Midterm Fantasy - ตอนที่ 263
ฝูงบินกริฟฟินเคลื่อนไปข้างหน้า ที่ขอบฟ้าเริ่มมีแสงสว่างขึ้นแล้ว เผยให้เห็นบางสิ่งบางอย่างบนท้องฟ้า
ร่างเกือบ50ร่างของค้างคาวยักษ์ปรากฎขึ้น มันเองก็ค้นพบตำแหน่งของกริฟฟินแล้วเช่นกัน
“พวกเรา หันหัวกลับ ระวังให้ดีพวกมันมีมากกว่าเรา” ผู้นำฝูงให้สัญญาณ
ฝูงบินกริฟฟินตีวงเพื่อย้อนกลับเส้นทาง ขณะที่ฝูงค้างคาวยักษ์นั้นเร่งความเร็วขึ้น
“{พวกมันหนีแล้ว พวกเราตามเร็วเข้า}”
“{มันมีกันแค่สิบตัว จัดการให้หมดซะ}”
ก็อบลินบนหลังค้างคาวยักษ์ร้องบอกกันและกันก่อนจะเร่งความเร็วเพื่อติดตาม กริฟฟินทั้งสิบตัว บินหนีอยู่เบื้องหน้าด้วยความเร็วที่ช้ากว่า
แล้วเสียงของรอนก็ดังมาจาก Walkie Talkie ในมือของผู้นำฝูง
“ทุกหน่วยเตรียมตัว 5 4 3 2 1 ลงมือได้”
ฝูงกริฟฟินที่บินอยู่ต่างเร่งความเร็วขึ้น ทหารบนหลังยิงกระสุนเวทมนตร์ออกมา
“{ระวัง}!”
ก็อบลินหัวหน้าทีมค้างคาวยักษ์ร้องออกมา บรรดาลูกน้องทั้งหมดต่างดึงบังเหียนค้างคาว
ปัง ปัง ปัง ปัง
กระสุนเวทมนตร์ระเบิดออกกลางอากาศโดยไม่ก่อความเสียหายเนื่องจากฝูงค้างคาวหยุดได้ทัน
“{เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่ คิดว่าพวกเราจะหลงกลงั้นรึ}”
ก็อบลินตัวหนึ่งร้องออกมา พร้อมกันนั้นมันก็สังเกตเห็นลูกกลมสีชมพูที่กระพริบแสงสีแดงตกลงจากท้องฟ้าลงมากระแทกเค้าที่หลังค้างคาวที่มันนั่งอยู่
บรึม!
แรงระเบิดฉีกร่างของมันและค้างคาวรอบๆออกเป็นเสี่ยงๆ ก็อบลินที่รั้งตัวไว้ไม่แน่นต่างกระเด็นหลุดจากหลังค้างคาวยักษ์ไปจนหมด ไม่เพียงเท่านั้น เพราะที่เบื้องล่างของพวกมันนั้นมีเงาร่างหลายสิบร่างปรากฎขึ้นมา
ฉึก ฉึก ฉึก
กี๊!!!!!!
“มันหยุดตามตำแหน่งที่คุณท่านกะเอาไว้”
“ฆ่ามันให้หมด เฮฮฮ”
ฝูงค้างคาว 50 ตัวและก็อบลินที่นั่งมาต่างกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนตกลงจากฟากฟ้า บางตัวที่รอดจากแรงระเบิดและการโจมตีจากเบื้องล่าง ก็พยายามหนีขึ้นด้านบน แต่ก็ไม่รอด เพราะที่ข้างบนนั้นมีฝูงกริฟฟินที่บินลงจู่โจมอีกชุดหนึ่ง
“ท่านรอนครับ เราจัดการค้างคาวจนหมดแล้วครับ” ผู้ฝูงรายงาน
“ดีมาก ให้กริฟฟินหน่วยที่ 1 2 3 4 ถอยกลับมาก่อน กริฟฟินหน่วยที่ 5 6 7 8 ออกบินนำ” รอนสั่ง “ไวเวิร์นทิ้งระเบิด ถอยกลับเข้าหลังขบวนได้ น่านฟ้าต่อจากนี้ไปไม่มีศัตรูแล้ว”
