Midterm Fantasy - ตอนที่ 229
พ่อค้าอูเบอร์กลับไปได้ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับแผนที่ของเมืองต่างๆในอาณาจักรแอสคาลอน และรอนก็จัดการทำแผนที่และปริ้นท์โปสเตอร์ให้ แน่นอนว่า ‘แหล่งท่องเที่ยว’ ที่รอนตั้งไว้ก็คือเมืองใหญ่หรือเมืองที่มีป้อมปราการ
การเอาเครื่องคอมโน๊ตบุ๊คและปรินต์เตอร์สีมาช่วยได้มากจริงๆ
ในช่วงเวลา3วัน รอนและแพทช่วยกันขนตุ๊กตานิชลีนข้ามมาโลกฝั่งนี้ นอกจากนั้นก็ขนพวกอาวุธและสินค้าอุปโภคบริโภคมาขาย ขณะที่ทางโลกฝั่งนี้ คุณกลาสก็ส่งส่วนแบ่งกำไรของร้าน ARMAMENT ให้รอนเรื่อยๆ ทุกวัน รอนจะขนเงินผ่าน ‘ถุงเงิน’ กลับไปที่โลก
น่าเสียดายที่การขนเงินผ่านถุงใส่เงินเป็นสิ่งเดียวที่ระบบอนุญาต ถ้าไม่ใช่ติดขัดที่กฎสินค้ารวมกลุ่ม 30 วันจึงจะขนมาพร้อมกันได้ล่ะก็ รอนคงขนของมาให้เร็วกว่านี้แล้ว
‘แท็ดๆๆๆ บรืน!’
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม แพทลองเหยียบคันเร่ง รถตู้ขนวัคซีนค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ
“โอเค ใช้ได้ งั้นแพทขับวนไปรอบๆนี่สักสองสามรอบก่อนนะ” แพทบอก
“อย่าขับเยอะไปนะ น้ำมันมีจำกัด” รอนเตือน
“ไม่ต้องห่วงน่า แค่นิดเดียว แล้วยังไงรถนี่ไม่ได้สตาร์ทมาตั้งนาน ยังไงเราต้องเดินเครื่องให้ได้ไฟเข้าแบตเตอรี่มั่ง ไม่งั้นวันหลังสตาร์มไม่ติด” แพทบอกก่อนจะขับรถออกไป
น้ำมันที่ได้นี่คือน้ำมันที่พวกเขาซื้อใส่แกลลอนแล้วเอาไปฝากอาม่าไว้ในห้องใต้ดินตั้งแต่เดือนก่อนโน้น ในเมื่อจับพลัดจับพลูได้รถมาแล้วก็ต้องเก็บให้ดีเผื่อได้ใช้อะไรบ้าง
ระหว่างที่รถวิ่งออกไป นายกองโยฮันก็เดินเข้ามา นายทหารถอดหมวกเกราะสีแดงออกถือไว้
“คุณรอน เราได้เรื่องจากสองคนนั้นแล้ว” โยฮันบอก
“สองคนนั้นว่ายังไงบ้างครับ” รอนถาม
“สองคนนั้นบอกว่า ในเผ่าของมันมีการประกาศให้รู้โดยทั่วกัน ว่าจะเกิดเหตุภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นในอาณาจักรแอสคาลอน และเมืองที่จะเกิดเหตุรุนแรงที่สุดก็คือเมืองกาล่า” นายทหารกล่าว “หัวหน้าเผ่าของพวกมันบอกว่า ให้สมาชิกเผ่าลิงทั้งหมดเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของมีค่าออกจากพื้นที่ของแอสคาลอนให้หมดภายในเดือนนี้”
