Midterm Fantasy - ตอนที่ 237
ร่างของเด็กหนุ่มที่โซซัดโซเซในทางเดินทำให้ทุกสายตาต้องตื่นตะลึง พระราชาและบรรดานักปราชญ์ต่างยืนอึ้งนิ่งอย่างงงงัน
ตอนนี้รอนกับโรล่า เด็กหนุ่มสาวทั้งสองที่เจอยากระตุ้นเข้าไปควรจะอยู่ในห้องกันไม่ใช่รึ
และเมื่อเลื่อนมองลงไปด้านล่าง เลือดแดงฉานที่ไหลนองลงมากับปิ่นปักผมที่รอนกำไว้ในมือก็ให้คำตอบกับทุกคนได้
“ใครคิดแผนนี้” รอนกัดฟันพูดออกไป
ทุกสายตามองไปที่พระราชาลูเซียส
“อย่าเพิ่งพูดเลย รักษาคุณรอนก่อนเถอะ” พระราชารีบเปลี่ยนเรื่อง
เด็กหนุ่มถูกพาลงนั่งก่อนที่บรรดานักปราชญ์จะร่ายเวทรักษา รอนนั่งมองแผลที่บริเวณดังกล่าวค่อยๆหายช้าๆ
[+5] [+5] [+5]
[ฤทธิ์ยากระตุ้นถูกรักษา]
[ตรงนั้นใช้การได้ปกติ]
เด็กหนุ่มมองอย่างไม่คิดอะไรมาก ผ่านความเกือบตายมาแล้วหลายครั้ง แผลเท่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ว่าเรื่องมันยังไงกัน
“ห๊ะ ที่ทำลงไปเพราะว่าต้องการรั้งให้ผมอยู่ในโลกนี้” รอนร้องออกมาก่อนจะเอาฝ่ามือแปะหน้าผาก
“ถูกต้อง โรล่าเป็นคนของโลกนี้ พวกเราคิดว่าถ้าหากทำแบบนี้จะได้รั้งเธอเอาไว้ที่นี่ได้ยังไง” พระราชาบอก
“แต่ท่านไม่กลัวหรือครับ ถ้าหากผิดพลาดอะไรขึ้นมาแล้วผมไม่พอใจ ผมอาจจะไม่ร่วมมือกับอาณาจักรแอสคาลอนก็ได้” รอนถาม
“ยังไงเด็กโรล่าก็เป็นพลเมืองของแอสคาลอน มันคงไม่จบแบบนั้นกระมัง” พระราชาตอบ
“ท่านอย่าลืมเหตุการณ์ที่ท้องพระโรงวันนี้สิครับ” รอนย้ำ
พระราชาลูเซียสนึกได้
เพื่อรอน เด็กสาวคนนั้นถึงกับหันดาบเข้าหาราชองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนครึ่งกองร้อย
ถ้าหากรอนตัดสินใจเป็นปฏิปักษ์ขึ้นมาล่ะก็คงไม่ต้องบอกว่าโรล่าจะตัดสินใจยังไงเลือกข้างฝ่ายไหน
“ผมขอร้องนะครับ อย่าให้มีครั้งถัดไปอีก”รอนบอก “ยังไงหมู่บ้านโอลเซ่นเป็นที่ที่ผมตั้งใจจะอยู่อาศัยอยู่แล้ว โรล่าและคนอื่นๆในหมู่บ้านก็เป็นคนที่ผมรู้จักมักคุ้นมานาน ผมไม่มีทางละทิ้งอยู่แล้ว”
พระราชาและนักปราชญ์พยักหน้า
“แล้วเรื่องในวันนี้มีใครรู้บ้างครับ” รอนถาม
“ก็มีเฉพาะคนในที่นี้และท่านบิชอฟ … อืม ท่านบิชอฟคือคนที่ปลอมตัวเป็นหญิงรับใช้น่ะ ข้าให้ท่านบิชอฟช่วยร่ายเวทเพื่อทำให้สเตตัสของคุณรอนอ่านค่าไม่ได้ จะได้ไม่ทราบว่าดื่มยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศเข้าไป” พระราชาบอก
“จริงสิ โรล่าก็ดื่มเข้าไป อย่างนั้นท่านช่วยใช้เวทรักษาให้โรล่าด้วยเถอะครับ” รอนบอก
