Midterm Fantasy - ตอนที่ 239
ข่าวการกว้านซื้อเหมืองหินเพลิงในอาณาจักรแอสคาลอนของตระกูลคันนิ่งแฮมกระหึ่มทั่วไปทั้งแผ่นดินในเวลาไม่กี่วัน ตามด้วยข่าวร้าน ARMAMENT ถอนอาวุธและเกราะโอริค่อนที่ขายในท้องตลาดออกไปทั้งหมด
และก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวว่าอะไรเป็นอะไร ข่าวที่น่าตื่นตะลึงกว่าก็ตามมานั่นก็คือ
กิลด์ช่างอาวุธของคนแคระ ประกาศลดราคาอาวุธและชุดเกราะที่ทำจากโอริค่อนลง50%
ข่าวนี้สะเทือนเลื่อนลั่นมาก อาวุธที่เคยสูงค่าและราคาแพงที่สุดกลับหั่นราคาลงมา และในไม่ช้าทุกคนก็สังเกตว่าเหล่าคนแคระได้มีการว่าจ้างขนานใหญ่ มีการสร้างเตาเผาและเผาท่อนไม้มากมาย
ตอนนั้นเองที่ทุกคนเริ่มเชื่อมโยงได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นและทำไมจึงเกิดการขายเหมืองหินเพลิงเหล่านั้น
ที่แท้ก็มีวัตถุดิบที่นำมาทดแทนถ่านหินหินเพลิงได้นั่นเอง
“จอร์ดี้ ไหนเจ้าว่ามาร่วมลงทุนกับเจ้าแล้วจะได้กำไรอย่างไรเล่า”
“ใช่ พวกเรานำเงินลงทุนทั้งหมดมาลงกับเจ้าเพราะเห็นโอกาสที่ว่านี้ แต่ทำไมนับวันราคาหินเพลิงยิ่งตกลงไปเรื่อยๆ”
“หัวหน้าตระกูลคาร์เมนของข้าสั่งการมา เราจะถอนเงินลงทุนทั้งหมด”
“ถ้าอย่างนั้นแก๊งอลอนโซของเราก็จะถอนการลงทุนด้วย คืนเงินของเรามา”
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในสำนักงานของตระกูลคันนิ่งแฮม เหล่าตัวแทนของตระกูลต่างๆเดินทางมาหาคำตอบหรือไม่ก็ขอถอนการลงทุน
และก็แน่นอนว่าตอนนี้ตระกูลคันนิ่งแฮมของจอร์ดี้ไม่อาจคืนเงินได้ เพราะเงินทั้งหมดลงไปอยู่ในเหมืองจนหมดสิ้นแล้ว หินเพลิงที่ตั้งใจจะขายก็ขายไม่ได้ ดังนั้นเงินสดที่จะนำมาคืนก็ไม่มีให้ จอร์ดี้ทำได้แต่เพียงรับหน้าและแจ้งกลับไปที่ตระกูลหลักเพื่อหาทางออก
รอนและกิลเลี่ยนเฝ้ามองจากด้านนอกของสำนักงานตระกูลคันนิ่งแฮม
“จากรายงาน ตระกูลและแก็งที่ร่วมมือกับตระกูลคันนิ่งแฮมต่างอยู่ในภาวะหมุนเงินไม่ทัน กำลังเร่งกดดันเอาเงินคืนอย่างเร่งด่วน” กิลเลี่ยนบอก “เหล่าแก็งใต้ดินและโจรที่ก่อกวนตามเมืองต่างๆตอนนี้กำลังเจอปัญหาเงินไม่พอกัน”
“ดูจากเงินที่พวกนั้นซื้อเหมืองจากพวกเรา ผมคิดว่าต่อให้พวกนั้นขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลก็คงใช้เงินคืนกลุ่มที่มาลงทุนได้ไม่ไหม” รอนบอก “ท่านกิลเลี่ยนคอยจับตาดูไว้ ถ้าหากพวกนั้นประกาศขายเหมืองต่ำกว่า 20000 เหรียญทองต่อเหมืองเมื่อไหร่ ให้เตือนทางกิลด์ให้ซื้อตามที่ผมสั่งไว้นะครับ”
“ซื้อ? ถ่านหินมันไม่มีประโยชน์แล้วไม่ใช่รึ แล้วคุณรอนจะซื้อไปทำไม”
“ความจริงแม้จะมีถ่านไม้ แต่ว่าถ่านหินก็มีข้อได้เปรียบบางอย่างอยู่ ยังไงเราก็ได้กำไรอยู่แล้ว ก็ซื้อคืนถ้ามีโอกาสแล้วกันครับ” รอนบอก
หลังจากตกลงกันแล้วรอนก็ลาคุณกิลเลี่ยนและเตรียมตัวกลับโลกในตอนเที่ยงวัน
หลังจากที่อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นนักรบมังกรแล้วก็ไม่จำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆอีก รอนหยิบถุงเหรียญทองขึ้นมือละถุงก่อนและรอเลขบอกเวลานับถอยหลัง
5..4..3..2..1… วาร์ป!
