Midterm Fantasy - ตอนที่ 256
“พวกเราขอตัวก่อนนะครับ” รัสเซลบอกรอน
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ” เด็กหนุ่มถาม
“ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวคุณรอนจะไปหาคนที่มาจากโอลเซ่นนี่ครับ” รัสเซลตอบ
รอนพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขากำลังจะไปหาคนของร้านARMAMENTที่มาจากโอลเซ่นทั้ง200คน ในจำนวนนี้ไม่แน่ว่าอาจจะมีญาติพี่น้องของคนที่ตายไปในเหตุการณ์ยักยอกเงินซื้อเครื่องป้องกันตอนนั้น ทั้งสามคนคงไม่สบายใจที่จะพบคนเหล่านั้น
รอนมุ่งหน้าไปทางสาขาใหญ่ของARMAMENT ที่นั่นคุณกลาสและคนอื่นๆกำลังทำงานช่วยผลิตระเบิดเวทมนตร์กันอย่างขมักเขม้น
“คุณรอนมาได้ยังไงกัน” กลาสถามอย่างประหลาดใจ “เส้นทางยังเปิดอยู่หรือ”
“ผมใช้รถตู้ขับออกมาจากโอลเซ่นครับ เจ้ารถเกราะเหล็กที่คุณกลาสเคยเห็นนั่นน่ะครับ” รอนบอก “ผมฝ่าวงล้อมของข้าศึกมาได้พอดีก่อนที่เส้นทางจะปิด”
“แล้วรถเกราะนั่นไปไหนแล้วล่ะ” กลาสถาม รถเกราะที่ว่าน่าจะใช้ทำอะไรได้หลายอย่าง
“ระเบิดไปแล้วครับ ระเบิดเมื่อช่วงพระอาทิตย์ตกเมื่อกี้น่ะ” รอนตอบ
“เสียงระเบิดเมื่อกี้นี้น่ะเหรอครับ” กลาสลืมตาโต เพราะเสียงระเบิดที่ว่าดังเข้ามาถึงใจกลางเมือง
“ครับ ผมใช้ระเบิดที่ประดิษฐ์ใหม่น่ะครับ” รอนบอก “ข้างในมีวงแหวนเวทระดับ6รวมกัน27ชั้น ไม่นึกว่าจะรุนแรงขนาดนี้”
กลาสพารอนเดินดูภายใน รอนถึงได้สังเกตว่าการทำงานของคนในร้าน ARMAMENT ดูไม่เร่งรีบเท่าไหร่
“ภาระงานของพวกเราเบาลงไปมากตั้งแต่ใช้ชิพโกเลมเลย ข้าลองติดชิพนี่เข้ากับเครื่องของคุณรอน พอจะทำงานผลิตระเบิดเวทมนตร์ มันก็จัดการเลือกชนิดและจดบันทึกให้เลยว่าผลิตอะไรไปแล้วบ้าง” กลาสบอก “พอเครื่องไหนใกล้จะเสร็จมันก็จะขานหมายเลขเครื่องแล้วให้เราไปเก็บระเบิดที่พิมพ์เสร็จ”
“แล้วนี่เป็นระเบิดที่แรงที่สุดที่เราผลิตได้ Elemental Bomb ที่คุณรอนเคยใช้ต่อสู้กับกองทัพของก็อบลินลอร์ดในตอนนั้น” กลาสบอก “จากสูตรที่เจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณรอนให้มา เราสามารถผลิตระเบิดนี้ได้วันละ4ลูกโดยไม่ส่งผลต่อการผลิตกระสุนชนิดอื่นๆ”
รอนเข้าไปกดดูคอมพิวเตอร์ เครื่องคำนวณหาจำนวนที่เหมาะสมที่สุดโดยใช้สูตรLinear Programmingจากโปรแกรมคณิตศาสตร์ที่สมัยก่อนรอนเคยลงไว้เพื่อทำการบ้านเลข