“นั่นคือคำสั่งที่ประกาศออกมา แต่ในความเป็นจริงระดับหัวหน้าของเผ่าลิงต่างได้รับแนะนำมากไปกว่านั้นก็คือ หากมีโอกาส ก็ให้ทำการปล้นชิงของมีค่าและหนีกลับเผ่าได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดผลอะไรตามมา เพราะภัยพิบัติที่จะเกิดในแอสคาลอนจะยิ่งใหญ่มากจนไม่มีใครคิดถึงการปล้นเล็กๆน้อยๆนั้น” นายกองโยฮันกล่าว “ที่พวกมันขโมยพืชผักกลางวันแสกๆ ก็เพราะพวกมันเห็นว่าพืชผักของที่นี่มีพันธุ์ที่ดีมากและอีกไม่นานก็จะโดนทำลายหมด มันเลยเสียดายและคิดขโมยไปทำพันธุ์ หลังจากหมู่บ้านนี้โดนทำลาย มันจะได้ผูกขาดการค้าได้”
รอนพยักหน้ารับ ทั้งหมดไม่ผิดจากที่เขาคาดไว้เท่าไหร่ ส่วนนายกองโยฮันล้วงมือเข้าไปในเสื้อเกราะ หยิบของออกมา
“มีอีกอย่างนึงที่เรายึดได้จากสองคนนั้น คุณรอนลองเอาไปดู”
ม้วนหนังถูกยื่นให้ รอนคลี่ออกดู เป็นแผนที่ภายในหมู่บ้าน บอกตำแหน่งสิ่งก่อสร้างหลายอย่างทั้งชั้นในและชั้นนอกของหมู่บ้าน
“เจ้าสองคนนั้นบอกว่าอีกคำสั่งจากเผ่าที่พวกมันได้มาก็คือให้ทำแผนที่ของหมู่บ้านและเมืองสำคัญ แผนที่ของหมู่บ้านโอลเซ่นถูกเก็บไว้สองชุด ชุดหนึ่งอยู่ที่มัน อีกชุดอยู่กับพวกพ่อค้าเผ่าลิงที่หนีไปได้ ซึ่งพวกมันไม่รู้ว่าหัวหน้าเผ่าต้องการแผนที่ของแอสคาลอนไปทำไม” โยฮันบอก
“คุณโยฮันก็คิดเหมือนผมใช่ไหมครับ” รอนถาม “จะเกิดการโจมตีครั้งใหญ่เร็วๆนี้”
“ครับ ทางกองทัพก็คิดแบบนั้น ข้าจึงมาเชิญคุณรอนและคุณแพทไปที่ค่ายทหารครับ”
“ครับ?” เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว
“หลังจากเค้นข้อมูลได้ ข้าก็แจ้งกลับไปที่เบื้องบน เจ้าชายดีโอจึงเสด็จมาด้วยพระองค์เองครับ” โยฮันบอก
ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกัน รับแพทที่จอดรถเสร็จ แล้วก็เดินไปตามถนน
หลังเกิดเหตุความวุ่นวายวันนั้นเหล่านักผจญภัยเผ่าสัตว์ก็ดูท่าทีอยู่วันสองวัน ก่อนที่จะกลับมาคึกคักดังเดิมเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ระหว่างที่คนทั้งสามเดินอยู่สายตาทั้งหลายจ้องมาที่ทั้งหมดเป็นระยะ แต่ก็เป็นการมองอย่างสงสัยใคร่รู้ มิใช่การมองอย่างปฏิปักษ์
“คุณรอนนี่เดินหมากได้ดีจริงๆ ให้ร้าน ARMAMENT เปิดธุรกิจใหม่อย่างเดียว ก็ดึงดูดจนนักผจญภัยลืมเรื่องเมื่อวันก่อนไปเสียสนิท” โยฮันมองไปทางตึกใหม่ใกล้กิลด์นักผจญภัย มีทีมนักผจญภัยทั้งมนุษย์ คนแคระ และสัตว์มาต่อคิวเต็มไปหมด