ขนาดเขาเองยังต้องใช้การแทงตนเองเพื่อระงับอารมณ์สำหรับโรล่าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
“เข้าไปตอนนี้เลยรึ”
“ใช่ครับ เมื่อครู่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ผมรีบแทงตนเองก่อนที่จะทำอะไรบ้าๆลงไปแล้วรีบออกมาก่อน”
ทั้งหมดเข้าไปในห้อง จากนั้นนักปราชญ์ก็ช่วยร่ายเวทรักษาให้กับโรล่า พระราชาชำเลืองดูท่าทางของเด็กสาวแวบนึงอย่างผิดหวัง ท่าทางรอนจะไม่ได้ทำอะไรจริงๆ
รอนเข้าไปพักในห้องรับรองอีกห้องจนเช้าวันรุ่งขึ้น แม้ตอนกลับไปที่โลกตอนเที่ยงคืน รอนก็ไม่ได้บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแพท แม้ว่าการตัดสินใจของเขาจะเป็นการเลือกแพท แต่เรื่องมันก็ชวนหวาดเสียวเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะบอกให้แพทกังวล
“นี่เรากำลังไปที่ไหนเหรอคะคุณรอน” โรล่าถามเมื่อเห็นว่ารอนพาเดินออกจากพระราชวังไปในตัวเมือง ในวงแขนมีปี๊บใส่ขนมอยู่ใบนึง
“ไปร้านอาวุธครับ” รอนตอบ “ผมจะไปพบกับช่างโลหะคนแคระ ผมอยากพิสูจน์อะไรสักอย่างนึง”
ทั้งสองเดินไปตามท่านกิลเลี่ยนหัวหน้าทหารราชองครักษ์ไปตามถนนออกจากเขตที่อยู่อาศัยชั้นในไปยังตรอกโรงอาวุธ จนไปหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง เสียงค้อนเคาะโลหะดังเป็นจังหวะ กิลเลี่ยนเดินเข้าไปข้างในบ้านนั้นครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกมาและเรียกรอนกับโรล่าเข้าไป
“นี่รึ นักรบมังกรที่บังเอิญได้ศิลานักปราชญ์ของท่านอารย่า” คนแคระร่างตันเดินออกมา รอนพยักหน้าก่อนที่จะแนะนำชื่อของตนและโรล่า
“ข้าคือดูเร็กส์ บุตรแห่งเฟเธอร์ทิน เป็นหัวหน้าตระกูลคนแคระช่างอาวุธที่ทำอาวุธให้หน่วยองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยน” คนแคระมองไปที่มีดที่เหน็บไว้ของโรล่า “เชิญ เข้าไปนั่งก่อน”
ทั้งหมดเข้าไปนั่งในห้องรับแขก ห้องเรียบง่ายปราศจากเครื่องประดับใดๆ มีเพียงอาวุธนานาชนิดที่วางกองเอาไว้ที่พื้น และแสงสว่างจากกองไฟในเตาข้างกำแพง
“ได้ยินว่าเจ้าคือเจ้าของร้าน ARMAMENT ที่ขายอาวุธอะดาแมนเทียมและโอริค่อนให้กับกองทหาร” คนแคระบอก
“ใช่ครับ” รอนตอบ “แต่คุณภาพยังไม่สู้อาวุธโอริค่อนที่มาจากคนแคระ”
เด็กหนุ่มหยิบดาบที่ถูกวางกองไว้ขึ้นมาเล่มหนึ่ง ดาบโอริค่อนหรือก็คือดาบเหล็กกล้านี้แข็งแรงทนทานกว่ามีดสแตนเลสที่เขาเหมามาหลายเท่า และดูมีคุณภาพกว่ามีดพร้าที่เขาเหมามาจากร้านข้างถนนอยู่ไม่น้อย
