Midterm Fantasy - ตอนที่ 23
“มันมาแล้ว!”.
“แย่แล้ว”
ชาวบ้านที่ยืนอยู่ตรงนั้นตัวสั่นด้วยความกลัว … เพราะแม้ว่าพวกเขาจะมีมากกว่า แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นมอนสเตอร์ และที่สำคัญเมื่อไม่นานมานี้หมู่บ้านก็เพิ่งถูกพวกก็อบลินโจมตี
ทุกคนยังจำความน่ากลัวในตอนนั้นได้ ที่หลายชีวิตต้องจบดับไป สัตว์เลี้ยงถูกกัดกิน ผู้คนถูกฆ่า
บางคนเริ่มวิ่งหนีเพื่อกลับไปดูครอบครัวของตน จนแม้แต่นักดาบ4คนที่เข้ามาช่วยยังลังเลว่าจะทำยังไงดี
“แบ่งเป็นสองกลุ่ม! คนที่มีหอกตั้งแถวเรียงหน้ากระดานที่ข้างๆผม ” รอนวิ่งไปหยิบหอกที่ถูกทิ้งไว้หลังจากมีคนๆนึงหนีไป ….พอลรีบวิ่งไปยืนข้างๆ ทำให้หลายคนที่ลังเลวิ่งไปสมทบ
“คนที่ไม่มีหอก เตรียมหนังสติ๊กและลูกหิน” รอนตะโกนอีก ” คนที่ถือหอก ย่อตัวตามผม ชี้ปลายหอกไปข้างหน้า เอาปลายด้ามยันพื้นไว้ ….ทำเดี๋ยวนี้ !”
“ถ้าพวกมันเข้าหมู่บ้านได้ ครอบครัวเพื่อนพ้องของเราจะถูกฆ่า!”
การบอกว่าครอบครัวจะถูกฆ่าดูเหมือนช่วยได้ หลายคนเปลี่ยนสีหน้าที่หวาดกลัวเป็นสีหน้าเตรียมตัวเตรียมใจ
“เตรียมยิงลูกหิน ….. ยิงไปตรงๆข้างหน้า” รอนรอจนเห็นว่าก็อบลินเข้าใกล้ระยะ15เมตรแล้วจึงตะโกนนับถอยหลัง ” …. 3…2…1 ยิง!”
เสียงลูกหินลอยข้ามหัวรอนและคนที่นั่งย่อตรงด้านหน้า ก็อบลินที่ถูกลูกหินชะลอลดความเร็วลง ขณะที่ตัวที่ยังไม่โดนยังวิ่งมาเต็มที่ ทำให้กลุ่มของพวกมันแบ่งเป็นสองกลุ่ม
“ยิงอีกครั้งแล้วเปลี่ยนไปถือหอก ….. คนที่ถือหอกยันหอกให้มั่นเตรียมรับการปะทะ”
ลูกหินข้ามหัวไปอีกชุด เบรเซอร์ให้สัญญาณให้คนแถวหลังเปลี่ยนไปถือหอกและถอยห่างออกไปประมาณ5เมตร ส่วนนักดาบทั้งสี่คนเตรียมรออยู่ที่ด้านข้างประตู
ก็อบลินเข้ามาใกล้ เขาเห็นกระทั่งใบหน้าน่าเกลียดของพวกมัน ฟันยาวสีขาวและมือสกปรกที่กำมีดไว้ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา …
“ย้ากกกกก” รอนตะโกนหลับตาปี๋และยึดหอกให้มั่นที่สุด
ฉัวะ
ฉึก
ฉึก
ฉัวะ
[-0.5]
“อ้าก”
“โอ็ย”
รอนลืมตามอง ก็อบบลินอยู่ตรงหน้าเขาในระยะเอื้อมมือถึง มือของก็อบลินถือมีดที่เปื้อนเลือด รอนรับรู้ได้ถึงเลือดที่ไหลออกมาจากไหล่ของตนจากการโดนฟัน … เขาปล่อยมือที่ถือหอก ก็อบลินตัวนั้นล้มลงไปพร้อมกับหอกที่ปักคาที่พุง เขามองไปรอบๆ ก็อบลินแถวหน้าตายคาหอกไป6ตัว ส่วนอีกตัวที่พยายามจะแทรกตัวเข้าหมู่บ้านไปทางขอบประตูแต่ก็ถูกนักดาบที่ดักหลบรออยู่จัดการช่วยกันสังหาร
