Midterm Fantasy - ตอนที่ 228
เด็กที่ทำหน้าที่รับใช้ในบ้านเดินเข้ามาในห้องรับแขก
“ท่านรอนครับ คุณอูเบอร์แห่งกิลด์ค้าขายมาขอพบครับ”
“ใครเขาเข้ามา” รอนโบกมือ พลางจัดเอกสารที่เตรียมไว้ให้เข้าที่ ครู่เดียว ชายร่างท้วมก็เดินเข้ามา เขาถอดหมวกผ้าที่สวมอยู่แล้วทักทาย
“สวัสดีคุณรอน คุณแพท”
“คุณอูเบอร์ เชิญนั่งสิครับ” รอนผายมือไปที่เก้าอี้ หัวหน้ากิลด์ค้าขายประจำพื้นที่นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับรอนและแพท
“คุณรอนบอกว่ามีโอกาสทางการค้าดีๆจะมาเสนอ พอจะบอกให้ผมรู้ได้ไหมครับว่ามันคืออะไร” อูเบอร์ถาม
“สมกับเป็นคุณอูเบอร์ เข้าตรงประเด็นทันทีเลย” รอนตอบ
“คุณรอนไม่ต้องอ้อมค้อมไป คุณเองรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าการที่คุณฝากพ่อค้าให้มาส่งข่าวกับผมน่ะ พอพ่อค้าคนนั้นบอกข่าวให้กับผมเสร็จ ก็ไปกระจายข่าวบอกเพื่อนฝูงต่อ ถ้าผมไม่รีบมาคุยกับคุณรอนล่ะก็พรุ่งนี้พ่อค้าที่ร้อนรนพวกนั้นมีหวังแหกอกผมตายแน่ๆ” อูเบอร์ยิ้ม
“อย่างนั้นหรอกเหรอครับ ตายจริง ผมนึกไม่ถึงเลย” เด็กหนุ่มยิ้มด้วยท่าทีไม่แปลกใจอะไร
สกิล Poker Face ไต่ระดับขึ้นไปอีกนิด … คือจริงๆก็ไม่ได้คิดอะไรนั่นแหละ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเชื่อแบบนั้นก็ตามน้ำไปละกัน
“แพท ขอกระดาษโฆษณาให้หน่อยสิ” รอนบอก เด็กสาวหยิบกระดาษชิ้นแรกส่งให้ รอนหยิบส่งให้พ่อค้าอูเบอร์อีกทีนึง
“คุณอูเบอร์คิดว่านี่เป็นยังไงบ้างครับ” รอนถาม
อูเบอร์มองดูกระดาษในมือ เนื้อกระดาษผิวมันสองหน้าอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน กระดาษหนาแข็ง ด้านหนึ่งมีรูปภาพถ่ายทิวทัศน์งดงามยามเย็นของนอกหมู่บ้าน ถ้ำสุสานของท่านอารย่า กับภาพทิวทัศน์ของเมืองกาล่า
ส่วนอีกด้าน เป็นแผนที่แสดงที่ตั้งของหมู่บ้านทั้งหมด และบอกเส้นทางที่จะใช้เดินทางมายังเมืองกาล่าและหมู่บ้านโอลเซ่น
“อืม แผนที่นี้เป็นแผนที่ที่ละเอียดที่สุดของพื้นที่นี้เท่าที่ข้าเคยเห็นมา มีการบอกตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงจุดสังเกตจ่างๆ แบบนี้ต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยเดินทางก็ต้องสามารถใช้แผนที่นี้ได้แน่ๆ” อูเบอร์บอก “แต่ข้าไม่เข้าใจว่าแล้วแผนที่จะเป็นโอกาสเรื่องการค้าได้อย่างไร”