“ถูกต้อง ในบรรดาอาวุธของ ARMAMENT ทั้งหมด มีเพียงดาบใหญ่ที่ท่านแจกจ่ายที่เมืองกาล่าเท่านั้นที่เทียบเคียงกับอาวุธโอริค่อนของช่างคนแคระ” ช่างดูเร็กส์กล่าว “แต่ท่านก็ก็อย่าลืมว่าราคาอาวุธของท่านถูกกว่าราคาอาวุธของพวกเราเกือบร้อยเท่า”
“ผมสงสัย…” รอนถามต่อ “ทำไมพวกท่านไม่ทำอาวุธให้มากกว่านี้ ทั้งที่ราคาดีขนาดนี้”
คนแคระดูเร็กส์มองหน้ากิลเลี่ยน หัวหน้าองครักษ์พยักหน้าให้บอกกับรอนได้ ช่างอาวุธจึงตอบออกไป
“เพราะวัตถุดิบขาดแคลน”
“วัตถุดิบขาดแคลน แร่เหล็กหรือครับ” รอนถาม “ไม่สิ ต้องไม่ใช่เหล็ก เพราะในท้องตลาดมีดาบเหล็กขายอยู่ทั่วไป”
“หืม เจ้ารู้รึว่าโอริค่อนกับอะดาแมนเทียมทำจากเหล็ก” ดูเร็กส์ขมวดคิ้ว
“ครับ โอริค่อนทำโดยการเอาแร่เหล็กมาหลอมในเตาหลอม ใส่ถ่านหินปนลงไปในเหล็กที่หลอมนั้น เป่าลมเข้าไป จากนั้นนำเหล็กหลอมที่ได้ออกมาตีและเผาไฟเพื่อเอาส่วนที่ไม่บริสุทธิ์ออกจากเหล็กนั้น … ส่วนอะดาแมนเทียมก็ผสมแร่โครเมียมลงไป”
รอนอธิบายหลักการคร่าวๆของเตาหลอมเหล็กออกไป ยิ่งเล่าช่างอาวุธยิ่งแตกตื่น
“ท่านรู้ความลับเรื่องการทำอาวุธนี้ได้ยังไง” คนแคระบอก “ท่านรู้เรื่องนี้แต่กลับไม่รู้เรื่องที่ถ่านหินขาดแคลน หรือว่าท่านรู้จากโลกโน้น”
“ความรู้นี้เป็นเรื่องที่รู้โดยทั่วกันที่โลกโน้นจริงๆครับ” รอนบอก “ในโลกของผมเรียกโอริค่อนว่าเหล็กกล้าครับ”
ช่างอาวุธพยักหน้าก่อนที่จะเล่าถึงเรื่องขาดแคลนถ่านหิน ถ่านหินที่นำมาใช้ผลิตโอริค่อนล้วนมาจากเหมืองที่อยู่ในเขตภูเขาที่ลึกเข้าไป การขนส่งออกมานั้นยากยิ่งมีต้นทุนสูง และนับแต่ดราซัคปรากฎตัวขึ้นและเกิดคลื่นมอนสเตอร์ออกมา การขนส่งถ่านหินก็ชะงักลง ถ่านหินที่มีอยู่ก็น้อยลงเรื่อยๆ
“ที่โลกโน้นมีทางแก้ปัญหานี้หรือไม่” ดูเร็กส์ถาม ตาเป็นประกาย อีกฝ่ายเดินทางมาถึงที่นี่คงไม่มาถามเขาเฉยๆแน่
“มีครับ” รอนตอบก่อนจะหันไปที่โรล่า “โรล่า ขอปี๊บขนมหน่อย”
ปี๊บขนมที่โรล่าหิ้วมาตอนแรกถูกเปิดฝาและเทเอาขนมออกมา มันเป็นปิ๊บใส่ขนมราคาถูกที่รอนเอามาขายอัพราคาที่โลกนี้
ขนมถูกเทออกจนหมด รอนลุกขึ้นแล้วไปหยิบไม้กวาดที่ข้างห้อง เอามาหักเป็นชิ้นแล้วกรอกเข้าไปในปี๊บก่อนจะปิดฝาแล้วโยนเข้าไปในกองไฟเตาไฟข้างกำแพง
ปี๊บร้อนแดงก่อนจะมีเสียงฉี่ๆยุบตัวลง จนครู่ใหญ่ๆรอนก็เอาปี๊บนั้นออกมา ให้โรล่าใช้เวททำให้เย็นแล้วเปิดฝา เทไม้ที่กลายเป็นสีดำสนิทกองใหญ่ออกมาส่งให้คนแคระดูเร็กส์
“ท่านลองนำไปใช้ทำโอริค่อนดูครับ” รอนบอก
