Midterm Fantasy - ตอนที่ 206
ตำรวจค่อยๆเดินทางมาและตรวจค้น การตรวจค้นเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไร ยิ่งตำรวจรู้ว่าเป็นโกดังของบริษัทรุ่งโรจน์ซีเคียวริตี้ของหลิวลี่จงก็ยิ่งสบายใจเข้าไปอีก
ความร่วมมือระหว่างแก็งรุ่งโรจน์และตำรวจเป็นเรื่องที่พวกตำรวจรู้กันดี แถมตรงนี้ก็มีคุณหมอที่ดูพูดจาน่าเชื่อถืออีกทั้งคน
“ขอค้นตรงนี้หน่อยนะครับ” ตำรวจเลิกพรมขึ้นและชี้ไปที่ช่องใต้พื้น
“อ๊ะ ตรงนั้นมัน …” ลูกน้องของบริษัทรุ่งโรจน์ร้อง
“มีอะไรเหรอครับ”
“ป เปล่าครับ”
ทุกคนเหงื่อแตกเพราะตรงที่ตำรวจกำลังค้นคือช่องลับใต้พรมที่เก็บซ่อนปืนและชุดเกราะกันกระสุนไว้
ตำรวจเปิดช่องออก ภายในมีเพียงถุงใส่เงินสดและกุญแจสำรองของโกดัง
“อ๋อ ที่เก็บเงินกับกุญแจสำรอง” ตำรวจพูดก่อนจะปิดฝาลง ขณะที่คนของบริษัทรุ่งโรจน์ในที่นั้นงงเป็นไก่ตาแตก …
ปืนหายไปตอนไหนฟะ!
ตำรวจทำการค้นไปเรื่อยๆ เปิดช่องลับและตู้เก็บปืนไป 5-6 ตู้ แต่ตู้ทั้งหมดปราศจากปืน หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยโกดังรีบเดินไปที่ลับตาแล้วโทรหารอน
“คุณรอนครับ แย่แล้วครับ” หัวหน้าทีมยามโกดังบอก
“อะไรเหรอ” รอนถาม
“ปืนหายครับ ทั้งปืนทั้งชุดเกราะ หายไปหมดเลยครับ” หัวหน้ายามพูด
“อ๋อเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ผมเอาของพวกนั้นทั้งหมดออกมาจากโกดังแล้ว กำลังเดินทางเอาไปไว้ในที่ปลอดภัย” รอนบอก “อ้อ จะว่าไปพี่หลิวล่ะรู้เรื่องหรือยัง”
“พี่ใหญ่หลิวทราบเรื่องแล้วครับ บอกว่ามีอะไรให้พวกผมรับคำสั่งโดยตรงที่คุณรอนหรือไม่ก็คุณเจนัสไปก่อนเพราะยังไม่รู้จะกลับเมื่อไหร่ครับ”
“อ้าว พี่หลิวยังไม่กลับอีกเหรอ”
“ยังครับ พี่ใหญ่บอกว่าอยู่ระหว่างติดต่อซื้ออาวุธให้คุณรอนอยู่ ของพวกนั้นควบคุมเข้มงวดมาก เลยยังต้องรอจังหวะซื้อและติดต่อทีมขนส่งอยู่ครับ” หัวหน้ายามบอก
รอนวางสายไปแบบงงๆ ของควบคุมเข้มงวดมาก? มันมีอะไรที่ควบคุมมากไปกว่าโล่กันกระสุนกับนานายุทธภัณฑ์ที่ขนมาวันนี้อีกเรอะ?