“คุณอูเบอร์ลองฟังเรื่องนี้ดูก่อน เป็นเรื่องที่แผ่นดินเกิดของพวกเรา” แพทเอ่ยปาก “ครั้งหนึ่งมีพ่อค้าล้อที่ต้องการเพิ่มยอดขาดล้อเกวียนและรถม้า เขาโฆษณาคุณภาพป่าวประกาศออกไป แต่ว่าลูกค้าก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า ที่ลูกค้ามีไม่มากก็เพราะล้อไม่พัง ที่ล้อไม่พังก็เพราะคนเดินทางน้อย ตอนนั้นเองเขาจึงคิดทางออกขึ้นมาได้”
“เขาได้ทำแผนที่ขึ้นมา บอกตำแหน่งของหมู่บ้านและเมืองที่มีที่พัก บอกตำแหน่งจุดพักม้า และแนะนำร้านอาหารเลิศรสของหมู่บ้านและเมืองต่างๆ จากนั้นคนก็เดินทางมากขึ้น ล้อพังมากขึ้น เขาจึงขายล้อรถได้มากมายมหาศาล”
“แต่นั่นแสดงว่าพื้นที่บ้านเกิดของท่านมีความสงบสุขปราศจากมอนสเตอร์น่ะสิ คนถึงจะเดินทางไปมากันได้ ที่นี่น่ะ… อ๊ะ!” อูเบอร์ชะงักคำพูดก่อนที่ตาจะเป็นประกาย
“แม้แต่คุณอูเบอร์ก็นึกไม่ถึงสินะคะ เพราะคุณชินกับการที่เมืองกาล่าเคยมีแต่มอนสเตอร์” แพทบอก “แต่ตอนนี้พื้นที่ของเราเริ่มปราศจากมอนสเตอร์แล้ว การเดินทางบนถนนหลักปลอดภัยขึ้นมากจากทหารที่ลาดตระเวน ดังนั้นสิ่งที่กล่าวมานี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้แน่นอน”
“และนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดเฉพาะที่เมืองกาล่า แต่เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วอาณาจักรแอสคาลอน คุณอูเบอร์คงจะรู้ใช่ไหมว่าคนที่เริ่มลงมือทำธุรกิจก่อนจะได้เปรียบยังไง” รอนสะกิดอีกนิด
อูเบอร์ค่อยๆนึกขึ้นมา จริงสินะ แม้แต่เขาเองในตอนแรกก็ยังนึกไม่ถึงว่ามีวิธีแบบนี้ ถ้าลงมือดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้คู่แข่งจากต่างเมืองต้องตั้งตัวไม่ทันแน่
อย่าได้ดูถูกเรื่องของการเริ่มต้นก่อนหลังทีเดียวเชียว
เพราะสิ่งที่จำเป็นในการทำธุรกิจขนส่งคนนี้ก็คือการซื้อตัวคนที่จะทำงาน ในกรณีนี้เขาต้องจ้างคนทำรถม้า ต้องจ้างคนที่รู้เส้นทาง ต้องเตรียมที่พักม้า และอะไรต่อมิอะไรจิปาถะเต็มไปหมด ถ้าหากช้าไปแม้แต่เพียงก้าวเดียว ก็อาจจะหาคนที่ทำหน้าที่ขับรถม้าชำนาญทางหรือคนนำทางไม่ได้เลยก็เป็นได้
“โอ้ แบบนี้ก็เยี่ยมไปเลย ผมจะรีบติดต่อคนของผมในสาขาต่างๆทั่วอาณาจักรให้รีบจัดการ เราต้องจ้างคนในหมู่บ้านทุกแห่งอย่างน้อย 2 ไม่สิ 3 คน พอถึงเวลาที่ในอาณาจักรปราศจากมอนสเตอร์และถนนปลอดภัย เราจะเริ่มโครงการกันเลย” อูเบอร์ร้องอย่างดีใจก่อนจะหรี่ตามองรอน “ว่าแต่คุณรอนจะได้ประโยชน์อะไรจากการทำแบบนี้ล่ะ”
“หึหึหึหึ คุณอูเบอร์นี่เซ้นส์ดีจริงๆ ถูกต้องแล้ว ผมได้ประโยชน์จากเรื่องนี้” รอนบอก “เรื่องแรกคือหมู่บ้านจะได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่มาลงที่หมู่บ้านมากขึ้น เรื่องที่สองก็คือเมื่อมีคนเดินทางมากๆ รอบหมู่บ้านนี้ก็จะมีมอนสเตอร์ลดลง และที่สำคัญที่สุด…”