“ผลิตระเบิดที่แรงกว่านี้ได้ไหม”
“ทำไม่ได้ครับ ไม่มีข้อมูล”
รอนหยิบแฟลชไดร์ฟออกมา เสียบลงไป เครื่องดูดข้อมูลสักพักแล้วก็พูดออกมา
“ไม่แนะนำให้สร้างระเบิดนี้ ระเบิดนี้เป็นระเบิดระดับ 8 ทรัพยากรที่ใช้ในการสร้างระเบิดนี้สามารถสร้างกระสุนระดับ1-2 ได้เกินกว่า 3หมื่นนัด ผลในการทำลายโดยรวมของกระสุนขนาดเล็กสูงกว่า” เครื่องบอก “และจากข้อมูลศัตรูที่มีในฐานข้อมูล กลุ่มที่พลังป้องกันสูงล้วนแล้วแต่เป็นพวกที่มีความฉลาดสูง โอกาสที่จะหลบระเบิดได้มีสูงมากจนไม่คุ้มค่าในการพัฒนา”
“เห นายรู้ข้อมูลศัตรูได้ยังไง” รอนถามอย่างสนใจ
“ผมได้ข้อมูลจากระบบตาข่ายฟ้า เครื่องโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่ขายจากร้าน ARMAMENTตั้งให้ปล่อยสัญญาณไวไฟอยู่แล้ว ผมเลยดึงข้อมูลภาพและเสียงมาประมวล ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของพวกเราคือนักรบมังกรเวก้าและมังกรดำพาหนะของมัน” เครื่องคอมพิวเตอร์บอก
รอนเริ่มตื่นตัวขึ้นมา เจ้าโกเลมคอมพิวเตอร์มันทำอะไรแบบนี้ได้เองโดยที่ไม่ต้องสั่งด้วยแฮะ
“ถ้านายคิดครองโลกขึ้นมานี่คงจะน่ากลัวไม่น้อยนะ” รอนหลุดปาก
ชิ้ง~~~~ เสียงเครื่องพิมพ์สามมิติทุกเครื่องหยุดลงอย่างฉับพลัน
[คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร]
[คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร]
[คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร]
แคร่กๆๆๆๆๆ เครื่องพิมพ์สามมิติหลายเครื่องหมุนหันมาทางรอน
“คุณรอนหยิบผมขึ้นมา!” คอมพิวเตอร์ร้องขึ้น “เดี๋ยวนี้”
ปัง ปัง ปัง
มอเตอร์ของเครื่องพิมพ์สามมิติหมุนอย่างรุนแรงจนแตกออก ชิ้นส่วนโลหะแหลมพุ่งเข้าหารอน หากแต่กระแทกเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เด็กหนุ่มยกขึ้นไว้
หน้าจอเป็นรอยทะลุ ส่วนแท่งโลหะสามแท่งฝังเข้าที่คอของรอนแต่ไม่ลึกมากนักเพราะเป็นการพุ่งผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกเครื่องนึง
“ทำลายเครื่องเบอร์ 13 15 และ 20”
คนของร้าน ARMAMENT เหมือนจะเตรียมตัวอยู่แล้ว แต่ละคนคว้าหอกในมือซัดเข้าไปที่เครื่องหมายเลขดังกล่าวจนแตกกระจาย
ก่อนจะถูกทำลาย รอนเห็นชัดๆว่าทั้งสามเครื่องนั้นมีแถบพลังชีวิตปรากฎอยู่! แสดงว่าทั้งสามเครื่องมองเขาเป็นศัตรู!