รอนนั่งหลับตาอยู่บนที่นั่ง มือหนึ่งถือWalkie Talkie ที่ศีรษะรัดโทรศัพท์มือถือติดชิพเวทมนตร์เอาไว้ ขณะเดียวกันอัลเบิร์ตก็เอามือเอื้อมไปจับโทรศัพท์ไว้อีกที
เมื่อรู้ว่าที่จริงแล้วศิลานักปราชญ์ก็เป็น A.I. แบบนึง ไม่ต่างจากชิพโกเลมที่เปลี่ยนโทรศัพท์ให้กลายเป็น A.I. รอนเลยได้ความคิดขึ้นมา
ในเมื่อเขาเปิดแผนที่รบเองไม่ได้ เขาก็ให้นักรบมังกรคนอื่นเปิดแผนที่ให้ จากนั้นเชื่อมสัญญาณเข้ากับโทรศัพท์มือถือ จากนั้นสร้างแผนที่สามมิติแบบ VR ขึ้นส่งตรงเข้าหัวของเขาอีกที
และนั่นทำให้เขาสามารถสั่งการหน่วยบินคุ้มกันทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดการเดินทาง ฝูงกริฟฟินสามารถซุ่มโจมตีหรือล่อหลอกข้าศึกไปฆ่าทิ้งได้อย่างหมดจด
“ทั้งหมดเตรียมตัวไว้ เรากำลังเข้าใกล้แม่น้ำออเรเรียส กองทัพของพวกเราอยู่ข้างหน้า”
ทหารที่บังคับกริฟฟินอยู่ต่างมองไปที่เบื้องหน้า แสงสว่างยาม6โมงเช้าสาดส่องลงสู่พื้นที่ราบริมแม่น้ำ ซากศพและเศษซากยุทโธปกรณ์ล้วนแล้วแต่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด แน่นอนว่าซากศพส่วนใหญ่เป็นของมอนสเตอร์
รอนมองแผนที่รบที่อยู่ในหัวกองทัพของจักรพรรดิลูเซียสข้ามแม่น้ำไปแล้ว กำลังของแอสคาลอนเหลืออยู่ประมาณ 1.8แสน ขณะที่อีกฝ่ายยังคงมีกำลังราว 2 แสน เท่ากับว่าการรบที่ผ่านมา แอสคาลอนแลกชีวิตทหารไป 2หมื่นกับมอนสเตอร์ 1 แสน
แต่เมื่อมองการจัดทัพจากในแผนที่ รอนถึงกับต้องขมวดคิ้ว
“จักรพรรดิลูเซียส ได้ยินผมไหม จักรพรรดิ ได้ยินแล้วตอบด้วยครับ” รอนกรอกเสียงลงไป
“ซ่าาา….. ได้ยินแล้ว คุณรอนมาถึงแล้วรึ” จักรพรรดิลูเซียสรู้ทันทีว่าใคร มีแต่รอนคนเดียวที่เรียกเขาได้ด้วยน้ำเสียงเช่นนี้
“ครับ ท่านฟังผมก่อน ตอนนี้กองทัพแอสคาลอนจัดกำลังหมิ่นเหม่มาก ปีกซ้ายของท่านบางโคฮอทเคลื่อนหน้ามากเกิดไป ส่วนปีกขวา มีหลายเซ็นจูเรี่ยนที่ยังสับสนอยู่ ถ้าเคลื่อนพลต่อไปปีกสองข้างจะไม่ประสานกันเปิดช่องให้อีกฝ่ายเจาะเข้ามาได้ครับ” รอนบอก “อ๊ะ เดี๋ยว เจ้าชายดีโอ ทางขวาของท่านห่างไป1/4ไมล์ มีออร์คไรเดอร์กำลังพุ่งตรงเข้ามา”
“ไหนกันคุณรอน” เจ้าชายดีโอแทรกขึ้น
“ทางขวาครับ ตรงนั้นมีคูน้ำเก่าหญ้ารกสูง ออร์คไรเดอร์100ตัวเคลื่อนมาตามแนวคูน้ำครับ” รอนร้องบอก “1/5ไมล์!”
“พลธนู ยิงกระสุนเวทมนตร์ในทิศทางนั้น ระวัง ระวัง ยิง!”
