Midterm Fantasy - ตอนที่ 215
รอนวิ่งลัดเลาะไปตามร้านค้าชั้นล่าง โดยมีมือปืนของแก็งเมษาไล่ตามอย่าง … มึนงง
จะไม่ให้มีนงงและโมโหได้ยังไง เพราะพวกมันไม่คิดว่าการไล่ตามคนๆเดียวจะยากขนาดนี้
ตามปกติ พวกมันก็แค่วิ่งตามเป้าหมาย จากนั้นก็ใช้กำลังที่มากกว่าส่งคนกระจายไปตามเส้นทาง จากนั้นก็ล้อมหน้าล้อมหลังแล้วสังหารซะ
แต่สำหรับครั้งนี้ เมื่อพวกมันวิ่งกระจายกำลังเพื่อกะว่าจะล้อมหลังอีกฝ่าย ก็ต้องพบว่า
“โอ้ว ชิท ทางตัน”
“บ้าจริง ทำไมพวกเราย้อนกลับไปทางเก่าได้”
พวกมันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอาคารแห่งนี้ถึงได้มีแผนผังที่ประหลาดแบบนี้ พวกมันไม่สามารถใช้สามัญสำนึกในการเคลื่อนกำลังได้เลย
และที่พวกมันไม่เข้าใจที่สุดคือ มือปืนทั้งหมดที่ร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ได้ศึกษาแผนที่ของห้างอย่างละเอียดแล้ว ทำไมเส้นทางมันถึงไม่เหมือนที่อ่านมาได้
“แย่แล้ว เจ้าเด็กนั่นหายไปไหนแล้ว”
มือปืนของแก๊งเมษากำหมัดชูขึ้นอย่างโกรธแค้น พวกมันตามเจ้าหนุ่มนี่มาเป็นสิบนาทีเพื่อจะพบว่าอีกฝ่ายหลบหนีได้อย่างงั้นเรอะ
ปัง ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนดังมากลางห้างตามด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวก
“หนอย มันล่อพวกเราให้มาผิดทาง เจ้านี่มันชำนาญพื้นที่ พวกเราระวังมันไว้ให้มาก”
แล้วมือปืนก็หันกลับแล้ววิ่งไปทางเสียงปืน
ที่บันไดเลื่อน รอนยิงต่อสู้กับมือปืนที่เฝ้าบันไดเลื่อนจนหมด ก่อนจะก้มมองแผนที่ในมือถืออย่างเซ็งๆ
ห้างเอิร์ธคอนเวนชั่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความซับซ้อนที่ทำให้คนเดินหลงมามากมายจนกระทั่งแอพแผนที่ชั้นนำยังต้องทำแผนที่ภายในห้างเอาไว้ เขาเองก็โหลดแผนที่มาเก็บไว้ก่อนแล้ว และแม้สัญญาณมือถือจะล่ม แต่เขาก็ยังใช้ระบบ GPS กับแผนที่ได้
ปัญหาคือ แผนที่มันไม่ตรง จนเขาหลงวนกลับมาที่เดิมจนได้
“มันอยู่นั่น”
“หนอย หยุดนะแก”
เสียงดังมาจากด้านหลัง รอนจัดการแย่งกระสุนและปืนจากศพของมือปืนจากนั้นวิ่งหนีขึ้นบันไดเลื่อนไปทันที เขาวิ่งไปได้ครู่เดียว ที่ด้านหน้าก็มีเสียงการต่อสู้กันอยู่
แท็ดๆๆๆๆๆๆๆ
มือปืนของแก๊งเมษายิงต่อสู้กับกลุ่มยามอยู่ พวกมันคิดว่าที่บันไดเลื่อนมีคนของมันเฝ้าอยู่แล้วจึงไม่สังเกตว่ารอนเคลื่อนมาจากด้านหลัง เด็กหนุ่มไม่รอช้าวิ่งเข้าหาแล้วประเคนหมัดเข้าใส่ หมัดที่มีพลัง100กิโลอัดเข้าที่ร่างของมือปืนที่ไม่ทันระวังทีละคน
