Midterm Fantasy - ตอนที่ 234
“ยังไงเธอก็ระวังตัวด้วยนะรอน” แพทพูดลงไปในโทรศัพท์มือถือ
“อื้อ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เธอเองก็เหมือนกัน” รอนบอก “แล้วก็เรื่องเจ้าชาย ยังไงก็ระวังๆนิดนึง ยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจได้แค่ไหน”
“ไม่ต้องย้ำน่า” เด็กสาวบอก “หวงเหรอ”
“…” รอนนิ่งไปพักนึง “อือ”
5 .. 4 .. 3 .. 2 .. 1 .. วาร์ป
รอนปรากฎตัวในรถม้า เด็กหนุ่มวางกระสอบทั้งสองกระสอบลง โรล่าที่นอนอยู่อีกด้านลืมตาแป๋วมองดู
“โรล่า ช่วยเอาของใส่แหวนเก็บสิ่งของหน่อยนะ”
“ได้ค่ะคุณรอน” เด็กสาวลุกขึ้นนั่ง จับไปที่กระสอบ จากนั้นก็เก็บเอากระสอบทั้งสองเข้าไปในแหวน
ระยะทางในการเดินทางระหว่างเมืองวาเลนเทียและเมืองกาล่าอยู่ที่3วัน ระหว่างนี้รอนสามารถขนถ่ายของข้ามไปมาระหว่างมิติได้วันละ 300กิโลกรัม เขาจึงใช้วิธีว่าในช่วงเที่ยงวันและเที่ยงคืน เขาจะเข้ามาอยู่ในรถม้ากับโรล่า ขนของระหว่างมิติ แล้วก็ให้โรล่าเก็บของเข้าไปในแหวนมิติเก็บสิ่งของ
ของที่รอนขนกลับไปโลกมนุษย์ ก็คือเหรียญทอง
ส่วนของที่ขนกลับมาฝั่งนี้ก็จะเป็นพวกอาวุธและยา
ที่ยังต้องทำแบบลับๆ แม้ว่าแพทจะบอกว่าเจ้าชายดีโอรู้แล้วว่าทั้งคู่ได้ศิลานักปราชญ์มา แต่ว่ารอนก็ยังไม่มั่นใจว่าเจ้าชายดีโอนั้นรู้จริงๆหรือว่าแค่พูดตีกินดักไว้ก่อน
“ว่าแต่เราถ้าเรามีแหวนมิติเก็บสิ่งของแล้วทำไมเราต้องขนของพวกนั้นไว้ในรถม้าอีกคันด้วยคะ”
“เพราะว่าพื้นที่ในแหวนมันจำกัดยังไงล่ะโรล่า ระยะเวลา 3 วันที่ขนของกลับไปกลับมานี่เดี๋ยวที่ในแหวนก็เต็มแล้ว” รอนบอก “ดังนั้นที่ผมให้ขนเครื่องปริ้นท์สามมิติไว้ข้างนอกเพราะพอไปถึงที่โน่นเราก็จะได้บอกว่าเราก็อยากจะขนของใส่ในแหวนแต่ที่เต็มเลยใส่เพิ่มไม่ได้ไง”
“ขอบคุณนะคะ”
“เอ๊ะ”
“ขอบคุณนะคะที่คุณรอนไว้ใจโรล่า บอกความลับเรื่องที่คุณข้ามไปอีกโลกและไว้ใจให้ช่วยงานแบบนี้” โรล่าบอก
“คิดมากน่า สำหรับผมแล้วโรล่าเป็นคนในโลกนี้ที่ผมไว้ใจมากที่สุด” รอนบอก
แกร๊ก เสียงดังมาจากข้างรถม้า
“นั่นใครน่ะ” รอนร้องถามออกไป
“ขออภัยด้วยครับ เมื่อครู่ปลายหอกของคนที่เดินยามไปชนกับรถม้าของคุณรอนเข้า” เสียงทหารดังมาจากด้านนอก
“ไม่เป็นไรครับ” รอนตอบออกไปก่อนจะหันมาบอกโรล่า “เอาล่ะ โรล่านอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางอีกไกล”
โรล่านอนหลับอย่างว่าง่าย ขณะที่รอนลงจากรถม้า ทักทายทหารยามที่ยืนอยู่รอบๆแล้วเดินไปหาที่โล่ง ฝึกอาวุธเช่นเคย
ที่ข้างรถม้า องครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนสี่นายที่ยืนอยู่ ถอนเวทมนตร์ชั่งน้ำหนักที่ร่ายใส่รถม้าเมื่อครู่ออก และจ้องมองไปที่รอนที่กำลังฝึกอาวุธด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
5 ชั่วโมงต่อมา แสงสว่างปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า รอนที่ฝึกอาวุธต่อเนื่องมาทั้งคืนไปอาบน้ำชำระล้างเหงื่อแล้วมานั่งเตรียมกินอาหาร ลงมือกินไปได้ครู่เดียวเสียงฝีเท้าม้าและล้อรถม้าบดพื้นถนนก็ดังมาจากถนนด้านหลัง
“หยุดดด”
โครม!
