Midterm Fantasy - ตอนที่ 211
หญิงสาวจัดเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเตรียมออกจากร้านชำ ท่าทางและแววตาไม่สดใสเหมือนเคย ความรู้สึกเนือยๆ ไม่อยากคิดไม่อยากทำอะไร ดูแตกต่างไปจากทุกวัน
“หนูไปทำงานก่อนนะคะอาม่า” หญิงสาวยกมือไหว้
“ไปเถอะ เดินทางดีๆ อย่าคิดอะไรมาก” อาม่าดึงตัวเข้ามากอดแล้วก็ตบหลังเบาๆ
เจนัสเดินออกจากบ้านไป ขึ้นสองแถวเพื่อไปต่อรถไฟฟ้าไปที่ทำงาน อาม่าเดินกลับเข้ามาในร้าน แล้วเสียงใสๆก็ดังมาจากหน้าร้าน
“อาม่าคะ เก๊กฮวยแก้วนึงนะคะ”
ผู้กองเฌอมาลย์เปิดตู้แช่หยิบเอาน้ำสีเหลืองใสออกมาดื่มอย่างรวดเร็ว
“วันนี้วันอาทิตย์ ต้องไปทำงานเหรอรึอาซู่ฮัว” อาม่าถาม
“แหม อาม่าคะ หนูเป็นตำรวจนะคะ ก็ต้องอยู่เวรมั่งสิ” ผู้กองเฌอมาลย์ตอบ “แล้วสาวๆล่ะคะ”
“อาเจนัสไปทำงานน่ะ ส่วนอีกสองคนวันนี้พักอยู่ช่วยงานที่บ้าน” อาม่าตอบ
“แล้วก็ … ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหมคะอาม่า” ผู้กองสาวถามอ้อมๆ ยังไงสามสาวนั่นก็เคยเป็นมือปืนของแก๊งใหญ่มาก่อน
“โอเคดีไม่มีอะไร” อาม่าตอบ
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังมาจากในครัว
“ก็นั่นแหละ ไม่มีอะไรตามเรื่องตามราว”
“ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะคะอาม่า”
อาม่าเดินกลับเข้าไปในครัว
“มีอะไรแตกเหรออาเจนอาแจน”
“ขอโทษค่ะอาม่า หนูทำแก้วตกแตกน่ะค่ะ” เจนบอก “แย่แน่ๆ แก้วใบโปรดของพี่เจนัสซะด้วย”
หญิงสาวก้มลงเก็บเศษแก้วขึ้นมา แล้วสะโพกก็ไปโดนชั้นวางจานด้านหลัง
เพล้ง!
“ว๊าย ยัยเจน จานของพี่เจนัสแตก ซุ่มซ่ามอะไรอย่างนี้” แจนร้องก่อนที่จะทำท่าไม่สบายใจ “ทั้งจานทั้งแก้วตกแตกแบบนี้นี่มันใจคอไม่ดีเลย”
“ซี๊ซั๊วต่า อย่าพูดอะไรแบบนั้นน่า” อาม่าบอกโบกมือไปมา
เจนัสไปถึงห้างเอิร์ธคอนเวนชั่น เธอเข้าไปในห้าง ทักทายยามที่ทำความเคารพตลอดทางก่อนจะลงไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อเปลี่ยนชุด
ในเวลาไม่นานห้างก็เปิด คนทยอยเข้าห้างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่แยกเป็นสองกลุ่มตามงานที่จัดในวันนี้ งานแรกคืองานคอสเพลย์ที่ชั้นบนสุด อีกงานคืองานอีเวนท์เกมออนไลน์ที่ชั้นหนึ่งด้านล่าง
“ที่จริงไม่เห็นต้องแต่งตัวแบบนี้มาเลยนี่นา” แพทบ่น
“ได้ยังไงเล่า ก็ตอนนั้นดันแก้ตัวกับพ่อแม่เธอแบบนี้ไปแล้วนี่” รอนบอก “เมื่อเช้าพ่อเธอยังถามเลยไม่ใช่เหรอว่าทำไมยังไม่แต่งตัว”
แพทบ่นอุบนิดๆ ความที่อยากปิดบังไม่ให้คนที่บ้านรู้ว่าใช้เวทมนตร์ได้ทำให้เธอต้องพยายามปิดบังให้มากที่สุด แม้แต่เรื่องที่รู้คุณสมบัติของชุดนักบวชจอมเวทนี้ก็ให้รู้ไม่ได้
รอนเองก็เสียวๆอยู่ว่า ถ้าหากแพทรู้ความจริงว่าอันที่จริงทุกคนในบ้านของเธอรู้กันหมดแล้วว่าเธอใช้เวทมนตร์ได้ แพทจะหันมาเล่นงานเขาไหมที่ปิดบังจนทำให้เรื่องยุ่งยากเกินจำเป็น
อันที่จริงตอนนี้มันก็มึนพอสมควรแล้ว
เขารู้ว่าพ่อและแม่ของแพทคือคนจากโลกโน้น
พ่อแม่ของแพทรู้ว่าเขาข้ามมิติไปโลกโน้นได้ รู้ว่าแพทใช้เวทมนตร์ได้ แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าแพทข้ามไปโลกโน้นได้