“ที่จริงผมเตรียมพื้นที่ไว้นานแล้วครับ แต่ยังหาจังหวะเปิดตัวไม่ได้ ก็เลยอาศัยช่วงที่เกิดเรื่องนี่แหละเปิดตัวและดึงดูดความสนใจ” รอนบอกและมองไปที่ภายในอาคาร ในนั้นมีจักรยานออกกำลังร่วม50ตัว มีนักผจญภัยกำลังปั่นออกกำลังกันอย่างยิ้มแย้ม และที่ข้างอาคาร นักผจญภัยอีกนับสิบคน กำลังออกกำลังกับเครื่องบริหารนานาชนิด ที่แต่ละเครื่องมีกลไกไปที่กังหันใกล้บ่อน้ำ
จักรยานที่ปั่นนั่นเป็นจักรยานปั่นไฟ ความต้องการใช้ไฟฟ้าของหมู่บ้านเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นรอนเลยสร้างศูนย์ปั่นไฟขึ้นให้นักผจญภัยมาปั่นและจ่ายค่าจ้างให้ ค่าจ้างนั้นเทียบเท่ากับการล่ามอนสเตอร์ระดับล่างๆ 2-3 ตัว
ส่วนเครื่องออกกำลังกายด้านนอกที่ต่อกับระบบสูบน้ำ คือระบบสูบน้ำบาดาล เพราะคุณเบรเซอร์บอกว่าตอนนี้คนที่มาอยู่ในหมู่บ้านมีจำนวนมากขึ้นจนน้ำไม่เพียงพอความต้องการ จึงมีการสูบน้ำขึ้นมาเพื่อกักไว้ที่แหล่งน้ำผิวดินเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
เมื่อนักผจญภัยได้โอกาสในการออกกำลัง ทั้งยังได้เงินโดยไม่ต้องเสี่ยงตาย นักผจญภัยทั้งหลายเลยแห่กันมาเข้าคิวเพื่อปั่นไฟและปั้มน้ำ
ลูกจ้างร้าน ARMAMENT ถอดแบตเตอรี่ลูกที่เต็มแล้วออกขึ้นเกวียนขนไปเก็บ แล้วนำเอาลูกใหม่มาเสียบ ส่วนนักผจญภัยก็ปั่นไฟแลกเงินกันอย่างร่าเริง
“คืนนี้ระบบไฟส่องสว่างจะติดตั้งเสร็จ คุณโยฮันมาดูด้วยกันนะคะ” แพทบอก
“ระบบไฟส่องสว่าง?” นายทหารเอียงคอสงสัย
“ค่ะ ระบบไฟเหมือนกับไฟฉายที่ทางเราขายให้กับกองทัพ แต่ว่าเป็นแบบที่ติดตั้งตามเสา รอนกับแพทให้ติดไฟเอาไว้ทั่วเมือง เผื่อไว้ในยามฉุกเฉินที่ต้องการไฟและแสงสว่างที่ฝนตกหนักจุดคบเพลิงไม่ได้ จะได้เปิดไฟนี้ได้” แพทตอบ “คล้ายกับไฟเวทมนตร์ที่มีในเมืองกาล่า แต่ว่าเราจะติดตั้งแบบส่องสว่างได้ทั้งเมือง ไม่เฉพาะแค่ห้องใดห้องหนึ่ง”
“เข้าใจละ งั้นคืนนี้ข้าจะขอดูชมสักนิด ว่าระบบไฟที่ว่านี้เป็นเช่นไร” โยฮันพยักหน้า
ทั้งสามเดินมาจนถึงหน้าประตูทางออกหมู่บ้าน ตรงไปยังค่ายทหารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ รอนมองตรงไป ที่นั่นโรล่ากำลังยืนคุยกับเจ้าชายดีโออยู่ ทั้งสองคนนั้นหยุดคุยกันและหันมามองที่รอนและแพทพร้อมๆกัน
“คุณแพท เชิญ”
เจ้าชายดีโอผายมือเชิญแพทแล้วจึงหันมาที่รอน
“คุณรอน เชิญ”