“ทิ้งหอก ถอยไปข้างหลัง” รอนสั่งให้ทุกคนถอยโดยไม่ต้องพยายามดึงหอกออก เขาชักค้อนอันละ200บาทออกมาจากกระเป๋าเป้ และปักหลักไม่ถอย … เขาเห็นชาวบ้านหลายคนบาดเจ็บจากการปะทะครั้งแรก
คนอื่นไม่มีพลังรักษาตัวแบบเขา … แต่เขามี
และถ้าถูกฟันที่จุดไม่สำคัญ เขาก็พลังลดไป0.5 น่าจะไหวอยู่
“ย้ากกก”
[Charge]
รอนพุ่งไปด้านหน้าโดยเอากระทะป้องกันหน้าอก ชนก็อบลินตัวแรกจนล้ม ก่อนจะฟาด’ด้านหงอน’ของค้อนใส่หน้าของก็อบลินด้านขวา
‘ฉึก’
ก็อบลินล้มลงเอามือกุมหน้าอย่างเจ็บปวด ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น …. ‘โป้ก’ มันก็ทรุดลงเพราะรอนเหวี่ยงหัวค้อนกลับมาใส่หัวของมัน
[-0.5]
‘โป้ก’
[-0.5]
‘โป้ก’
[-0.5]
‘โป้ก’
[-0.5]
[-0.5]
‘โป้ก’
รอนเหวี่ยงค้อนกวาดไปมาโดยใช้ความสูงของตนที่เหนือกว่าก็อบลินให้เป็นประโยชน์ มีดของก็อบลินฟันถูกแค่ขาของเขาเท่านั้นในขณะที่เขาเหวี่ยงค้อนแต่ละครั้งถูกที่หัว ถ้าไม่ตายคาที่ก็สามารถลดแถบพลังจนเหลือแค่สีแดงและสตันไปเลย
ถ้าเป็นแบบในเกม ตอนนี้รอนดึง Aggro ก็อบลินทั้งฝูงจนพวกมันไม่สนใจชาวบ้านเลย
“คนที่มีหอกตามเข้าไปช่วยคุณรอนระวังอย่าแทงโดนกันเอง”เบรเซอร์ร้อง”คนที่ไม่มีหอกป้องกันทางเข้าไว้”
สำหรับนักดาบทั้ง4ไม่ต้องให้ใครสั่ง เพราะพวกเขามุ่งไปทางก็อบลินกัปตันกันแล้ว
กลุ่มของชาวบ้านที่เข้ามาช่วยรอนเข้ามาช้าๆ ส่วนใหญ่ถือหอกและมีบางคนที่ถือมีดทองแดงเพื่อจัดการกับก็อบลินที่ลอดเข้ามาได้ เพียงครู่เดียวก็อบลินก็ถูกจัดการ
‘ผลั่ก’ เสียงค้อนทุบกระแทกเกราะไม้ของก็อบลินตัวสุดท้ายมันทรุดลงก่อนจะถูกหอกรุมทิ่มแทง รอนเงยหันไปมองรอบๆ
ก็อบลินตายเกือบหมดแล้วยกเว้นก็อบลินกัปตันที่ถูกนักดาบ4คนล้อมอยู่ พลังชีวิตของมันยังเขียวอยู่
“ตัวนั้นยังไม่ตาย” รอนชี้ไปที่ตัวนึงที่นอนแกล้งตายที่พื้น แต่แถบพลังชีวิตยังมีแถบเหลืองอยู่ … คนที่เดินตามจิ้มหอกลงไป ก็อบลินพยายามผุดลุกขึ้นแต่ก็ไม่รอด
“เป็นอะไรมากไหม” นักดาบที่อาวุโสที่สุดพูดขึ้นโดยไม่หันไปมองรอน ตาจับจ้องไปที่ก็อบลินกัปตันข้างหน้า
“นิดหน่อยครับ” รอนตอบ [พลังชีวิต 38/46] ดูเหมือนพลังชีวิตของเขาจะเลเวลอัพอีกนิดนึงละ
“ว่าแต่ …” รอนมองดูนักดาบทุกคนที่ยังไม่เข้าไปจัดการก็อบลิน