ส่วนแพท ไม่รู้ว่าพ่อแม่รู้แล้วว่าเธอใช้เวทมนตร์ได้ และไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอมาจากโลกโน้น
แต่ไม่ว่าจะยังไง รอนก็คิดว่าห้ามไม่ให้พ่อกับแม่แพทรู้เด็ดขาดว่าลูกสาวสุดหวงของพวกเขาน่ะข้ามโลกไปเสี่ยงอันตรายที่ฝั่งโน้นเรียบร้อยแล้ว
“คุณแพท คุณรอน” เจนัสร้องเรียกโบกมือทัก วันนี้เธอใส่ชุดยามโดยสวมเสื้อกั๊กสีแดงทับ ทีมสีแดงของเธอทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในงานคอสเพลย์ที่ชั้นบนสุด
“คุณเจนัส” แพทยกมือทักทายก่อนจะเดินเข้าไปหา แต่ไม่ทันกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงที่เข้าไปหาเจนัสและรุมถ่ายเซลฟี่ด้วย
“นี่ตัวเองคอสเป็นแคลร์เหรอ”
“เสื้อผ้านี่ซื้อจากไหนน่ะ ทำไมเหมือนของจริงจัง กุญแจมือนี่ด้วย”
เด็กๆรุมถาม
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คือชั้นเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นี่ค่ะ” เจนัสตอบ พวกเด็กๆมองหน้ากันเอ๋อๆก่อนจะถอยออกไป
“แคลร์ไหนอะไรกันคะ” หญิงสาวถามงงๆ
“พวกนั้นน่าจะนึกว่าคุณเจนัสคอสเป็นแคลร์จากเรสิเด้นท์อีวิวน่ะครับ” รอนบอก “ว่าแต่วันนี้ใส่เสื้อกั๊กแดงเสียด้วย”
“วันนี้ทีมสีแดงจะดูแลพื้นที่ข้างบนค่ะ ส่วนทีมสีเหลืองจะดูแลชั้นล่างสุดที่แข่งเกมออนไลน์กัน” เจนัสตอบ
“เกมออนไลน์!” รอนเอ่ยตามตาเป็นประกาย ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาของแพท
“นายอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวชั้นจะเตร่อยู่แถวนี้ สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ค่อยกลับ” แพทไล่รอน ตามองไปที่เจนัสที่ยืนอยู่ข้างๆ … วันนี้เธอต้องคุยกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้
“น้องรอนลงไปข้างล่างเถอะค่ะ ข้างล่างน่าจะเริ่มแข่งเกมออนไลน์กันแล้ว” เจนัสบอก
“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะ” รอนโบกมือลาสองสาวทันที เจนัสมองตามไป ที่คอของเด็กหนุ่มมีสร้อยผลึกห้อยอยู่ เป็นแบบเดียวกับสร้อยที่ห้อยคอของแพทอยู่ในตอนนี้ไม่มีผิด ยิ่งมองแล้วก็รู้สึกแปลกๆจนต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
รอนวิ่งลับตาไปแล้ว เจนัสและแพทก็หันหน้าเข้าหากันและเอ่ยปากออกมา
“คุณแพท” “คุณเจนัส”
ทั้งคู่เรียกอีกฝ่ายออกมาพร้อมกันจนต่างฝ่ายต่างลืมตาโต
“เอ่อ แพทมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณแค่สองคนค่ะ”
“บังเอิญจริง ชั้นก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน” เจนัสบอก “เชิญทางนี้ดีกว่าค่ะ”
หญิงสาวเดินพาแพทไปอีกด้านหนึ่ง ระหว่างทางก็ทักบรรดา “ยาม” ประจำชั้นนี้ไปด้วย
“ยาม” ที่ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดกันกระสุนแบบคลุมทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดหน้าแข้ง ห้อยสะพายหน้าไม้ทหาร โดยมีโล่กันกระสุนตั้งข้างลำตัว
