Midterm Fantasy - ตอนที่ 205
ที่โลกด้านโน้น รอนปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง อย่างแรกเลยก็เป็นเครื่องปั่นไฟที่เดิมใช้แต่พลังลมก้านเดียว รอนก็เอาไดนาโมมือหมุนสำหรับชาร์ทแบตเตอรี่รถไปติดตั้ง จากนั้นจัดการจ้างให้คนที่ว่างงานมาปั่นไฟอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ด้วยอัตราค่าจ้าง 5 เหรียญเงินต่อแบตเตอรี่เต็ม1ลูก ก็เพียงพอที่จะทำให้มีคนมารับจ้างปั่นไฟกันเยอะแยะ รวมไปถึงพวกนักผจญภัยที่ถือโอกาสใช้เครื่องปั่นไฟนี้เป็นเครื่องออกกำลังแขนแบบได้เงินเล็กๆน้อยๆไปในตัว
เครื่องพิมพ์สามมิติที่ถูกขนข้ามโลกมา ก็นำมาติดตั้งไว้ที่โรงเรือนหลังบ้านพัก ใช้แรงงานเด็กๆในการทำงาน โดยรอนอัพราคาให้เป็น8ชั่วโมง 3 เหรียญเงิน ให้เด็กๆหรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางการเงินมาทำงานน่าเบื่อในการผลิต ‘ลูกกระสุนเวทมนตร์’ เพื่อการใช้เองในกองทหารของหมู่บ้านและเพื่อการส่งออก
เรื่องเครื่องเทศและอาหาร ที่แต่เดิมรอนเคยสนับสนุนวัตถุดิบขนเอาผักและเครื่องเทศจากโลกมาส่งให้แล้วให้ชาวบ้านทำขายนักผจญภัยเผ่าสัตว์ ตอนนี้รอนหยุดการส่งของให้แล้ว และให้ชาวบ้านพึ่งพาวัตถุดิบสดๆที่ปลูกรอบหมู่บ้าน ไร่นาที่เคยปลูกธัญพืช ถูกเปลี่ยนไปเป็นแปลงข้าวโพด GMO มะเขือ GMO และไร่เครื่องเทศ หอมกระเทียมกระเพราโหระพาขิงข่าพริกมะแข่นทอดไกลสุดลูกหูลูกตาไปหมด
คฤหาสน์บ้านพักของรอนก็สร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงทาสีเล็กๆน้อยๆ บรรดาช่างก็ย้ายออกไปทำโครงการก่อสร้างกำแพงหมู่บ้านใหม่เตรียมพร้อมกับสงครามอาจจะเกิดขึ้น
ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทาง พ่อค้า นักเดินทาง นักผจญภัยต่างเดินทางมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านโอลเซ่นพร้อมกับข่าวคราวจากภายนอก
เขตเมืองกาล่า และเมืองรอบๆคือแอมโบรเซีย ไอดาเรด แกรนนี่ อัมไพร์ ที่ได้ร่วมทำตามแผนกำจัดมอนสเตอร์ของรอน ประกาศออกมาว่าสามารถกำจัดรังมอนสเตอร์ได้หมดสิ้นแล้ว มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงพวกที่ไม่มีความฉลาดหรือพวกขนาดเล็กๆเท่านั้น