ดูเร็กส์สั่นสะท้านขึ้นก่อนจะรับเอาถ่านไม้นั้นกลับเข้าไปในห้องด้านหลัง เสียงเทวัตถุดิบลงเตาและเสียงการใช้เวทไฟดังขึ้นมา รอนไม่ได้สนใจอะไรหากแต่หยิบเอาเอกสารที่เตรียมไว้อีกชุดออกมาเปิดอธิบายให้ท่านกิลเลี่ยนฟัง
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ดูเร็กส์เดินออกมาพร้อมกับก้อนโลหะในมืออันสั่นเทา
“ใช้ได้จริงๆ สิ่งนี้ใช้ทำโอริค่อนได้จริงๆ” คนแคระกล่าว “ความลับนี้ ท่านต้องการค่าตอบแทนเท่าไหร่กัน”
ดูเร็กส์รู้คุณค่าของความลับนี้ ถ่านไม้ ที่สามารถใช้แทน ถ่านหิน นี้จะปฏิวัติวงการสร้างดาบโอริค่อนไปอย่างมากมายเกินจะคาดคิด วัตถุดิบที่หายากที่สุดราคาแพงที่สุดคือถ่านหิน และบางครั้งขาดแคลนขนาดที่ถึงมีเงินก็ซื้อไม่ได้
แต่ถ้าหากมีถ่านไม้นี้ ปัญหานี้ก็จะหมดไป อาวุธชุดเกราะโอริค่อนที่ยากจะผลิตก็จะสามารถผลิตได้มากขึ้น ราคาก็จะถูกลง คนแคระทั้งปวงก็จะมีโอกาสผลิตอาวุธมากขึ้น
อย่าเห็นว่าเผ่าพันธุ์คนแคระพึงพอใจกับราคาโอริค่อนที่แพง พวกมันล้วนแล้วแต่มีความต้องการผลิตสร้างอาวุธชั้นดี หากได้ผลิตอาวุธชั้นดีจำนวนมากแม้รายได้จะไม่เพิ่มขึ้นพวกมันก็ล้วนแต่ยินยอม
แต่ดูเร็กส์ก็รู้ดีว่าความลับทุกอย่างย่อมมีราคา
“ผมให้ฟรีครับ” รอนบอก
“เว้ย!” ดูเร็กส์ร้อง
“ผมบอกวิธีสร้างเตาผลิตถ่านไม้ขนาดใหญ่ให้กับท่านกิลเลี่ยนแล้ว นี่เป็นเอกสารรูปภาพให้ทำได้”
“ให้ฟรี มีเอกสารให้ด้วย” คนแคระหัวหมุนไปหมด จู่ๆก็มีเนื้อชิ้นใหญ่ลอยลงมาให้เปล่าๆ แต่การที่รอนบอกวิธีให้กับหัวหน้าองครักษ์แล้วก็แปลว่ารอนตั้งใจจะมอบให้แล้วจริงๆ
“ลำพังร้านARMAMENTไม่อาจติดอาวุธให้อาณาจักรแอสคาลอนได้ทั้งหมด แต่ถ้าพวกท่านเหล่าคนแคระสามารถผลิตอาวุธจำนวนมากและลดราคาลงได้ ปัญหาขาดแคลนอาวุธก็จะหมดไป” รอนบอก “ท่านเห็นว่าอย่างไรบ้าง”
“แน่นอน ได้แน่นอน เมื่อมีสิ่งทดแทนถ่านหินได้ราคาก็ย่อมลดลงได้”
คนแคระรับคำ
“ครับ เช่นนั้นผมไม่ขอสิ่งใดตอบแทนมากไปกว่าให้พวกท่านผลิตอาวุธขายให้กับแอสคาลอนในราคาที่เป็นธรรม” รอนบอก “อ้อ อีกอย่างนึง ผมอยากให้ท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับในหมู่คนแคระในแอสคาลอนเท่านั้น ห้ามไม่ให้บอกความลับนี้กับคนแระในอาณาจักรอื่น อย่างน้อยก็ในสามปีนี้จะได้ไหมครับ”
ดูเร็กส์รับคำอย่างไม่คิดอะไร แค่สามปีเท่านี้จะมีผลอันใดกัน
รอน โรล่า และกิลเลี่ยนเดินออกจากบ้านช่างอาวุธเพื่อกลับวัง
“คุณรอน ทำไมถึงไม่เรียกร้องเงินทองหรือผลประโยชน์ล่ะคะ” โรล่าถาม