“อ๋อ … ดูในมือมันสิ” นักดาบพูดขึ้น รอนเลยสังเกตดูดีๆ ก็อบลินตัวนี้ใส่เกราะที่เป็นโลหะหลายจุด แม้แต่ที่หัวก็มีหมวกเหล็ก ในมือข้างนึงถือโล่ไม้
และอาวุธในมือที่รูปร่างแปลกตา
“Sword Breaker?”รอนพูดขึ้น
“ใช่แล้ว … ถ้าเข้าไปสู้ก็เสี่ยงที่จะเสียดาบ แถมดาบก็ฟันเกราะไม่ค่อยเข้า พวกเราเลยรอให้คนที่ใช้หอกมาช่วยกัน ถ้าแทงจากทั้งด้านหน้าหลังก็จะได้จัดการได้โดยไม่มีใครเจ็บตัว”
รอนมองค้อนช่างราคา200ในมือก่อนจะมองที่ก็อบลินกัปตันในวงล้อม
“ผมขอลองดูหน่อยครับ”
ทุกคนเหลือบมองอาวุธในมือของรอน… ไม่ใช่มีดหรือดาบแต่น่าจะเป็นWar Hammerแบบสั้น ไม่น่าจะหักง่ายๆและเหมาะกับการสู้กับศัตรูที่ใส่เกราะมากกว่าดาบ จึงพยักหน้าและให้รอนเข้าไป
เด็กหนุ่มเดินเข้าไป ก็อบลินกัปตันแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะพุ่งเข้ามาโดยยกโล่ในมือขึ้นสูง รอนเหวี่ยงกระทะขึ้นกัน
[shield]
ก่อนที่จะเหวี่ยงค้อนลงไปประทะกับโล่ไม้
เปี๊รยะ
ขอบไม้ของโล่รูปวงกลมแตกฉีกออกไปกับหงอนของค้อน
[Shield Bash]
รอนยันก็อบลินด้วยโล่จนถอยไปก่อนจะฟาดหัวค้อนลงไปที่กลางโล่ที่ยังเหลืออยู่
‘ปัง!’ ก๊าซ!
โล่ที่เหลือแตกหัก ก็อบลินกัปตันกรีดร้องอย่างเจ็บปวด แม้จะมีโล่แต่ว่าแรงกระแทกที่ฟาดกดเข้าที่มือของมันอย่างจัง …. แต่แล้วมันก็สบโอกาส. เสียบSword Breakerเข้าที่หัวค้อนทันที
เคร้ง!
รอนงัดค้อนในท่าถอนตะปู Sword Breakerอันหนาแตกเปรื่องทันที ก็อบลินมองอาวุธที่หักอย่างตกใจก่อนจะหันไปคว้ามีดที่เหน็บไว้ แต่ยังไม่ทันชักออกมา
‘ปัง!’
ก็อบลินกัปตันถอยไปสามสี่ก้าว มันมองเกราะเหล็กวงกลมที่แขวนไว้กลางอก รอยแตกเป็นวงกลมตามรอยหัวค้อน
‘เคร้ง’
หงอนของค้อนปักทะลุหมวกเหล็กจนกระเด็น
‘โผละ’
ตามด้วยเสียงค้อนที่กระทบกระโหลกอย่างจังจนแตกบิออก
…
ทุกคนมองตามเบิกตาอ้าปากค้าง เพราะเกราะเหล็กของก็อบลินที่เมื่อกี้แต่ละคนใช้ดาบฟันแล้วมีปัญหาฟันไม่เข้า กลับถูกทำลายได้อย่างไม่ยากเย็น
และตกตะลึงยิ่งไปกว่านั้นอีกเมื่อรอนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
‘อ้วกกกกกกกกกกกกก’
รอนขย้อนของในท้องออกมาหมดเมื่อเห็นเลือดและสมองของก็อบลินกัปตันตรงหน้า ก่อนจะทรุดลงหน้าซีด
เบรเซอร์ส่ายหน้าช้าๆและบอกให้ชาวบ้านสองคนช่วยหิ้วปีกรอนไปพัก … นักดาบหยิบค้อนช่าง200บาทที่ตกพื้นอยู่ขึ้นมาดู เหวี่ยงด้านหงอนทุบลงไป
เคร้ง!