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะวันก่อนรอนดันไปหลอกตำรวจที่เฝ้าห้องเก็บวัสดุว่าจะใช้ชุดเหล่านี้ในงานคอสเพลย์ ดังนั้นเมื่อตำรวจไม่เห็นว่าใครไปหยิบชุดเลยก็เลยตกใจ ตอนที่เจนัสมาถึงห้าง คุณตำรวจถึงกับรีบวอ.เตือนเธอทันที
ความโชคร้ายเลยมาตกกับทีมสีแดงของเธอร่วมร้อยคน ที่ต้องแห่กันลงไปเอาชุดกันกระสุนแสนหนักมาสวมใส่ ยังดีว่ากลุ่มนี้คือกลุ่มที่เฝ้างานคอสเพลย์ เลยไม่ทำให้ดูผิดปกติอะไร
“เอาล่ะค่ะ พวกเราอยู่กันแค่สองคนแล้ว” แพทบอก “เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ”
แล้วเจนัสก็นั่งลงที่ข้างแพท และเริ่มพูดสิ่งที่รบกวนจิตใจของเธออยู่ทั้งคืนออกไป
ที่ชั้นหนึ่ง ยามรักษาความปลอดภัยของบริษัทรุ่งโรจน์กำลังตรวจค้นกระเป๋าของผู้มาเที่ยวห้าง คนที่มาเดินห้างไปจนถึงนักท่องเที่ยวที่มีกระเป๋า ต่างต้องเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะและเปิดกระเป๋าให้ยามส่องไฟ
ปี๊บๆๆๆ
“ขอตรวจค้นกระเป๋าด้วยครับ” ยามพูดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สะพายเป้ นักท่องเที่ยวรูดซิปเปิดกระเป๋า ไฟฉายถูกส่องวูบเดียวก่อนจะโบกมือให้ผ่านไปโดยง่าย
นักท่องเที่ยวคนนั้นเดินไปแล้ว โดยไม่ทันเห็นว่ายามคนดังกล่าวใช้มือกดปุ่มที่ใต้เข็มขัด
“อีกแล้วเหรอ คราวนี้คนไหนอีก”
ยามที่นั่งหน้าจอบ่น
“ผู้ชายชาวจีนเสื้อสีฟ้าสะพายเป้” ยามอีกคนชี้วงจรปิด “กำลังจะเดินผ่านเครื่องแล้ว เตรียมสแกนได้”
วันนี้เป็นวันที่มีงานคอสเพลย์ เพื่อป้องกันความผิดพลาดเลยมีการวางระบบ หากใครที่พกของคล้ายปืนมาก็จะต้องถูกแอบสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์อาวุธที่จะส่งภาพไปที่ห้องลับ (แน่นอนว่าการแอบใช้เครื่องแบบนี้มันผิดกฎหมาย ดังนั้นมันจึงถูกทำแบบลับๆโดยบริษัทรุ่งโรจน์ซีเคียว) ซึ่งตั้งแต่เช้ามามีแต่พวกที่ขนปืนปลอมคอสเพลย์ทั้งนั้น
ชายชาวจีนคนนั้นเดินผ่านช่องตรวจ ยามกดถ่ายเอกซเรย์
“เฮ้ย นั่นมัน!”
ปืนจู่โจมแบบพับฐานซ่อนอยู่ในกระเป๋าพร้อมเครื่องกระสุน
“ฉิบหายแล้ว ประกาศโค้ดเร็วเข้า”
ตุ่งตุงตุ่งตุ๊ง
“คุณอาร์ม016 โปรดรายงานตัวที่แผนกรักษาความปลอดภัย”
“ขอย้ำ คุณอาร์ม016 โปรดรายงานตัวที่แผนกรักษาความปลอดภัย”
ยามที่หน้าจอทั้งสองคนปาดเหงื่อมือเย็น ขณะที่ไฟสัญญาณดังขึ้นอีก เขามองไปที่จอ ถึงจะมีสถานการณ์แต่พวกเขาก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป
ทั้งคู่กดสแกน
“เฮ้ย ฉิบหายแล้ว”
ชายชาวจีนคนที่สองเดินเข้าไปพร้อมกับปืนจู่โจมพร้อมเครื่องกระสุน
“รีบประกาศโค้ดเร็วเข้….”
ไฟแดงและสัญญาณบอกให้สแกนกลุ่มชาวจีนที่เดินมาอีก5คน ยามทั้งสองมองหน้ากันกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ก่อนจะกดสแกน
ทั้งคู่เงียบกริบมองหน้ากันมือเย็นเฉียบ
ตุ่งตุงตุ่งตุ๊ง
“คุณอาร์ม016และผู้จัดการแผนก โปรดรายงานตัวที่แผนกรักษาความปลอดภัย ขอย้ำ คุณอาร์ม016และผู้จัดการแผนก โปรดรายงานตัวที่แผนกรักษาความปลอดภัย”
“คุณป้อมปราการ กรุณาประจำที่ของท่าน ขอย้ำ….”
“คุณป้อมปราการ กรุณาประจำที่ของท่าน”