รอนปรากฎกายในสวนหย่อมของโรงเรียน ข้างๆกันนั้นแพทวาร์ปกลับมาพร้อมๆกัน ในมือของเด็กสาวถือถุงเหรียญทองเอาไว้เหมือนกับรอน เด็กหนุ่มมองหน้าเพื่อนสาวเงียบๆ
“เอ้า รอนเป็นอะไร จ้องหน้าเราทำไม” แพทถาม
“ไม่มีอะไร แค่ไม่ได้เห็นเจอเธอ12ชั่วโมง เลยรู้สึกแปลกๆน่ะ” รอนบอก
“เอาน่า เป็นแบบนี้มาอาทิตย์นึงแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ … แล้วนี่พรุ่งนี้เธอก็จะกลับจากเมืองหลวงวาเลนเทียแล้วนี่ เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว” แพทถามก่อนจะลดเสี่ยงลงเบาๆ “นั่นแน่ คิดถึงเราล่ะสิ”
“อือ” รอนพยักหน้า
แพทแก้มแดงขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะหันไปอีกทาง
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณเจนัสจะรอ” เด็กสาวดึงมือรอนออกจากสวนหย่อม
ที่หน้าโรงเรียน เจนัสรออยู่พร้อมกับรถกระบะและชายร่างล่ำ 2 คน รอนและแพทส่งถุงเหรียญทองทั้ง4ถุงให้ ถุงแต่ละใบหนักร่วม 100 กิโลกรัม จนชายทั้งสองยกกันหน้าดำหน้าแดงก่อนจะช่วยกันวางลงที่ท้ายรถ
“ของวันน้ีจำนวนเท่าไหร่คะ” เจนัสถาม
“ถุงละ 6000 เหรียญครับ รวม 24000 เหรียญเท่าเดิม” รอนตอบ
“คุณรอนคะ แก๊งยับมงที่เราขายทองให้ขอต่อรองราคาเหลือบาทละ 8000 ค่ะ พวกนั้นขู่ว่าถ้าเราไม่ตกลงจะไม่รับซื้อทองจากเราอีก” เจนัสบอก
“ตอนนี้เราติดต่อกับซงซา ชุลมุ่ย กับแก๊งชนังนาสอยู่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นติดต่อสามแก๊งนี้ไปว่าสัปดาห์นี้เราจะขายทองให้กับพวกนั้นในราคาบาทละ 9000”รอนบอก “ส่วนแก๊งยับมง บอกกลับไปว่าสัปดาห์นี้เราจะไม่ขายทองให้ และหากยังคิดจะติดต่อซื้อขายกันอยู่ สัปดาห์หน้าจะต้องรับซื้อทองจากเราในราคาบาทละ 14000 ชดเชยเงินที่พวกเราเสียไป”
“ได้ค่ะ” เจนัสรับคำ
“สี่แก๊งนี้เป็นแก๊งค้าของเถื่อนที่แข่งขันกันอยู่แล้ว ถ้าหากแก๊งยับมงพบว่าแก๊งตนเองเจอตัดการค้าแค่แก๊งเดียวพวกมันต้องคิดหนักแน่ๆ” รอนบอก
“อ้อ คุณรอน เมื่อเช้าคุณหลิวลี่จงติดต่อมา ตอนนี้เรือที่โดยสารมาเข้าเทียบท่าที่ฮ่องกงแล้วค่ะ” เจนัสบอก “แต่ว่าพวกเขาถูกตำรวจติดตาม ตอนนี้เลยเอาอาวุธที่คุณรอนสั่งไว้มาด้วยไม่ได้ เลยขนไปหลบซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์ตรงท่าเรือ ตอนนี้เลยกลับมาตัวเปล่าค่ะ”
“ครับ ปลอดภัยกันดีใช่ไหมครับนั่น”
“ค่ะ ทั้งสามคนปลอดภัยดี”
“ปลอดภัยก็ดีแล้วครับ ตอนที่ผมได้ยินว่าไปวานาซูเอเล่ก็กลัวว่าจะมีปัญหาอยู่เหมือนกัน ที่นั่นในตอนนี้วุ่ยวายพอดูเลย”
แต่จะว่าไปทำไมคุณหลิวลี่จงต้องไปซื้อหอกซัด มีดผีเสื้อ ดาบเคลย์มอร์ ไกลถึงวานาซูเอเล่กันนะ
“รอน กลับเข้าไปกันก่อนเถอะ ใกล้หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว เดี๋ยวครูสงสัย” แพทดึงมือรอนที่ยังยืนอยู่ที่รั้วโรงเรียนมองเจนัสอยู่ “เดี๋ยวเย็นนี้เธอสองคนก็เจอกัน ตอนนี้อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้วนี่ยังจะอะไรอีก”
รอนเกาหัวแกรกๆขณะที่เจนัสแก้มแดงขึ้น รอนโบกมือบ๊ายบายเจนัสแล้วเดินกลับมุ่งไปที่ห้องเรียน ที่ห้องเรียน ทั้งสองนั่งเก้าอี้รอครู
“วันนี้ที่หมู่บ้านโอลเซ่นเป็นยังไงบ้าง”
“ก็เหมือนเดิมแหละ เจ้าชายดีโอยังชวนเราไปดูการคุมกองทัพเหมือนเดิม” แพทบอก “พรุ่งนี้ท่านกาล่ากับท่านมีอาจะเคลื่อนกองทหารเซ็นจูเรียนที่1ถึง20 มาเพื่อมาซ้อมรบด้วย”
“แล้วเจ้าชายยังตามกวนใจเธอเหมือนเดิมอยู่ไหม” รอน
“ยังตามอยู่นะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยกวนใจแล้วล่ะ” แพทบอก
“เห?”