กระสุนเวทมนตร์นับร้อยลอยไปในอากาศแล้วหล่นหายไปในพุ่มไม้เพียงชั่วอึดใจก่อนที่จะระเบิดออกมา เสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของมอนสเตอร์
ออร์คหลายสิบตัวบนหลังเสือเทาพุ่งขึ้นมาจากคูน้ำพร้อมดาบยาวในมือ พวกมันพุ่งขึ้นมุ่งเข้าหาหน่วยทหารม้าเมอร์มิดอนของเจ้าชาย
“ทหารราบตั้งรับ!” เจ้าชายดีโอสั่ง หน่วยทหารราบข้างเคียงเริ่มเดินออกไป
“เจ้าชายระวังด้วยครับ ยังมีพวกมันหลบอยู่ในคูน้ำ เหมือนกำลังรอจังหวะโจมตี”
“พลธนู ยิงธนูธรรมดาลงไปในคูน้ำอีก”
ซ่า ๆ ๆ ๆ
ลูกธนูนับร้อยพุ่งลงไปในพงหญ้านั้น ผลักดันบังคับให้ออร์คที่หลบอยู่พุ่งขึ้นมา แต่พวกมันก็ต้องพบกับการต่อต้านด้วยพลหอกยาวของโรมัน ไม่กี่นาทีก็ตายจนหมดสิ้น
“คุณรอนใช้สกิล Battle map ได้หรือ” จักรพรรดิลูเซียสถามผ่านwalkie talkie
“ไม่ได้ครับ แต่ตอนนี้ผมเชื่อต่อสกิล Battle map จากคุณอัลเบิร์ตอยู่ เลยเห็นความเคลื่อนไหวของพวกมันทั้งหมด” รอนตอบ “ตอนนี้มีโทรล 50 ตัวกำลังรวมกลุ่มกันมุ่งหน้ามาทางตรงกลางครับ ระยะห่างสองไมล์”
“ตรงกลาง? ตอนนี้ใครคุมทัพบริเวณนั้น” จักรพรรดิหันไปถามที่ปรึกษา ที่ปรึกษาใช้เวลาค้นหาอยู่ประมาณ4นาทีก่อนจะบอกไป
“นายกองวิซูเวียสรึ สั่งการออกไป ให้หน่วยของวิซูเวียสตั้งแนวป้องกัน” จักรพรรดิกรอกเสียงลงไปในเครื่องมือสื่อสาร
“เดี๋ยวครับ ไม่ใช่กองนั้นครับ” รอนรีบบอกเมื่อเห็นความเคลื่อนไหวในแผนที่ “ต้องเป็นกองข้างๆครับ”
“อ๊ะ กองข้างๆคือใคร” จักรพรรดิพูดขึ้นแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
“คุณรอน ข้าได้ยินว่าท่านควบคุมกำลังทางอากาศมาจนถึงที่นี่ได้โดยที่พวกเราไม่เสียกำลังพลเลยแม้แต่นายเดียว และก็เคยคุมการต่อสู้ที่หมู่บ้านโอลเซ่นและเมืองกาล่าด้วยใช่หรือไม่”
จักรพรรดิลูเซียสถาม
“ใช่ครับ”รอนตอบไป
“แล้วท่านเองเคยมีประสบการณ์คุมกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดคือกำลังพลเท่าไหร่” จักรพรรดิถามอีก
“ถ้าเป็นที่โลกโน้น ผมเคยคุมกำลังผ่านทางแผนที่แบบนี้ น่าจะมากที่สุด 5หมื่นครับ”
รอนตอบไป
แม้ปกติเขาจะถนัดเกมระดับที่เล่นกัน 5v5 แต่เกมสงคราม Battlefield Frontline ที่เขาเคยเล่น เขาเคยทำหน้าที่เสนาธิการสั่งการหน่วยต่างๆผ่านแผนที่ ให้ผู้เล่นระดับหน่วยรับคำสั่งอีกที ถึงแม้จะไม่ค่อยถนัดนักก็ตาม
“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอฝากความหวังไว้กับคุณรอนแล้ว คุณรอนสั่งการให้พวกเราในการรบครั้งนี้ที”จักรพรรดิลูเซียสกล่าว
“แต่..!”
