้สมัยก่อน” อารยาบอกพลางหยิบถุงมือขึ้นมาสวม ถุงมือขยับเล็กน้อยก่อนที่จะปรับขนาดให้พอดีกับมือของเธอ
“คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยาย คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ” แพทลงจากชั้นบนมาพร้อมกับรอน
“พวกเราคุยกันเรื่องชุดอยู่น่ะจ๊ะ ลูกซื้อชุดมาจากไหนเหรอจ๊ะ” แม่ถาม
“อ๋อ ชุดนี้หนูซื้อมาจากร้านของอาม่าร้านหน้าปากซอยบ้านรอนน่ะค่ะ วันก่อนโน้นเห็นอาม่าเค้าเอาออกมาตากแดดไล่กลิ่นอับ หนูเห็นสวยดีก็เลยซื้อมา” แพทตอบ
“ว่าแต่ลูกเล่นคอสเพลย์ด้วยเหรอจ๊ะ แม่ไม่เห็นรู้เลย” แม่ถามต่อ
“ที่จริงแพทเค้าเพิ่งเริ่มเล่นน่ะครับ ก็เลยเริ่มจากชุดร้านอาม่าเพราะอาม่าเค้าขายราคาถูก ไม่รู้ทำไมร้านของอาม่าหน้าปากซอยถึงมีชุดแบบนี้ขาย” รอนรีบบอก “ที่จริงแพทเค้าจะแต่งชุดนี้ไปงานคอสเพลย์ที่ห้างเอิร์ธคอนเวนชั่นวันอาทิตย์หน้านี้ด้วย”
“ใช่ค่ะ” แพทตอบตามน้ำ
“วันอาทิตย์ ก็หลังวันเชงเม้งพอดีสินะ” อารยาบอก “แม่กับคุณตาคุณยายจะไปหลุมศพของพี่สาวแม่พอดี ว่าแต่งานที่ไปน่ะจัดในห้างที่มีคนเยอะใช่ไหม”
“ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะแม่” แพทถาม
“เปล่าหรอก แม่แค่ห่วงเฉยๆแหละ ถ้างานไปจัดในห้างเล็กๆที่เปลี่ยวๆล่ะก็ แต่งตัวแบบนี้อาจจะไม่ปลอดภัย แต่ถ้าเป็นห้างที่คนเยอะๆก็ไม่มีปัญหาหรอก” แม่ของแพทบอก
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” รอนยกมือไหว้ทุกคนก่อนที่แพทจะเดินออกไปส่ง
“วิทวัส เห็นคุณบอกว่าลูกของเราใช้เวทมนตร์ได้ใช่ไหม” อารยาถาม
”ใช่ ลูกดูดพลังจากแกนมอนสเตอร์แล้วเอาไปใช้ร่ายเวทได้” วิทวัสบอก เรื่องที่แพทใช้เวทมนตร์ได้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้ง4คนรวมไปถึงลุงบัวรู้แล้ว หากแต่แพทยังไม่รู้ว่าทุกคนรู้กันหมดแล้ว
“ฟังจากที่บอกเมื่อกี้ เจ๊หวงคงไม่ได้บอกที่มาของชุดๆนี้ให้พวกเด็กๆรู้” อารยากล่าว “แต่คงไม่เป็นไรหรอก เรื่องมันก็นานมาแล้ว และยัยแพทคงเอาไปใส่เล่นคอสเพลย์เฉยๆ ถ้าไม่ได้ใช้เวทมนตร์ขณะสวมชุดก็คงไม่รู้ถึงความพิเศษของชุดนี้หรอก”
“ว่าแต่เมื่อกี้มีอะไรรึคุณ” วิทวัสถามภรรยา “ทำไมต้องให้ลูกอยู่ในที่ที่คนมากๆด้วยล่ะ”
“ก่อนที่ชั้นจะเดินทางกลับมาจากหน่วยแพทย์ที่อินเดีย มีโอกาสไปรักษาคนของแก็งเมษาที่ถูกทางการจับได้” อารยาบอก “ก่อนที่ฐานเอเชียใต้จะแตก พวกนั้นได้ยินว่าหัวหน้าใหญ่มีแผนจะโจมตีคนที่ทำลายแผนการของพวกมันเป็นการแก้แค้น”
“อืม หรือว่าจะให้ทุกคนหลบไปที่อื่นก่อน” วิทวัสเสนอ
“ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันก็เป็นแค่การคาดเดาจากที่ลูกกระจ็อกในแก็งได้รับฟังมา ถ้าหลบไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องหลบอีกนานแค่ไหนน่ะสิ” อารยาบอก “เอาเป็นว่าช่วงนี้ให้ลูกอยู่กับคุณที่นี่ แล้วก็อยู่แต่ในที่ที่คนเยอะๆสักหน่อยจะได้ปลอดภัย อย่างน้อยที่นี่เป็นเมืองใหญ่พวกมันคงไม่กล้าทำอะไรอุกอาจมากนัก”
ที่ผ่านมาจะสามสิบปี แม้ว่าแก็งเมษาจะแผ่อิทธิพลไปหลายที่ในโลก แต่ก็เป็นการทำแบบเงียบๆ จะมีก็แต่พื้นที่อันเกิดสงครามกลางเมืองหรือมีการแบ่งแยกดินแดนเท่านั้นที่พวกมันจะทำงานก่อการร้ายแบบเปิดเผย ในเมืองหลวงเช่นนี้คงไม่มีปัญหาอะไรกระมัง