เท่ากับว่าต่อจากนี้ พ่อค้าหรือชาวบ้านธรรมดาจะสามารถเดินทางข้ามพื้นที่ได้อย่างปราศจากความกังวล และนั่นทำให้บรรดาพ่อค้าต่างรีบรุดกันมายังพื้นที่ของเมืองทั้ง5นี้
ประชาชนที่แต่เดิมไม่กล้าออกไปนอกเมืองเพราะมอนสเตอร์ มาในตอนนี้ต่างพากันไปขึ้นทะเบียนเพื่อออกเดินทางไปบุกเบิกหมู่บ้านใหม่ พื้นที่ที่เดิมรกร้างเนื่องจากมอนสเตอร์รบกวน ตอนนี้เริ่มมีหมู่บ้านใหม่ๆถือกำเนิดขึ้นมากมาย
ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทาง
รวมไปถึงที่โลกมนุษย์
“รอน ของที่สั่งไว้ได้มาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องแช่เย็น” หมอเคบอกอย่างอารมณ์ดี
“โอ้ วัคซีนคอตีบไอกรนบาดทะยักใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วพวกเข็มฉีดยา สำลี แอลกอฮอล์ ทุกอย่างพร้อมตามที่เธอสั่งไว้ว่าจะต้องเป็นของเก่าในหีบห่อที่อายุเกิน 30 วัน นี่เป็นใบส่งของและรายละเอียดทั้งหมด” หมอเคบอก “วัคซีนตั้ง 1 แสนโดสเธอจะเอาไปทำอะไรเหรอ”
“ความลับครับ” รอนตอบ “ว่าแต่ยาปฏิชีวนะล่ะครับ”
“เรื่องวัคซีนที่มีประโยชน์หมอช่วยหาของให้ได้ แต่เรื่องยาปฏิชีวนะนี่หมอช่วยเธอไม่ได้จริงๆ” หมอเคบอก “ยาปฏิชีวนะน่ะถ้าใช้ไม่สมเหตุสมผลมันจะก่อความเสียหาย จะเกิดเชื้อดื้อยาที่อันตราย ดังนั้นหมอเลยขอไม่หาให้เธอแล้วกันนะ”
“ผมเข้าใจครับ ผมก็คิดไว้แล้วว่าหมอจะบอกอย่างนี้” รอนตอบ “ตอนที่ผมไปซื้อยาจากร้านขายยาเค้าก็บอกแบบนี้เหมือนกัน”
“อือ นั่นแหละ ถึงเธอจะไปหาซื้อเอง ทุกที่ก็คงตอบกับเธอแบบนี้เหมือนกัน” หมอเคบอก
ก๊อกๆๆ
“คุณรอนครับ มีคนมาส่งของครับ” คนของบริษัทรุ่งโรจน์ซีเคียวเปิดประตูเข้ามา
“โอเคครับ ให้เค้าขนของเข้ามาตรงห้องเย็นนี้เลย” รอนบอก
แล้วรถเข็นสามคันก็ถูกเข็นเข้ามา
“นี่ค่ะ ของที่สั่งไว้ได้เรียบร้อย” หญิงที่มาส่งของบอก
“นี่ครับเงิน” รอนส่งเงินปึกนึงให้
“วิธีใช้ก็ตามในนี้นะคะ ผสมยาตามสัดส่วน ใส่เข็มฉีดยา แล้วก็ฉีดเข้าต้นส้มตามภาพนี้เลย รับรองไม่ผิดหวัง”
“โอเคครับ”
หญิงคนนั้นเดินออกไป ทิ้งให้หมอเคยืนอ้าปากค้างมองถังยา Amoxicillin ขนาด25กิโล 12ถัง
“นี่มัน”
“คือผมคิดว่าหมอเคต้องไม่หายาฆ่าเชื้อให้ผมแน่ๆ ผมเลยสั่งอะม็อกซี่ซิลลินที่เอาไว้ฉีดสวนส้มมาแทนน่ะครับ”
“….” หมอเค
ก๊อกๆๆ