รถม้าเหวี่ยงตกลงข้างทาง ล้อไปทาง เพลาไปทาง ทุกอย่างเละเทะไปหมด
“โอย ลีออน บังคับม้าอะไรกันแบบนี้” เสียงผู้หญิงร้องออกมาจากซากรถม้า
“เดือนนี้นายทำรถม้าพังไป 6 คันแล้วนะ” เสียงผู้ชายอีกคนบ่นออกมา
“เดือนที่แล้วก็ทำเรือข้ามฟากจม” เสียงผู้หญิงอีกคนร้องขึ้น
ตึง!
ประตูรถม้าที่บิดเบี้ยวถูกเตะลอยขึ้นไปในอากาศลอยไปตกห่างออกไปเป็นร้อยเมตรดังกับถูกเตะด้วยกำลังมหาศาล ร่าง5ร่างปรากฎออกมาจากรถม้า
“พวกคุณ! คุณอัลเบิร์ต จีล แคลร์ ลีออน คริส คุณนักรบมังกรแห่งแสง” รอนทักอย่างรวดเร็ว
“โอ้ว คุณรอนนั่นเอง บังเอิญจริง พอดีเราผ่านมาทางนี้กำลังจะไปเมืองหลวงพอดี ขอพวกเราไปด้วยได้ไหมครับ”อัลเบิร์ตถาม
“ได้ครับ เชิญเลย” รอนเชิญให้ทั้ง5คนขึ้นรถม้า ทั้งหมดเก็บข้าวของจากเศษซากรถม้าแล้วก็ปลดม้าส่งให้พวกทหารดูแลก่อนขึ้นรถม้าไป
“ได้ยินว่าพวกคุณไปฝึกที่ชายแดนเหรอครับ” รอนถาม
“ใช่แล้ว พวกเราไปชายแดนเพื่อหามอนสเตอร์ที่จะต่อสู้” อัลเบิร์ตกล่าว “น่าเสียดายที่มอนสเตอร์หายากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราเลยอัพเลเวลกันได้ไม่มากเท่าไหร่”
รอนกะเอาจากแรงถีบประตูเมื่อครู่นี้ กำลังแม้จะมากผิดมนุษย์ทั่วไป แต่ก็ต่ำกว่าตอนที่เขาอัพพลังครั้งแรกเสียอีก
“คงจะเป็นแผนของนักรบมังกรเวก้า มันน่าจะรู้ว่าถ้าปล่อยมอนสเตอร์เพ่นพ่านจะทำให้เรามีโอกาสอัพเลเวล ตอนนี้ไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ถูกมันนำไปรวมกันไว้ที่ไหน” คริสบอก
“คุณรอนกับคุณโรล่าไปเมืองหลวงพร้อมกับองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวชื่อจิลถามขึ้น
“เจ้าชายดีโอแจ้งว่าพระราชาต้องการคุยตกลงการค้ากับผมเรื่องการเสริมอาวุธเตรียมรับศึกน่ะครับ” รอนบอก “อันที่จริงผมสงสัยมานานแล้ว ทำไมอาณาจักรแอสคาลอนถึงไม่สร้างอาวุธเอง ทำไมต้องสั่งซื้ออาวุธดีๆจากผม”
“อืม จะว่าไปอาวุธของร้าน ARMAMENT เป็นอาวุธที่คุณภาพดีใกล้เคียงกับของคนแคระกระมัง” อัลเบิร์ตตอบ “คุณโรล่า ผมขอมีดหน่อยสิครับ”
โรล่ายื่นมีดให้ เล่มนี้เป็นมีดแสตนเลสสตีลที่รอนซื้อมาราคาเล่มละ 600 คุณภาพดีกว่ามีดแสตนเลส20บาทที่โรล่าใช้สมัยก่อนเยอะ