“ไอ้พวกมือปืน ยิงมาเซ่ เข้ามาเลย”
“พวกแกมีปืน แต่สู้พวกเราที่มีแต่หน้าไม้ไม่ได้ อ่อนมากเจ้าลูกหมา”
เหล่ายามต่างเปิดโล่กันกระสุนแล้วร้องยั่วท้าทายเป็นระยะ ทุกคนเห็นว่ารอนเคลื่อนเข้ามาเบื้องหลังมือปืนพวกนั้น เลยตั้งใจดึงดูดความสนใจซึ่งก็ได้ผล มือปืน 20 กว่าคนนอนแน่นิ่งไม่รู้เป็นตายหลังจากเจอหมัด100กิโลของรอนเข้าไป
“ทุกคน” รอนร้อง
“ท่านประธาน” เหล่ายามร้องอย่างดีใจ
“ข้างหลังผมมีพวกมันตามมา” รอนร้องเสียงหลงก่อนจะกระโดดหมอบไปตามพื้น ไถลร่างเข้าไปตามพื้นก่อนที่ร่างนับสิบของมือปืนจากชั้นหนึ่งจะวิ่งขึ้นมา กราดกระสุนในมือเข้าใส่
แท็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เจี๊ยกกกกก” เหล่ายามร้องพร้อมๆกันและตั้งโล่กันกระสุนเป็นแนวเอาไว้ เสียงกระสุนกระแทกโล่เป็นระยะๆ
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง”รอนถาม “ทำไมพวกเราเหลือแค่นี้”
“ทีมเหลืองของพวกเราอพยพคนบนชั้นสองทั้งหมดขึ้นไปชั้นบนแล้วครับ เหลือแต่พวกเรา30คนที่ติดอยู่ที่ชั้นนี้” รองหัวหน้าทีมเหลืองบอก
“ทางขึ้นชั้น3ล่ะ” รอนถาม
“ที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงโน้นครับ หรือไม่ก็ไปจนสุดทางเดินโน่นก็จะมีบันไดเลื่อนอีกชุดนึง” รองหัวหน้าทีมเหลืองบอก
“โอเค งั้นผมจะล่อพวกมันไป พวกนายกะจังหวะ พอพวกมันไปกันแล้วก็ค่อยออกไป” รอนบอกก่อนจะหยิบม้วนเวทขึ้นมา จากนั้นใช้ผลึกมอนสเตอร์กระตุ้น
“<Swift>”
“คุณรอน!” รองหัวหน้าทีมเหลือร้องเรียกแต่ไม่ทันแล้ว รอนพุ่งออกจากแนวป้องกัน วิ่งเลาะขอบกำแพงด้านข้างไป
แท็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“บ้าน่า ทำไมมันวิ่งเร็วแบบนี้”
“ตาย ตาย ตาย เฮ้ย”
รอนวิ่งหักมุมแล้วพุ่งเข้าใส่กลุ่มมือปืนอย่างกระทันหันจนพวกมันหันปืนกลับมาไม่ทัน ใช้เส้นทางกระสุนที่มองเห็นด้วย System หลบกระสุนที่ยิงเข้ามา จากนั้นกรีดดาบเข้าใส่
ปึด ปึด ปึด.
ไม่มีเสียงร้องใดๆจากศีรษะสามลูกที่หล่นลงสู่พื้น เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะพุ่งตัววิ่งหนีไปอีกด้าน
“อย่าหนีไปไหน ตายซะ”
ก๊อง
เสียงโลหะกระทบพื้นจนมือปืนหันมองตาม อะไรบางอย่างตกอยู่ที่พื้นรูปร่างคุ้นเคยจนพวกมันเอามือคลำที่เอว
ระเบิดที่เอวหายไป!
