Midterm Fantasy - ตอนที่ 207
ฝากของเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็เดินออกมาขึ้นสู่ชั้นบนพื้นดิน
“เดี๋ยวทั้งสองคนเปิดแอพแผนที่ดูพื้นที่ภายในตึกก็แล้วกันนะคะ” เจนัสบอก “ดาวน์โหลดมาเก็บเอาไว้ในเครื่องก่อนก็ได้ ถึงวันงานที่มาที่นี่จะได้ไม่ต้องเดินหลงอีก”
สำหรับแพทที่มีสกิลแผนที่อยู่กับตัว แอพที่ว่านั้นไม่ได้จำเป็นเลย แต่กับรอนที่ไม่มีแล้ว แผนที่ก็ช่วยได้มาก
“แต่แผนที่นี่ก็ไม่ค่อยอัพเดทเท่าไหร่นะคะ มันเป็นของปีก่อน ตอนนี้ห้างมีปรับปรุงพื้นที่ไปหลายจุดแล้วเหมือนกัน”
“โอเคครับเจนัส เอาเป็นว่าผมคงเอาไว้ใช้แบบคร่าๆก็แล้วกัน” รอนตอบ “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ รอนช่วยเจนัสไว้หลายอย่าง คนกันเองแท้ๆ อะไรช่วยได้ก็ช่วยกัน” หญิงสาวยิ้มหวาน
“จะว่าไปรอนกับคุณเจนัสดูสนิทคุ้นเคยกันมากขึ้นนะคะ” แพทพูดขึ้น “แต่ก่อนเรียกอีกฝ่ายว่า พี่-น้อง หรือคุณ เดี๋ยวนี้เรียกชื่ออย่างเดียวแล้ว”
“อ๊ะ” / “อ๊ะ”
ทั้งรอนและเจนัสสะดุ้งแว้บขึ้นทันที มันก็จริงอย่างที่แพทพูดแหละ จริงๆทั้งสองเรียกชื่อเวลาอยู่ด้วยกันสองคน แต่ต่อหน้าคนอื่นก็จะเรียกคำนำหน้าอีกฝ่ายว่าพี่ น้อง หรือคุณให้ดูไม่สนิทสนมมาก …วันนี้เผลอซะจนได้
“ฮะฮะฮะ อย่างนั้นเหรอคะ” เจนัสหัวเราะกลบเกลื่อนเต็มที่
“สงสัยเจอหน้าที่ร้านอาม่ากันบ่อยมั้ง ก็เลยชิน” รอนหัวเราะกลบเกลื่อน
ทั้งสามคนเดินมาจนถึงที่หน้าศูนย์รักษาความปลอดภัยเตรียมกลับ เจนกับแจนมาเปลี่ยนเวรพอดี
“อ้าว คุณรอน คุณแพท สวัสดีค่ะ” แจนทัก
“มาทำอะไรเหรอคะ” เจนถาม
“เอาของมาฝากเก็บไว้ที่ห้างชั่วคราวครับ” รอนตอบ “คุณเจนกับคุณแจนอยู่เวรวันนี้เหรอครับ”
“ค่ะ มาผลัดเวรกับพี่เจนัส” เจนตอบ “เดี๋ยวให้พี่เจนัสกลับไปอยู่กับอาม่าต่อ”
“อืม รอน แต่กับสองคนนี้นายก็ใช้คำว่าคุณนี่นา” แพทถามขึ้น
“…” รอน
“…” เจนัส
แจนมองหน้าทั้งสามคนแล้วก็หรี่ตาลอบยิ้มเบาๆก่อนจะเอ่ยปากออกไป
“อ้อ แจนเพิ่งนึกได้ วันเชงเม้งอาม่าชวนพวกเราสามคนไปช่วยปัดกวาดที่สุสาน แต่เห็นว่าก่อนหน้านั้นวันนึงอาม่าจะไปซื้อของไหว้ นี่ยังไม่รู้เลยว่าใครเข้าเวรแล้วใครจะไปเป็นเพื่อนอาม่าได้” แจนพูดขึ้นลอยๆ “ตารางเวรไม่รู้อยู่ไหนแล้ว”
“อ๋อ ก่อนวันเชงเม้งเป็นวันศุกร์ วันศุกร์นี้คุณเจนัสไม่ได้ขึ้นเวรที่นี่ครับ” รอนตอบทันควัน
กิ้ง!
[It’s a trap!]