หงอนของค้อนเจาะเข้าไปในหมวกอย่างง่ายดายซึ่งไม่แปลกนัก เพราะหมวกเหล็กนี้ไม่ได้หนามาก เพียงแต่ว่า…
“ไม่มีรอยเลย” เขาพึมพำเบาๆและมองดูค้อนในมืออีกครั้ง
************
รอนถูกพาไปนอนพักที่จุดพักยามตรงทางเข้าหมู่บ้าน เขานอนเอามือก่ายหน้าผากและหลับตาไว้ โรล่าใช้ผ้าชุบน้ำบิดมาเช็ดที่หน้าและซอกคอเพื่อคลายร้อน
ส่วนพ่อเฒ่าเบรเซอร์และกลาส ยืนคุยกันไม่ห่างออกไปไกลนัก ชาวบ้านช่วยกันตัดหู2ข้างของก็อบลินร้อยเอาไว้เพื่อนำไปแลกเงินรางวัล และผ่าเอาแกนมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงกลางอกออกมากองรวมกันไว้
“บาดแผลของท่านเป็นอย่างไรบ้าง” นักบวชรอคโค่ถาม
“ไม่เป็นไรมากครับ อีกสักพักคงหายครับ” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะลุกมานั่งแล้วแกะมาม่าในซองมากินแห้งๆ เลข +1สีเขียวขึ้นที่ด้านขวาของมุมสายตา
“ถ้าท่านใช้เวทHealรักษาตัวเองได้ งั้นข้าไปดูชาวบ้านคนอื่นๆก่อน” นักบวชตอบ … ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ว่ารอนRegenได้ แต่เข้าใจผิดว่ารอนใช้เวทมนตร์รักษาตัวเอง
“ขอบคุณท่านรอนมากที่ช่วยพวกเราไว้ในครั้งนี้” เบรเซอร์เดินเข้ามานั่งข้างๆ “ ครั้งที่แล้วที่พวกมันบุกหมู่บ้านของเรา เราเสียเพื่อนพ้องไปมากมายเหลือเกิน”
“ถ้าไม่ได้ท่านรอนช่วยสั่งและไปอยู่แถวหน้าสุด ชาวบ้านคนอื่นๆคงจะหนีเอาตัวรอดกัน” เบรเซอร์บอก “แต่ข้าไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง…ท่านคงไม่เคยต่อสู้จริงๆมาก่อน ทำไมจึงพยายามเอาตัวไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น”
“ท่านผู้เฒ่ารู้?”
“ในวัยหนุ่ม ข้าเคยเดินทางไปหลายที่ก่อนจะมาปักหลักตั้งรกรากที่หมู่บ้านนี้ และแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่ข้าก็ยังจำได้ดีถึงครั้งแรกที่ฆ่ามอนสเตอร์ที่รูปร่างคล้ายมนุษย์” ผู้เฒ่าเบรเซอร์บอก “ครั้งแรกที่ข้าแทงจนก็อบลินไส้ไหลทะลักออกมา และมันใช้มือทั้งสองข้างพยายามโกยลำไส้ของมัน ความรู้สึกตอนนั้นมันบอกไม่ถูกอย่างที่สุด”
รอนพยักหน้า …. เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆเมื่อเห็นเครื่องในและสมองของก็อบลิน … และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรแบบนั้นจนเขารู้สึกคลื่นไส้อาเจียน
“ ข้าจึงอยากรู้ว่าอะไรทำให้ท่านต้องเอาตัวไปเสี่ยงแบบนั้น” พ่อเฒ่าถามอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่หมู่บ้านของท่านด้วยซ้ำไป”
รอนมองไปที่ชายชราอาวุโสผู้มีผิวกายสีดำสนิทตรงหน้าและโรล่าที่ยืนอยู่ข้างๆ เขานึกไปถึงเหตุผลที่เขาจะต้องมาอยู่ตรงนี้ เขาต้องการหาที่สักที่ในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ … และหมู่บ้านนี้น่าจะเป็นสถานที่ที่เขาใช้อ่านหนังสือได้อย่างสุขสงบและปลอดภัยที่สุด
ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาไม่รู้ว่าเขาถูกดึงมาที่นี่ได้อย่างไร เขาไม่รู้ว่าจะหยุดยั้งการเคลื่อนที่ข้ามมิติทุกๆวันได้อย่างไร
ถ้าไม่มีหมู่บ้านนี้ เขาก็จะต้องไปอยู่ที่ห้องศิลาที่เริ่มต้น … ซึ่งเขาไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะมีมอนสเตอร์อะไรที่เปิดประตูเวทมนตร์นั่นเข้ามาหาเขาหรือไม่
ดังนั้นที่นี่คือที่ที่เขาจะต้องปกป้อง เพื่อเป็นแหล่งพักพิงของเขาเอง
และยิ่งนึงไปถึงตอนที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมล้อมและกระทืบ … เขาอยากแกร่งกว่านี้ เพื่อจะได้ปกป้อง ไม่เพียงแต่ปกป้องตนเอง … แต่สามารถปกป้องคนอื่นได้
“ผม …. แค่คิดว่า ผมอยากจะเก่งกว่านี้ ผมอยากจะปกป้องที่นี่ และตอนนี้ผมมีคนที่ผมจะต้องปกป้องครับ” รอนตอบไปกับโรล่าและเบรเซอร์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา
เบรเซอร์พยักหน้าไม่พูดอะไร … ส่วนโรล่าที่อยู่ตรงนั้นจ้องมองมาที่เขา วางถังน้ำลง ก่อนจะหน้าแดงหูแดงวิ่งกลับเข้าไป
อ้าว …. เราพูดอะไรผิดอีกเนี่ย! รอนคิดในใจ เมื่อวานกับแพทก็ทีนึงแล้ว วันนี้ก็โรล่า … โมโหจนหน้าแดงหูแดงหนีไปเหมือนกันไม่มีผิด
[ Charm Lv1 : 90/100] เสียงเตือนเด้งขึ้นมา
อื้อหือ ชัดเลย …. ทั้งแพท ทั้งโรล่า เห็นเราเป็นเครื่องรางป้องกันภัย เป็นตัวTankกำจัดมอนสเตอร์ชัดๆ
พ่อเฒ่าเบรเซอร์มองตามโรล่าที่วิ่งหนีไปโดยไม่ได้ว่าอะไร หันกลับมาคุยกับรอน
“ถ้าเช่นนั้นเดี๋ยวข้าจะสอนการใช้อาวุธและการสู้ระยะประชิดให้กับท่านเอง”
** ** ** **
ชาวบ้านช่วยกันเก็บผลึกแกนมอนสเตอร์และใบหูของก็อบลินมารวมไว้ ส่วนหนึ่งให้กับกลาสไปเป็นค่าหัวหอกทองแดงที่กลาสนำมาให้ชาวบ้านใช้ เพราะตอนนี้คงเอากลับไปขายต่อไม่ได้แล้ว เช่นเดียวกับมีดและเกราะที่Dropจากเหล่าก็อบลิน ที่ขายต่อไม่ได้ … ชิ้นไหนที่พอจะใช้ได้ชาวบ้านก็จะแบ่งกันเอาไปใช้เองกัน
ส่วนซากของก็อบลิน(ซึ่งกินไม่ได้เหมือนบราวนี่) ก็ถูกลากนำไปทิ้งรวมกันไว้ห่างจากหมู่บ้านไม่มาก ส่วนหนึ่งก็เพื่อเตือนก็อบลินที่จะโจมตีอีกว่าที่นี่ไม่ได้โจมตีกันง่ายๆ และอีกทางก็เพื่อให้มอนสเตอร์ที่กินเนื้อได้มีอาหารและจะได้ไม่มาวุ่นวายใกล้หมู่บ้านอีก
“คุณรอนจะขายผลึกมอนสเตอร์ของกัปตันก็อบลินให้ผมไปเลยไหม” กลาสถามพลางหยิบถุงเหรียญขึ้นมา
“ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากเก็บไว้สักอัน” รอนตอบไปโดยมองไปที่ถุงเงิน …. “คุณกลาสครับ ผมสังเกตตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าคุณกลาสเก็บเหรียญเงินและทองแดงไว้ที่ตัว แต่กับเหรียญทอง คุณกลาสไม่ค่อยพกติดตัวไว้แต่กลับเก็บไว้ที่รถ … ทำไมเหรอครับ”
รอนสงสัย เพราะว่าความจริงแล้วเหรียญทองที่มีค่า เก็บติดตัวไว้น่าจะปลอดภัยกว่า