“มีดของร้าน ARMAMENT เล่มนี้เป็นมีดอะดาแมนเทียมที่แข็งแกร่ง ถ้านำไปประมูลน่าจะไม่ต่ำกว่า100เหรียญทอง” อัลเบิร์ตชม “คุณรอนรู้ไหมครับว่ากว่าเราจะสั่งของจากคนแคระให้ได้สักชิ้นน่ะ ใช้เวลานานเป็นเดือน ถ้าจะติดอาวุธให้สักเซนจูเรี่ยนนึงต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ แต่ถ้าเป็นคุณรอนล่ะก็ ไม่ว่าจะอาวุธโอริค่อนหรืออะดาแมนเทียม เพียงแค่ไม่กี่วันเราก็พร้อมรบกันแล้ว”
“ทำไมถึงช้าแบบนั้นล่ะครับ แล้วช่างโลหะมนุษย์ก็มีไม่ใช่หรือครับ ทำไมต้องเป็นคนแคระ”
“สาเหตุสำคัญคือถ่านหินครับ การผลิตอาวุธและเกราะโอริค่อนต้องอาศัยถ่านหิน แต่ว่าเหมืองถ่านหินส่วนใหญ่ตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบาก การจะขนส่งถ่านหินออกมาแต่ละครั้งใช้แรงงานและมีความเสี่ยงมากมาย” อัลเบิร์ตกล่าว “ช่างโลหะของมนุษย์น่ะทำได้เพียงงานหล่อโลหะพวกทองแดง บรอนซ์กับเหล็ก แต่พอเป็นโอริค่อนและอะดาแมนเทียมที่ต้องฝึกฝนตีขึ้นรูป พอเราไม่มีถ่านหินก็ฝึกซ้อมกันลำบาก”
รอนขมวดคิ้ว เหมือนเขาจะเคยได้อ่านอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการสร้างอาวุธมา แต่ว่าคงต้องขอกลับไปดูให้แน่สักหน่อย แต่ไม่แน่ว่าอาจจะแก้ปัญหานี้ให้ช่างโลหะก็เป็นได้
ระหว่างที่นั่งคุยกันนี้นักรบมังกรหญิงที่ชื่อแคลร์เหลือบมองออกไปภายนอกเป็นระยะ รถม้าเคลื่อนผ่านถนนที่เริ่มมีคนสัญจรไปมามากๆ และขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนผ่านร้านอาหารข้างทาง เธอก็เปิดหน้าต่างให้กว้างขึ้น
“ลีออน ร้านนี้ใช่ไหมที่พวกเรามาแวะพักกันเมื่อครั้งก่อน”
“อื้อ ใช่แล้ว” ลีออนตอบ
จังหวะที่หน้าต่างเปิดออก รอนมองตามออกไปที่ร้านที่ว่าด้วย แล้วเค้าก็ตาโตอย่างตกใจ
“ทุกคนระวัง ในร้านมีศัตรู”
“เอ๊ะ”
รอนร้องขึ้นพร้อมกับยกโล่ออกมา
“ข้าแต่เทพไกอา พลังป้องกันของท่านช่างยิ่งใหญ่ [Earth Shield]” แคลร์ร่ายเวททันทีโดยไม่รั้งรอ โล่ปฐพีพุ่งขึ้นจากพื้นก่อนที่จะมีเสียงของลูกศรที่พุ่งกระแทกเข้ามาที่โล่นั้น รอนหันกลับเข้ามามองด้านใน เหนือร่างของโรล่ามีเส้นสีแดงทาบอยู่3เส้น
“โรล่า หมอบ”
เด็กหนุ่มโถมร่างเข้าไปทับก่อนที่ลูกศรจะพุ่งทะลุเพดานรถม้าลงมาปักเข้ากลางหลัง
[MegaMeat Shield] activated!