“คุณรอน ข้าคือบิชอปคาร์มิลล่า ข้าขอพูดอะไรสักหน่อย” เสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาจากwalkie talkie จนรอนต้องหยุดปาก
“สกิล Battle map ของศิลานักปราชญ์ เป็นสกิลที่สำคัญที่สุดในการบัญชาการกองทัพ ท่านคงจะทราบดีว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการบัญชาการกองทัพไม่ใช่เรื่องความรู้ความสามารถทางพิชัยสงคราม หากแต่เป็นการใช้กองทัพให้ได้ดังต้องการ” บิชอปกล่าว “ท่านคงจะเห็นแล้ว กว่าจักรพรรดิจะสั่งการได้ต้องเสียเวลาอันมีค่าไปแค่ไหน ดังนั้นแม้คุณรอนจะไม่มีความสามารถด้านการรบเท่าระดับแม่ทัพ แต่ท่านมีแผนที่ซึ่งมีข้อมูลมากกว่าพวกเราทั้งหมด”
“แต่ว่าพวกคุณก็มีนักรบมังกรคนอื่นๆ …” รอนบอก
“บอกตามตรงในฐานะที่ข้าคุมการฝึกของนักรบมังกรคนอื่นๆ ประสบการ์ณของพวกเขาน้อยกว่าคุณรอนเสียอีก ทุกคนรู้แค่การเปิดแผนที่และการต่อสู้ในระดับย่อยเท่านั้น” บิชอปกล่าว “ตอนนี้คนที่มีแผนที่และมีประสบการณ์ในการนำทัพ มีเพียงแต่คุณรอนคนเดียว”
“ถ้าอย่างนั้นตกลงครับ” รอนรับคำอย่างรวดเร็ว แม้ภาระจะหนักอึ้ง แต่ประเมินจากเมื่อครู่แล้วถ้าเขาบอกสถานการณ์แล้วให้จักรพรรดิสั่งการ คงไม่ทันการณ์จริงๆ
“แม่ทัพทุกคน รับคำสั่งจากคุณรอน!” เสียงจักรพรรดิดังลงไปในวิทยุสื่อสาร
“แม่ทัพทุกคน ใช้เวท Battle Flag ครับ” รอนสั่ง
ฉับพลันนั้น ธงรบเวทมนตร์สีแดงนับร้อยปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า สีแดงโลหิตโบกสะบัดบนท้องฟ้าปรากฎชื่อของแม่ทัพและหน่วยรบแต่ละหน่วย
“หน่วยทหารราบ แม่ทัพเซม่า วิซิรุส อิตาคา และหน่วยที่อยู่ข้างเคียง ถอยลงมา300ก้าวเดี๋ยวนี้”
“ทหารราบทุกหน่วย ตั้งเทสทูโดฟอร์เมชั่น เตรียมการใช้ไพลั่มต่อเนื่อง10ครั้ง”
“ทหารม้าทุกหน่วยถอยกลับลงมาอยู่หลังแนวทหารราบ และเตรียมรอคำสั่งชาร์จ แม่ทัพที่คุมทหารราบที่อยู่หน้ากองทหารม้าให้เตรียมสั่งเปิดทางด้วย”
“หน่วยพลธนู หน่วยจอมเวทเคลื่อนไปตั้งหลังหน่วยทหารราบ สนับสนุนทหารราบที่อยู่ด้านหน้าและรอฟังคำสั่ง หน่วยบัลลิสต้าทั้งหมด เคลื่อนไปตั้งหลังหน่วยพลธนู”
“หน่วยเครื่องยิงหินทราบูเชต์ ประกอบเครื่องเดี๋ยวนี้!”
รอนสั่งคำสั่งเป็นชุดออกไป กองทัพอันมีระเบียบวินัยต่างเคลื่อนไหวตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นรอนต้องสั่งการให้แต่ละหน่วยเคลื่อนไหลปรับเปลี่ยนเป็นระยะเพื่อตั้งรับการโจมตีเป็นระรอกของออร์ค
“บิชอปคาร์มิลล่า หน่วย Golem Armor ของท่านใช้งานได้นานแค่ไหน แล้วความเร็วเท่าไหร่ มีจำนวนเพียงใด”
“30นาที ถ้าวิ่งไปสู้ไปก็ความเร็วไม่ต่าจากม้า จำนวน 30 เครื่อง”
“ให้หน่วย Golem Armor ของท่านเตรียมพร้อม ข้ามีงานสำคัญจะให้พวกเขาทำ”
รอนรู้ถึงความแข็งแกร่งของหน่วยรบ Golem Armor นี้ดีจากตอนที่อาม่าใช้สู้กับแก๊งเมษา และรู้จากอารยาแม่ของแพทว่า ตอนนั้นได้จากการที่เป็นนักบวชนักรบมังกรในศาสนจักรเวโรน่า
ขนาดอาม่าที่ไม่เคยใช้เครื่องยังทำได้ขนาดนั้น
ถ้าเป็นคนที่ฝึกมาโดยตรงจะทำได้แค่ไหนกัน !