“คุณรอนครับ มีคนมาส่งของครับ เห็นบอกว่ามาส่งยาสำหรับบ่อปลา” คนๆเดิมโผล่หน้ามาบอก
“ให้เข็นเข้ามาเลยครับ” รอนบอก
ถังDoxycycline และErythromycin ถูกเข็นเข้ามาอย่างละ 12 ถัง
“อ้ากกกกกกก” หมอเคทึ้งผม หมดกันการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล
“อ้อ คุณรอนครับ ข้างนอกมีของอีกชุดนึงที่เอามาส่งครับ” ลูกน้องบอก
“ห๊ะ ยังมียามากกว่านี้อีกเรอะ” หมอเคอุทาน
“ไม่ใช่ยาครับ เห็นว่าเป็นของที่คุณรอนให้พี่ใหญ่หลิวจัดหาครับ” ลูกน้องคนนั้นบอก “พี่ใหญ่สั่งว่าถ้าของมาถึงแล้วให้รีบแจ้งคุณรอนเลย เพราะว่าของมันร้อน”
“หืม?ของร้อน” รอนเลิกคิ้วอย่างสงสัยแต่ก็เดินออกไปดู ข้างนอกนั่น รถสิบล้อคันใหญ่บรรทุกลังไม้หลายสิบลังจอดอยู่ที่กลางลาน
“มันคืออะไรเหรอครับ” รอนถามคนขับรถ คนขับส่งเอกสารให้รอนอ่าน
“โล่กันกระสุน Ballistic Shield IV เกราะกันกระสุนเต็มตัวพร้อมแผ่น Ceramic Shield และหมวกกันกระสุนแบบ Level 3A หน้าไม้และลูกดอก อย่างละ 300 ชุด”
รอนอ่านเอกสารส่งของอย่างตื่นตาตื่นใจ คุณหลิวหาของได้เร็วมากจริงๆ
“ผมคิดว่าคุณรอนควรจะรีบหาที่เก็บนะครับ” ลูกน้องที่ขับรถบรรทุกบอก
“ทำไมเหรอครับ” รอนถาม
“คือตอนที่ผมขับมาผมเจอด่านตรวจ ของในนี้มันผิดกฎหมายทั้งหมด ผมก็เลยฝ่าด่านมา3ด่านกว่าจะมาถึงที่นี่”
“…” รอน
“…” หมอเค
วี้หว่อวี้หว่อวี้หว่อ เสียงไซเรนรถตำรวจดังมาแต่ไกล
“ฉิบหายแล้วตำรวจมาทำไงดีครับคุณรอน” คนขับรถถาม
รอนเอามือก่ายหน้าผาก แล้วเอ็งจะฝ่าด่านพามานี่ทำไมกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้แล้ว
“ทุกคน ช่วยกันเอารถไปขวางทางเข้าออกอย่าให้รถตำรวจเข้ามาได้ ถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด” รอนสั่งออกไป เหล่าลูกน้องของบริษัทรุ่งโรจน์ต่างวิ่งพล่านกัน แล้วรอนก็ยกโทรศัพท์ขึ้น “แพทเหรอ รอนเองนะ รีบมาที่โกดังเร็วเข้า … ใช่ ออกมาตามทางลับใต้ท่อน้ำแล้วมาโผล่ที่โกดังเลยนะ ด่วนมาก เป็นเรื่องฉุกเฉิน”
รอนวางสายก่อนจะหันไปที่ทางเข้าลานโกดังก่อนจะสะดุ้งโหยง
“เฮ้ย นั่นทำอะไรกัน”
ลูกน้องร่วมสามสี่ร้อยคนตั้งลังไม้สร้างแนวป้องกันและกำลังแจกจ่ายมีดดาบกันอยู่
“พวกเราจะสู้กับตำรวจไงครับ”