เมื่อคุณใช้ร่างของตนปกป้องผู้อื่น คุณจะไม่ตายถ้า HP ไม่หมด
ความสำนึกบุญคุณ +100%
-10 -10 -10
“คุณรอน!” โรล่าร้องขึ้นแล้วพยายามลุก
“โรล่าระวัง!” รอนคว้าตัวเด็กสาวมาไว้ในอ้อมกอดแล้วหมุนตัวไปอีกด้าน ลูกศรอีกสามลูกพุ่งทะลุผนังเข้ากลางหลังของรอนอีกรอบ
-10 -10 -10
[สำนึกบุญคุณ+30]
[สำนึกบุญคุณ+30]
[สถานะ โรล่า Zealot—> Soul Mate]
เปิดฟังก์ชั่นใหม่ [Soul mate Telepathy]
รอนยกโล่ขึ้นป้องกันลูกศรที่ระดมยิงเข้ามา ระหว่างนั้นในศีรษะของเขาก็หลั่งไหลเข้ามาด้วยความรู้สึกแปลกๆ เป็นความรู้สึกกังวล ความรู้สึกรัก ที่รับรู้ได้ว่ามาจากเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
คริส ลีออน อัลเบิร์ตดึงโล่อันใหญ่ออกมาจากแหวน ใช้โล่เหล่านั้นยกขึ้นป้องกันรอบด้าน ขณะที่จีลและแคลร์ใช้เวทป้องกันเสริมกำลังโดยรอบจนลูกศรที่พุ่งเข้ามาลดลง
สักครู่ทุกอย่างก็เงียบสงบ องครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนจัดการกับศัตรูได้เรียบร้อย แน่นอนว่าพวกนั้นคือพวกเผ่าลิงที่มาแอบซุ่มอยู่
รอนมองดูแล้วผิดสังเกตเล็กน้อย ดูเหมือนมีคนที่เป็นทหารนอกเครื่องแบบช่วยในการจับกุมเผ่าลิงเหล่านี้มากกว่าปกติ
“คุณรอนเป็นยังไงบ้างครับ” ลีออนถามก่อนจะดึงลูกธนูที่ปักเต็มหลังออกให้ “เอ้า นี่ครับ กินนี่ก่อน”
รอนรับเอากล้วยจากมือของลีออนมากิน3ลูก
[+5] [+5] [+5] ….
พลังชีวิตค่อยๆขึ้นมาช้าๆ แผลที่หลังค่อยๆหายเลือดค่อยๆหยุดไหล
รถม้าเคลื่อนตัวต่อเข้าไปช้าๆ ทั้งหมดคุยกันเรื่องการโจมตีเมื่อครู่ฆ่าเวลา จนกระทั่งรถม้าจอดลง
พวกเด็กๆจากหมู่บ้านและข้าวของเครื่องใช้ถูกนำไปเก็บไว้ด้านหนึ่ง ขณะที่องครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนอีกชุดมานำทางพารอนและเหล่านักรบมังกรคนอื่นๆไปที่ท้องพระโรง
ทั้งหมดยืนรอที่หน้าท้องพระโรง จากนั้นก็มีเสียงเครื่องดนตรีประโคมดังมาจากภายในตามด้วยเสียงประกาศ
“โอ้ … ผู้พิทักษ์แห่งวาเลนเทีย เพรเตอร์ผู้มีอำนาจเต็มแห่งกองทัพ ผู้ดูแลอาณาจักรแอสคาลอน ข้ารับใช้แห่งจักรพรรดิ ผู้พิทักษ์แห่งโรม เพรเตอร์ ลูเซียส ลาตินัส ที่6 มาอยู่ ณ ที่นี้แล้ว”
“เชิญผู้มาเยือนทั้งหลายเข้าพบได้”
ประตูเปิดออก ในท้องพระโรงวันนี้มีองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนในเกราะดำยืนเรียงรายสองข้างร่วม 50 นาย นักรบมังกรแห่งแสงทั้งห้าเดินนำเข้าไป รอนและโรล่าเดินตาม ก่อนที่ทั้งหมดจะย่อเข่าลงและแสดงความเคารพพระราชาลูเซียส
พระราชายกมือขึ้น
“นักรบมังกรแห่งแสงทั้ง 5 สาวน้อยโรล่า ลุกขึ้นเถิด”
แล้วพระราชาก็จ้องมองไปที่รอน หรี่ตาลงเล็กน้อย
“และท่านนักรบมังกรรอน ข้าควรจะเรียกท่านว่านักรบมังกรแห่งแสงหรือนักรบมังกรแห่งความมืดดีล่ะ”
รอนเงยหน้ามอง องครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนทั้งหมดเลื่อนมือไปจับที่ฝักดาบ แถบพลังชีวิตขึ้นที่เหนือศีรษะของทุกคน
แคร้ง!
โรล่าชักมีดสั้นออกมา เตรียมพุ่งตัวเข้าใส่พระราชาทันที