“ตอนนี้ที่สำคัญคือต้องเพิ่มอาวุธครับ ถ้าเราเรียกเงินมากเกินไปการผลิตอาวุธขายก็อาจจะมีปัญหา ราคาอาวุธที่แพงจะกลับมาทำร้ายแอสคาลอนเอง” รอนบอก “ผมต้องการให้อาณาจักรแข็งแรง หมู่บ้านโอลเซ่นจะได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น”
เด็กหนุ่มบีบมือโรล่าเบาๆ เด็กสาววาบหวามใจอีกครั้งเมื่อคิดถึงว่ารอนทำไปเพื่อหมู่บ้านของเธอ (อิรอน เอ็งยังไม่เข็ด)
“คุณกิลเลี่ยน แล้วก็อย่าลืมที่ตกลงไว้นะครับ”
“แน่นอนคุณรอน”
“อะไรคะ ตกลงอะไรกัน”
“ผมคุยแผนนี้กับพระราชาไปเมื่อคืน เมื่อมอบวิธีผลิตถ่านไม้มาทดแทนถ่านหินให้ฟรีๆ สิ่งที่จะตามมาก็คือพวกคนแคระจะตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นเพิ่มพื้นที่ราบให้ชาวแอสคาลอนได้บุกเบิกเพิ่มขึ้น” รอนบอก “นอกจากนี้เหมืองถ่านหินของคนแคระจะไร้ค่า เจ้าของเหมืองที่เป็นคนแคระก็ต้องรีบหาทางขายออกไปแน่นอน”
“เราจะรอให้ราคาเหมืองตกลงเหลือ 10% ของราคาจริง ก่อนที่จะกว้านซื้อเหมืองเอาไว้เอง” กิลเลี่ยนกล่าว “เงินเบื้องต้นแอสคาลอนจะออกให้คุณรอนไปก่อน”
“ซื้อทำไมคะ” โรล่าถามงงๆ ก็ในเมื่อมีของมาทดแทนแล้วนี่
“ที่ผมขอให้คุณดูเร็กส์ปิดข่าวไว้เฉพาะหมู่คนแคระ คนแคระเจ้าของเหมืองจะรีบปล่อยขายเหมืองขณะที่คนนอกอาณาจักรยังไม่รู้ และพอเรากว้านซื้อเสร็จ เราจะปล่อยข่าวไปว่าจะขายเหมืองในราคาถูก รับรองได้ว่าจะมีตระกูลเศรษฐีหน้าเลือดติดกับแน่นอน” รอนบอก “กำไรนิดๆหน่อยๆที่ARMAMENTได้จะแบ่งครึ่งนึงกับคลังของแอสคาลอน”
“ถูกต้อง ในบรรดาอาณาจักรทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่มีตระกูลที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการค้าและอิทธิพลที่ผิดกฎหมายซึ่งแม้แต่พระราชาหรืออาณาจักรก็จัดการไม่ได้”กิลเลี่ยนบอก “ถ้าหากมันมาติดกับและซื้อเหมืองไป การเงินของมันก็จะชะงัก และเงินผิดกฎหมายเหล่านั้นก็จะกลับเข้าสู่อาณาจักรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้อาณาจักรของเรา”
“เป็นการยิงศรลูกเดียวได้ก็อบลินสองตัว”
“ถูกต้อง และเมื่อพวกกลุ่มอิทธิพลอ่อนแอลง แอสคาลอนก็จะเจริญขึ้น โอลเซ่นก็จะยิ่งปลอดภัย โรล่าเองก็จะได้อาศัยที่นี่ได้อย่างปลอดภัยขึ้นไง” รอนบอกโรล่า
เด็กสาวยิ่งซาบซึ้งเข้าไปอีก (รอน เอ็งยังไม่เข็ด)
สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ ราคาเหมืองที่ตกลงมาไม่ได้หยุดที่10% และกำไรที่ได้ไม่ใช่แค่กำไรนิดๆหน่อยๆ