“ก็ยังตามอยู่เหมือนเดิมน่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ค่อยรู้สึกว่าน่ากวนใจเท่าไหร่แล้ว” แพทบอก “ดูๆไปเขาก็แค่จริงใจตรงไปตรงมามากไปหน่อยเท่านั้น แต่พอชินแล้วก็ไม่มีอะไรมาก”
“เดี๋ยว ๆ แบบนี้นี่มัน..”รอนกำลังจะพูด แต่แล้วก็มีมือหนาๆเคาะลงมาที่โต๊ะ
ก๊อก ๆ ๆ
“สองคนนี้นี่ มาสเตอร์เข้ามาแล้วยังไม่รู้ตัวอีกมัวแต่คุยกันอยู่ได้” มาสเตอร์บอก “เอ้า นี่ เอกสารแจกให้เพื่อนๆซะ แล้วอย่าลืมเอาให้ผู้ปกครองเซ็น”
แพทแลบลิ้นให้รอนทีนึงก่อนจะหยิบเอกสารปึกนึงไปแจก เหลืออีกปึกให้รอนเป็นคนแจก รอนมองที่เอกสารบนโต๊ะนั้น
“เข้าค่ายลูกเสือประจำปี สัปดาห์หน้านี่เอง ลืมไปสนิทเลย”
แล้วเด็กหนุ่มก็เอาเอกสารเหล่านั้นไปแจก
ที่อีกโลก ที่ชายแดนของอาณาจักรแอสคาลอนส่วนที่ติดต่อกับทุ่งหญ้าของชนเผ่ามนุษย์ครึ่งสัตว์ ร่างของมนุษย์ครึ่งสัตว์เผ่าลิงสองคนกำลังเดินออกจากเขตกำแพงหมู่บ้าน
“เฮ้อ ทีแรกคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว นี่ยังดีที่พวกมนุษย์พวกนี้ไม่กระหายเลือดบ้าสงคราม ไม่งั้นพวกเราคงแย่ซะแล้ว” มนุษย์ลิงคนแรกบอก
“ก็ถึงท่านธานอสจะโจมตีพวกมนุษย์ก็จริง แต่ว่าหัวหน้าเผ่าก็แก้ตัวว่าเป็นการตัดสินใจของท่านธานอสคนเดียวไม่เกี่ยวกับเผ่า พวกนั้นเลยยังไม่ประกาศสงครามกับเรา” มนุษย์ลิงคนที่สองบอก
“แต่ก็แปลกนะ ในเมื่อเผ่าเรากับพวกมนุษย์มีเรื่องกันแบบนี้ ทำไมต้องส่งเรามาทำอะไรแปลกๆให้เสี่ยงแบบนี้ด้วยเนี่ย” มนุษย์ลิงคนแรกบอก
“มันก็จริง ให้พวกเราเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านของมนุษย์ ให้เดินไปทั่วๆหมู่บ้าน แล้วให้ไอใกล้ๆกับคน แล้วก็สะบัดขนให้หมัดที่ติดตัวหลุดออก” มนุษย์ลิงคนที่สองบอก “แต่ก็นะ พวกเรารีบไปเถอะ ยังต้องไปหมู่บ้านถัดไปกันอีก”
“แค้กๆ”
“อ้าวแก ที่นี่ไม่มีคน ไม่ต้องแกล้งไอก็ได้”
“เปล่า ข้ารู้สึกไม่สบายจริงๆ เหมือนจะมีไข้”
“อ้าวงั้นรึ เอาล่ะ รีบไปรีบไป แค้กๆ เฮ้อ สงสัยเดินทางนานไปจไม่สบายจนได้”
แล้วมนุษย์ลิงทั้งคู่ก็เดินมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเป้าหมายถัดไป
ในขณะนี้ ยังไม่มีใครที่รู้ว่าทำไมนักรบมังกรแห่งความมืดเวก้า ถึงได้เลือกเป็นพันธมิตรกับเผ่าลิงในการต่อสู้กับอาณาจักรแอสคาลอน แม้แต่เผ่าลิงเองก็ยังแปลกใจในความโชคดีครั้งนี้
แต่ในประวัติศาสตร์ที่จารึกในภายหลังจากนั้น เหตุการณ์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของเผ่าลิงในทวีปซีแลนเดีย