รอนลดเสียงลงเบาๆ
“ที่นี่อาจจะได้ยกระดับจากหมู่บ้านไปเป็นเมือง”
อูเบอร์ผิวซ่านชาอย่างตื่นเต้น หัวหน้ากิลด์ค้าขายมองรอนอย่างตื่นเต้น ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ตอนนี้รอนเป็นเหมือนขาใหญ่ประจำหมู่บ้าน ถ้าหากที่นี่ยกระดับเป็นเมือง อำนาจของรอนก็ต้องยกระดับตามไม่ต่างอะไรกับท่านโซล่าที่เป็นเจ้าเมือง ถึงว่าสิรอนถึงได้เร่งการสร้างกำแพงเมืองขนาดนี้
“นี่คือแผนที่โปสเตอร์ที่ผมทำขึ้น เป็นแผนที่เส้นทางถนนของเมืองกาล่า” รอนส่งให้อูเบอร์ “สำหรับเมืองอื่นๆ ผมคงต้องขอแรงคุณอูเบอร์ให้ส่งแผนที่มาให้ผมจัดทำ”
“คุณรอน….” อูเบอร์หรี่ตามองรอนอีกครั้ง เขาไม่เชื่อว่ารอนจะยื่นข้อเสนอดีๆแลกกับแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้
ร้าน ARMAMENT สามารถหาประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ และมีความสามารถในการทำธุรกิจนี้ได้ ทำไมจึงไม่ทำเอง
ถ้าหากข้อเสนอที่ให้ ให้ผลประโยชน์กับเขามากมายเช่นนี้แต่ไม่มีอะไรตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ก็เป็นไปได้ว่ารอนอาจจะหลอกใช้เขาเป็นเครื่องมืออะไรบางอย่าง
ถ้าหากรอนไม่เปิดเผยออกมา เขาคงจะต้องดึงเรื่องไว้รอดูท่าทีไปก่อน
“ฮ่าๆๆ ผมปิดคุณอูเบอร์ไม่ได้จริงๆ” รอนหัวเราะ “ยังมีข้อแม้อีกอัน ถ้าคุณอูเบอร์ยอมทำตาม ผมจะยอมให้คุณอูเบอร์ดำเนินการโดยไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆกับผลกำไร”
รอนก้มลงไปแล้วหยิบตุ๊กตาสีขาว ตุ๊กตาสีขาวที่เป็นมาสคอตของยางรถยนต์ยี่ห้อดังที่ปกติเอาไว้ติดหน้ารถบรรทุก ข้างในมีไฟเปิดส่องสว่างได้
“และนี่คือรูปเคารพของท่านเทพนิชลีนอันเป็นเทพแห่งการขนส่งของบ้านเกิดของผม ผมอยากให้คุณอูเบอร์เอารูปเคารพนี้ไปติดตั้งไว้ที่หมู่บ้านที่คุณจัดการวางคนไว้” รอนบอก “นี่แหละคือผลประโยชน์ข้อที่4ที่ผมจะได้จากคุณ”
อูเบอร์อ้าปากค้าง โอ้ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
ลือกันว่าร้าน ARMAMENT มีที่มาจากต่างแดน ที่แท้ก็เป็นร้านค้าที่วางรากฐานการค้าก่อนที่จะเผยแพร่ศาสนานี่เอง
จริงสินะ ถ้าหากร้าน ARMAMENT ลงมือทำเอง แล้วเผยแพร่ศาสนาไปเองพร้อมกัน คนที่ไม่พอใจทั้งเรื่องการแย่งส่วนแบ่งตลาดและคนที่ไม่พอใจเรื่องแพร่ศาสนาใหม่ อาจจะมีมากจนเกิดแรงต้านได้ แต่ถ้าให้เขาที่เป็นคนในอาณาจักรอยู่แล้วเผยแพร่ศาสนาแทน แรงต้านจะน้อยกว่าและไม่มีคนสังเกต