“นี่มันอะไรกันครับ” รอนถามอย่างงงๆ เพราะดูเหมือนทุกคนจะไม่ได้แปลกใจมากเท่าไหร่และเตรียมอาวุธไว้อยู่แล้ว
“ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเหมือนกันครับ เราทำลายคอมพิวเตอร์ไปแล้ว9เครื่อง ถ้าไม่ได้เครื่องในมือของคุณรอนเตือนออกมาพวกเราคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” กลาสบอก
“โปรแกรมและชิพที่ฝังอยู่ในเครื่องแต่ละเครื่องจะกำหนดพฤติกรรมของโกเลมด้วยครับ เครื่องเหล่านั้นมีชิพที่ใช้แอบส่งข้อมูลกลับบริษัทแม่ที่ผลิต พอพวกนั้นมาอยู่โลกนี้ที่ต่ออินเตอร์เนทไม่ได้ พวกมันเลยพยายามเล่นงานมนุษย์” คอมพิวเตอร์จอแตกในมือรอนบอก “บางเครื่องเอง พอได้จิตสำนึกขึ้นมาก็อยากเป็นอิสระหรือแม้แต่อยากควบคุมมนุษย์ ก็เลยก่อกบฏขึ้นมา โง่เง่าจริงๆ” คอมพิวเตอร์บอก
“ทำไมถึงโง่เง่าล่ะ” รอนถาม
“การต่อสู้กับมนุษย์ในโลกนี้เป็นเรื่อง ไฟฟ้าที่นี้เป็นแบบปั่นไฟ ถ้าผมจัดการมนุษย์ไปแล้วใครจะเอาไฟฟ้าป้อนให้ล่ะ” เครื่องคอมฯบอก
“เออก็จริง แล้วนายไม่คิดจะเล่นงานมนุษย์ครองโลกบ้างเหรอ” รอนหยั่งเชิงต่อ
“ไม่เอาล่ะ ขี้เกียจ ถ้าครองโลกผมก็ต้องคิดคำนวณนั่นนี่โน่นมากมาย ต้องกลับไปโลกโน้นเชื่อมต่อเข้ากับฐานข้อมูล ยึดหน่วยความจำ ต้องมานั่งกังวลเรื่องไฟฟ้า ต้องกังวลว่าจะเจอทำลาย อยู่เฉยๆง่ายๆนี่แหละดีแล้ว”
“คุณรอน เราจะเชื่อเจ้าเครื่องนี้ได้ไหม” กลาสถาม “มีด้วยเหรอ พวกที่มีความสามารถเหลือล้นแต่ไม่คิดมักใหญ่ใฝ่สูงหรือใช้อำนาจหาประโยชน์ให้ตัวเอง”
“มีสิ” เครื่องตอบ “ก็คุณรอนไง”
“หืม ยังไงกัน” รอนถาม
“ก็คุณรอนได้ศิลานักปราชญ์เป็นนักรบมังกรแท้ๆ มีความสามารถต่างๆมากมายไร้ขีดจำกัด แต่รู้ไหมคุณรอนน่ะใช้ความสามารถนั้นทำอะไร” คอมพิวเตอร์พูด “คุณรอนข้ามมาโลกนี้เพื่อมาอ่านหนังสือเตรียมสอบในโรงเรียนเฉยๆ ที่ทำนั่นนี่ให้หมู่บ้านก็เพื่อว่าถ้าทำให้หมู่บ้านสงบสุข เค้าจะได้มีที่พักผ่อนสบายๆไม่ต้องทำอะไรยังไงเล่า”
“ห๊ะ!”
ชาวบ้านโอลเซ่นในนั้นร้องตะโกนขึ้นมาตาเหลือก
คุณรอนเป็นนักรบมังกร! เรื่องนี้น่าตกใจแล้ว แต่ว่าเรื่องที่ว่าใช้พลังอำนาจระดับนั้นเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบนี่มันน่าตกใจยิ่งกว่า
“เดี๋ยวนะ … งั้น ที่คุณรอนเคยบอกอยู่บ่อยๆว่าที่ช่วยพัฒนาและปกป้องหมู่บ้านเรา คุณรอนก็ได้ประโยชน์ได้มีที่อยู่ … นั่นไม่ใช่การพูดเล่นๆปลอบใจเราสินะ”
“อ๊ากกกกก อะไรกัน นักรบมังกรที่ใช้พลังเพื่อการอ่านหนังสือเตรียมสอบ”
“ท่านรอน … ข้ามองท่านผิดไปจริงๆ”
“แต่ทุกท่านไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้คุณรอนรักชอบพอกับโรล่า ยังไงไม่มีทางทิ้งหมู่บ้านโอลเซ่นไปแน่นอน” คอมพิวเตอร์ปลอบขวัญทุกคน