“ไอ้พวกบ้า ไม่ใช่โว้ย ให้ถ่วงเวลาเฉยๆไม่ได้ให้สู้ เก็บดาบไปให้หมด” รอนแหกปากร้องพลางปาดเหงื่อ พวกนี้ไปเอาความกาวมาจากไหนกันนะ
ตำรวจลงจากรถตำรวจแล้วกำลังพยายามจะเข้ามาหาแต่พวกคนของบริษัทพยายามยันเอาไว้ จนตำรวจโทรโข่งเข้ามา
“รถบรรทุกคันนั้นน่ะ หยุดอยู่ตรงนั้น ห้ามขนย้ายอะไรลงมาเด็ดขาด”
ตำรวจต่างมองไปที่รถบรรทุกที่หันท้ายมาทางตำรวจ ลังไม้กองเด่นเต็มหลังรถอย่างเด่นชัดน่าสงสัย
“รอน มาแล้ว” แพทกระหืดกระหอบวิ่งขึ้นมาจากอุโมงค์ระบายน้ำ
“มานี่เร็ว” รอนดึงแขนแพทไปที่ห้องเย็นและเพียงอึดใจก็วิ่งจูงแขนกันไปที่หลังรถบรรทุก รุนหลังให้ปีนขึ้นไป
“เฮ้ย สองคนที่ขึ้นไปบนรถบรรทุก หยุดเดี๋ยวนี้” ตำรวจร้องผ่านโทรโข่ง “เฮ้ยห้ามขนของลงจากรถ”
แพทเอามือแตะลังไม้ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้รอน เด็กหนุ่มคุยอะไรบางอย่างกับหมอเค จากนั้นหมอเคก็เดินไปที่แนวป้องกัน
“เฮ้ย ไอ้หน้าจืด เปิดทางเดี๋ยวนี้” ตำรวจชี้หน้าหมอเค
“ขอดูบัตรด้วยครับ”
“เอ๊ะ”
ตำรวจทั้งหมดขมวดคิ้ว นี่ก็มากันในชุดตำรวจหมดนี่นา
แต่ตำรวจก็ยื่นบัตรให้ดู หมอเคกดมือถือทำทีเป็นเช็คชื่อสักครู่หนึ่งแล้วก็โบกมือร้องบอกทุกคน
“ตำรวจจริง พวกเราถอยก่อน ให้ตำรวจเข้ามา” หมอเคบอก “เชิญครับคุณตำรวจ”
“นี่มันอะไรกันคุณ ทำไมต้องขัดขวางการตรวจค้นด้วย” หัวหน้าทีมตำรวจถาม
“ต้องขออภัยจริงๆครับ ก่อนหน้านี้ที่นี่เคยถูกคนปลอมเป็นตำรวจแล้วบุกเข้ามาก่อเหตุ ตอนนั้นที่มีคนตายหลายสิบคน คุณตำรวจน่าจะจำได้” หมอเคบอก “ตอนนั้นพวกที่เข้ามาก่อเหตุก็อ้างเป็นตำรวจเหมือนกัน”
ตำรวจที่ยืนอยู่10กว่านายค่อยๆคิดแล้วก็พยักหน้า เรื่องที่มีการก่อการร้ายและมีคนตายจำนวนมากที่นี่เป็นเรื่องที่ตำรวจพอจะรู้กัน แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดมากพอที่จะรู้ว่าหมอเคกำลังมั่วนิ่มเรื่องการปลอมเป็นตำรวจ … วันนั้นแก็งเมษามันมากันธรรมดาๆนี่แหละ
“แล้วทำไมต้องฝ่าด่าน”
“คุณตำรวจไปเปิดลังก็จะเข้าใจเองครับ”
หัวหน้าทีมตำรวจขมวดคิ้วแล้วก็ตรงไปที่รถบรรทุก ลังทั้งหมดยังวางอยู่ที่เดิม และเขาก็เห็นตลอดว่าไม่มีการขนย้ายหรือเปิดลัง จะมีก็แต่เด็กสองคนนี้ที่ปีนขึ้นไปเท่านั้น
ตำรวจใช้ชะแลงงัดเปิดฝาลัง แล้วก็พบว่าในลังนั้น …
“นี่มัน!”