ยังไม่ทันจะคิดว่าระเบิดหายไปไหน ประกายไฟและสะเก็ดระเบิดจากระเบิด2ลูกก็กระแทกร่างของพวกมันไปคนละทิศละทาง มือปืนที่เหลืออยู่วิ่งไล่ตามรอนไปอีกด้านโดยไม่สนใจเหล่ายามในชุดเกราะ
“พวกเราเร็วเข้า ขึ้นชั้น3เร็วเข้า” รองหัวหน้าทีมเหลืองสั่งทันที
ขณะเดียวกันที่ชั้น5 ผู้คนจำนวนมากนั่งหลบรวมกันอย่างประหวั่นพรั่นพรึง คนในห้างร่วมพันกว่าคนขึ้นมาติดอยู่ที่ชั้น5อย่างไม่มีทางไป ที่ชั้นบนนี้ เจนัสทำลายทางเข้าออกและทางขึ้นมาชั้นนี้ทั้งหมด เหลือเพียงบันไดตรงหน้านี่เท่านั้น
หญิงสาวบัญชาการต่อสู้อย่างเข้มแข็ง สภาพบันไดที่ต้องเดินวนขึ้นมาทำให้คนที่ตั้งแนวรับอยู่ด้านบนได้เปรียบ ปืนส่วนใหญ่ของมือปืนเป็นปืนกลเบาที่ใช้กระสุน 9 มม. ส่วนน้อยที่เป็นปืนจู่โจมอัตโนมัติ ทำให้เกราะและโล่ที่มีป้องกันได้พอสมควร
แต่ความสูญเสียก็มีอยู่
เจนัสในตอนนี้ใส่ชุดเกราะและหน้ากากกันกระสุนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ต่างไปคือหน้ากากที่เธอใส่นั้นเปื้อนเลือดและเศษสมอง เนื่องจากเจ้าของเดิมถูกยิงเข้าทางช่องมองและตายไปแล้ว
“พวกมันบุกมาอีกแล้ว”
“เทข้าวโพดลงไป”
ซ่าๆๆๆๆๆๆ
ข้าวโพดจากชั้นโรงหนังถูกเทลงไปที่บันได มือปืนที่วิ่งขึ้นมาเสียหลักล้มลงก่อนจะเจอระดมยิงด้วยหน้าไม้ ยามที่อยู่แนวหน้าเคลื่อนตัวลงไป ตั้งโล่ต้านรับการโจมตีจากมือปืนที่อยู่ด้านล่าง รีบปลดอาวุธจากศพ แล้วถอยกลับขึ้นมา
“ระวัง ระเบิ..”
ตูม
“อาเห่า”
“อาโก่ว”
“ตั้งแนวไว้ แจกจ่ายปืน คนที่เหลืออยู่ระวังการโจมตีระลอกถัดไป” เจนัสสั่งทันทีที่เห็นว่าลูกน้องตรงหน้าหลายคนเตรียมจะลงไปช่วย แต่เธอมองปราดเดียวก็รู้ว่าร่างของยามทั้งสองคนนอนจมกองเลือดอยู่ด้านล่างนั้นปราศจากชีวิตไม่มีทางรอดแล้ว
เธอให้รองหัวหน้าทีมสีแดงของเธอทำหน้าที่ป้องกัน ขณะที่เธอเดินกลับเข้าไป
เธอจะต้านได้นานแค่ไหนกันนะ
มือปืนที่แก๊งส่งมาคราวนี้มากมายเหลือเกิน แม้ส่วนใหญ่จะระดับต่ำกว่าเธออยู่ขั้นนึง แต่ว่าจำนวนนับร้อยแบบนี้นี่มันเกินไป
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมตั่วเจ๊เมษาถึงได้ส่งกำลังมาที่นี่มากมายขนาดนี้
หญิงสาวเดินไปที่จุดปฐมพยาบาล ร่างที่ถูกคลุมผ้าเอาไว้มีร่วม40ร่าง ในนั้น30กว่าร่างเป็นร่างของลูกน้องของเธอ ที่เหลือคือคนที่โชคร้ายถูกลูกหลงขณะอพยพหนีขึ้นมา ส่วนคนบาดเจ็บมีนับร้อย
ถ้าไม่ใช่โชคดีมีคุณแพทที่มีพลังพิเศษล่ะก็ ป่านนี้คงมีคนตายอีกหลายสิบคน และโชคยังดีที่มีหมออยู่ที่นี่อีกหลายคน
“เฮ้ โรเบิร์ต มาช่วยดูคนนี้หน่อย” หมอเจมส์พูดขณะเย็บแผลห้ามเลือดไม่สำเร็จ