รถของบริษัทรุ่งโรจน์ขับไปถึงห้างเอิร์ธคอนเวนชั่น คนขับไปวนที่หน้าห้างส่งรอนและแพทลงรถก่อนที่จะขับออกไป
“มาที่ห้างทำไมเหรอ”
“มันมีที่ที่ใช้เก็บของได้น่ะ” รอนตอบ “เดี๋ยวเราพาไปเอง”
เด็กหนุ่มเดินพาเด็กสาวเข้าไปในห้าง เขาเดินตรงไปที่บันไดเลื่อนลงไปชั้นล่าง และเดินไปหาบันไดที่จะลงใต้ดิน …ก่อนจะเจอกำแพง
“…”
“ทำไมเหรอรอน”
“ครั้งก่อนเหมือนมีบันไดลงข้างล่างอยู่ตรงนี้ แต่ตอนนี้เค้าปิดไปแล้ว” รอนตอบ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาทางลงชั้นใต้ดินใหม่”
ผ่านไป15นาที
“รอน เราว่าไม่ใช่แล้วนะ เธอบอกจะไปชั้นใต้ดิน แต่นี่เราอยู่ชั้น4อยู่นะ” แพทบอก “ถามยามดีกว่า”
แพทเดินไปหายาม ยามซึ่งเป็นคนของบริษัทรุ่งโรจน์ทำความเคารพทันทีที่เห็นคุณหนูใหญ่แพทและคุณรอนของพวกเขา เมื่อได้ฟังความต้องการแล้วก็ยกว้อกกี้ท้อกกี้ขึ้นมา
“รอน คุณแพท” เจนัสในชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรงมา
“คุณเจนัส” แพทร้องตอบอย่างดีใจ
“มาทำอะไรกันเหรอคะ” หญิงสาวถาม
“ผมจะเอาของมาเก็บหน่อยครับ ช่วยพาไปที่โรงเก็บวัสดุหน่อยสิครับ” รอนบอก
ตอนที่บริษัทรุ่งโรจน์ซีเคียวริตี้ได้งานมาใหม่ๆ รอนมีโอกาสได้ดูแผนผังและรู้ว่าในห้างสรรพสินค้านี้มีโรงเก็บวัสดุอยู่ เป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ที่เอาไว้เก็บพวกเครื่องมือ เครื่องใช้ และวัสดุเสื้อผ้าแผ่นป้ายของห้าง เวลามีป้ายโปรโมทตามเทศกาลต่างๆก็จะเอาของที่พอจะใช้ในรอบหน้าได้มาเก็บในห้องนี้
เจนัสเดินนำเด็กหนุ่มสาวทั้งสองไปที่บันไดเลื่อนแล้วค่อยๆลงไปทีละชั้นอย่างแคล่วคล่อง เดินเลี้ยวซ้ายขวาตามมุมต่างๆอย่างไม่หลงทิศทางจนกระทั่งทั้งสามคนมาถึงจุดหมายที่ทางเดินใต้ดินผ่านห้องตำรวจประจำห้าง หญิงสาวทักทายตำรวจสูงวัยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นแล้วก็พารอนกับแพทเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่อยู่ถัดไปด้านหลัง
“คุณเจนัสนี่คล่องมากเลย ไม่เหมือนตานี่ พาหลงตลอด” แพทเอาศอกกระทุ้งสีข้างรอนเบาๆ
“คริๆ คุณแพทคะ ชั้นทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่นะคะ” เจนัสบอก “ทุกคนที่ทำงานที่นี่เองก็เหมือนกัน ต้องมีการฝึกซ้อมตลอด ทุกคืนหลังห้างปิดไฟปิดจะต้องมีการซ้อมเดินจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งให้ทุกคนชินกับการค้นหาทางเดินในห้าง”
“ตอนห้างปิด? ปิดไฟ? ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอคะ” แพทถาม
“ใช่ค่ะ เพราะถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินตอนกลางคืน หรือตอนที่ไฟฟ้าดับ พวกเราจะได้ยังทำงานได้ปกติไงคะ” เจนัสบอก “หน้าที่ของพวกเราไม่ได้มีแค่ตอนที่ห้างเปิดอย่างเดียวเสียหน่อย”
ทั้งสามคนเดินเข้าไปจนถึงด้านในสุดของโกดัง ดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ จากนั้นก็ปล่อยของทั้งหมดออกมา เสียงของที่ออกจากแหวนตุบตับกระแทกพื้นดังไปทั่ว