“ก็เรื่องเวทตรวจสอบเหรียญไง” พ่อค้าเร่ทำหน้างงๆที่รอนถามเรื่องพื้นๆแบบนี้
“คือ ……. ที่ที่ผมมาไม่ค่อยมีเหรียญทองใช้ครับ ผมเลยไม่รู้มาก่อน”
“หืมมมมม” พ่อค้าเร่ส่งเสียงเบาๆ ไม่ค่อยมีเหรียญทองใช้แต่มีมีดอะดาแมนเทียมเนี่ยนะ …. แต่เอาเถอะ
“ก็เหรียญทองที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนเงินตรา จะมีการผนึกพลังเวทมนตร์ประจำเหรียญไว้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง”
“ครับ”
“สำหรับคนที่ฝึกเวทระดับไม่สูง คนทั่วไป ถ้าจะตรวจสอบก็ต้องร่ายเวทรีวิวเพื่อตรวจสอบ … แต่สำหรับคนที่มีการฝึกเวทมากพอจะมีความสามารถในการรับรู้พลังเวทมากกว่าคนอื่นๆ แค่เดินผ่านเหรียญก็รู้แล้วว่าตรงไหนมีเหรียญทองอยู่ …… ถ้าไม่ใส่กล่องเฉพาะเอาไว้ ถ้าหากมีโจรที่พลังเวทสูงๆเดินมาใกล้ๆเค้าก็รู้หมดว่ามีทองให้ปล้น”
รอนพยักหน้า … ที่จริงวันก่อนก็มีการพูดเรื่องนี้มาทีนึงแต่เขาไม่ได้นึกสนใจถาม
เย็นนั้นพ่อเฒ่าเบรเซอร์นำแผนที่แสดงบริเวณรอบๆของหมู่บ้านมาให้รอนดูเพื่อวางแผนป้องกันหมู่บ้านและการจัดการในอนาคต
เพราะตอนนี้ทุกคนไม่สามารถไปทำไร่ได้เลยจากการที่มอนสเตอร์ออกมาเพ่นพ่านกัน … และเบรเซอร์ยังหวังว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะช่วยหาทางออกให้ได้บ้าง
“พ่อเฒ่าครับ บอกตรงๆ ผมเองก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าแก้ปัญหานี้ยังไง” รอนตอบไป “แต่เรื่องอาหาร ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะจัดการให้เอง แต่เดี๋ยวตอนเที่ยงคืนนี้ผมขอตัวออกไปนอกหมู่บ้านสักหน่อยนะครับ”
เบรเซอร์พยักหน้าให้รอนและหันซ้ายขวา ตอนนี้มาเรียและโรล่าไม่ได้อยู่ในบ้าน มีแต่เพียงเด็กเล็กที่นอนที่อีกมุมของบ้าน
“ท่านรอนไม่ต้องหลบออกไปก็ได้ ท่านอยู่ในห้องนอนตอนที่นำของออกมาก็ได้ แล้วข้าจะบอกกับทุกคนเองว่าท่านออกไปเอามาตอนกลางคืน”
“เอ๊ะ … ท่านรู้?” รอนถาม … รึว่าเบรเซอร์รู้ความลับที่ว่าเขาข้ามมิติได้
“ตอนที่ท่านมา ท่านไม่มีค้อนศึกและนมสำหรับทารกอันนั้น แต่ตอนที่ท่านกลับเข้ามาที่ห้องและกลับออกมาอีกครั้ง ท่านกลับมีของสองอย่างนี้มาด้วย … นั่นมีแค่คำตอบเดียวก็คือ” พ่อเฒ่าตอบอย่างผู้เจนโลก “ ….. ท่านมีที่เก็บสัมภาระต่างมิติ “
“เอ๊ะ” รอนอุทาน
“ข้าเข้าใจดี ว่าที่เก็บสัมภาระต่างมิตินี้มีราคาที่สูงมากและเป็นภัยกับท่านได้หากมีคนตั้งใจจะขโมย” เบรเซอร์บอกต่อ “ และตอนที่ดึงของออกมาต้องใช้พลังเวทจำนวนมาก รวมทั้งผู้ใช้จะตกในสภาวะป้องกันตัวเองไม่ได้ ดังนั้นอาจจะดึงได้แค่วันละ1-2ครั้ง และอันตรายหากมีคนมาทำร้ายขณะดึงของ … ดังนั้นท่านไม่ต้องออกไปหรอก ข้าจะช่วยปิดบังให้ท่านเอง เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อหมู่บ้านของเรา”
เอ่อ เข้าใจผิดนี่นะ …………… งั้นก็ปล่อยให้เข้าใจผิดต่อไปแบบนี้แล้วกัน