“ผมมือไม่ว่าง ต้องห้ามเลือดคนนี้ หมอเค คุณไปช่วยเจมส์ได้ไหม” หมอโรเบิร์ตร้องตอบ
“อีกแป๊บนึงครับ” หมอเคร้องตอบ
“ผมช่วยเองครับ”หมอหนุ่มอีกคนหนึ่งร้องขึ้นก่อนจะวิ่งไปช่วยหมอเจมส์
“โอ้ ขอบคุณมาก คุณอะไรนะ” หมอเจมส์ถาม
“หมอแมวครับ” ชายใส่แว่นคนนั้นตอบ
เจนัสมองตามแล้วถอนหายใจ
หมอเคมาซื้อของเตรียมให้แฟนที่กำลังท้องอยู่
หมอโรเบิร์ตและหมอเจมส์ที่เคยเจอตอนเหตุการณ์ที่เอเชียใต้นั่น ก็มาพักผ่อนแล้วมาเที่ยวที่นี่พอดี
ส่วนหมอแมวเป็นหมอในโรงพยาบาลใกล้ๆนี้ที่มาซื้อของในห้างตอนเกิดเรื่อง
ถ้าไม่ได้คนเหล่านี้คงแย่แน่ คงมีคนตายอีกหลายคน
แต่จะต้านได้นานแค่ไหนกันนะ
ที่เบื้องนอก หลงจิ่งฟังรายงานจากลูกน้องแล้วก็มองขึ้นไปที่ชั้น 5
“ไง หลงจิ่ง ได้ข่าวว่าศิษย์ทรยศของนายน่ะบัญชาการป้องกันที่ชั้น5เรอะ” ผู้คุ้มกฎคนนึงเดินมาจากด้านหลัง
“ผู้คุ้มกฎสวนหวู่ แล้วผู้คุ้มกฎไป๋หู่ล่ะ”หลงจิ่งถาม
“ไป๋หู่คุมกำลังของเรายันเจ้าพวกตำรวจกับยามชุดเกราะที่ด้านโน้น” สวนหวู่ตอบ “พวกมันดูเหมือนเตรียมพร้อมรับมือกับพวกเรากว่าที่คิดนะ”
หลงจิ่งพยักหน้า วันนี้เกิดเหตุเหนือความคาดหมายหลายอย่าง ตั้งแต่การที่ยามของห้างดันมีชุดเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัว ยามที่ได้รับการฝึกฝนเทียบเท่าหน่วยคอมมานโด
และที่น่ากลัวที่สุด ห้างสรรพสินค้าที่มีแผนผังที่น่าเกรงขาม อย่างกับว่าสร้างมาเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายโดยเฉพาะ
พวกมันสูญเสียคนมากกว่าที่คาดไว้ ทั้งจากการถูกโจมตีอย่างไม่ตั้งหลัก จากการใช้ข้อมูลแผนที่แล้วหลงจนปะทะกันเอง พยายามขึ้นชั้นบนแต่กลับวิ่งลงชั้นล่าง
เป็นห้างสรรพสินค้าที่น่ากลัวยิ่งนัก!!!
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกผู้คุ้มกฎสวนหวู่ อีกไม่นานจะเกิดความวุ่นวายที่ชั้น 5” หลงจิ่งบอก “เพราะข้าได้ส่งคนของเราลอบเข้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว อีกไม่นาน เป้าหมายของเรา เจ้าเด็กที่ชื่อแพทนั่นจะต้องตายด้วยน้ำมือคนของเรา”
“อย่างนั้นรึ น่าสนใจ เจ้าส่งใครไปรึ” สวนหวู่ถาม
หลงจิ่งไม่ตอบ ได้แต่เพียงยิ้มที่มุมปาก
ขณะเดียวกันนั้นเอง แพทอยู่ตรงโซนปฐมพยาบาลดูคนเจ็บอยู่ ร่างๆหนึ่งค่อยๆก้าวตรงมาที่เธอพร้อมกับมีดในมือ
ใครหลายคนเงยหน้าขึ้นมองชายที่ถือมีดนั้น แล้วก็ยิ้มให้ไม่สนใจ แพทเองก็เงยหน้าขึ้นดู ยิ้มให้ แล้วก็ดูคนเจ็บต่อ
หมอแมวเดินตรงเข้าไปหาแพทพร้อมกับมีดผ่าตัดในมือ
“แก๊งเมษาจงเจริญ ตายซะเถอะแก!”