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ได้ จะว่าไปห้างเอิร์ธคอนเวนชั่นที่ลูกแพทจะไปคอสเพลย์นี่ มันเป็นห้างที่รอนส่งคนไปทำงานรักษาความปลอดภัยนี่นา” วิทวัสบอก “จะว่าไป ช่วงนี้ผมให้ตาบัวไปฝึกหัดดูแลมารยาทการวางตัวคนของบริษัทรักษาความปลอดภัยของรอน เดี๋ยวลองถามเขาดูว่าพอจะรู้ไหมว่าฝีมือคนพวกนั้นเป็นยังไง อ้าวนั่นไง บัวมาพอดี บัวมานี่หน่อย”
ลุงบัวที่กำลังเดินไปหลังบ้าน เดินกลับมาทางห้องรับแขกแทน
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง นายผู้เฒ่า” ลุงบัวโค้งให้กับทุกคน
“ตาบัว ชั้นถามอะไรหน่อยสิ เห็นว่าคนของบริษัทรุ่งโรจน์ที่เธอไปฝึกให้อยู่น่ะ ทำหน้าที่ยามรักษาความปลอดภัยที่ห้างเอิร์ธคอนเวนชั่น” วิทวัสถาม “ทีนี้ที่นายไปฝึกน่ะ พวกนี้ฝึกได้เข้าเป้าบ้างไหม พอจะเชื่อมั่นฝีมือได้หรือเปล่า ศักยภาพพอไหวไหม”
“ 25% ครับ” ลุงบัวตอบอย่างไม่ลังเล “ศักยภาพ 25% ของที่ผมตั้งใจไว้”
“25%เองเหรอ หรือว่าจะไม่ให้ลูกแพทไปดี” วิทวัสลังเล ยามที่ทำหน้าที่ได้แค่25%นี่คงดูแลได้ไม่ทั่วถึง
“คุณแพทจะไปไหนเหรอครับ” บัวถาม
“ลูกแพทจะไปงานคอสเพลย์ที่ห้างนั้นน่ะ” พ่อของแพทบอก
“อ๋อ ถ้าในห้างอย่างนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับ พวกที่ผมฝึกน่ะรับมือได้สบายอยู่แล้วเต็ม100แน่นอน” ลุงบัวตอบอย่างมั่นใจ
“อ้าว เอาไงแน่ ทำไมเดี๋ยว25 เดี๋ยว100” วิทวัสขมวดคิ้ว
“ผมนึกว่าท่านจะให้เจ้าพวกนั้นออกภาคสนามน่ะครับ คือพวกนั้นน่ะฝีมือโอเคแต่ไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือ อยู่กลางเมืองแบบนี้ไม่มีปืน ไม่มีรถหุ้มเกราะ ไม่มีเครื่องยิงจรวดอาวุธหนักประดามี ยังไงมันก็ดึงศักยภาพได้ไม่เต็ม ผมก็เลยให้แค่25%ครับ”
ทุกคนมองหน้ากัน
“เดี๋ยวสิ ออกภาคสนามอะไร ปืน รถหุ้มเกราะ จรวด อะไรเหรอ” วิทวัสถาม
“เอ๊ะ ก็นายท่านให้ผมไปฝึกพวกนั้นไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ ชั้นให้นายไปฝึกพวกนั้นเรื่องมารยาทกับการเป็นพ่อบ้าน จะได้ให้มาทำงานเล็กๆน้อยๆในบ้านได้ กับพวกการป้องกันตัวเล็กๆน้อยๆ”
“เดี๋ยวนะครับ นายท่านให้ผมไปฝึกพวกนั้นเป็นพ่อบ้านกับฝึกมารยาทแล้วก็ป้องกันตัวเล็กๆน้อยๆเหรอครับ” ลุงบัวร้องอย่างตกใจ
“ใช่สิ เดี๋ยวนะบัว แล้วนายสอนอะไรพวกนั้นไป ถึงว่าสิหลังๆนี่เห็นหายออกไปเป็นนานสองนาน” วิทวัสถาม
“เอิ่ม …. คือ ผมสอนพวกมารยาทการเป็นพ่อบ้าน … แล้วก็สอนการต่อสู้ ยิวยิตสู คาราเต้ เทควันโด ไอคิโด”
“หืม?!”
“แล้วก็สอนการใช้อาวุธ มีด ปืนพก ปืนไรเฟิ่ล ปืนกล เครื่องยิงจรวด …. สอนการช่วยตัวประกัน ขับยานยนต์หุ้มเกราะ ต่อต้านก่อการร้าย ระเบิดทำลาย การซุ่มยิง” ลุงบัวร่ายยาว “ผมนึกว่านายท่านให้ผมสอนเรื่องพวกนี้เสียอีก”
“เฮ้ย เปล่า ชั้นแค่จะหาคนมาทำงานพ่อบ้านเฉยๆ” วิทวัสร้องเสียงหลง “แล้วนี่นายฝึกไปกี่คนแล้วเนี่ย ตายๆๆ”
ลุงบัวชูสามนิ้ว
“สามคน?”
“สามร้อยคนครับ”
“โว้ยยย นายบัว! พอแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องไปแล้ว”
“เอ่อ คงไม่ได้ครับ เพราะพรุ่งนี้ผมนัดเจ้าพวกนั้นไว้แล้วเรื่องการจู่โจมบังเกอร์และตีป้อม ผมสัญญากับเจ้าพวกนั้นไว้หมดแล้ว”
“โอ้ย นายบัววววว เออๆๆ ไปพรุ่งนี้อีกวันนึงแล้วก็พอได้แล้ว ไม่ต้องไปอีก” วิทวัสบ่น
“ยามในห้างกลางเมืองแบบนี้จะรู้เรื่องต่อต้านการก่อการร้ายไปทำไมกัน!”