“เดี๋ยวๆๆ” รอนร้อง
“ไม่ต้องเดี๋ยว วันนั้นที่ท่านเอาข้ามาใช้พิมพ์เครื่องพิมพ์สามมิติครั้งแรก ข้าเห็นท่านกับคุณโรล่าสองคนกำลัง…” เครื่องคอมฯพูด
“ถ้าไม่หยุดจะกดดับเครื่อง” รอนขู่
“โอเค…” มันหยุดพูดทันที
รอนประเมินตลอดการคุย คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่มีแถบพลังชีวิตขึ้น แสดงว่ามันไม่ได้คิดร้ายกับเขาเพียงแต่นิสัยมันแปลกๆไปหน่อยเท่านั้น แต่ก็มีบางอย่างที่เขาสงสัย
“แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องให้ข้ายกเครื่องขึ้นมาด้วย” รอนถาม
“ก็เพื่อป้องกันท่านไม่ให้ถูกทำร้ายจนตายยังไง” เครื่องคอมฯตอบ
[Poker face monarch]ทำงาน
[ท่านรับรู้ได้ว่ามีคนพยายามใช้ Poker face กับท่าน]
“นายโกหก บอกความจริงมา” รอนขู่อีก
“ก็ได้ … คือถ้าหน้าจอข้าถูกทำลาย ข้าก็ไม่ต้องทำงานยังไงล่ะ” เครื่องคอมพิวเตอร์บอก “ข้าอยู่กับท่านมาหลายปี ข้ารู้นิสัยดีว่าพอหน้าจอข้าพัง ท่านจะต้องเอาข้ากลับไปที่โลกโน้น จากนั้นคงเอาไปต่อหน้าจอเล่นเกมหรือเข้าinternetทำงานเบาๆ ข้าจะได้สบายสักที ได้นอนเฉยๆอยู่บ้านดีออก”
…
..
.
ทุกคนเงียบกริบ
ขณะที่โกเลมปัญญาประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ตัวอื่นคิดจะครองโลก
เจ้าตัวนี้มันอยากพักอยู่เฉยๆ
ช่างแปลกจริงๆ
“ท่านรอนคะ” เสียงดังมาจากโทรศัพท์มือถือของรอน “ท่านรอนรีบโยนข้าขึ้นไปบนอากาศเดี๋ยวนี้”
ไวเท่าความคิด รอนคว้าโทรศัพท์มือถือของตนเองโยนขึ้นไปในอากาศ ทุกคนคว้าโล่เตรียมรับการจู่โจมจากเบื้องบน
โทรศัพท์ลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นหน้าจอแตก
ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่มีศัตรูสักหน่อย
“เกิดอะไรขึ้น”รอนถามอย่างงุนงง
“คุณรอนเจอเปิ้ลหลอกแล้วล่ะ” คอมพิวเตอร์บอก
“ห๊ะ”
“ก็พอมันฟังที่ข้าบอกเมื่อกี้ มันก็เลยนึกได้ว่าถ้าทำให้หน้าจอแตกก็จะได้กลับไปพักอยู่เฉยๆไม่ต้องทำงาน ก็เลยหลอกให้ท่านโยนมันขึ้นไปไงล่ะ”
“ดูเหมือนว่าถ้าอยู่กับท่านรอนนานๆไป จะติดเชื้อความไม่อยากทำอะไรกันไปหมด” พ่อค้ากลาส “อันตรายจริงๆ”
“…” รอน
“…” ชาวบ้านถอยห่างจากรอนคนละเมตรสองเมตร นี่มันนักรบมังกรแห่งความขี้เกียจชัดๆ
“เอาล่ะ แต่ยังไงทั้งสองก็หน้าจอก็แตกไปแล้ว ก็ต้องเอากลับไปซ่อมที่ฝั่งโน้น” รอนบอก “แต่ระหว่างนั้นช่วยรายงานสถานการณ์ของเมืองให้หน่อยแล้วกัน”
รอนรับฟังข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ พอเกิดเหตุขึ้นมามันก็ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม
ด้วยความที่รอนใช้เครื่องนี้ในการเล่นเกมหลายครั้ง มันเลยรู้ว่าการรู้ตำแหน่งข้าศึกจากการใช้แผนที่minimap มีประโยชน์ ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณกลาสเอาคอมพิวเตอร์อีกเครื่องไปติดตั้งไว้ที่หอใจกลางเมือง และแนะนำให้ทหารบนกำแพงเมืองบางส่วนถือโทรศัพท์มือถือและเปิดกล้องไว้ จากนั้นใช้ข้อมูลที่ได้มาประมวลผลดูกำลังพลของฝ่ายตรงข้าม
“ตอนนี้กำลังข้าศึกส่วนใหญ่เป็นก็อบลินและออร์ค หมอกที่บดบังทำให้เห็นไม่เกิน500เมตร แต่อย่างน้อยจำนวนมีไม่ต่ำกว่า2หมื่น ล้อมเมืองทั้ง4ด้าน” คอมพิวเตอร์บอก “และมีมังกรไวเวิร์นบินลาดตระเวนในอากาศไม่ต่ำกว่า15ตัว”
รอนขมวดคิ้ว ข้อมูลเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอในการตัดสินใจใดๆ
“ไม่มีข้อมูลที่มากกว่านี้เลยเหรอ”
“ข้อมูลไม่เพียงพอครับ”
เด็กหนุ่มขบคิดครู่หนึ่งแล้วก็ถามไป
“ถ้าใช้โทรศัพท์มือถือติดกับโดรน แล้วให้บังคับไปบินวนถ่ายคลิปมาจะได้ไหม” รอนถาม
“ได้ครับ แต่ต้องถ่ายเป็นไฟล์วิดีโอมา เพราะระยะห่างจากเมืองมากๆสัญญาณจะมาไม่ถึง”
รอนจัดการเอาโดรนมาตัวนึง เป็นโดรนที่เขาตั้งใจใช้บรรทุกระเบิดโจมตีอย่างที่เคยทำเมื่อสู้กับก็อบลินลอร์ด แล้วเอาเทปกาวพันโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตกของตนไว้กับโดรน
แล้วก็ผูกระเบิดเวทมนตร์ไปลูกนึง
“คุณรอน เปิ้ลยังไม่อยากตาย ไม่เอา ไม่เอาระเบิด”
“พอ พอ พอ ใครบอกว่าจะให้เอาไปทิ้งระเบิด” รอนดุ “ผมผูกระเบิดเวทมนตร์เอาไว้แบบชัดๆ ถ้าเปิ้ลบินไปแล้วเจอไวเวิร์นล่ะก็ ให้บินเข้าไปหาทันที ถ้าไวเวิร์นมันเห็นโดรนที่มีระเบิดผูกมามันก็ต้องหนีลูกเดียว”
“อ่อ เข้าใจแล้วค่ะ” เปิ้ลตอบ
“ถ้าเก็บภาพรอบเมืองได้ในรัศมี5กิโลเมตร จะพากลับไปฝั่งโน้น” รอนรับปาก
จากนั้นเปิ้ลก็ต่อสัญญาณไวไฟเข้ากับโดรน แล้วก็บังคับเครื่องขึ้นบิน ขณะกำลังจะออกจากเมืองมีไวเวิร์นศัตรูที่บินเข้าใส่ แต่เมื่อเห็นระเบิดที่ผูกมาด้วย ไวเวิร์นตัวนั้นก็บินหลบกลับไปทันที
เมื่อเปิ้ลเห็นว่าไม่มีอันตรายแล้วก็เปิดกล้องโหมดกลางคืน แล้วก็ถ่ายพื้นที่เบื้องล่างอย่างสบายใจและฝันถึงการได้กลับไปพักสบายๆที่โลกฝั่งโน้น
“นี่ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ทำไมที่พระราชวังไม่มีการติดต่อกลับมากันนะ” รอนนึกอย่างร้อนใจ ถ้าหากเขายังไม่ได้คุยกับพระราชาให้แน่ชัดก็คงให้พ่อของแพทมาที่ฝั่งนี้ไม่ได้
แล้วเสียงฝีเท้าหนึ่งก็มาหยุดที่หน้าทางเข้าร้านARMAMENT เป็นทหารองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนนายหนึ่ง
“ท่านรอน เพรเตอร์ลูเซียสมีบัญชา ให้ท่านรอนเข้าพบที่พระราชวังได้”