“ฮ่าๆๆๆ เห็นทีผมต้องมองคุณรอนใหม่เสียแล้ว คุณนี่อ่านเกมได้ขาดจริงๆ” อูเบอร์ยกนิ้วโป้งให้
หัวหน้ากิลด์ค้าขายประจำพื้นที่กลับออกไปพร้อมกับตุ๊กตานิชลีน รอนและแพทลอบถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน
“ยังดีที่คุณอูเบอร์ไม่ระแวงอะไรไปมากกว่านี้ นี่ซื้อตุ๊กตานิชลีนหน้ารถบรรทุกมายังคิดว่าจะไม่ได้ใช้นะเนี่ย” รอนบอก … ที่นัดไว้หลังเที่ยงก็เพราะรอนจะได้อาศัยช่วงเที่ยงวาร์ปกลับไปเตรียมจัดเลเยอร์ภาพทำแผนที่แล้วก็หาซื้อตุ๊กตาบ๊องๆนี่กลับมาใช้
“เธอน่ะไม่ได้ค้าขาย เธอไม่รู้หรอกว่าพวกพ่อค้าแม่ค้าน่ะมีความระแวงแค่ไหน เมื่อไหร่ที่เธอใจดีให้ผลประโยชน์มากๆล่ะก็ บางคนอาจจะรุกเอาเพิ่มอีกหรือไม่ก็ถอยไปเลยเพราะระแวง” แพทบอกจากประสบการณ์ลูกเจ้าของธุรกิจ “นี่สงสัยต้องไปตระเวนหาซื้อเจ้าหุ่นนิชลีนหน้ารถบรรทุกมาอีกสิเนี่ย จะหายังไงล่ะ หุ่นที่แพ็คไว้แล้วหนึ่งเดือน”
“เอาเหอะ เดี๋ยวลองไปถามตามอู่ดู”
“เอ้อ รอน แล้วทำไมเธอไม่ขอให้คุณกลาสจัดการล่ะ เราแค่แจกแผนที่ไปตามหมู่บ้านก็ได้นี่”
“ไม่ได้หรอก ดูทรงจากที่พวกนักผจญภัยเผ่าลิงมันทำ เป็นไปได้สูงว่าจะมีคนจับตาร้านARMAMENTอยู่ หากพวกนั้นระแวง อาจจะเลื่อนแผนเข้ามาจนเรารับมือไม่ทันแน่” รอนบอก
จากเหตุที่เกิดขึ้นวันนี้ รอนประเมินว่าพวกเผ่าลิงไม่ไว้หน้าหมู่บ้านโอลเซ่นเพราะมั่นใจว่าต้องเกิดเหตุบางอย่างกับหมู่บ้านนี้
แต่ด้วยระดับการป้องกันที่สูงขึ้นและความสงบสุข ณ ตอนนี้ เหตุที่จะเกิดกับหมู่บ้านได้ต้องเป็นเหตุใหญ่มากๆ และต้องเป็นเหตุที่สามารถกวาดล้างหมู่บ้านอื่นๆรอบๆก่อนที่จะลามมาถึงหมู่บ้านโอลเซ่นได้
ตอนนี้เขาไม่มีหลักฐานใดๆ สิ่งที่ทำได้ก็แค่การสร้างกำแพงเมืองและเสริมการป้องกัน
และอีกทางที่ทำได้คือ การแจกแผนที่ที่อ่านง่าย และหาทางทำให้มีคนที่รู้เส้นทางประจำทุกหมู่บ้าน โดยที่ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น …ทางเดียวที่รอนคิดออกก็คือการใช้เรื่องการค้าการท่องเที่ยวมาหลอกล่อให้กิลด์ค้าขายเป็นคนลงมือจ้างคนแทน
ถ้าบอกว่าอาจจะเกิดภัยพิบัติ จงอ่านแผนที่ไว้ คงไม่มีใครสนใจ
แต่ถ้าบอกว่านี่คือโอกาสทำเงิน จงอ่านแผนที่ มั่นใจได้ว่าทุกคนจะรีบจดจำเส้นทาง
“เอาล่ะ ยุ่งยากนิดนึงแต่หลอกคุณอูเบอร์ได้ก็พอ หวังว่าคงไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตุ๊กตานิชลีนนี่หรอกนะ” รอนรำพึง
เด็กหนุ่มไม่คาดคิดเลยว่า หลังจากเหตุการณ์นี้ ศาสนาท่านเทพนิชลีนจะกลายเป็นศาสนาแห่งแสงอันดับสอง รองจากศาสนจักรแห่งแสงเวโรน่า