“บัลลิสต้าทั้งหมด ตั้งมุม45องศา เตรียมตัว ระวัง ระวัง ยิง!”
ผึง!
ฟ้าววว หอกยักษ์หลายร้อยอัน พุ่งขึ้นไปในอากาศลอยข้ามหน่วยทหารราบเบื้องล่างไป ก่อนจะปักลงที่สนามรบ
ออร์คโชคร้ายหลายร้อยตัวกลายเป็นเคบับปักติดกับพื้นในพริบตา ภาพอันน่าสยดสยองที่ปรากฎขึ้นขึ้นตรงหน้าทำให้กองทัพออร์คที่กำลังเคลื่อนโจมตีเข้ามาเสียจังหวะชั่วขณะ ขณะที่กลุ่มที่เคลื่อนผ่านไปแล้วไม่เห็นภาพดังกล่าวก็บุกโจมตีต่อไปโดยไม่รู้ว่าข้างหลังไม่มีกองหนุนตามมา
“พลธนู กำจัดพวกที่ยังบุกเข้ามา ยิงได้!”
ฟ้าวๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆๆ
เสียงกรีดร้องของมอนสเตอร์ดังไปทั่ว ออร์คนับร้อยพันล้มตายลง พวกที่ผ่านธนูมาได้ก็ต้องพบเข้ากับเทสทูโดฟอร์เมชั่นของทหารโรมัน รอนเฝ้ามองการเคลื่อนจัดกำลังพล ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ และในตอนนั้นเองทุกคนก็เพิ่งสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“นั่นมัน!”
“ทุกคนดูนั่น! ข้าศึกมัน..”
ตั้งแต่เช้ามืดเป็นต้นมา กองหน้าทั้งหมดต้องต่อสู้เป็นระยะตลอดเวลาไม่ได้หยุด มีความสับสนเกิดขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวมีการโจมตีที่จุดนั้นหนัก อีกสักพักก็เปลี่ยนจุดไป
แต่หลังจากการจัดทัพและยิงบัลลิสต้าครั้งเดียว ภาพตรงหน้าที่ทุกคนเห็นก็คือ กองหน้าออร์คต่างชะงักงัน
และการชะงักงันจังหวะเดียวนั้นทำให้เกิดช่วงระยะห่างจนกลุ่มที่ยังบุกเข้ามาล้มตาย
ออร์คที่เห็นพวกที่บุกเข้าไปล้มตาย ยิ่งไม่กล้าบุกต่อ จนการต่อสู้หยุดลงชั่วขณะ
“เฮฮฮฮฮฮ”
ทหารทั้งกองทัพชูอาวุธในมือขึ้นสูง เปล่งเสียงโห่ร้องเต็มกำลัง เสียงเฮของกำลังพลนับแสนที่ดังกึกก้องทำให้กองทัพออร์คยิ่งหวาดหวั่นเข้าไปอีก
“พวกเราอย่าเพิ่งรีบดีใจไป ทั้งหมดหยุดเดี๋ยวนี้” รอนสั่ง “หน่วยยิงหินเทรบูเชต์ที่ 11 12 13พร้อมหรือยัง”
“ข้าพร้อม” “ข้าพร้อม” “พวกเราพร้อม” สามเสียงประสานออกมา
“บรรจุกระสุนเวทมนตร์ระดับ 5” รอนสั่ง
“ครับ!”
“แม่ทัพวิซูเวียส สั่งคนของท่านให้ชูธงให้สูงที่สุด ส่งเสียงโห่ร้องออกมา ส่วนหน่วยอื่นเงียบที่สุดลดธงลงมา” รอนสั่งอีกครั้ง ทั่วทั้งสนามรบนั้นมีเพียงเสียงร้องของโคฮอร์ดของแม่ทัพวิซูเวียสจนโดดเด่น
“หน่วยยิงหิน เล็งไปหน้าหน่วยของแม่ทัพวิซูเวียส ระยะ 500 เมตร! พร้อมแล้วแจ้งด้วย”
ทั้งสามหน่วยหมุนเครื่องตั้งลำและเหนี่ยวคันกระสุน แม้จะไม่เข้าใจก็ทำตามอย่างเคร่งครัด
“ยิง!”