“ห๊ะ นี่มัน”
ตำรวจอุทาน
“นี่มันคืออะไรกันคุณ” ตำรวจถาม
“นี่คือวัคซีนครับ” หมอเคบอก
ตำรวจเปิดลังที่เหลือทีละลังและก็พบว่าภายในลังมีแต่วัคซีน
“แล้วทำไมต้องฝ่าด่าน”
“คุณตำรวจหยิบกล่องขึ้นมาสิครับ” หมอเคบอก
ตำรวจหยิบกล่องขึ้นมาและพบว่ามันยังเย็นอยู่
“ของมันถูกขนขึ้นจากท่าเรือโดยที่เราไม่มีรถห้องเย็นไปรับ ดังนั้นคนขับก็เลยต้องบึ่งมาที่นี่เพื่อไม่ให้วัคซีนมันอุ่นจนเสื่อมสภาพ” หมอเคอธิบาย “ยังไงตอนนี้คุณตำรวจให้พวกเราเอาเข้าห้องเย็นก่อนเถอะครับ แล้วถ้าไม่เชื่อใจผมยังไงก็จะให้คนมาตรวจสอบภายในก็ได้ว่าไม่มีของแปลกปลอม”
รอนเดินไปที่ตำรวจ “นี่ครับ ใบส่งของ เป็นวัคซีนที่สั่งซื้อถูกต้องจริงๆตรวจสอบได้ครับ”
เขายื่นใบส่งของที่หมอเคเอาให้เขาดูในห้องเย็นเนียนให้ตำรวจ
“คุณตำรวจน่าจะจำคุณหมอเคได้ คุณหมอเคน่ะที่เคยออกทีวีที่ไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉีดวัคซีนในเขตสู้รบแล้วถูกผู้ก่อการร้ายจับไว้ไงครับ”
“โอ้ จริงด้วย” ตำรวจร้องขึ้น ก่อนจะนึกได้ว่าหมอเคคือหมอมีชื่อที่ปรากฎในข่าวตอนนั้น
“ถ้าอย่างนั้นวัคซีนพวกนี้ก็คือของที่คุณหมอสั่งมาสินะ”
“เร็วเข้า รีบขนเข้าห้องเย็นเร็ว เดี๋ยวของจะเสีย”
เมื่อเอกสารก็มีพร้อม ของอยู่ในลังที่ไม่ได้ถูกแตะต้องแถมยังเย็นอยู่ แถมคนที่ยืนตรงนี้ยังเป็นหมอมีชื่อและเคยไปฉีดวัคซีนในเขตสู้รบ ตำรวจก็คลายความสงสัย ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนย้ายเข้าห้องเย็น
“แต่ยังไงคราวหน้าคราวหลังก็ต้องระวังนิดนึงนะครับ พอมันเกิดเรื่องแบบนี้พวกเราก็ต้องทำรายงาน และคงจะต้องมีการส่งตำรวจมาตรวจค้นโกดังตามระเบียบ” ตำรวจแจ้ง
“ได้ครับ” หมอเคยิ้ม
ขณะที่รอนกับแพทหูผึ่ง รอนรีบดึงมือแพทไปที่โกดัง แล้วให้แพทจัดการรวบเอาปืนและเกราะกันกระสุนทั้งหมดที่ยึดมาจากพวกแก็งเมษาเก็บเข้าแหวนเก็บของต่างมิติให้หมด
“เอาไงดีรอน ของตั้งเยอะแยะจะเอาไปเก็บที่ไหนดี” แพทถาม “แล้วของในแหวนมันข้ามมิติไปด้วยไม่ได้ เราต้องหาที่ดั้มของไว้ก่อนนะ”
“ทิ้งแหวนไว้ที่โลกนี้ไม่ได้เหรอ” รอนถามกลับ
“ไม่ได้ๆ เธอลืมแล้วเหรอว่าตอนนี้ชาวบ้านกำลังสร้างกำแพงหมู่บ้าน เรานัดคุณเบรเซอร์ไว้แล้วไงว่าจะใช้แหวนในการขนอุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นที่สูง” แพทบอก
จะให้ไว้ที่บ้าน ที่ก็ไม่มี
จะเอาไปทิ้งตามที่รกร้าง ถ้ามีคนมาเจอก็เรื่องใหญ่
“เอาไงดีเอาไงดี จริงสิ นึกออกแล้ว มีที่นึงที่เก็บของพวกนี้ได้” รอนร้องออกมา “เป็นที่ที่คนของบริษัทรุ่งโรจน์ดูแลด้วย ไม่มีปัญหาแน่”