ข้อความขึ้นที่หน้าจอด้านขวา แต่ช้าไปเสียแล้ว
“อืม แต่แผ่นตารางเวรก็แปะอยู่ที่หน้าห้องยามรักษาความปลอดภัยนี้ไม่ใช่เหรอคะ” แพทเอ่ยช้าๆ “ตะกี้ตอนที่คุณแจนจ้องไปที่แผ่นนี้ตอนที่ถามออกมา นึกว่าเห็นแล้วเสียอีก”
“อ๋อ เพิ่งเห็นน่ะค่ะ” แจนยิ้ม “ที่จริงตารางมันก็เยอะหลายวันด้วย พอดีพวกเราไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ก็เลยจำไม่ค่อยได้”
“แจน! คุณรอนคุณแพทเค้ามีธุระต้องไปต่อ อย่าเพิ่งชวนคุยอะไรกันตอนนี้เลย” เจนัสบอก “ขอโทษด้วยนะคะคุณรอนคุณแพท”
“ค ค ครับๆ” รอนตอบ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เจนัส” แพทตอบ
โดยไม่รอคำตอบ แพทเดินออกจากหน้าห้องรักษาความปลอดภัยโดยมีรอนตามออกไป เจนัสยกมือโบกบ๊ายบายอย่างเคยชินก่อนที่จะค่อยๆหดมือลง
“เจน แจน ทำอะไรของเราเนี่ย” หญิงสาวดุรุ่นน้อง “เดี๋ยวแฟนคุณรอนก็เข้าใจผิดหรอก”
“เข้าใจผิดอะไรเหรอพี่เจนัส” แจนถามลอยหน้าลอยตา
“ก็เข้าใจผิดว่า ….” เจนัสหยุดเมื่อพูดถึงตรงนี้
“เห็นไหมล่ะ พี่เจนัสเองก็รู้อยู่ว่ามันคือเรื่องจริง มันไม่ใช่ความเข้าใจผิด” แจนบอก “หมอนั่นน่ะใส่ใจในรายละเอียดของพี่เป็นพิเศษแค่ไหน แล้วพี่เองรู้สึกยังไงกับนายบื้อนั่นอย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้นะ”
“แล้วต่อให้สองคนนั้นเป็นแฟน แต่พี่เจนัสกับนายรอนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ พวกเราเห็นแต่พี่กับนายนั่นเอาแต่กั๊กกันไปกันมา” เจนพูด “ถ้าสองคนนั่นแต่งงานกันแล้วพี่ไปวางแผนแย่งมามันก็ว่าไปอย่าง”
“ต ต ต ต แต่พี่อายุเยอะกว่ารอนตั้ง 10 ปีนะ” เจนัสบอก
“ยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะว่าตัวเองคิดยังไงอยู่” แจนยิ้ม
“อายุเยอะกว่าน่ะก็ใช่ แต่พี่เจนัสก็เคยเล่าให้ฟังไม่ใช่เหรอ ว่าเคยคุยกับรอนเรื่องความรักต่างวัยตั้ง2ครั้ง ทั้ง2ครั้งรอนก็ตอบเหมือนเดิมว่าเรื่องอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ” เจนย้ำ “แล้วตอนที่พี่เจนัสเล่าให้พวกเราฟังน่ะ พี่เจนัสรู้ไหมว่าพี่ทำหน้ายังไง พี่ทั้งยิ้ม แก้มแดงเรื่อ ใบหน้ามีแต่ความสุข”
“พอแล้ว บ้า บ้า บ้า” หญิงสาววิ่งไล่ทุบรุ่นน้อง
“เอาแหละ พวกเรารู้แหละว่าพี่เจนัสไม่ใช่คนที่มีนิสัยแย่งของๆใคร แจนก็แค่หาทางทำให้ทุกฝ่ายรู้ตัวก็เท่านั้น” แจนบอกพลางวิ่งหนีพลาง “ถ้าสองคนนั่นจะโกรธกันก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าจะโทษน่ะก็ต้องโทษนายรอนที่ทำอะไรไม่ชัดเจนเอง”
รอนและแพทเดินออกจากห้างไปขึ้นรถไฟฟ้า ทั้งสองยืนอยู่บนนั้นโดยไม่พูดอะไร รถไฟฟ้าวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งผ่านหัวโค้ง ผ่านตึกรูปหุ่นยนต์ แพทมองหน้ารอนโดยไม่พูดอะไร
รถไฟฟ้าจอดที่สถานี รอนลงจากรถหันมองกลับไป แพทหันกลับมองทางอื่นจนประตูปิด แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป
แพทหันกลับไปมองรอนที่กำลังเดินออกจากสถานีแล้วถอนหายใจเบาๆ
“ทำไมเธอไม่ทำอะไรให้มันชัดเจนไปเลยนะ จะเอายังไงก็ตัดสินใจออกมาสักอย่างสิรอน”
รอนเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้า ผ่านโบสถ์และโรงพยาบาล ก่อนจะเดินเข้าซอยไป เขาเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงบ้าน
“กลับมาแล้วครับ” เด็กหนุ่มถอดรองเท้าและเดินเข้าไปในบ้าน พ่อกับแม่กำลังนั่งคัดแยกเอกสารอยู่
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ” รอนถาม
“กำลังเตรียมเอกสารเรื่องภาษีน่ะ” พ่อตอบ
“เอ๊ะ เห็นพ่อบอกว่าส่งไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ แต่ว่าทางนั้นส่งจดหมายมา บอกให้พ่อส่งเอกสารไปใหม่ แล้วก็ขอตรวจเอกสารย้อนหลัง5ปี” พ่อบอกอย่างหงุดหงิด “นี่ยังดีนะที่พ่อเก็บทุกอย่างไว้ ไม่งั้นวุ่นวายแน่นอน”
“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมจู่ๆถึงขอตรวจขึ้นมา”
“ก็ปีนี้พ่อเค้าดันซื้อLTF RMF เต็มจำนวนน่ะ” แม่ตอบ “ทางนั้นไม่รู้สงสัยอะไรของเค้า เลยขอตรวจเอกสารภาษีของทั้งพ่อและแม่แบบย้อนหลัง5ปีเลย แต่ก็แปลกนะ บ้านเราไม่ได้มีเงินเยอะแบบนั้น พ่อกับแม่ก็นึกไม่ออกว่าเอาเงินไปซื้อตอนไหนด้วยสินี่ยังงงๆอยู่เลย”
“โอ้” รอนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าทุกปีพ่อซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีไว้ไม่เยอะ ถ้าปีนี้ซื้อเพิ่มแบบผิดหูผิดตาขึ้นมาคนก็ต้องสงสัย
“คงไม่มีอะไรมั้งครับคุณพ่อคุณแม่” รอนบอก
“ขอให้เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน” พ่อบ่นเบาๆ “อ้อ เชงเม้งปีนี้ลูกไปด้วยใช่ไหม”
“ไปครับพ่อ”
“ดีแล้วๆ ตระกูลของทางพ่อก็เหลือแต่พวกเราแค่นี้ ลูกเป็นผู้ชายคนสุดท้ายของตระกูลก็ควรจะต้องไป” พ่อบอก “นี่ถ้าพี่ชายพ่อยังอยู่ก็คงดี จะได้ไม่เงียบเหงาแบบนี้”
“คุณลุง?” แล้วรอนก็นึกได้ เขาหันไปมองที่กลุ่มรูปถ่ายที่วางอยู่ นอกจากรูปอากงอาม่า รูปพ่อแม่และตัวเขา มีอยู่รูปหนึ่งที่เป็นรูปของสองครอบครัว
รูปครอบครัวของเขาตอนที่เขายังแบเบาะ ถ่ายร่วมกับครอบครัวของลุงที่มีลูกสาวอายุประมาณ10ขวบ
“ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเศร้า พี่ใหญ่พี่สะใภ้เสียไปเป็นสิบๆปีแล้ว แต่ก็ยังไม่พบศพหลานเดือน” พ่อพูดแบบเศร้าๆ
“คุณก็อย่าคิดมากเลยค่ะ โอกาสมันน้อยมากอยู่แล้ว ตอนนั้นตำรวจยังบอกเลยว่าพวกเรายังโชคดีที่ได้ศพของพี่ทั้งสองกลับมา คนที่ถูกแก็งใต้ดินจับตัวไปแบบนั้นส่วนใหญ่หายสาปสูญไปไม่รู้เป็นตายด้วยซ้ำ” แม่พูด
รอนเดินเข้าไปดูรูปถ่าย เขาจำครอบครัวของลุงป้าไม่ได้เลยเพราะทั้งครอบครัวนั้นย้ายไปต่างประเทศตั้งแต่เขายังจำความไม่ได้ รูปถ่ายนี้เป็นรูปถ่ายสุดท้ายก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานพ่อจะได้ข่าวว่าคุณลุงและครอบครัวถูกแก็งใต้ดินที่จ้องจับชาวต่างชาติลักพาตัวไป
รอนไล่สายตาดูภาพลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงที่อายุ10ขวบ ดูหน้าคุณลุงที่เขาจำหน้าไม่ได้ จากนั้นเลื่อนสายตาไปที่หน้าป้าสะใภ้
“หืมมมมมม”
แล้วรอนก็ลืมตาโตอย่างงุนงง
ทำไมเขาเหมือนเคยเห็นหน้าคุณป้าสะใภ้มาก่อนล่ะ !