ผึง ผึง ผึง
ระเบิดเวทมนตร์ลอยไปในอากาศ ไฟสีแดงชมพูกระพริบเป็นจังหวะ
และระหว่างที่ทุกคนสงสัยว่ารอนสั่งแบบนั้นทำไม กองหน้าของออร์คก็แหวกออก ร่างมหึมาของโทรลที่สูง4เมตรก็พุ่งออกมา
กองกำลังโทรล 50 ตัว! แถมทั้งหมดยังสวมเกราะโลหะแบบเต็มตัว กองกำลังที่มากพอที่จะทำลายทหารราบนับหมื่น!
โฮกกกกกกก
โทรลตัวหน้าสุดชูกระบองเหล็กในมือขึ้น เปล่งเสียงร้องคำรามอย่างกระหายเลือด
ปุ!
เสียงระเบิดเวทมนตร์3ลูกที่ปริ้นท์ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติตกลงมาที่พื้น ก่อนจะกลิ้งไปใจกลางกลุ่มโทรล
บูม!!!
เศษเลือดเนื้อกระจัดกระจายไปในอากาศพร้อมกับเปลวไฟ ระเบิดเวทมนตร์ฉีกร่างโทรลที่อยู่ใจกลางกลุ่มออกเป็นชิ้นๆ เศษเกราะปลิวแผ่ขยายออกมา เฉือนตัดโทรลที่อยู่รอบข้างจนล้มนอนกล้ิงไป
“หน่วยยิงหินเทรบูเชต์หน่วยที่6-18 ยิงหินธรรมดา ขนาด50กิโลกรัม”กิโลกรัม ยิงถล่มมันเลย”
ตูม ตูม ตูม ๆ ๆ ๆ แม้โทรลจะแกร่งเพียงใด แต่เมื่อเจอกับหินที่ลอยมาในอากาศ พวกมันก็เละเป็นเศษเนื้อจนหมด
และก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัว ลูกกลมเรืองแสงสีชมพูแดงก็หล่นลงมาจากท้องฟ้าในแนวกองทัพของออร์ค ทีละลูก ทีละลูก เป็นสี่สาย
บูมมมมมมม
“ไวเวิร์นทิ้งระเบิดที่ 1 ถึง 8 ทิ้งระเบิดทั้งหมด ไม่ต้องเก็บสำรอง ทิ้งไปให้หมดเลย”
เสียงระเบิดและควันไฟบังเกิดขึ้นเจาะจากแนวหน้าของกองทัพออร์คเข้าไปถึงใจกลางกองทัพ รอนมองดูแผนที่รบในระบบ VR ของตน เป้าหมายทั้ง 4 ถูกระเบิดเข้าอย่างจัง แต่ทั้งหมดยังรอดมาได้
ดูท่าพวกมันจะมีไพ่ลับที่ใช้เวลาคับขันสินะ
แต่ในเมื่อใช้ออกไปแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
กองทัพออร์คนับแสนต่างตกอยู่ในสภาวะสับสนเสียขวัญ โทรลอันน่าภาคภูมิใจตายอย่างอนาถโดยไม่ทันได้รบ แถมยังการระเบิดที่เกิดขึ้นรอบด้าน
นี่แหละสิ่งที่รอนต้องการ
“กองทหารม้าทั้งหมด บุกได้ บุกเข้าไปในช่องที่เปิดออก!”
เมื่อนั้นเองหน่วยทหารม้าทั้งหมดจึงรู้ตัว … ตำแหน่งที่ถูกปูพรมทิ้งระเบิดไม่ใช่การทิ้งมั่วๆ หากแต่เป็นตำแหน่งที่กองทหารม้าส่วนใหญ่อยู่
“ทหารม้า บุก!” แม่ทัพม้ายกกลาเดียสในมือขึ้นชู แล้วควบตะบึงออกไปพร้อมกับทหารม้าทั้งหลาย ทหารม้าแยกออกเป็นทางสามทาง
“ท่านบิชอปคาร์มิลล่า Golem Armor พร้อมหรือยัง”
“พร้อมแล้ว”
“ช่องที่4ข้ายกให้ท่าน ไปได้” รอนบอก
บิชอปคาร์มิลล่า ร้องตะโกนออกไปทันที
“Golem Armor ทั้งหมด ตามข้ามา”
บิชอปกดปุ่มปิดคอกพิท ฝาครอบปิดลง ก่อนที่แสงเวทมนตร์จะสว่างขึ้น หน้าจอเผยให้เห็นภาพเบื้องหน้า เธอเอื้อมมือไปจับคันบังคับแล้วพูดออกมา
“บิชอปคาร์มิลล่า Golem Armor ออกตัวได้!”