“โล่กับชุดเกราะกันกระสุน? นี่มันเกราะระดับ III กับ IV ระดับยุทธภัณฑ์สงครามเลยนะ”
“ใช่ครับ พอดีตอนที่ขนส่งมาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ตำรวจแห่ไปค้นที่โกดังกันจนต้องย้ายของมาที่นี่” รอนบอก “เดี๋ยวถ้าเรื่องเงียบเมื่อไหร่ผมจะให้แพทมาช่วยขนกลับครับ”
ทั้งสามคนกำลังมองตรงไปที่กองเกราะและโล่ตรงหน้า หันหลังให้ทางออก ก็พอดีกับมีเสียงกิ๊งดังขึ้นในหัว
[คุณรับรู้ได้ว่ากำลังถูกเฝ้ามอง]
รอนและแพทชะงักเบาๆก่อนที่รอนจะพูดขึ้นมา
“ยังไงฝากคุณเจนัสกำชับฝากฝังคุณตำรวจด้านนอกด้วยนะครับ ว่าไม่ให้ใครมายุ่งกับชุดคอสเพลย์ตรงนี้ งานจะจัดวันอาทิตย์หน้านี้แล้วด้วย” รอนบอก
“วันนั้นแพทก็จะมาด้วย แต่จะใส่เป็นชุดจอมเวทธีมแฟนตาซี” แพทเสริมตามน้ำ
“ธีมเกมต่อสู้ทางทหารกำลังดัง ชุดคอสเพลย์พวกนี้น่าจะมีคนชอบ” รอนบอกต่อ “ยังไงฝากบอกคุณตำรวจด้านนอกด้วยนะครับ”
เจนัสกำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีเสียงดังจากด้านหลัง
ก๊องๆๆ
ทั้งสามคนหันไปมอง เจนัสใจเต้นอย่างไม่ทันตั้งตัวขณะที่รอนกับแพทที่รู้ตัวอยู่แล้วมีสีหน้าไม่ตกใจนัก
“เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังมาจากในนี้ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ตำรวจสองนายถาม
“อ๋อ พวกเรามาดูชุดที่จะใช้ในงานคอสเพลย์น่ะครับ” รอนบอก “เป็นชุดทหารตำรวจปราบจลาจล”
ตำรวจทั้งสองนายพยักหน้า ทั้งคู่ทราบกำหนดการที่จะมีงานจัดในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
“แล้วนี่…” ตำรวจชี้ไปที่กองโล่กันกระสุนและชุดเกราะ
“ชุดคอสเพลย์น่ะค่ะ เป็นชุดที่เรายืมจากกองถ่ายจากต่างประเทศมา” แพทบอก
“โอ้ เหมือนจริงมากๆเลย” ตำรวจบอกก่อนจะเดินเข้ามา “ยังกับโล่กันกระสุนของจริงที่เคยซ้อมที่สถานีเลย”
เจนัสเหงื่อตกกลัวความแตก แต่แพทกับรอนทำท่าไม่สนใจอะไร ทั้งสองเดินไปยกโล่ที่วางซ้อนกัน10กว่าอันแล้วขนไปวางที่กำแพง
“ของพวกนี้เป็นของกองถ่ายต่างประเทศแบบเหมือนจริง ราคาแพงมาก ยังไงคุณตำรวจอย่าให้ใครเอาออกจากห้องนี้ไปนะคะ” แพทบอกขณะที่ยกโล่ด้วยมือเดียว20อันซ้อนกันท่วมหัวเดินไปมุมห้อง
ตำรวจทั้งคู่ชะงักด้วยคำว่า ราคาแพงมาก และเลิกล้มความคิดที่จะหยิบมาถือเล่น
โล่กันกระสุนจริงๆหนัก15กิโลกรัม การที่เด็กผู้หญิงถือด้วยมือเดียวได้ทีเดียว20อันมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นของเลียนแบบน้ำหนักเบาๆ
“ได้ๆ เดี๋ยวลุงดูให้” ตำรวจบอกก่อนจะเดินกลับออกไป
ส่วนเจนัสมองอย่างคันไม้คันมือ ลองหยิบโล่หนักอึ้งกับชุดเกราะขึ้นมา
“อยากลองใช้ดูเหรอครับ” รอนถาม
หญิงสาวหัวเราะก่อนจะวาง
“ก็คันไม้คันมืออยู่ แต่ไม่ดีกว่าค่ะ ใส่ออกไปแบบนี้คนตกใจหมด เอาไว้วันที่มีงานคอสเพลย์ค่อยลองใส่ดีกว่า” เจนัสกล่าว
“หรือไม่ถ้ามีก่อการร้ายจริงๆค่อยเอามาใส่ก็แล้วกัน”